ASTVผู้จัดการรายวัน- “บุญยอด” ตำหนิ นักเล่าข่าวชื่อดัง เสนอข่าวขาดความรอบด้านชัดเจน "หมอวรงค์"เสียใจไม่ได้เจอ"สรยุทธ์" เหน็บพิธีกร"เรื่องเล่าเช้านี้"ทำหน้าที่แทนโฆษกเพื่อไทย
วานนี้(3 มิ.ย.55) นายบุญยอด สุขถิ่นไทย ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวตำหนิการทำหน้าที่สื่อมวลชนของ นายสรยุทธ สุทัศนจินดา ผู้ดำเนินรายการเล่าข่าว ทางช่อง 3 ว่า ที่ผ่านมาทางตัวแทน ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ ทำจดหมายไปถึงกองบก.ข่าวช่อง 3 และนายสรยุทธ เพื่อให้เสนอข่าวให้มีความชัดเจน รอบด้าน แต่สิ่งที่ยังเห็นคือนายสรยุทธ ยังทำเป็นไม่เข้าใจในประเด็นที่ส.ส.ประชาธิปัตย์ พยายามขอให้นายสรยุทธ ลุกขึ้นทำหน้าที่สื่อที่แท้จริง คือการนำเสนอร่างปรองดอง ในแง่เนื้อหาสาระ มากกว่าที่จะนำเสนอเฉพาะเหตุการณ์ความวุ่นวายในสภาเท่านั้น
นายบุญยอด กล่าวว่าโดยปกติสื่อมวลชนต้องเสนอข่าวในเชิงลึก เพื่อให้ประชาชนเข้าใจเหตุผลที่แท้จริงกับเรื่องราวที่เกิดขึ้น เช่น การทะเลาะกันต้องเสนอเหตุที่นำมาสู่การทะเลาะ คืออะไร เช่นเดียวกับกฎหมายปรองดองนี้ ฝ่ายพรรคเพื่อไทย และพล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน เสนอเข้ามา 4 ฉบับ ใช้ชื่อ พ.ร.บ.ปรองดอง แต่เนื้อหามีแต่ยกความผิด และคืนเงินให้ใครบางคนเท่านั้น ทำไมไม่เอามาพูดในรายการบ้าง เป็นหน้าที่ของสื่อที่ต้องให้รายละเอียด มุมมองและสัมภาษณ์บุคคลต่างๆ ให้รอบด้าน จะปฏิเสธไม่ได้ เพราะป็นเรื่องสำคัญต่อประเทศชาติ
" ถ้านายสรยุทธ ยังอ้างว่าตัวเองเป็นสื่อ ให้ถามตัวเองว่า ยังทำหน้าที่ด้วยจิตวิญญาณของคนเป็นสื่อ จริงหรือไม่ หรือรู้อยู่แล้วว่ากฎหมายนี้ ไม่มีเรื่องปรองดอง แล้วไม่กล้าพูดความจริงกับประชาชน เพราะกระทบรัฐบาล และพรรคเพื่อไทย หรือกระทบต่อธุรกิจบริษัทของตัวเอง และขอให้เลิกรายงานข่าวใบ้หวย หมูประหลาด วัวห้าขา หรือ เกาะติดแต่นายชูวิทย์ (กมลวิศิษฏ์ ) อย่างเดียว อาจจะสนุกขำขัน แต่ประชาชนไม่ได้ความจริงอะไรเลย" นายบุญยอด กล่าว
** เหน็บเหมือนโฆษกเพื่อไทย
นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม ส.ส.พิษณุโลก พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่ากรณีร่วมกับส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ เดินทางไปพบนายสรยุทธ สุทัศนะจินดา ผู้ประกาศข่าวในรายการเรื่องเล่าเช้านี้ ทางไทยทีวีสีช่อง3แต่ไม่ได้พบนั้นเพราะเห็นว่ารายการของนายสรยุทธเป็นรายการที่ได้รับความนิยมสูง ถ้าเสนอข่าวสารที่มีเนื้อหาสาระครอบคลุมทุกด้าน ประชาชนได้ประโยชน์มากขึ้น ขณะเดียวกันจะใช้โอกาสนี้ ชี้แจงข้อเท็จจริงด้วย
"ผมต้องขอขอบคุณนายสรยุทธ ที่ให้โอกาสชี้แจงข้อเท็จจริงผ่านรายการ แต่รู้สึกเสียใจที่นายสรยุทธไม่ได้เจอกับผม และนายสรยุทธคิดไปเองโดยพูดผ่านรายการ เรื่องเล่าเสาร์-อาทิตย์ทางช่อง 3 ว่าสงสัยว่าผมไม่ได้ดูข่าวด้วยตัวเองอาจจะเครียด ตลอดทั้งการพูดเหน็บแนมว่าชอบวิธีการของนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ นายสุเทพ เทือกสุบรรณ ส.ส.สุราษฎร์ธานี พรรคประชาธิปัตย์"นพ.วรงค์กล่าว
"ผมมีหลักคิดเช่นเดียวกันอยู่แล้วว่า ยอมเจ็บตัวเพื่อยับยั้งสิ่งที่เป็นอันตรายต่อประเทศชาติ แต่การที่นายสรยุทธ ใช้ความรู้สึกพูดเกินข้อเท็จจริง ผมเห็นว่าเป็นสิ่งไม่สมควรสำหรับสื่อโทรทัศน์สาธารณะ เพราะเท่ากับว่านายสรยุทร กำลังทำหน้าที่แทนโฆษกพรรคเพื่อไทยไปแล้ว"นพ.วรงค์กล่าว
**เผย ที่มาปชป.พบนักเสี้ยมตัวยง
รายงานข่าวแจ้งว่า กรณีนี้เกิดขึ้นภายหลัง นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม พร้อม ส.ส.ปชป. ได้เดินทางไปที่สถานีโทรทัศน์ช่อง 3 เมื่อบ่ายวันเสาร์ เพื่อยื่นหนังสือร้องเรียน หลัง สรยุทธ สุทัศนะจินดา พิธีกรรายการเรื่องเล่าเช้านี้ ได้เสนอข่าวเป็นกลาง กรณีที่หมอวงรค์ ปาเอกสารใส่ประธานสภา ระหว่างการพิจารณาร่างพ.ร.บ.ปรองดองวันที่ 31 พ.ค.นั้น
ขณะที่ในรายการ “เรื่องเล่าเสาร์-อาทิตย์” ทางช่อง 3 เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา นายสรยุทธ์ ได้นำหนังสือที่นพ.วรงค์ ยื่นต่อสถานีโทรทัศน์ช่อง 3 มาเผยแพร่ผ่านทางรายการ โดยระบุว่า เสียดายที่ไม่ได้พบด้วยตนเอง มิฉะนั้นจะเปิดเทปรายการให้ดูว่าได้ลำดับเหตุการณ์และเสนอข่าวอย่างไร โดยนายสรยุทธ์คาดว่านพ.วรงค์ไม่ได้ชมรายการด้วยตนเองและอาจฟังคนอื่นเล่าให้ฟัง
จากนั้นนายสรยุทธ์ได้นำข่าวกรณี นพ.วรงค์ ปาเอกสารใส่นายสมศักดิ์ เกียรติสุรนนท์ ประธานสภาผู้แทนราษฎร ที่ออกในรายการ “เรื่องเล่าเช่านี้” มาแพร่ภาพอีกครั้งแบบไม่ตัดทอน โดยการรายงานข่าวในช่วงนั้นนายสรยุทธ์ได้ลำดับเรื่องราวอย่างละเอียดตั้งแต่ต้น เพื่อให้ประชาชนตัดสินว่าการนำเสนอข่าวของรายการ “เรื่องเล่าเช้านี้” เป็นกลางหรือไม่ นอกจากนั้นในช่วงท้ายยังมีเทปการให้สัมภาษณ์ของนพ.วรงค์ กับทีมงานช่อง 3 ด้วย ซึ่งนายสรยุทธ์ ก็ได้กล่าวสั้นๆ ว่า “ผมเป็นกลางหรือไม่ ไม่ทราบ แต่ขอยืนยันว่าเป็นธรรม”
ทั้งนี้ได้ช่วงท้าย นายสรยุทธ กล่าวว่าชอบวิธีการของนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ และนายสุเทพ เทือกสุบรรณ เลขาธิการพรรค ที่ยอมรับว่าการกระทำดังกล่าวอาจจะเสียภาพลักษณ์ของพรรค แต่ให้เหตุผลว่าเป็นการกระทำเพื่อสกัดกั้นพ.ร.บ.ปรองดองที่ทำความเสียหายให้แก่ประเทศชาติ ซึ่งประชาชนจะตัดสินเอง นายสรยุทธ์กล่าว
ก่อนหน้านั้น นพ.วรงค์ ได้โฟนอินไปยังสถานี"บลูสกาย" วิพากษ์วิจารณ์รายการ"เรื่องเล่าเช้านี้"ว่านำภาพการขว้างปาหนังสือใส่ประธานสภาผู้แทนราษฎรไปเผยแพร่โดยไม่ยอมนำเหตุการณ์ที่นายสมศักดิ์พยายามเร่งรัดการประชุมมานำเสนอด้วย
**ทีมงานนายกรณ์ เสี้ยมไม่แพ้กัน
รายงานข่าวแจ้งอีกว่า กรณีทีมงานนายกรณ์ จาติกวณิช ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง @TeamKornChatikavanij ได้ทวิตข้อความเมื่อศุกร์ที่ผ่านมาว่า "15.00 น. วันนี้ นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม พร้อม ส.ส.ปชป. เข้าพบ สรยุทธ (สุทัศนะจินดา นักเล่าข่าวชื่อดัง) ที่ช่อง 3 ขอเสนอข่าวเป็นกลาง"
**สัญญาผูกปิ่นโต ยุทธนักเสี้ยม
ก่อนหน้านั้น สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) ตรวจสอบพบว่า มีการรับว่าจ้างจากธนาคารออมสินประชาสัมพันธ์ธุรกิจและภาพลักษณ์ธนาคาร ทางสถานีวิทยุโทรทัศน์ไทยทีวีสีช่อง 3 ในรายการเรื่องเล่าเสาร์-อาทิตย์ และเรื่องเล่าเช้านี้ 3 เดือนตั้งแต่เดือนธันวาคม 2554-กุมภาพันธ์ 2555 วงเงิน 4,908,090 บาท (ทำสัญญา 9 พ.ย.2554) รวมวงเงินที่ได้รับว่าจ้างจากธนาคารออมสินตั้งแต่ปี 2550 เป็นต้นมาจนถึงเดือนพฤศจิกายน 2554 จำนวน 17 ครั้งวงเงิน 93,897,114 บาท
และถ้ารวมหน่วยงานรัฐอื่นอีก 2 แห่งว่าจ้างทำประชาสัมพันธ์ ได้แก่ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) จำนวน 1 ครั้ง และกรมส่งเสริมการส่งออกจ้างดำเนินการประชาสัมพันธ์ 2 ครั้ง รวมบริษัท ไร่ส้มได้รับว่าจ้างจากหน่วยงานรัฐ 3 แห่ง 20 ครั้ง เป็นเงินทั้งสิ้น 110,571,934 บาท
บริษัท ไร้สม จำกัด มีนายสรยุทธ สุทัศนะจินดา เป็นเจ้าของ นายสรยุทธ สุทัศนะจินดา นางสาว สุกัญญา แซ่ลิ่ม และ นางสาวอังคณา วัฒนมงคลศิลป์ เป็นกรรมการ และยังเป็นเจ้าของบริษัท ชัดถ้อย ชัดคำ จำกัดอีกแห่งหนึ่งด้วย
ขณะเดียวกัน สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) ตรวจพบว่า นายสรยุทธกำลังหันมาทำธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ เมื่อส่งคนใกล้ชิดจดทะเบียนก่อตั้งบริษัทถึง 2 แห่งภายในเวลาไปเพียง 3 เดือน
ทั้งนี้ เมื่อวันที่ 14 มีนาคม 2555 ที่ผ่านมา นางสาวสุกัญญา แซ่ลิ่ม และนางสาวอังคณา วัฒนมงคลศิลป์ กรรมการบริษัท ไร่ส้ม จำกัด และบริษัท ชัดถ้อยชัดคำ จำกัด ได้จดทะเบียนก่อตั้งบริษัทใหม่ชื่อ บริษัท หัวหิน เอส เอส แอสเซ็ท จำกัด ทุนจดทะเบียนเริ่มแรก 100,000 บาท ประกอบธุรกิจ ให้เช่า การขาย การซื้อขายและดำเนินงานด้านอสังหาริมทรัพย์ ที่ตั้งเลขที่ 111/120 หมู่ที่ 3 แขวงคลองถนน เขตสายไหม กรุงเทพฯ นางสาวสุกัญญา ถือหุ้น 998 หุ้น มูลค่า 99,800 บาท หรือ 99.8% นางสาวสิริทรัพย์ พึ่งตัว และนางสาว อังคณา วัฒนมงคลศิลป์ ถือคนละ 1 หุ้น มูลค่าหุ้นละ 100 บาท รวมหุ้นทั้งหมด 100,000 หุ้น มีนางสาวสุกัญญา นางสาวสิริทรัพย์ และ นางสาวอังคณา เป็นกรรมการ
ล่าสุดวันที่ 10 พฤษภาคม 2555 ที่ผ่านมา นางสาวสุกัญญาได้จดทะเบียนก่อตั้ง บริษัท ดีเอสที แอสเซ็ท จำกัด ทุน 100,000 บาท ประกอบธุรกิจให้เช่า การขาย การซื้อขายและดำเนินงานด้านอสังหาริมทรัพย์ ที่ตั้งเลขที่ 8 ซอยรามคำแหง 24 แยก 26 (หมู่บ้านอิสระ) แขวงหัวหมาก เขตบางกะปิ กรุงเทพฯ มี นายตัน ภาสกรนที นางอิง ภาสกรนที และ นางสาวอังคณา วัฒนมงคลศิลป์ เป็นกรรมการ
จากการตรวจสอบพบว่า ที่ตั้งเลขที่ 8 หมู่บ้านอิสระ ซอยรามคำแหง 24 แยก 26 (หมู่บ้านอิสระ) แขวงหัวหมาก เขตบางกะปิ กรุงเทพฯ เป็นที่ตั้งบริษัทที่ทำธุรกิจอสังหาฯของนายตันชื่อ บริษัท เดี่ยว เดี่ยว กับ ตัน จำกัดและในเครือ
วานนี้(3 มิ.ย.55) นายบุญยอด สุขถิ่นไทย ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวตำหนิการทำหน้าที่สื่อมวลชนของ นายสรยุทธ สุทัศนจินดา ผู้ดำเนินรายการเล่าข่าว ทางช่อง 3 ว่า ที่ผ่านมาทางตัวแทน ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ ทำจดหมายไปถึงกองบก.ข่าวช่อง 3 และนายสรยุทธ เพื่อให้เสนอข่าวให้มีความชัดเจน รอบด้าน แต่สิ่งที่ยังเห็นคือนายสรยุทธ ยังทำเป็นไม่เข้าใจในประเด็นที่ส.ส.ประชาธิปัตย์ พยายามขอให้นายสรยุทธ ลุกขึ้นทำหน้าที่สื่อที่แท้จริง คือการนำเสนอร่างปรองดอง ในแง่เนื้อหาสาระ มากกว่าที่จะนำเสนอเฉพาะเหตุการณ์ความวุ่นวายในสภาเท่านั้น
นายบุญยอด กล่าวว่าโดยปกติสื่อมวลชนต้องเสนอข่าวในเชิงลึก เพื่อให้ประชาชนเข้าใจเหตุผลที่แท้จริงกับเรื่องราวที่เกิดขึ้น เช่น การทะเลาะกันต้องเสนอเหตุที่นำมาสู่การทะเลาะ คืออะไร เช่นเดียวกับกฎหมายปรองดองนี้ ฝ่ายพรรคเพื่อไทย และพล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน เสนอเข้ามา 4 ฉบับ ใช้ชื่อ พ.ร.บ.ปรองดอง แต่เนื้อหามีแต่ยกความผิด และคืนเงินให้ใครบางคนเท่านั้น ทำไมไม่เอามาพูดในรายการบ้าง เป็นหน้าที่ของสื่อที่ต้องให้รายละเอียด มุมมองและสัมภาษณ์บุคคลต่างๆ ให้รอบด้าน จะปฏิเสธไม่ได้ เพราะป็นเรื่องสำคัญต่อประเทศชาติ
" ถ้านายสรยุทธ ยังอ้างว่าตัวเองเป็นสื่อ ให้ถามตัวเองว่า ยังทำหน้าที่ด้วยจิตวิญญาณของคนเป็นสื่อ จริงหรือไม่ หรือรู้อยู่แล้วว่ากฎหมายนี้ ไม่มีเรื่องปรองดอง แล้วไม่กล้าพูดความจริงกับประชาชน เพราะกระทบรัฐบาล และพรรคเพื่อไทย หรือกระทบต่อธุรกิจบริษัทของตัวเอง และขอให้เลิกรายงานข่าวใบ้หวย หมูประหลาด วัวห้าขา หรือ เกาะติดแต่นายชูวิทย์ (กมลวิศิษฏ์ ) อย่างเดียว อาจจะสนุกขำขัน แต่ประชาชนไม่ได้ความจริงอะไรเลย" นายบุญยอด กล่าว
** เหน็บเหมือนโฆษกเพื่อไทย
นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม ส.ส.พิษณุโลก พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่ากรณีร่วมกับส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ เดินทางไปพบนายสรยุทธ สุทัศนะจินดา ผู้ประกาศข่าวในรายการเรื่องเล่าเช้านี้ ทางไทยทีวีสีช่อง3แต่ไม่ได้พบนั้นเพราะเห็นว่ารายการของนายสรยุทธเป็นรายการที่ได้รับความนิยมสูง ถ้าเสนอข่าวสารที่มีเนื้อหาสาระครอบคลุมทุกด้าน ประชาชนได้ประโยชน์มากขึ้น ขณะเดียวกันจะใช้โอกาสนี้ ชี้แจงข้อเท็จจริงด้วย
"ผมต้องขอขอบคุณนายสรยุทธ ที่ให้โอกาสชี้แจงข้อเท็จจริงผ่านรายการ แต่รู้สึกเสียใจที่นายสรยุทธไม่ได้เจอกับผม และนายสรยุทธคิดไปเองโดยพูดผ่านรายการ เรื่องเล่าเสาร์-อาทิตย์ทางช่อง 3 ว่าสงสัยว่าผมไม่ได้ดูข่าวด้วยตัวเองอาจจะเครียด ตลอดทั้งการพูดเหน็บแนมว่าชอบวิธีการของนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ นายสุเทพ เทือกสุบรรณ ส.ส.สุราษฎร์ธานี พรรคประชาธิปัตย์"นพ.วรงค์กล่าว
"ผมมีหลักคิดเช่นเดียวกันอยู่แล้วว่า ยอมเจ็บตัวเพื่อยับยั้งสิ่งที่เป็นอันตรายต่อประเทศชาติ แต่การที่นายสรยุทธ ใช้ความรู้สึกพูดเกินข้อเท็จจริง ผมเห็นว่าเป็นสิ่งไม่สมควรสำหรับสื่อโทรทัศน์สาธารณะ เพราะเท่ากับว่านายสรยุทร กำลังทำหน้าที่แทนโฆษกพรรคเพื่อไทยไปแล้ว"นพ.วรงค์กล่าว
**เผย ที่มาปชป.พบนักเสี้ยมตัวยง
รายงานข่าวแจ้งว่า กรณีนี้เกิดขึ้นภายหลัง นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม พร้อม ส.ส.ปชป. ได้เดินทางไปที่สถานีโทรทัศน์ช่อง 3 เมื่อบ่ายวันเสาร์ เพื่อยื่นหนังสือร้องเรียน หลัง สรยุทธ สุทัศนะจินดา พิธีกรรายการเรื่องเล่าเช้านี้ ได้เสนอข่าวเป็นกลาง กรณีที่หมอวงรค์ ปาเอกสารใส่ประธานสภา ระหว่างการพิจารณาร่างพ.ร.บ.ปรองดองวันที่ 31 พ.ค.นั้น
ขณะที่ในรายการ “เรื่องเล่าเสาร์-อาทิตย์” ทางช่อง 3 เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา นายสรยุทธ์ ได้นำหนังสือที่นพ.วรงค์ ยื่นต่อสถานีโทรทัศน์ช่อง 3 มาเผยแพร่ผ่านทางรายการ โดยระบุว่า เสียดายที่ไม่ได้พบด้วยตนเอง มิฉะนั้นจะเปิดเทปรายการให้ดูว่าได้ลำดับเหตุการณ์และเสนอข่าวอย่างไร โดยนายสรยุทธ์คาดว่านพ.วรงค์ไม่ได้ชมรายการด้วยตนเองและอาจฟังคนอื่นเล่าให้ฟัง
จากนั้นนายสรยุทธ์ได้นำข่าวกรณี นพ.วรงค์ ปาเอกสารใส่นายสมศักดิ์ เกียรติสุรนนท์ ประธานสภาผู้แทนราษฎร ที่ออกในรายการ “เรื่องเล่าเช่านี้” มาแพร่ภาพอีกครั้งแบบไม่ตัดทอน โดยการรายงานข่าวในช่วงนั้นนายสรยุทธ์ได้ลำดับเรื่องราวอย่างละเอียดตั้งแต่ต้น เพื่อให้ประชาชนตัดสินว่าการนำเสนอข่าวของรายการ “เรื่องเล่าเช้านี้” เป็นกลางหรือไม่ นอกจากนั้นในช่วงท้ายยังมีเทปการให้สัมภาษณ์ของนพ.วรงค์ กับทีมงานช่อง 3 ด้วย ซึ่งนายสรยุทธ์ ก็ได้กล่าวสั้นๆ ว่า “ผมเป็นกลางหรือไม่ ไม่ทราบ แต่ขอยืนยันว่าเป็นธรรม”
ทั้งนี้ได้ช่วงท้าย นายสรยุทธ กล่าวว่าชอบวิธีการของนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ และนายสุเทพ เทือกสุบรรณ เลขาธิการพรรค ที่ยอมรับว่าการกระทำดังกล่าวอาจจะเสียภาพลักษณ์ของพรรค แต่ให้เหตุผลว่าเป็นการกระทำเพื่อสกัดกั้นพ.ร.บ.ปรองดองที่ทำความเสียหายให้แก่ประเทศชาติ ซึ่งประชาชนจะตัดสินเอง นายสรยุทธ์กล่าว
ก่อนหน้านั้น นพ.วรงค์ ได้โฟนอินไปยังสถานี"บลูสกาย" วิพากษ์วิจารณ์รายการ"เรื่องเล่าเช้านี้"ว่านำภาพการขว้างปาหนังสือใส่ประธานสภาผู้แทนราษฎรไปเผยแพร่โดยไม่ยอมนำเหตุการณ์ที่นายสมศักดิ์พยายามเร่งรัดการประชุมมานำเสนอด้วย
**ทีมงานนายกรณ์ เสี้ยมไม่แพ้กัน
รายงานข่าวแจ้งอีกว่า กรณีทีมงานนายกรณ์ จาติกวณิช ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง @TeamKornChatikavanij ได้ทวิตข้อความเมื่อศุกร์ที่ผ่านมาว่า "15.00 น. วันนี้ นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม พร้อม ส.ส.ปชป. เข้าพบ สรยุทธ (สุทัศนะจินดา นักเล่าข่าวชื่อดัง) ที่ช่อง 3 ขอเสนอข่าวเป็นกลาง"
**สัญญาผูกปิ่นโต ยุทธนักเสี้ยม
ก่อนหน้านั้น สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) ตรวจสอบพบว่า มีการรับว่าจ้างจากธนาคารออมสินประชาสัมพันธ์ธุรกิจและภาพลักษณ์ธนาคาร ทางสถานีวิทยุโทรทัศน์ไทยทีวีสีช่อง 3 ในรายการเรื่องเล่าเสาร์-อาทิตย์ และเรื่องเล่าเช้านี้ 3 เดือนตั้งแต่เดือนธันวาคม 2554-กุมภาพันธ์ 2555 วงเงิน 4,908,090 บาท (ทำสัญญา 9 พ.ย.2554) รวมวงเงินที่ได้รับว่าจ้างจากธนาคารออมสินตั้งแต่ปี 2550 เป็นต้นมาจนถึงเดือนพฤศจิกายน 2554 จำนวน 17 ครั้งวงเงิน 93,897,114 บาท
และถ้ารวมหน่วยงานรัฐอื่นอีก 2 แห่งว่าจ้างทำประชาสัมพันธ์ ได้แก่ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) จำนวน 1 ครั้ง และกรมส่งเสริมการส่งออกจ้างดำเนินการประชาสัมพันธ์ 2 ครั้ง รวมบริษัท ไร่ส้มได้รับว่าจ้างจากหน่วยงานรัฐ 3 แห่ง 20 ครั้ง เป็นเงินทั้งสิ้น 110,571,934 บาท
บริษัท ไร้สม จำกัด มีนายสรยุทธ สุทัศนะจินดา เป็นเจ้าของ นายสรยุทธ สุทัศนะจินดา นางสาว สุกัญญา แซ่ลิ่ม และ นางสาวอังคณา วัฒนมงคลศิลป์ เป็นกรรมการ และยังเป็นเจ้าของบริษัท ชัดถ้อย ชัดคำ จำกัดอีกแห่งหนึ่งด้วย
ขณะเดียวกัน สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) ตรวจพบว่า นายสรยุทธกำลังหันมาทำธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ เมื่อส่งคนใกล้ชิดจดทะเบียนก่อตั้งบริษัทถึง 2 แห่งภายในเวลาไปเพียง 3 เดือน
ทั้งนี้ เมื่อวันที่ 14 มีนาคม 2555 ที่ผ่านมา นางสาวสุกัญญา แซ่ลิ่ม และนางสาวอังคณา วัฒนมงคลศิลป์ กรรมการบริษัท ไร่ส้ม จำกัด และบริษัท ชัดถ้อยชัดคำ จำกัด ได้จดทะเบียนก่อตั้งบริษัทใหม่ชื่อ บริษัท หัวหิน เอส เอส แอสเซ็ท จำกัด ทุนจดทะเบียนเริ่มแรก 100,000 บาท ประกอบธุรกิจ ให้เช่า การขาย การซื้อขายและดำเนินงานด้านอสังหาริมทรัพย์ ที่ตั้งเลขที่ 111/120 หมู่ที่ 3 แขวงคลองถนน เขตสายไหม กรุงเทพฯ นางสาวสุกัญญา ถือหุ้น 998 หุ้น มูลค่า 99,800 บาท หรือ 99.8% นางสาวสิริทรัพย์ พึ่งตัว และนางสาว อังคณา วัฒนมงคลศิลป์ ถือคนละ 1 หุ้น มูลค่าหุ้นละ 100 บาท รวมหุ้นทั้งหมด 100,000 หุ้น มีนางสาวสุกัญญา นางสาวสิริทรัพย์ และ นางสาวอังคณา เป็นกรรมการ
ล่าสุดวันที่ 10 พฤษภาคม 2555 ที่ผ่านมา นางสาวสุกัญญาได้จดทะเบียนก่อตั้ง บริษัท ดีเอสที แอสเซ็ท จำกัด ทุน 100,000 บาท ประกอบธุรกิจให้เช่า การขาย การซื้อขายและดำเนินงานด้านอสังหาริมทรัพย์ ที่ตั้งเลขที่ 8 ซอยรามคำแหง 24 แยก 26 (หมู่บ้านอิสระ) แขวงหัวหมาก เขตบางกะปิ กรุงเทพฯ มี นายตัน ภาสกรนที นางอิง ภาสกรนที และ นางสาวอังคณา วัฒนมงคลศิลป์ เป็นกรรมการ
จากการตรวจสอบพบว่า ที่ตั้งเลขที่ 8 หมู่บ้านอิสระ ซอยรามคำแหง 24 แยก 26 (หมู่บ้านอิสระ) แขวงหัวหมาก เขตบางกะปิ กรุงเทพฯ เป็นที่ตั้งบริษัทที่ทำธุรกิจอสังหาฯของนายตันชื่อ บริษัท เดี่ยว เดี่ยว กับ ตัน จำกัดและในเครือ