ASTVผู้จัดกรรายวัน-“ศิริราช” โชว์นวัตกรรมเปลี่ยนทางเดินระบบไหลเวียนโลหิตบริเวณแผลที่เท้าของผู้ป่วยเบาหวานป้องกันถูกตัดขาสำเร็จครั้งแรกของโลก เผยค้นพบมานาน 10 ปี ก่อนได้รับการยอมรับว่าเป็นนวัตกรรมใหม่ตีพิมพ์ในวารศาสตร์ของสมาคมศัลยแพทย์หลอดเลือดนานาชาติ
วานนี้ (30 พ.ค.) ศ.คลินิก นพ.อุดม คชินทร คณบดีคณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล ม.มหิดล เป็นประธานในการแถลงข่าว “ครั้งแรกของโลก นวัตกรรมศิริราช ผ่าตัดเปลี่ยนทางเดินระบบไหลเวียนโลหิตบริเวณเท้าในกลุ่มผู้ป่วยเบาหวานป้องกันการถูกตัดขา”
ศ.คลินิก นพ.อุดม กล่าวว่า จากสถานการณ์ของโรคเบาหวานเพิ่มขึ้น ทำให้ผู้ป่วยหลายรายเผชิญปัญหาแผลขาดเลือดที่เท้าจนต้องถูกตัดขา ทำให้เกิดภาวะทุพพลภาพและเสียชีวิตก่อนวัยอันควร ดังนั้น ทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญจากสาขาวิชาศัลยศาสตร์หลอดเลือด ภาควิชาศัลยศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล จึงคิดค้นนวัตกรรมการผ่าตัดเปลี่ยนทางเดินระบบไหลเวียนโลหิตบริเวณเท้าในกลุ่มผู้ป่วยเบาหวาน ป้องกันการถูกตัดขาขึ้น ซึ่งการผ่าตัดนี้ นับเป็นครั้งแรกของโลกที่สามารถช่วยให้กลุ่มผู้ป่วยโรคเบาหวานที่มีแผลขาดเลือดรอดพ้นจากความทุกข์ทรมานและความพิการ ช่วยให้พัฒนาคุณภาพชีวิตดีขึ้น
ด้าน ศ.นพ.ประมุข มุทิรางกูร หัวหน้าสาขาวิชาศัลยศาสตร์หลอดเลือด ภาควิชาศัลยศาสตร์ กล่าวว่า การเกิดแผลจากเบาหวานมาจากสาเหตุที่เลือดหล่อเลี้ยงไม่ได้ โดยภาวะขาดเลือดหล่อเลี้ยงจะเกิดขึ้นทั่วร่างกาย ทั้งสมอง หัวใจ และอวัยวะอื่นๆ โดยเฉพาะขา ซึ่งบางครั้งแพทย์พบว่ามีไขมัน มีแคลเซียมเคลือบอยู่ ทำให้หลอดเลือดอุดตัน ไม่สามารถหมุนเวียนไปหล่อเลี้ยงได้ แพทย์จึงต้องรักษาระบบหลอดเลือดให้ดีขึ้น โดยในอดีตการรักษาแผลที่เท้าของผู้ป่วย แพทย์จะใช้การรักษาด้วยการผ่าตัดเปลี่ยนทางเดินหลอดเลือดแดงหรือบายพาส รวมถึงการถ่างขยายหลอดเลือดแดงด้วยบอลลูนและใส่ขดลวดค้ำยัน แต่หากหลอดเลือดแดงของขาที่อยู่ส่วนปลายต่อเกิดอุดตัน มีสภาพไม่ดีพอ การรักษาทั้ง 2 วิธีดังกล่าว จะไม่ประสบความสำเร็จ ทำให้ผู้ป่วยโรคเบาหวานสูญเสียขาในที่สุด ด้วยเหตุนี้ นวัตกรรมกรมรที่คิดค้นใหม่ จึงเป็นทางเลือกสุดท้ายในกรณีที่ไม่สามารถรักษาด้วยวิธีข้างต้นได้
ทั้งนี้ หลักการในการรักษาด้วยนวัตกรรมผ่าตัดเปลี่ยนทางเดินระบบไหลเวียนโลหิตบริเวณเท้า สามารถทำได้ง่ายๆ ด้วยการใช้หลอดเลือดเทียมเป็นข้อเชื่อมต่อระหว่างหลอดเลือดแดงที่ต้นทางของขา ซึ่งไม่มีภาวะเลือดอุดตัน เช่น ต้นขา ต่อเข้ากับหลอดเลือดดำที่ปลายเท้า ซึ่งเลือดไหลเวียนไม่ถึง เพื่อเสริมทางให้ระบบหมุนเวียนเลือดดีขึ้น ซึ่งจากการทดสอบระบบสูบฉีดเลือดในผู้ป่วยก็พบว่า มีภาวการณ์หล่อเลี่ยงที่ดีและเป็นปกติ
"นวัตกรรมดังกล่าว ศิริราช เริ่มทำการผ่าตัดตั้งแต่ปี 2545 จนถึงปัจจุบัน โดยมีผู้ป่วยเข้ารับบริการแล้วประมาณ 40 ราย โดยเมื่อพิสูจน์แล้วว่าวิธีการดังกล่าวได้ผลและเป็นทางเลือกสุดท้ายในการรักษาแผลที่เท้า ทางทีมที่ศึกษาก็ได้นำเสนอผลงานการผ่าตัดนี้ไปยังกรุงนิวยอร์ก สหรัฐฯ เมื่อปี 2552 ,2553 และ 2554 และกรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ ในปี 2555 และผลงานการผ่าตัดด้วยวิธีนี้ ได้รับการยอมรับว่าเป็นนวัตกรรม และได้รับการตีพิมพ์ใน “Vascular” ซึ่งเป็นวารสารทางการของสมาคมศัลยแพทย์หลอดเลือดนานาชาติ เพื่อเผยแพร่ความรู้สู่ระดับโลก แต่สิ่งที่แตกต่าง คือ ต่างประเทศนั้น มีระบบคัดกรองเบาหวานที่ดีกว่า เมื่อเจอในระยะต้นก็จะสามารถรักษาได้ ซึ่งมีส่วนน้อยที่เกิดแผลลุลามจนกระทั่งต้องตัดขา” ศ.นพ.ประมุขกล่าว
ศ.นพ.ประมุข กล่าวว่า สำหรับจำนวนผู้ป่วยโรคหลอดเลือดที่เข้ารับบริการใน รพ.ศิริราช มีประมาณปีละ 200 ราย ในจำนวนนี้ เป็นผู้ป่วยเบาหวาน 60% โดยมีผู้ป่วยที่เป็นแผลที่เท้าเข้ารับบริการผ่าตัดรักษาแผล เฉลี่ยปีละ 1-2 ราย ซึ่งประสิทธิภาพของการรักษาด้วยวิธีการดังกล่าวจะสำเร็จประมาณ 73% โดยในผู้ป่วยรายแรกที่รับการผ่าตัดในวัย 90 ปี พบว่าสามารถมีชีวิตโดยไม่ต้องสูญเสียขานานกว่า 4 ปี จึงนับว่าเป็นวิธีทางเลือกที่มีประสิทธิภาพดีและเป็นที่ยอมรับทั่วโลก ส่วนจำนวนที่เหลือที่ไม่สำเร็จส่วนหนึ่งเป็นเพราะมีการติดเชื้อมาก่อน และมีอาการแทรกซ้อน ทำให้ไม่สามารถรักษาหายขาดได้
อย่างไรก็ตาม การผ่าตัดด้วยนวัตกรรมนี้ ก่อนทำการผ่าตัดแพทย์ต้องมีการประเมินสภาพผู้ป่วยเพื่อให้แน่ใจว่า ผู้ป่วยมีสภาพหัวใจและปอดแข็งแรงและมีสภาพหลอดเลือดดำบริเวณข้อเท้าที่เหมาะสม
สำหรับการผ่าตัดวิธีใหม่นี้ จะมีหลักการโดยใช้หลอดเลือดดำบริเวณข้อเท้าเป็นทางนำเลือดแดงจากหลอดเลือดแดงบริเวณต้นขาเข้าไปในระบบหลอดเลือดดำของเท้าโดยตรง วิธีนี้จะช่วยให้ปริมาณอาหารและออกซิเจนมาหล่อเลี้ยงเท้าที่ขาดเลือดได้อย่างเพียงพอ จนแผลเบาหวานที่ขาดเลือดหายเป็นปกติ และผู้ป่วยสามารถกลับมาเดินได้อีกครั้ง โดยการผ่าตัดจะใช้เวลาประมาณ 4 ชั่วโมง และนอนพักที่โรงพยาบาลประมาณ 4-6 สัปดาห์ แต่ถ้าแผลผ่าตัดใหญ่ ก็ต้องพักฟื้น 3-4 เดือน ทั้งนี้ วัตกรรมการรักษานี้ ศิริราช ได้ถ่ายทอดสู่นักเรียนแพทย์ในสังกัด เพื่อต่อยอดวิธีการรักษาให้ดียิ่งขึ้นด้วย
วานนี้ (30 พ.ค.) ศ.คลินิก นพ.อุดม คชินทร คณบดีคณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล ม.มหิดล เป็นประธานในการแถลงข่าว “ครั้งแรกของโลก นวัตกรรมศิริราช ผ่าตัดเปลี่ยนทางเดินระบบไหลเวียนโลหิตบริเวณเท้าในกลุ่มผู้ป่วยเบาหวานป้องกันการถูกตัดขา”
ศ.คลินิก นพ.อุดม กล่าวว่า จากสถานการณ์ของโรคเบาหวานเพิ่มขึ้น ทำให้ผู้ป่วยหลายรายเผชิญปัญหาแผลขาดเลือดที่เท้าจนต้องถูกตัดขา ทำให้เกิดภาวะทุพพลภาพและเสียชีวิตก่อนวัยอันควร ดังนั้น ทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญจากสาขาวิชาศัลยศาสตร์หลอดเลือด ภาควิชาศัลยศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล จึงคิดค้นนวัตกรรมการผ่าตัดเปลี่ยนทางเดินระบบไหลเวียนโลหิตบริเวณเท้าในกลุ่มผู้ป่วยเบาหวาน ป้องกันการถูกตัดขาขึ้น ซึ่งการผ่าตัดนี้ นับเป็นครั้งแรกของโลกที่สามารถช่วยให้กลุ่มผู้ป่วยโรคเบาหวานที่มีแผลขาดเลือดรอดพ้นจากความทุกข์ทรมานและความพิการ ช่วยให้พัฒนาคุณภาพชีวิตดีขึ้น
ด้าน ศ.นพ.ประมุข มุทิรางกูร หัวหน้าสาขาวิชาศัลยศาสตร์หลอดเลือด ภาควิชาศัลยศาสตร์ กล่าวว่า การเกิดแผลจากเบาหวานมาจากสาเหตุที่เลือดหล่อเลี้ยงไม่ได้ โดยภาวะขาดเลือดหล่อเลี้ยงจะเกิดขึ้นทั่วร่างกาย ทั้งสมอง หัวใจ และอวัยวะอื่นๆ โดยเฉพาะขา ซึ่งบางครั้งแพทย์พบว่ามีไขมัน มีแคลเซียมเคลือบอยู่ ทำให้หลอดเลือดอุดตัน ไม่สามารถหมุนเวียนไปหล่อเลี้ยงได้ แพทย์จึงต้องรักษาระบบหลอดเลือดให้ดีขึ้น โดยในอดีตการรักษาแผลที่เท้าของผู้ป่วย แพทย์จะใช้การรักษาด้วยการผ่าตัดเปลี่ยนทางเดินหลอดเลือดแดงหรือบายพาส รวมถึงการถ่างขยายหลอดเลือดแดงด้วยบอลลูนและใส่ขดลวดค้ำยัน แต่หากหลอดเลือดแดงของขาที่อยู่ส่วนปลายต่อเกิดอุดตัน มีสภาพไม่ดีพอ การรักษาทั้ง 2 วิธีดังกล่าว จะไม่ประสบความสำเร็จ ทำให้ผู้ป่วยโรคเบาหวานสูญเสียขาในที่สุด ด้วยเหตุนี้ นวัตกรรมกรมรที่คิดค้นใหม่ จึงเป็นทางเลือกสุดท้ายในกรณีที่ไม่สามารถรักษาด้วยวิธีข้างต้นได้
ทั้งนี้ หลักการในการรักษาด้วยนวัตกรรมผ่าตัดเปลี่ยนทางเดินระบบไหลเวียนโลหิตบริเวณเท้า สามารถทำได้ง่ายๆ ด้วยการใช้หลอดเลือดเทียมเป็นข้อเชื่อมต่อระหว่างหลอดเลือดแดงที่ต้นทางของขา ซึ่งไม่มีภาวะเลือดอุดตัน เช่น ต้นขา ต่อเข้ากับหลอดเลือดดำที่ปลายเท้า ซึ่งเลือดไหลเวียนไม่ถึง เพื่อเสริมทางให้ระบบหมุนเวียนเลือดดีขึ้น ซึ่งจากการทดสอบระบบสูบฉีดเลือดในผู้ป่วยก็พบว่า มีภาวการณ์หล่อเลี่ยงที่ดีและเป็นปกติ
"นวัตกรรมดังกล่าว ศิริราช เริ่มทำการผ่าตัดตั้งแต่ปี 2545 จนถึงปัจจุบัน โดยมีผู้ป่วยเข้ารับบริการแล้วประมาณ 40 ราย โดยเมื่อพิสูจน์แล้วว่าวิธีการดังกล่าวได้ผลและเป็นทางเลือกสุดท้ายในการรักษาแผลที่เท้า ทางทีมที่ศึกษาก็ได้นำเสนอผลงานการผ่าตัดนี้ไปยังกรุงนิวยอร์ก สหรัฐฯ เมื่อปี 2552 ,2553 และ 2554 และกรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ ในปี 2555 และผลงานการผ่าตัดด้วยวิธีนี้ ได้รับการยอมรับว่าเป็นนวัตกรรม และได้รับการตีพิมพ์ใน “Vascular” ซึ่งเป็นวารสารทางการของสมาคมศัลยแพทย์หลอดเลือดนานาชาติ เพื่อเผยแพร่ความรู้สู่ระดับโลก แต่สิ่งที่แตกต่าง คือ ต่างประเทศนั้น มีระบบคัดกรองเบาหวานที่ดีกว่า เมื่อเจอในระยะต้นก็จะสามารถรักษาได้ ซึ่งมีส่วนน้อยที่เกิดแผลลุลามจนกระทั่งต้องตัดขา” ศ.นพ.ประมุขกล่าว
ศ.นพ.ประมุข กล่าวว่า สำหรับจำนวนผู้ป่วยโรคหลอดเลือดที่เข้ารับบริการใน รพ.ศิริราช มีประมาณปีละ 200 ราย ในจำนวนนี้ เป็นผู้ป่วยเบาหวาน 60% โดยมีผู้ป่วยที่เป็นแผลที่เท้าเข้ารับบริการผ่าตัดรักษาแผล เฉลี่ยปีละ 1-2 ราย ซึ่งประสิทธิภาพของการรักษาด้วยวิธีการดังกล่าวจะสำเร็จประมาณ 73% โดยในผู้ป่วยรายแรกที่รับการผ่าตัดในวัย 90 ปี พบว่าสามารถมีชีวิตโดยไม่ต้องสูญเสียขานานกว่า 4 ปี จึงนับว่าเป็นวิธีทางเลือกที่มีประสิทธิภาพดีและเป็นที่ยอมรับทั่วโลก ส่วนจำนวนที่เหลือที่ไม่สำเร็จส่วนหนึ่งเป็นเพราะมีการติดเชื้อมาก่อน และมีอาการแทรกซ้อน ทำให้ไม่สามารถรักษาหายขาดได้
อย่างไรก็ตาม การผ่าตัดด้วยนวัตกรรมนี้ ก่อนทำการผ่าตัดแพทย์ต้องมีการประเมินสภาพผู้ป่วยเพื่อให้แน่ใจว่า ผู้ป่วยมีสภาพหัวใจและปอดแข็งแรงและมีสภาพหลอดเลือดดำบริเวณข้อเท้าที่เหมาะสม
สำหรับการผ่าตัดวิธีใหม่นี้ จะมีหลักการโดยใช้หลอดเลือดดำบริเวณข้อเท้าเป็นทางนำเลือดแดงจากหลอดเลือดแดงบริเวณต้นขาเข้าไปในระบบหลอดเลือดดำของเท้าโดยตรง วิธีนี้จะช่วยให้ปริมาณอาหารและออกซิเจนมาหล่อเลี้ยงเท้าที่ขาดเลือดได้อย่างเพียงพอ จนแผลเบาหวานที่ขาดเลือดหายเป็นปกติ และผู้ป่วยสามารถกลับมาเดินได้อีกครั้ง โดยการผ่าตัดจะใช้เวลาประมาณ 4 ชั่วโมง และนอนพักที่โรงพยาบาลประมาณ 4-6 สัปดาห์ แต่ถ้าแผลผ่าตัดใหญ่ ก็ต้องพักฟื้น 3-4 เดือน ทั้งนี้ วัตกรรมการรักษานี้ ศิริราช ได้ถ่ายทอดสู่นักเรียนแพทย์ในสังกัด เพื่อต่อยอดวิธีการรักษาให้ดียิ่งขึ้นด้วย