นายอนุภาพ เกษรสุวรรณ ผู้อำนวยการ สำนักพัฒนาแหล่งท่องเที่ยว กรมการท่องเที่ยว กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เปิดเผยว่า ปีงบประมาณ 2556 ในส่วนของ สำนักพัฒนาแหล่งท่องเที่ยว ได้รับจัดสรรงบประมาณราว 1,300 ล้านบาท เพิ่มขึ้นราว 800-900 ล้านบาท จากปี 2555 ที่ได้รับจัดสรรอยู่ราว 400 ล้านเศษ โดยมีเป้าหมาย จัดทำโครงการ อันจะสนับสนุนด้านการท่องเที่ยว เพื่อมุ่งสู่เป้าหมาย
รายได้ 2 ล้านล้านบาทในปี 2558
“ในปี 2555 ทางสำนักฯได้รับจัดสรรงบประมาณ รวมกว่า 1,800 ล้านบาท แบ่งเป็นวงเงินจากงบปกติ 400 ล้านบาท และ จากงบแปรญัตติอีกราว 1,364 ล้านบาท ขณะที่ปี 2556 นี้ เบื้องต้นได้รับจัดสรรจากงบปกติแล้วถึง 1,300 ล้านบาท ยังไม่รวมงบที่คาดว่าจะได้จากการแปรญัตติอีกส่วนหนึ่ง ซึ่งอาจเป็นไปได้ ว่า เมื่อรวมทุกส่วน ปี 2556 เฉพาะสำนักพัฒนาแหล่งท่องเที่ยวอาจได้งบถึง 2,600 ล้านบาทเศษ
แต่ทั้งนี้ก็ต้องขึ้นอยู่กับการพิจารณาของกรรมาธิการงบประมาณและสภาผู้แทนราษฎร”
สำหรับโครงการพัฒนาแหล่งท่องเที่ยว ตามแผนงานของ กรมการท่องเที่ยวและสำนักพัฒนาแหล่ง จะแบ่งเป็น 2 ส่วนสำคัญ คือ ส่วนแรก การพัฒนาแหล่งท่องเที่ยว ปรับภูมิทัศน์ โดยจะแบ่งเป็นแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติ กับ แหล่งท่องเที่ยวที่เป็นแมนเมด และ ส่วนที่สอง คือ การจัดกิจกรรมส่งเสริมเพื่อให้เกิดการเดินทางท่องเที่ยว
โดยทั้งสองส่วนจะแบ่งการใช้งบประมาณกันอย่างละ 50% เท่าๆกัน โดยยืนยันการทำงานจะไม่ทับซ้อน กับ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย หรือ หน่วยงานอื่นๆ
โดยแนวทางการทำงาน ทางสำนัก ต้องร่วมกับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ในรูปแบบการประชุมร่วมคณะกรรมการส่งเสริมการท่องเที่ยวจังหวัด ในการพัฒนา แหล่งท่องเที่ยวตาม ชุมชน ร่วมกัน นอกจากนั้นยังมีโครงการพัฒนาแหล่งท่องเที่ยวใน 8 คลัสเตอร์ ซึ่งเป็นโครงการที่เริ่มทำต่อเนื่องมาตั้งแต่ปี 2555 โครงการพัฒนาบุคคลากรด้านการท่องเที่ยว อาทิ มัคคุเทศก์
และบุคคลากรของบริษัทนำเที่ยว
นอกจากนั้น ยังอยู่ระหว่างการหารือกับผู้บริหารระดับสูง และ อีกหลายหน่วยงาน ของรัฐบาล ในการร่วมกันจัดทำโครงการเมกกะโปรเจค เป็นแคมเปญระดับประเทศ เพื่อ กระตุ้นและส่งเสริมให้เกิดการเดินทางท่องเที่ยว อันจะบรรลุเป้าหมายการสร้างรายได้จากอุตสาหกรรมท่องเที่ยว เป็น 2 ล้านล้านบาท ในอีก 3 ปีข้างหน้า ตามนโยบายของรัฐบาล อย่างเช่นในปี 2555 รัฐบาลได้ประกาศเป็นปี
มิราเคิล ไทยแลนด์ เยียร์ เพื่อส่งเสริมให้เกิดการเดินทางท่องเที่ยว เป็นต้น
รายได้ 2 ล้านล้านบาทในปี 2558
“ในปี 2555 ทางสำนักฯได้รับจัดสรรงบประมาณ รวมกว่า 1,800 ล้านบาท แบ่งเป็นวงเงินจากงบปกติ 400 ล้านบาท และ จากงบแปรญัตติอีกราว 1,364 ล้านบาท ขณะที่ปี 2556 นี้ เบื้องต้นได้รับจัดสรรจากงบปกติแล้วถึง 1,300 ล้านบาท ยังไม่รวมงบที่คาดว่าจะได้จากการแปรญัตติอีกส่วนหนึ่ง ซึ่งอาจเป็นไปได้ ว่า เมื่อรวมทุกส่วน ปี 2556 เฉพาะสำนักพัฒนาแหล่งท่องเที่ยวอาจได้งบถึง 2,600 ล้านบาทเศษ
แต่ทั้งนี้ก็ต้องขึ้นอยู่กับการพิจารณาของกรรมาธิการงบประมาณและสภาผู้แทนราษฎร”
สำหรับโครงการพัฒนาแหล่งท่องเที่ยว ตามแผนงานของ กรมการท่องเที่ยวและสำนักพัฒนาแหล่ง จะแบ่งเป็น 2 ส่วนสำคัญ คือ ส่วนแรก การพัฒนาแหล่งท่องเที่ยว ปรับภูมิทัศน์ โดยจะแบ่งเป็นแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติ กับ แหล่งท่องเที่ยวที่เป็นแมนเมด และ ส่วนที่สอง คือ การจัดกิจกรรมส่งเสริมเพื่อให้เกิดการเดินทางท่องเที่ยว
โดยทั้งสองส่วนจะแบ่งการใช้งบประมาณกันอย่างละ 50% เท่าๆกัน โดยยืนยันการทำงานจะไม่ทับซ้อน กับ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย หรือ หน่วยงานอื่นๆ
โดยแนวทางการทำงาน ทางสำนัก ต้องร่วมกับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ในรูปแบบการประชุมร่วมคณะกรรมการส่งเสริมการท่องเที่ยวจังหวัด ในการพัฒนา แหล่งท่องเที่ยวตาม ชุมชน ร่วมกัน นอกจากนั้นยังมีโครงการพัฒนาแหล่งท่องเที่ยวใน 8 คลัสเตอร์ ซึ่งเป็นโครงการที่เริ่มทำต่อเนื่องมาตั้งแต่ปี 2555 โครงการพัฒนาบุคคลากรด้านการท่องเที่ยว อาทิ มัคคุเทศก์
และบุคคลากรของบริษัทนำเที่ยว
นอกจากนั้น ยังอยู่ระหว่างการหารือกับผู้บริหารระดับสูง และ อีกหลายหน่วยงาน ของรัฐบาล ในการร่วมกันจัดทำโครงการเมกกะโปรเจค เป็นแคมเปญระดับประเทศ เพื่อ กระตุ้นและส่งเสริมให้เกิดการเดินทางท่องเที่ยว อันจะบรรลุเป้าหมายการสร้างรายได้จากอุตสาหกรรมท่องเที่ยว เป็น 2 ล้านล้านบาท ในอีก 3 ปีข้างหน้า ตามนโยบายของรัฐบาล อย่างเช่นในปี 2555 รัฐบาลได้ประกาศเป็นปี
มิราเคิล ไทยแลนด์ เยียร์ เพื่อส่งเสริมให้เกิดการเดินทางท่องเที่ยว เป็นต้น
