กรมการท่องเที่ยว เตรียม หารือ กระทรวงมหาดไทย แก้กฏหมาย ขยายเพดาน”โฮมสเตย์” เพิ่มเท่าตัว พร้อมเดินหน้า จัดสัมมานาปรับมาตรฐาน โฮมสเตย์ ตาม แนวคิดนายกฯ”ปู” ฟากเอกชน ติง ตีโจทย์ให้แตก ขยายเพดาน เอื้อนายทุน หรือ ช่วยชาวบ้าน
นายสุพล ศรีพันธ์ อธิบดีกรมการท่องเที่ยว กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เปิดเผยว่า มีแนวคิดที่จะหารือกับ กระทรวงมหาดไทย ขอแก้กฎหมาย พ.ร.บ. ธุรกิจโรงแรม ฯ ขยายเพดาน คำจำกัดความ”โฮ
มสเตย์” เป็น เท่าตัว จากปัจจุบัน ที่กำหนดว่า โฮมสเตย์ คือ ที่พัก ที่มีจำนวนห้องไม่เกิน 4 ห้อง ให้บริการนักท่องเที่ยวไม่เกิน 10 คน ให้เพิ่มเป็น ที่พัก ที่มีห้องให้บริการไม่เกิน 8 ห้อง รองรับนักท่องเที่ยว
ได้ไม่เกิน 20-40 คน ให้ เข้าข่ายเป็นโฮมสเตย์ และ ไม่ต้องเสียภาษีธุรกิจเฉพาะ และ ไม่ต้องเข้าจดทะเบียนธุระกิจโรงแรม เพื่อเป็นการสนับสนุน”โฮมเสตย์” เพื่อเป็นรายได้เสริมให้แก่ชาวบ้าน ชุมชน หรือ
เกษตรกร
เบื้องต้น จะต้องหารือกับหลายฝ่าย ทั้ง หน่วยงานรัฐและเอกชนที่เกี่ยวข้อง รวมถึง การทำประชาพิจารณ์ ให้ได้ข้อสรุปที่เห็นตรงกันทุกฝ่าย และ ต้องไม่กระทบต่อธุรกิจของภาคเอกชน ที่ ทำโรงแรม
ห้องพักอยู่ โดยยังคงหลักการเดิม ของคำจำกัดความ “โฮมสเตย์” ตามเป้าหมายของรัฐบาล เป็นแม็กเน็ต ของระบบอุตสาหกรรมท่องเที่ยวไทย ที่มีความเป็นอัตลักณ์ขอแต่ละท้องถิ่น ชุมชน แสดงถึงความเป็นไทย ได้โดดเด่น
“การแก้กฏหมายถือเป็นแผนระยะกลางถึงระยะยาว ในการปรับมาตรฐานโฮมสเตย์ เพราะจากเหตุการณ์น้ำท่วมปลายปี 2554 โฮมสเตย์ มีส่วนช่วย เป็นที่พักพิงให้แก่ผู้ประสบอุทกภัย ในราคาถูก ทำให้ นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่ากรรกระทรวงการท่องเที่ยว เห็นความสำคัญ จึงต้องการให้สนับสนุน โฮมสเตย์ ให้มีมาตรฐาน เป็น อีกสาขาหนึ่งที่จะให้บริการนักท่องเที่ยว โดยโฮมสเตย์ จะไม่ทับซ้อนกับบูติกโฮเทล เพราะ ราคา และ การตกแต่งสถานที่ ต่างกันมาก“
สำหรับแผนระยะสั้น สำนักพัฒาบริการ กรมการท่องเที่ยว เตรียมสายจัดสัมมนา คาดว่าอีก 2 เดือน จะเริ่ม โดยทำงานเชิงรุก เข้าไปจัด ในจังหวัด หรือพื้นที่ที่มีบริการโฮมเตย์ ให้ความรู้ ในเรื่องของ
มาตรฐานสินค้า และ การบริหารจัดการ เป็นการยกระดับให้กับโฮมสเตย์ของประเทศไทย เพื่อรองรับการเติบโตของจำนวนนักท่องเที่ยวที่จะเข้ามาใช้บริการที่พักในรูปแบบนี้ ซึ่งเป็นเทรนด์ มาแรง เพราะนักท่องเที่ยว มีพฤติกรรมชื่นชอบ และใฝ่หา แหล่งท่องเที่ยว ที่พัก ที่เป็นธรรมชาติมากขึ้น ปัจจุบัน ตัวเลข กรม ที่สำรวจ มีโฮมสเตย์ อยู่ราว 500 แห่ง ทั่วประเทศ คาดว่า ถ้าสำรวจ จริงจัง จะมีมากกว่านี้เกือบ เท่าตัว จึงต้องมีการจัดระบบ ให้เป็นมาตรฐานเดียวกัน
***เอกชนติงตั้งโจทย์ให้เหมาะ***
ทางด้านนายสัมพันธ์ แป้นพัฒน์ กรรมการฝ่านกฎหมาย สมาคมโรงแรมไทย (ทีเอชเอ) กล่าวว่า เห็นด้วย ที่รัฐ จะยกระดับมาตรฐานโฮมสเตย์ของไทย หรือการขยายเพดาน ข้อกฎหมาย ในเรื่องของ จำนวน ห้องพัก แต่ในเรื่องของจำนวน มองว่า กรมฯ ต้องพิจารณาให้รอบครอบ ตั้งโจทย์ให้ดีว่า การขยายเพดาน ครั้งนี้ทำเพื่อใคร เพื่อชาวบ้านชุมชน หหรือ นายทุน เพราะ หาก รองรับนักท่องเที่ยวได้ถึง 40 คน จะเข้าข่ายเป็นธุรกิจ มากกว่ารายได้เสริม
นายสุพล ศรีพันธ์ อธิบดีกรมการท่องเที่ยว กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เปิดเผยว่า มีแนวคิดที่จะหารือกับ กระทรวงมหาดไทย ขอแก้กฎหมาย พ.ร.บ. ธุรกิจโรงแรม ฯ ขยายเพดาน คำจำกัดความ”โฮ
มสเตย์” เป็น เท่าตัว จากปัจจุบัน ที่กำหนดว่า โฮมสเตย์ คือ ที่พัก ที่มีจำนวนห้องไม่เกิน 4 ห้อง ให้บริการนักท่องเที่ยวไม่เกิน 10 คน ให้เพิ่มเป็น ที่พัก ที่มีห้องให้บริการไม่เกิน 8 ห้อง รองรับนักท่องเที่ยว
ได้ไม่เกิน 20-40 คน ให้ เข้าข่ายเป็นโฮมสเตย์ และ ไม่ต้องเสียภาษีธุรกิจเฉพาะ และ ไม่ต้องเข้าจดทะเบียนธุระกิจโรงแรม เพื่อเป็นการสนับสนุน”โฮมเสตย์” เพื่อเป็นรายได้เสริมให้แก่ชาวบ้าน ชุมชน หรือ
เกษตรกร
เบื้องต้น จะต้องหารือกับหลายฝ่าย ทั้ง หน่วยงานรัฐและเอกชนที่เกี่ยวข้อง รวมถึง การทำประชาพิจารณ์ ให้ได้ข้อสรุปที่เห็นตรงกันทุกฝ่าย และ ต้องไม่กระทบต่อธุรกิจของภาคเอกชน ที่ ทำโรงแรม
ห้องพักอยู่ โดยยังคงหลักการเดิม ของคำจำกัดความ “โฮมสเตย์” ตามเป้าหมายของรัฐบาล เป็นแม็กเน็ต ของระบบอุตสาหกรรมท่องเที่ยวไทย ที่มีความเป็นอัตลักณ์ขอแต่ละท้องถิ่น ชุมชน แสดงถึงความเป็นไทย ได้โดดเด่น
“การแก้กฏหมายถือเป็นแผนระยะกลางถึงระยะยาว ในการปรับมาตรฐานโฮมสเตย์ เพราะจากเหตุการณ์น้ำท่วมปลายปี 2554 โฮมสเตย์ มีส่วนช่วย เป็นที่พักพิงให้แก่ผู้ประสบอุทกภัย ในราคาถูก ทำให้ นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่ากรรกระทรวงการท่องเที่ยว เห็นความสำคัญ จึงต้องการให้สนับสนุน โฮมสเตย์ ให้มีมาตรฐาน เป็น อีกสาขาหนึ่งที่จะให้บริการนักท่องเที่ยว โดยโฮมสเตย์ จะไม่ทับซ้อนกับบูติกโฮเทล เพราะ ราคา และ การตกแต่งสถานที่ ต่างกันมาก“
สำหรับแผนระยะสั้น สำนักพัฒาบริการ กรมการท่องเที่ยว เตรียมสายจัดสัมมนา คาดว่าอีก 2 เดือน จะเริ่ม โดยทำงานเชิงรุก เข้าไปจัด ในจังหวัด หรือพื้นที่ที่มีบริการโฮมเตย์ ให้ความรู้ ในเรื่องของ
มาตรฐานสินค้า และ การบริหารจัดการ เป็นการยกระดับให้กับโฮมสเตย์ของประเทศไทย เพื่อรองรับการเติบโตของจำนวนนักท่องเที่ยวที่จะเข้ามาใช้บริการที่พักในรูปแบบนี้ ซึ่งเป็นเทรนด์ มาแรง เพราะนักท่องเที่ยว มีพฤติกรรมชื่นชอบ และใฝ่หา แหล่งท่องเที่ยว ที่พัก ที่เป็นธรรมชาติมากขึ้น ปัจจุบัน ตัวเลข กรม ที่สำรวจ มีโฮมสเตย์ อยู่ราว 500 แห่ง ทั่วประเทศ คาดว่า ถ้าสำรวจ จริงจัง จะมีมากกว่านี้เกือบ เท่าตัว จึงต้องมีการจัดระบบ ให้เป็นมาตรฐานเดียวกัน
***เอกชนติงตั้งโจทย์ให้เหมาะ***
ทางด้านนายสัมพันธ์ แป้นพัฒน์ กรรมการฝ่านกฎหมาย สมาคมโรงแรมไทย (ทีเอชเอ) กล่าวว่า เห็นด้วย ที่รัฐ จะยกระดับมาตรฐานโฮมสเตย์ของไทย หรือการขยายเพดาน ข้อกฎหมาย ในเรื่องของ จำนวน ห้องพัก แต่ในเรื่องของจำนวน มองว่า กรมฯ ต้องพิจารณาให้รอบครอบ ตั้งโจทย์ให้ดีว่า การขยายเพดาน ครั้งนี้ทำเพื่อใคร เพื่อชาวบ้านชุมชน หหรือ นายทุน เพราะ หาก รองรับนักท่องเที่ยวได้ถึง 40 คน จะเข้าข่ายเป็นธุรกิจ มากกว่ารายได้เสริม
