ASTVผู้จัดการรายวัน – กรมการท่องเที่ยว คุย ม.ค.55 ต่างชาติเดินทางเข้าประเทศไทย 1.94 ล้านคน โตจากเดือนเดียวกันของปีก่อน 7.65% ฝากเอกชน จี้รัฐ ทำข้อมูลเชิงลึก แบ่งนักท่องเที่ยวออกจากตัวเลขต่างชาติรวมที่เดินทางมาทั้งหมด ล่าสุด เตรียม คุยกับสมาชิก วางแผน ทำตลาด สู้ศึก เว็บออนไลน์ต่างประเทศ
นายสุพล ศรีพันธุ์ อธิบดีกรมการท่องเที่ยว กระทรวงท่องเที่ยวและกีฬา เปิดเผยว่า รายงานสถิตินักท่องเที่ยวต่างชาติ เดือน ม.ค.55 ที่เดินทางผ่านด่านตรวจคนเข้าเมือง รวมทั่วประเทศ 1.94 ล้านคน เพิ่ม 7.65% จาก ม.ค. 54 ซึ่งมีจำนวนนักท่องเที่ยวที่ 1.8 ล้านคน แต่หากเฉพาะที่ด่านเข้าเมืองสุวรรณภูมิ มีจำนวนที่ 1.23 ล้านคน เพิ่มจากปีก่อนราว 4.20%
สำหรับนักท่องเที่ยว 5 ประเทศแรกที่เดินทางเข้ามาสูงสุด ได้แก่
จีน 187,229 คน เพิ่มขึ้น 30.49% รองลงมาคือ มาเลเซีย 178,489 คน เพิ่มขึ้น 10.92%, รัสเซีย 148,124 คน เพิ่มขึ้น 8.79%, เกาหลี 110,766 คน ลดลง 4.88% และญี่ปุ่น 103,261 คน ลดลง 1.75%
นายศิษฎิวัชร ชีวรัตนพร นายกสมาคมไทยธุรกิจการท่องเที่ยว(แอตต้า) กล่าวว่า วันที่ 10 ก.พ.นี้ สมาคมฯ ได้เรียกประชุมคณะกรรมการ หารือแนวทางการทำตลาดในแต่ละประเทศ เพราะ พฤติกรรมนักท่องเที่ยวที่แตกต่างกัน จึงต้องการให้สมาชิกมีความเข้าใจในพฤติกรรมลูกค้าที่เปลี่ยนไปให้มากขึ้น เพื่อปรับแนวทางการทำตลาดให้สอดคล้อง
“ประเด็นการประชุมครั้งนี้ จะเป็นเวทีรับฟังความคิดเห็นจากกรรมการ ซึ่งมาจากตัวแทนของบริษัทนำเที่ยว ในแต่ละตลาด ว่า แต่ละตลาดมีปัญหาอะไรอย่างไร มีทิศทางการเติบโตเป็นอย่างไร เพื่อหาแนวทางแก้ไขร่วมกัน อย่างไรก็ตาม จำนวนต่างชาติที่เดินทางมาประเทศไทย ขณะนี้ ยังไม่มีหน่วยงานใดจัดแบ่งว่าเป็นนักท่องเที่ยวเท่าไหร่ ซึ่งควรนำข้อมูลของแอตต้าและสมาคมโรงแรมไทย มาพิจารณาร่วมกัน เพื่อให้ทราบตัวเลขนักท่องเที่ยวที่แม้จริง “
ปัจจุบัน นักท่องเที่ยวตลาดที่มีอัตราการเติบโตสูง ได้แก่ รัสเซีย อินเดีย นิวซีแลนด์ ออสเตรเลีย และ เวียดนาม ซึ่งสมาคมก็จะแนะวิธีที่จะทำให้ แต่ละตลาดเติบโตอย่างต่อเนื่อง
อย่างไรก็ตาม กรณี ปัญหาที่ทีตัวแทนจำหน่าย หรือ เอเยนต์ ประสบปัญหา เจอคู่แข่งขันช่องทางออนไลน์จากต่างประเทศชิงลูกค้า ด้วยการเสนอราคาขายที่ถูกกว่า สมาคมมองว่า เรื่องนี้ ผู้ประกอบการทัวร์ต้องมีการปรับตัว ต่อสู้ ด้วยการ จัดทำแพกเกจทัวร์ตามความต้องการของลูกค้าแต่ละรายโดยเฉพาะ(ออนดีมานด์) พร้อมสร้างความรู้ในกลุ่มผู้บริโภคได้รับทราบวิธีการทำตลาดด้วยว่า เว็บไซต์ จะใช้ราคาถูกเปิดตลาดสร้างความสนใจ แต่มีจำนวนน้อย ที่เหลือราคาก็ไม่ต่างจากจองผ่านเอเยนต์แต่ถ้าจองผ่านเอเยนต์จะจองเท่าไหร่ก็ได้ราคาเท่ากัน นอกจากนั้นผู้ประกอบการก็ต้องปรับปรุงเว็บไซต์ของตัวเอง ให้ทันสมัย มีช่องทางออนไลน์รองรับพฤติกรรมลูกค้าด้วย
นายสุพล ศรีพันธุ์ อธิบดีกรมการท่องเที่ยว กระทรวงท่องเที่ยวและกีฬา เปิดเผยว่า รายงานสถิตินักท่องเที่ยวต่างชาติ เดือน ม.ค.55 ที่เดินทางผ่านด่านตรวจคนเข้าเมือง รวมทั่วประเทศ 1.94 ล้านคน เพิ่ม 7.65% จาก ม.ค. 54 ซึ่งมีจำนวนนักท่องเที่ยวที่ 1.8 ล้านคน แต่หากเฉพาะที่ด่านเข้าเมืองสุวรรณภูมิ มีจำนวนที่ 1.23 ล้านคน เพิ่มจากปีก่อนราว 4.20%
สำหรับนักท่องเที่ยว 5 ประเทศแรกที่เดินทางเข้ามาสูงสุด ได้แก่
จีน 187,229 คน เพิ่มขึ้น 30.49% รองลงมาคือ มาเลเซีย 178,489 คน เพิ่มขึ้น 10.92%, รัสเซีย 148,124 คน เพิ่มขึ้น 8.79%, เกาหลี 110,766 คน ลดลง 4.88% และญี่ปุ่น 103,261 คน ลดลง 1.75%
นายศิษฎิวัชร ชีวรัตนพร นายกสมาคมไทยธุรกิจการท่องเที่ยว(แอตต้า) กล่าวว่า วันที่ 10 ก.พ.นี้ สมาคมฯ ได้เรียกประชุมคณะกรรมการ หารือแนวทางการทำตลาดในแต่ละประเทศ เพราะ พฤติกรรมนักท่องเที่ยวที่แตกต่างกัน จึงต้องการให้สมาชิกมีความเข้าใจในพฤติกรรมลูกค้าที่เปลี่ยนไปให้มากขึ้น เพื่อปรับแนวทางการทำตลาดให้สอดคล้อง
“ประเด็นการประชุมครั้งนี้ จะเป็นเวทีรับฟังความคิดเห็นจากกรรมการ ซึ่งมาจากตัวแทนของบริษัทนำเที่ยว ในแต่ละตลาด ว่า แต่ละตลาดมีปัญหาอะไรอย่างไร มีทิศทางการเติบโตเป็นอย่างไร เพื่อหาแนวทางแก้ไขร่วมกัน อย่างไรก็ตาม จำนวนต่างชาติที่เดินทางมาประเทศไทย ขณะนี้ ยังไม่มีหน่วยงานใดจัดแบ่งว่าเป็นนักท่องเที่ยวเท่าไหร่ ซึ่งควรนำข้อมูลของแอตต้าและสมาคมโรงแรมไทย มาพิจารณาร่วมกัน เพื่อให้ทราบตัวเลขนักท่องเที่ยวที่แม้จริง “
ปัจจุบัน นักท่องเที่ยวตลาดที่มีอัตราการเติบโตสูง ได้แก่ รัสเซีย อินเดีย นิวซีแลนด์ ออสเตรเลีย และ เวียดนาม ซึ่งสมาคมก็จะแนะวิธีที่จะทำให้ แต่ละตลาดเติบโตอย่างต่อเนื่อง
อย่างไรก็ตาม กรณี ปัญหาที่ทีตัวแทนจำหน่าย หรือ เอเยนต์ ประสบปัญหา เจอคู่แข่งขันช่องทางออนไลน์จากต่างประเทศชิงลูกค้า ด้วยการเสนอราคาขายที่ถูกกว่า สมาคมมองว่า เรื่องนี้ ผู้ประกอบการทัวร์ต้องมีการปรับตัว ต่อสู้ ด้วยการ จัดทำแพกเกจทัวร์ตามความต้องการของลูกค้าแต่ละรายโดยเฉพาะ(ออนดีมานด์) พร้อมสร้างความรู้ในกลุ่มผู้บริโภคได้รับทราบวิธีการทำตลาดด้วยว่า เว็บไซต์ จะใช้ราคาถูกเปิดตลาดสร้างความสนใจ แต่มีจำนวนน้อย ที่เหลือราคาก็ไม่ต่างจากจองผ่านเอเยนต์แต่ถ้าจองผ่านเอเยนต์จะจองเท่าไหร่ก็ได้ราคาเท่ากัน นอกจากนั้นผู้ประกอบการก็ต้องปรับปรุงเว็บไซต์ของตัวเอง ให้ทันสมัย มีช่องทางออนไลน์รองรับพฤติกรรมลูกค้าด้วย