xs
xsm
sm
md
lg

ทักษิณถีบหัวเรือแดงกับวาทกรรม “พ่อค้าอาวุธได้ประโยชน์” กับ “เรื่องปัญญาอ่อน!?”

เผยแพร่:   โดย: ปานเทพ พัวพงษ์พันธ์

การปลุกระดมในรอบหลายปีที่ผ่านมา ทั้งของนักโทษชายทักษิณ ชินวัตร และแกนนำคนเสื้อแดง ที่พยายามปลุกระดมมาโดยตลอดว่า ระบอบอำมาตยาธิปไตยอยู่เบื้องหลังทำให้ประเทศไทยไม่เป็นประชาธิปไตย หรือนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ และนายสุเทพ เทือกสุบรรณ ตลอดจนทหารมีความอำมหิตโหดเหี้ยมเข่นฆ่าเสื้อแดงอย่างไม่เป็นธรรมเมื่อปี 2553

วาทกรรมเหล่านี้กำลังย้อนกลับมาเป็นทั้งกับดักในเชิงอำนาจ และฉีกหน้ากากความเป็นตัวของนักโทษชายทักษิณและพรรคพวกอย่างหมดเปลือก

โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เมื่อทักษิณพยายามพูดเกลี้ยกล่อมให้เสียสละ ลืมอดีต เพื่อความปรองดอง ล้างความผิดให้กับทุกฝ่าย ทั้งๆ ที่ญาติพี่น้องคนเสื้อแดงถูกปลุกระดมมาโดยตลอดว่าการเสียชีวิตของพวกเขาเหล่านั้นเป็นฝีมือของรัฐบาลนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายสุเทพ เทือกสุบรรณ และทหาร

โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อรัฐบาลยิ่งลักษณ์เดินหน้าแสวงหาความปรองดองและจับมือกับพลเอกเปรม ติณสูลานนท์ ทั้งๆ ที่คนเสื้อแดงถูกสอน ถูกปลุกระดมให้เกลียดชังอำมาตย์เหล่านี้

ทั้งหมดเป็นการแสดงให้เห็นว่าคนอย่างนักโทษชายทักษิณ และแกนนำเสื้อแดง เมื่อมีอำนาจแล้ว ไม่มีอะไรสำคัญไปกว่าเรื่องของตนเอง ซึ่งสำคัญเสียยิ่งกว่าศพของประชาชนคนเสื้อแดงเสียอีก จริงหรือไม่?

เป็นบทเรียนราคาที่แพงสูงลิ่ว แต่อย่างน้อยการที่มีรัฐบาลมาจากพรรคเพื่อไทย นานวันประชาชนก็จะได้เห็นธาตุแท้มากขึ้นทุกวันว่า การต่อสู้ที่ผ่านมาของมวลชนคนเสื้อแดงนั้นไม่ได้เป็นการต่อสู้เพื่อประชาธิปไตย แต่ได้ตกเป็นเครื่องมือให้กับกลุ่มทุนอีกกลุ่มหนึ่งเท่านั้น ที่แสวงหาอำนาจและคิดแต่จะรักษาอำนาจและผลประโยชน์ของตัวเองให้นานที่สุด จริงหรือไม่?

วันนี้นักโทษชายทักษิณให้ความสำคัญกับการกลับมาของตัวเอง โดยไม่ต้องรับโทษ มากเสียยิ่งกว่าการเคลื่อนไหวของคนเสื้อแดง

การเคลื่อนไหวของคนเสื้อแดงที่ถูกนักโทษชายทักษิณปลุกระดมตลอดหลายปีที่ผ่านมา แต่คำปราศรัยเมื่อวันที่ 19 พฤษภาคม พ.ศ. 2555 กลับระบุว่าความขัดแย้งที่ผ่านมา กลายเป็นเรื่องความเข้าใจผิด จิตปรุงแต่ง และทำให้พ่อค้าอาวุธได้ประโยชน์ไปเสียแล้ว

ในหมู่คนเสื้อแดงควรจะทราบด้วยว่าการเคลื่อนไหวในฝ่ายคนเสื้อแดงที่ผ่านมานั้น มีคนได้ประโยชน์ส่วนตนที่ทักษิณเรียกกลุ่มคนเหล่านี้ว่า “พวกพ่อค้าอาวุธ”

ซึ่งที่ผ่านมามีนักการเมืองฝ่ายระบอบทักษิณคนสำคัญที่เดินสายไปเจรจาหลายกลุ่ม ได้ไปพูดกับคนแทบทุกกลุ่มให้คำนิยามว่า “พวกพ่อค้าอาวุธ” นั้นแท้ที่จริงหมายถึงแกนนำคนเสื้อแดงบางคน ที่ได้ประโยชน์จากความขัดแย้งที่เกิดขึ้นทั้งอำนาจ เงินทอง และผลประโยชน์

และประโยควาทกรรมของนักโทษชายทักษิณที่คนเสื้อแดงไม่ควรจะลืมในครั้งนี้ก็คือ

“ความบาดหมางและความขัดแย้งในเรื่องที่ไม่เป็นเรื่อง ถ้ามองย้อนกลับไปแล้ว อยากเรียกว่าปัญญาอ่อนก็ว่าได้”

คำถามที่ควรถามนักโทษชายทักษิณคือ เรื่อง อำมาตยาธิปไตยหรือผู้มีบารมีนอกรัฐธรรมนูญที่โค่นล้มระบอบประชาธิปไตยตามที่ปลุกระดมที่ผ่านมานั้นเป็นเรื่องปัญญาอ่อนหรือไม่?

ถ้าเป็นเรื่องปัญญาอ่อนแล้วเหตุใดจึงปลุกระดมให้คนเสื้อแดงออกไปต่อสู้จนเสียเลือดเนื้อและชีวิตที่ผ่านมา?

และเมื่อคนเสื้อแดงลุกขึ้นจนถึงขั้นจับอาวุธต่อสู้ตามที่ปลุกระดมจนเสียเลือดเนื้อและชีวิต ที่บอกให้ลืมเรื่องการเสียชีวิตของคนเสื้อแดงว่าต้องเสียสละเรื่องส่วนตัวเพื่อประโยชน์ของประเทศชาตินั้น เป็นเรื่องปัญญาอ่อนด้วยหรือไม่?

การที่นักโทษชายทักษิณกล้าหักดิบกับแนวร่วมของคนเสื้อแดงหลายกลุ่มนั้น มีเหตุผลหนึ่งที่อาจจะเป็นไปได้มากที่สุดก็คือเชื่อว่าพลังคนเสื้อแดงที่เคลื่อนไหวแบบอุดมการณ์มีน้อยกว่าคนเสื้อแดงที่ชื่นชอบทักษิณ

นักโทษชายทักษิณอาจจะยังเชื่อต่อไปด้วยว่าพลังแดงซ้ายที่คิดล้มเจ้ามีน้อยกว่าแดงขวาที่ไม่เห็นด้วยกับการล้มเจ้า

นักโทษชายทักษิณอาจมีความเชื่อมั่นว่าแกนนำแดงส่วนใหญ่มาด้วยผลประโยชน์และแสวงหาอำนาจรัฐ ต่างสนใจแต่ผลประโยชน์และอำนาจรัฐมากยิ่งกว่าที่จะมาสนใจการโค่นล้มอำมาตย์ และไม่สนใจหากรัฐบาลจะจับมือกับอำมาตย์เพื่อความมั่นคงของอำนาจรัฐและผลประโยชน์เหล่านั้น

นักโทษชายทักษิณอาจจะมั่นใจว่าคนที่มีความแค้นกรณีที่ลูกหลาน ญาติพี่น้องที่เสียชีวิตล้มตายจากการชุมนุมของคนเสื้อแดงนั้น สามารถจบลงได้ด้วยการเอาเงินจากรัฐบาลฟาดหัวให้คนเสื้อแดงเหล่านั้นหยุดการเคลื่อนไหว เพื่อที่จะได้เดินหน้าล้างความผิดให้กับทุกฝ่าย เพราะเป้าหมายสูงสุดคือทำให้นักโทษชายทักษิณกลับประเทศไทยได้โดยที่ไม่ต้องรับโทษใดๆ

ซึ่งทักษิณอาจอ่านสถานการณ์ได้ขาด เพราะในที่สุดก็ได้พิสูจน์ว่าแม้แต่แกนนำคนเสื้อแดงคนสำคัญแทบทุกคนต่างคล้อยตามแนวทางของทักษิณจนหมดสิ้น

แกนนำบางคนที่คิดล้มเจ้าต่างตระหนักดีว่ามวลชนส่วนใหญ่อยู่ภายใต้การอุปถัมภ์ของนักโทษชายทักษิณแทบทั้งสิ้น บางคนไม่เคยมีมวลชนเพียงแต่มาพ่วงด้วยกับขบวนการทักษิณเพราะต้องการหลอกใช้ทักษิณเป็นเครื่องมือให้บรรลุอุดมการณ์ของตัวเอง บางคนขอให้ได้เสวยสุขมีตำแหน่งเป็นอำมาตย์ใหญ่ และบางคนขอให้ได้ถูกเงินก้อนใหญ่ฟาดหัวร่ำรวยอิ่มหมีพีมัน

สถานการณ์นี้ทำให้มวลชนคนเสื้อแดง (บางคน) ได้เห็นธาตุแท้ของนักโทษชายทักษิณ ชินวัตร เห็นตัวตนที่แท้จริงของผู้นำของตัวเอง และประชาชนทั่วไปก็จะได้เห็นสติปัญญาที่แท้จริงของคนเสื้อแดงว่า มวลชนคนเสื้อแดงที่มีอุดมการณ์จริงๆ มีมากน้อยสักเพียงไหน และมีคนเสื้อแดงที่ถูกอุปถัมภ์เป็นทาสระบอบทักษิณอย่างไม่ลืมหูลืมตามีมากเพียงใด เราสามารถเห็นได้จากปฏิกิริยาของคนเสื้อแดงหลังจากนี้

ปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้นทำให้หลายคนอาจได้เห็นว่าที่ผ่านมามีการหลอกใช้กันไปมาระหว่างคนเสื้อแดงบางคนกับนักโทษชายทักษิณ ชินวัตร จริงหรือไม่ โดยเฉพาะในช่วงเวลาที่ยังไม่มีอำนาจ

นักโทษชายทักษิณ ชินวัตร อาศัยคนเสื้อแดงทุกปีกมารวมตัวกัน ทั้งแดงซ้ายล้มเจ้า แดงขวารักเจ้า แดงผลประโยชน์ แดงเกลียดอำมาตย์ แดงเชิดชูการเลือกตั้งต่อต้านรัฐประหาร แดงรักทักษิณ แดงอุปถัมภ์จัดตั้งของนักการเมือง แดงแฟนรายการความจริงวันนี้ แดงสันติวิธี แดงติดอาวุธสงคราม ฯลฯ คนเสื้อแดงเหล่านี้ต่างมีเป้าหมายและยุทธวิธีในการชุมนุมไม่เหมือนกัน

แต่คนเสื้อแดงที่มีหลายวัตถุประสงค์และยุทธวิธีในการเข้าร่วมชุมนุมที่ไม่เหมือนกันเหล่านี้ สามารถมารวมตัวกันได้ เพราะประการแรกนักโทษชายทักษิณไม่แสดงอาการหักหาญน้ำใจกลุ่มไหน และต้องการรักษาให้ความหวังกับทุกกลุ่มเอาไว้ใช้เป็นเครื่องมือในการช่วงชิงอำนาจรัฐแล้วเท่านั้น ในขณะที่คนแทบทุกกลุ่มต่างก็ต้องการใช้นักโทษชายทักษิณในการบรรลุวัตถุประสงค์ของตัวเองเช่นเดียวกัน

เรียกได้ว่าต่างฝ่ายต่างใช้ประโยชน์ซึ่งกันและกัน!?

แต่เมื่อมาถึงจุดหนึ่งที่พรรคเพื่อไทยมีอำนาจกลายมาเป็นรัฐบาล สถานภาพนี้ทำให้นักโทษชายทักษิณ ชินวัตร ไม่สามารถที่จะให้ความหวังคนทุกลุ่มได้เหมือนเดิม และจำเป็นต้องเลือกทางใดทางหนึ่งในฐานะมีพรรคพวกตัวเองถืออำนาจรัฐแบบเบ็ดเสร็จเด็ดขาด ธาตุแท้ของนักโทษชายทักษิณจึงได้มาปรากฏในทุกวันนี้

ระหว่างแดงล้มเจ้า กับแดงรักเจ้า วันนี้นักโทษชายทักษิณขอ “แสดงออก” เลือกข้างแดงรักเจ้าเอาไว้ก่อน เพื่อความปลอดภัยของรัฐบาลพรรคเพื่อไทยเอง

ระหว่างแดงโค่นอำมาตย์ กับแดงปรองดองกับอำมาตย์ วันนี้นักโทษชายทักษิณขอ “แสดงออก” ปรองดองกับอำมาตย์เพื่อรักษาอำนาจของพรรคพวกตัวเองให้นานที่สุด และมั่นคงที่สุด

ระหว่างแดงค้นหาความจริงของการสูญเสียชีวิตและต้องการนำคนผิด (ทหาร) มาลงโทษ วันนี้นักโทษชายทักษิณก็เลือกที่จะออก พ.ร.บ.ปรองดองให้ทุกฝ่าย เพื่อที่จะทำให้ตัวเองอาศัยข้ออ้างในการล้างความผิดให้กับตัวเองเพื่อที่จะได้กลับมาประเทศไทยโดยไม่ต้องรับโทษใดๆ โดยใช้วิธีนำเงินงบประมาณแผ่นดินมาจ่ายปิดปากญาติผู้สูญเสียทั้งหลายแทน

และทันทีที่จะมีการแก้ไขรัฐธรรมนูญถึงเวลานั้นคนเสื้อแดงที่ต่อสู้เพื่อให้ไพร่ได้มีส่วนร่วมทางการเมือง เราจะได้เห็นว่านักการเมืองเหล่านี้ นอกจากจะเลือกการเพิ่มอำนาจรัฐ ลดอำนาจตุลาการแล้ว ยังจะไปลดอำนาจการมีส่วนร่วมของประชาชนอีกด้วยหรือไม่?

สำหรับใครก็ตามที่เป็นทรราชย์แล้ว ทรราชย์ก็มักจะทำอะไรก็ได้ตามใจตัวเอง แม้กระทั่งทรยศหักหลังประชาชนที่สนับสนุนตัวเองมา เพียงเพราะว่าทรราชย์เหล่านั้นมักจะมองประชาชนส่วนใหญ่ที่สนับสนุนตัวเองนั้นโง่กว่าตัวเองและสามารถจูงจมูกหลอกใช้และลากไปที่ไหนอย่างไรก็ได้

แต่สำหรับทักษิณเขาไม่ได้ทำอะไรไปมากกว่าพูดปราศรัยในทำนองว่า “เมื่อพี่น้องเสื้อแดงนำเรือส่งทักษิณถึงฝั่งแล้ว อย่าแบกเรือตามขึ้นไปข้างบนภูเขา เพราะทักษิณเขาจะใช้รถยนต์ขึ้นภูเขา”

แปลความจากไทยให้เป็นไทยในสไตล์ละครน้ำเน่าของเมืองไทยอีกครั้งก็คือ

“เรือก็ควรจะอยู่ในทะเลสาบต่อไปนั่นแหละ พายเรือส่งข้าขึ้นฝั่งแล้ว ขอบใจนะ ก็หมดหน้าที่ของพวกเอ็งแล้วอย่ามาสะเออะคิดจะตามขึ้นไปบนภูเขากับข้า หัดดูสารรูปตัวเองเสียบ้าง ไว้ข้าต้องการใช้เอ็งอีกเมื่อไหร่ข้าจะเรียกใช้เอ็งอีก” อะไรทำนองนั้น

ดังนั้นวาทกรรมที่นักโทษชายทักษิณกล่าวว่า “ความบาดหมางและความขัดแย้งในเรื่องที่ไม่เป็นเรื่อง ถ้ามองย้อนกลับไปแล้ว อยากเรียกว่าปัญญาอ่อนก็ว่าได้” สิ่งที่คนเสื้อแดงน่าจะถามกลับไปยังทักษิณว่าแล้วที่ผ่านมาก็คือ “การพายเรือให้ทักษิณถึงฝั่งแล้วถูกถีบหัวเรือส่งนั้น มันเป็นเรื่องปัญญาอ่อนด้วยหรือไม่?”

“รำลึกครบรอบ 2 ปี การเข่นฆ่าประชาชน เพื่อนเรา ต้องไม่ตายเปล่า” คือข้อความที่เป็นฉากหลังในงานรำลึกของคนเสื้อแดงซึ่งนักโทษชายทักษิณ ชินวัตร วิดีโอลิงก์ (ครั้งสุดท้าย) เข้ามาด้วยวาทกรรมที่น่าจะตราตรึงใจคนเสื้อแดงไปอีกนานแสนนาน!!!
กำลังโหลดความคิดเห็น