xs
xsm
sm
md
lg

แฉหมู่บ้านแดงสุดอภิสิทธิ์ รับเงินเดือนแถมทำผิดกม.ได้

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ASTVผู้จัดการรายวัน-ชาวบ้านภูเก็ตแฉ! หากยอมเป็น “หมู่บ้านเสื้อแดง” ได้เงินเดือนครอบครัวละ 2พัน แถมทำผิดกฎหมายได้ “ยุงยุทธ” ปัดรัฐไม่เคยอุดหนุน ยันตรวจสอบได้ ซัดไม่ง่ายแบบพวก “กองทัพธรรม-สันติอโศก” ที่นำมาใช้หาประโยชน์ทางการเมือง ผบ.ทบ. เตือนตั้งหมู่บ้านแดงภาคใต้ ส่อเพิ่มปัญหา “เหลิม” แจกเบอร์ บอก “ตั๊ก บงกช” โทรมา หากมีปัญหา ขณะที่ “พท.-ปชป.” ซัดกันเละเหตุเผาหมู่บ้านแดง

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อช่วงค่ำวันที่ 15 พ.ค.ที่ผ่านมา ผศ.ดร.พิชาย รัตนดิลก ณ ภูเก็ต รองคณบดีคณะพัฒนาสังคมและสิ่งแวดล้อม สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (นิด้า) และ ผศ.ทวี สุรฤทธิกุล ประธานสาขารัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยสุโขทัย ได้ร่วมในรายการ “คนเคาะข่าว” ออกอากาศทางสถานีโทรทัศน์ผ่านดาวเทียม ASTV ดำเนินรายการโดยนายเติมศักดิ์ จารุปราณ

โดยในช่วงเริ่มรายการ นายกฤช เทพบำรุง ตัวแทนชาวบ้านคัดค้านตั้งหมู่บ้านเสื้อแดง จ.ภูเก็ต ได้โทรศัพท์เข้าในรายการ เล่าถึงการดำเนินการจัดตั้งหมู่บ้านเสื้อแดงว่า มีคนเข้าพูดคุยให้ชาวบ้านเปลี่ยนเป็นหมู่บ้านเสื้อแดง หากบ้านไหนยอม ก็จะเอาธงแดงติด เอาพระบรมฉายาลักษณ์ในหลวงลง แล้วเอารูป พ.ต.ท.ทักษิณขึ้น และก็จะได้ครอบครัวละ 2 พันบาทต่อเดือน ได้บัตรสมาชิกเสื้อแดง ซึ่งหากกระทำผิดการจราจร เช่น ไม่ใส่หมวกกันน็อก เมื่อยื่นบัตรแล้ว ตำรวจจราจรต้องปล่อยทันที ไม่อย่างนั้นอาจโดนย้าย และก็จะให้บัตรส่วนลดตามห้างดังในภูเก็ตด้วย

จากนั้น ผศ.ทวีกล่าวว่า ตอนนี้เป็นหมู่บ้านเสื้อแดง ต่อไปก็จะเป็นจังหวัดเสื้อแดง แล้วประเทศเสื้อแดงก็จะตามมา การเกิดขึ้นของหมู่บ้านเสื้อแดงจะมีสิ่งต่างๆ เกิดขึ้นที่ร้ายแรงกว่านั้นมากมาย ให้จับตาดูช่วงตั้ง ส.ส.ร. ร่างรัฐธรรมนูญ และทำประชามติ

ผศ.ดร.พิชายกล่าวว่า ลักษณะบ้านเสื้อแดง ก็คือ บูชารูปทักษิณ โดยตั้งเป้าต้องแดงทั้งแผ่นดิน ซึ่งจะมีรูปทักษิณทุกบ้าน ชัดเจนเรื่องนี้ คือ สิ่งที่เรียกว่ารัฐไทยใหม่ แล้วความสัมพันธ์ของเสื้อแดงกับแกนนำมันไม่ใช่ความสัมพันธ์เชิงประชาธิปไตยแน่นอน เพราะพรรคเพื่อไทยถูกบงการโดยคนเพียงคนเดียว นั่นก็คือ พ.ต.ท.ทักษิณ แล้วแบบนี้ จะเรียกว่าประชาธิปไตยได้อย่างไร มันโครงสร้างเดียวกับนาซี แล้วพรรคการเมืองแบบนี้ ไปเชียร์หมู่บ้านเสื้อแดง พูดไม่ได้หรอกว่าเป็นการทำเพื่อประชาธิปไตย มันเป็นเพียงข้ออ้าง

"คนที่อึดอัดคับข้องใจกับการตั้งหมู่บ้านเสื้อแดงในจังหวัดต่างๆ ก็เกิดการคัดค้าน หรืออย่างที่ อ.จะนะ จ.สงขลา ก็มีการเผาศาลาหมู่บ้านเสื้อแดง อันนี้เป็นร่องรอยที่จะเกิดความแตกแยกมากขึ้น และถ้ารัฐบาลหนุนตั้งหมู่บ้านแดง ก็เท่ากับหนุนความแตกแยก ให้ประเทศไทยเกิดการแบ่งแยกแผ่นดินขึ้นมา"

ผศ.ทวีกล่าวว่า ถ้าการต่อต้านหมู่บ้านเสื้อแดงมากขึ้น จะเกิดความแตกแยก ตนยังเชื่อว่า พ.ต.ท.ทักษิณต้องการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ บางคนอาจดีใจที่ความรุนแรงอย่างนี้เกิดขึ้น มันก็จะเข้าไปสู่เหตุการณ์เดิมๆ คือ ยุยงปลุกปั่น มีมือที่สามเข้ามาคอยยุแยง เพราะความรุนแรงจะนำมาสู่การเปลี่ยนแปลงได้อย่างง่ายดายมากกว่าค่อยเป็นค่อยไป ซึ่งน่ากลัว เพราะเป็นการเอาอีกฝ่ายหนึ่งมาเป็นเป้าล่อ แล้วเอาอีกฝ่ายมาปะทะ ซึ่งจะเป็นอย่างนี้ไปเรื่อยๆ ทำให้เห็นว่าคนที่ต่อต้านฝ่ายเสื้อแดงนั้นเป็นคนไม่ดี ป่าเถื่อน

อีกประเด็นที่มอง ภูเก็ตโมเดล กับ จะนะโมเดล ถ้าจะให้เกิดเป็นรูปธรรมที่ดีกว่านี้ ต้องสร้างเครือข่าย ลำพังกำลังของคนที่เป็นหย่อมหญ้าไม่พอ ต้องมีทั้งประเทศ ที่ต่อต้านหมู่บ้านเสื้อแดง ประกาศเลย แม้ยังไม่มาตั้งก็จะต้าน อย่างน้อยก็ต้านความคิดชั่วร้ายนี้ ต้องยกระดับให้เกิดขึ้นทั้งแผ่นดิน ต้านหมู่บ้านเสื้อแดงให้เป็นกิจลักษณะเอาจริงเอาจัง และต้องชี้หน้าด่ารัฐบาลว่าออกมาสนับสนุนเรื่องนี้ทำไม

**“ผบ.ทบ.”เตือนตั้งภาคใต้เพิ่มปัญหา

พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผู้บัญชาการทหารบก กล่าวว่า การตั้งหมู่บ้านแดงในภาคใต้เป็นสิ่งที่ต้องระมัดระวัง ไม่ว่าจะฝ่ายการเมืองหรือฝ่ายใดๆ ก็ตามที่ลงไปทำงาน เนื่องจากพื้นที่ดังกล่าวยังไม่สงบ และไม่สันติ หากไปเพิ่มปัญหาให้มากขึ้น จะทำให้เหตุการณ์รุนแรงขึ้นหรือไม่ ตนก็ไม่แน่ใจ จึงไม่ขอวิจารณ์ว่าเหมาะสมหรือไม่ อย่างไร เพราะคิดว่าฝ่ายผู้กระทำและคนที่อยู่ในพื้นที่ก็ทราบดีว่าอะไรเป็นอะไร ขอให้ช่วยกันป้องกันไม่ให้เกิดความรุนแรงขึ้น

ส่วนการขยายหมู่บ้านเสื้อแดงไปในจังหวัดอื่นๆ จะส่งผลกระทบต่อความมั่นคงหรือไม่นั้น ตนคิดว่ามีผลในเรื่องทางการเมืองมากกว่า ซึ่งทหารก็ได้ไปพบปะพุดคุยกับประชาชนก็ไม่ได้มีปัญหาอะไร แต่ขึ้นอยู่กับว่าจะถูกต้องหรือไม่ ซึ่งช่วงนี้ต้องระมัดระวัง เพราะเป็นช่วงการเปลี่ยนผ่านประชาธิปไตย ต้องให้เวลาในการแก้ไขปัญหาว่าประชาธิปไตยที่แท้จริง คือ อะไร และแค่ไหนอย่างไร ต้องเรียนรู้ และช่วงเวลาการเรียนรู้ต้องมีได้มีเสีย มีเจ็บปวด แต่ขอให้ทุกคนนึกถึงประเทศชาติบ้านเมืองให้มาก ทุกอย่างก็จะดีขึ้น

**ยงยุทธ” เมินคำท้วงติง “บิ๊กตู่”

นายยงยุทธ วิชัยดิษฐ รองนายกรัฐมนตรีและรมว.มหาดไทย ให้สัมภาษณ์กรณีที่พลเอกประยุทธ์ เตือนให้ระวังเรื่องการจัดตั้งหมู่บ้านเสื้อแดงที่อาจกลายเป็นปัญหา หลังล่าสุดมีการเผาหมู่บ้านเสื้อแดงที่ อ.จะนะ จ.สงขลา ว่า ผบ.ทบ.ไม่ได้วิจารณ์ หรือตั้งข้อสังเกตอะไร

ผู้สื่อข่าวถามว่า เรื่องนี้จะเหมาะสมหรือไม่ที่จะตั้งหมู่บ้านเสื้อแดง นายยงยุทธตอบว่า ขอเรียนว่าไม่เป็นไร ต้องดูเนื้อหาของหมู่บ้านว่ามีเนื้อหาเพื่ออะไร หากตั้งหมู่บ้านเพื่อต่อต้านรัฐ ก็ไม่ควรจัดตั้ง หากจัดตั้งเพื่อประชาธิปไตยก็ทำได้ แต่เรื่องนี้อย่าคิดกันไปเอง

เมื่อถามย้ำว่า เรื่องนี้จะทำให้ปัญหาซับซ้อนขึ้นหรือไม่ นายยงยุทธตอบว่า ไม่มี ไม่เป็นแบบนั้น และไม่ต้องทำความเข้าใจใดๆ เพราะต้องดูสาระการตั้งหมู่บ้านว่าเป็นเช่นใด หากตั้งขึ้นมาแบบสร้างสรรค์ก็ควรมาช่วยกัน ไม่มีปัญหา เพราะตนทราบว่ากิจกรรมการตั้งหมู่บ้านนี้ เพื่อปกป้องชาติ ศาสน์ กษัตริย์ รัฐธรรมนูญและประชาธิปไตย ตนไปดูในทุกหมู่บ้าน ก็เป็นแบบนี้แล้วมันจะมีปัญหาได้อย่างไร เพราะการตั้งหมู่บ้านขึ้นมาเพื่อความแข็งแกร่งของสถาบันและประเทศ รวมทั้งประชาชน ยืนยันเรื่องการตั้งหมู่บ้านคนเสื้อแดงไม่เกี่ยวกับรัฐ มันเป็นเรื่องของภาคประชาชนที่ดำเนินการเอง จะไปห้ามได้อย่างไร

**'ปัดรัฐอุดหนุนหมู่บ้านเสื้อแดง

ต่อข้อถามว่า จะมีการนำงบประมาณของภาครัฐไปช่วยเหลือหรือไม่ รมว.มหาดไทยกล่าวว่า ไม่มีหรอก หน่วยตรวจสอบมีตั้งเยอะ แม้ในอดีตก็มีการก่อตั้งมวลชนลักษณะนี้ เช่นกองทัพธรรมและสันติอโศก โดยมีการนำมาใช้ประโยชน์ทางการเมือง ตนก็ไม่ได้คิดแบบนั้น ตนคิดคนละอย่างกัน เพราะตนคิดเพื่อบ้านเมืองมากกว่า

**ปชป.ปัดไม่เกี่ยวเผาศาลาเสื้อแดง

นายชวนนท์ อินทรโกมาลย์สุต โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ แถลงถึงกรณีที่นางธิดา ถาวรเศรษฐ์ แกนนำนปช. ออกมาระบุถึงเหตุการณ์การเผาศาลา ในหมู่บ้านเสื้อแดง ที่อ.จะนะ จ.สงขลา โดยพยายามเชื่อมโยงว่าพรรคการเมืองบางพรรคอยู่เบื้องหลัง ว่า ขอปฏิเสธว่าพรรคประชาธิปัตย์ไม่มีส่วนรู้เห็นกับการเผาศาลาดังกล่าว เพราะไม่ถนัดที่จะใช้น้ำมันหรือไฟในการแก้ไขปัญหา ซึ่งนางธิดา จะต้องเข้าใจว่าทำไมถึงมีคนอีกกลุ่มที่พยายามจะต่อต้าน ไม่ใช่ท่านฝ่ายเดียวที่จะสามารถออกมากระทำการรุนแรง ใช้กำลังทำกับคนอื่นได้ ซึ่งเขาก็พร้อมที่จะออกมาต่อสู้ และปกป้องสิทธิ นี่คือ สิ่งที่จะเกิดขึ้นในภาคใต้ ยืนยันว่าพรรคประชาธิปัตย์ไม่ต้องการเห็นความรุนแรงและการใช้กำลังเกิดขึ้น ดังนั้น ขอให้หยุดพฤติกรรมในการสร้างความขัดแย้ง แตกแยกในแผ่นดิน และจะเป็นหนทางเดียวที่จะนำไปสู่ความปรองดองได้

**"เหลิม"บอก“ตั๊ก”โทรมาถ้ามีปัญหา

ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ในฐานที่ดูแลสำนักงานตำราจแห่งชาติ และกระทรวงยุติธรรม เห็นว่ากระบวนการยุติธรรมมีขั้นตอน ส่วนความรู้สึกของคนไปห้ามไม่ได้ ที่ล่าช้าก็บอกว่าไม่ยุติธรรม ซึ่งรัฐบาลจะเข้าไปแทรกแซงกระบวนการยุติธรรมไม่ได้ เพราะจะมีความผิด บอกได้เพียงว่าจะให้ความเป็นธรรม ดำเนินการตามขั้นตอนเท่านั้น เชื่อว่าสุดท้ายจะเข้าใจกันได้

“ผมขอฝากผ่านสื่อว่า น.ส.บงกช คงมาลัย หรือตั๊ก หากคิดว่าไม่ได้รับความปลอดภัย หรือกลัวว่าจะมีอันตรายจากกรณีที่มีกลุ่มคนเสื้อแดงที่พัทยาไปขับไล่ให้โทรมาหาผมได้ที่ เบอร์ 081-6121144 จะส่งตำรวจไปดูแลให้ อย่าไปวิจารณ์ว่าจะไม่ปลอดภัย เพราะจะทำมาหากินไม่ได้ เชื่อว่าความคิดเห็นที่ต่างจะไม่มีการพัฒนารุนแรงไปกว่าที่เคยเกิดขึ้นก่อนหน้านี้” ร.ต.อ.เฉลิม กล่าว

เมื่อถามว่า แสดงว่ากลุ่มต่างๆ สามารทำกิจกรรม หรือลงพื้นที่ได้โดยไม่ต้องห่วงว่าจะมีปัญหาเกิดขึ้นหรือไม่ ร.ต.อ.เฉลิม กล่าวว่า ไม่มี ถ้ามีให้บอกว่าจะส่งตำรวจไปดูแล ส่วนเหตุการณ์เผาศาลาเสื้อแดงที่อ.จะนะ จ.สงขลา ร.ต.อ.เฉลิม กล่าวว่า ศาลาที่ถูกเผาเป็นศาลาเก่า และสิ่งที่กระทำเป็นสัญลักษณ์ ลึกๆ จริงๆ ไม่มีอะไร หมู่บ้านเสื้อแดงมีที่ไหน เป็นแค่สัญลักษณ์ว่าเขารักคนเสื้อแดงก็สางดออกถือเป็นสิทธิ ไม่ผิดกฎหมาย

เมื่อถามว่ามีกระแสข่าวว่า พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง เลขาธิการศอ.บต เข้าร่วมกิจกรรมหมู่บ้านเสื้อแดง ร.ต.อ.เฉลิม กล่าวว่า ไม่ทราบ

**ซัดนักการเมือง'ส.'หยุดป่วนแดง

นายก่อแก้ว พิกุลทอง สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย ฐานะแกนนำกลุ่มคนเสื้อแดง กล่าวว่า ประเด็นเผาหมู่บ้านเสื้อแดงทราบเลาๆ ว่าเป็นพฤติกรรมของมวลชนในพื้นที่ ที่ต่อต้านการก่อตั้งหมู่บ้านเสื้อแดง ซึ่งมีนักการเมืองระดับชาติ ใน จ.สงขลา อยู่เบื้องหลัง อย่างไรก็ตาม ตนเชื่อว่าเหตุที่เกิดขึ้นนั้นเป็นเพราะบุคคลในพื้นที่ไม่อยากให้มีการต่อต้านยาเสพติดในพื้นที่และต่อต้านการรัฐประหาร ทั้งนี้ ตนขอเรียกร้องไปยังนักการเมืองใหญ่ของภาคใต้ อักษรย่อ "ส." ให้ยุติธรรมพฤติกรรมเหิมเกริมดังกล่าว เพราะคนเสื้อแดงไม่หวั่นไหวกับพฤติกรรมคุกคามหรือรังแกดังกล่าว

ผู้สื่อข่าวถามต่อประเด็นเหตุการณ์เผาศาลาว่ามีหลักฐาน หรือพยานรู้เห็นหรือไม่ว่าเป็นกลุ่มคนในพื้นที่ ซึ่งมีนักการเมืองสนับสนุนอยู่เบื้องหลัง นายก่อแก้ว กล่าวว่า ไม่มีหลักฐาน แต่เป็นการรับรู้กลายๆ ว่า น่าจะเป็นคนที่ต่อต้านการตั้งหมู่บ้านเสื้อแดง เพราะในช่วงที่มีการเปิดหมู่บ้านเสื้อแดงที่ อ.จะนะ จ.สงขลา เมื่อ 2 วันที่ผ่านมา มีกลุ่มต่อต้านประมาณ 100 คนมาเฝ้าสังเกตการณ์อยู่

“มีนักการเมืองระดับชาติสนับสนุนอยู่เบื้องหลังพฤติกรรมหรือไม่ เราไม่มีหลักฐาน และไม่มีใครรู้เห็น แต่ อ.จะนะ จ.สงขลา ถือเป็นพื้นที่ที่มีเหตุร้ายเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง ดังนั้น ช่วงเวลาเกิดเหตุ ซึ่งเป็นช่วงดึก คงไม่มีใครกล้าออกมาดู” นายก่อแก้ว กล่าว

เมื่อถามต่อในประเด็นที่พรรคประชาธิปัตย์ระบุว่าการจัดกิจกรรมของคนเสื้อแดง มีการนำงบประมาณของรัฐบาลไปจัดทำ นายก่อแก้ว กล่าวว่า ตนไม่ทราบในข้อมูลดังกล่าว หากพรรคประชาธิปัตย์มีข้อมูลขอให้นำมาดำเนินการตามกฎหมาย

**ชี้"ปชป."หาช่องฟ้องดีเอสไอได้

ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีที่พรรคประชาธิปัตย์ขู่จะดำเนินคดีกับกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ที่ไม่สั่งฟ้อง นายจตุพร พรหมพันธุ์ สส.บัญชีรายชื่อ แกนนำคนเสื้อแดง ว่า เป็นสิทธิที่จะทำได้ ถ้าดีเอสไอทำผิด แต่ถ้าเขามีดุลยพินิจไม่สั่งฟ้องก็ไม่ผิด จะไปว่าผิดถูก ก็คงยาก เพราะถ้ามีการใช้ดุลยพินิจพิจารณา บางคดีตำรวจสั่งฟ้อง แต่อัยการไม่ฟ้อง เรื่องนี้ไม่ใช่ว่านายธาริต เพ็งดิษฐ์ อธิบดีดีเอสไอจะเปลี่ยนสี เพราะบางครั้งมีการร้องมา แต่เมื่อสืบสวนไป พยานหลักฐานไม่มี และปรากฏว่าข้อเท็จจริงไม่ผิด ก็สั่งไม่ฟ้อง เป็นเรื่องธรรมดา ตนไม่สามารถไปทายจิตใจพรรคประชาธิปัตย์ได้ว่าคิดอะไรอยู่

นายก่อแก้ว พิกุลทอง แกนนำนปช. กล่าวว่า ตนขอเรียกร้องให้ นายสุเทพ เร่งเดินหน้าฟ้องร้องเอาผิดนายธาริต เพราะตนทราบว่านายธาริต มีข้อมูลว่านายสุเทพ ได้ออกคำสั่งต่างๆ ในช่วงปี 2552-2553 ในการปฏิบัติหน้าที่ช่วงที่มีการชุมนุมทางการเมือง จะทำให้นายธาริตแฉเรื่องดังกล่าวภายในศาล

“ผังล้มเจ้า เป็นผังลวงโลก ที่พยายามให้คนเสื้อแดงมีความผิด ทั้งที่ไม่ได้ขึ้นเวทีปราศรัยแต่อย่างใด ซึ่งผมมองว่าผังล้มเจ้าดังกล่าว เป็นในอนุญาตฆ่าประชาชน ยัดข้อหา ด่าและเผา” นายก่อแก้วกล่าว

ส่วนที่กลุ่มคนเสื้อแดง ออกมาเรียกร้องให้รัฐบาลเดินหน้าปล่อยตัวนักโทษคดีมาตรา 112 เห็นว่า เรื่องนี้มวลชนดังกล่าวควรไปเรียกร้องต่อศาล ต่อตุลาการ เพราะหากร้องมาที่รัฐบาล ในฐานะฝ่ายบริหาร หรือร้องฝ่ายนิติบัญญัติ คงไม่ได้เรื่อง เพราะไม่มีอำนาจในการแทรกแซงกระบวนการยุติธรรมได้

ด้านนายธาริต เพ็งดิษฐ์ อธิบดีดีเอสไอ กล่าวว่า ตนยังไม่มีโอกาสพูดคุยกับนายสุเทพ ซึ่งตนมีความเคารพ เพราะเป็นผู้ใหญ่เป็นผู้บริหารพรรค และเป็นอดีตผู้บังคับบัญชา จึงไม่ขอก้าวล่วงในความเห็น แต่ยืนยันว่าดีเอสไอทำงานในรูปคณะพนักงานสอบสวน และทำหน้าที่โดยสุจริต

ทั้งนี้ การสั่งคดีทั้งหมดเป็นไปตามพยานหลักฐาน ที่สำคัญสิ่งที่ดีเอสไอดำเนินการเป็นเพียงความเห็น แต่ผู้ออกคำสั่งแท้จริง คือ พนักงานอัยการ เช่น กรณีของนายจตุพร ส่วนกรณีที่ดีเอสไอเคยแถลงว่ากรณีดังกล่าวเข้าข่ายความผิดแน่นอนนั้น เป็นเพียงการเริ่มต้นการทำคดีที่มีมูลในการดำเนินคดี ส่วนผิด ถูก อยู่ที่หลังการสอบสวนเสร็จ

"คดีที่เกี่ยวกับความขัดแย้งทางการเมืองมีพนักงานอัยการร่วมสอบทุกคดี ที่สำคัญคดีเหล่านี้เกิดจากความขัดแย้งของคนในชาติ 2 กลุ่มใหญ่ ไม่ว่าสั่งคดีไปทางไหน ย่อมมีทั้งคนถูกใจและไม่ถูกใจแน่นอน"นายธาริตกล่าว
กำลังโหลดความคิดเห็น