รองนายกฯ ยินดีสมาชิกบ้านเลขที่ 111 กลับเข้าร่วมกิจกรรมการเมือง ยันวงใน พท.ไม่ขัดแย้ง
ย้ำไม่มีใครกดดัน “ยิ่งลักษณ์” ปรับ ครม.ได้ พร้อมป้อง “ธาริต” ไม่ได้เปลี่ยนสี แต่ใช้ดุลพินิจพิจารณา
ไม่ฟ้อง “ตู่” หมิ่นสถาบัน
วันนี้ (16 พ.ค.) ที่รัฐสภา ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีที่บ้านเลขที่ 111 จะกลับมาร่วมกิจกรรมทางการเมืองว่า ตนขอแสดงความยินดีที่ทั้งหมดกลับมาร่วมกิจกรรมทางการเมืองอีกครั้ง ซึ่งทุกคนก็เคยดำรงตำแหน่งต่างๆ ทางการเมืองมาแล้วทั้งสิ้น ทั้งนี้ มั่นใจว่าการกลับมาของบ้านเลขที่ 111 ในครั้งนี้จะไม่ก่อให้เกิดความขัดแย้งในพรรคเพื่อไทย เพราะพรรคเพื่อไทยเป็นพรรคที่ “ทักษิณคิด เพื่อไทยทำ ยิ่งลักษณ์เป็นนายกฯ” ซึ่งตนมีเพื่อนเป็น ส.ส.มากที่สุดจึงรู้ดีว่า ส.ส.เหล่านั้นคิดอย่างไร
เมื่อถามว่ากระแสข่าวการกดดันให้มีการปรับ ครม.หลังจากที่บ้านเลขที่ 111 กลับมาร่วมกิจกรรมทางการเมืองนั้น ร. ต.อ.เฉลิมกล่าวว่า ไม่มี สื่อเขียนกันไปเองและยืนยันว่า น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกฯ เป็นตัวของตัวเอง ไม่มีใครสามารถไปกดดันได้ นอกจากนี้ยังเชื่อว่าบ้านเลขที่ 111 ก็คงจะไม่ทำเช่นนั้น
เมื่อถามถึงการปรับโครงสร้างพรรคเพื่อไทยซึ่งมีการปรับเปลี่ยนจากระบบภาคมาเป็นการแบ่งโซน 19 โซนนั้น จะทำให้ภายในพรรคเกิดความแตกแยกหรือไม่ ร.ต.อ.เฉลิมกล่าวยืนยันว่าเรื่องดังกล่าวจะไม่ทำให้เกิดความแตกแยกภายในพรรคเพราะพรรคเพื่อไทยมีกลุ่มเดียว ในส่วนของตนนั้นหากพรรคมอบหมายให้ไปดูแลในส่วนใดก็จะตั้งใจทำอย่างเต็มที่
ส่วนกรณีที่นายสุเทพ เทือกสุบรรณ ส.ส.สุราษฎร์ธานี พรรคประชาธิปัตย์ ออกมาระบุว่าจะมีการฟ้องดำเนินคดีกับกรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือดีเอสไอ เนื่องจากไม่สั่งฟ้องในกรณีที่นายจตุพร พรหมพันธุ์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย ซึ่งได้ขึ้นเวทีปราศรัยในลักษณะจาบจวงหมิ่นสถาบันนั้น ร.ต.อ.เฉลิมกล่าวว่า ก็ถือเป็นสิทธิที่นายสุเทพกระทำได้ ทั้งนี้ตนเห็นว่าการที่ดีเอสไอสั่งไม่ฟ้องก็เท่ากับไม่มีความผิด
เมื่อถามถึงกรณีที่มีกระแสวิจารณ์ว่านายธาริต เพ็งดิษฐ์ อธิบดีดีเอสไอ เป็นนายธาริตเปลี่ยนสี ร.ต.อ.เฉลิม กล่าวว่า เรื่องดังกล่าวไม่ใช่เรื่องของการเปลี่ยนสีแต่เป็นเรื่องที่ทางดีเอสไอใช้ดุลพินิจพิจารณาแล้วว่าการปราศรัยของนายจตุพร ไม่เข้าข่ายหมิ่นสถาบัน อีกทั้งยังไม่มีพยานหลักฐานที่ชัดเจน ดังนั้น เมื่อได้ข้อยุติในเรื่องนี้แล้วทางดีเอสไอจึงไม่สั่งฟ้อง
ถามต่อว่า การกระทำเช่นนี้ถือว่าพรรคประชาธิปัตย์ตีรวนหรือไม่ ร.ต.อ.เฉลิมกล่าวว่า ตนไม่สามารถไปทายจิตใจใครได้ แต่ก็เหมือนในเรื่องของผังล้มเจ้าซึ่งตนเคยบอกมาตั้งแต่ต้นอยู่แล้วว่าเรื่องดังกล่าวไม่เป็นความจริง
ผู้สื่อข่าวถามถึงกรณีที่นายก่อแก้ว พิกุลทอง ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย มีการกล่าวเชิญชวนประชาชนคนเสื้อแดง หากเห็นว่ากรณีการสั่งฆ่าประชาชนยังไม่มีความคืบหน้าให้มาร่วมกันชุมนุมเพื่อกดดันให้รัฐบาลเร่งรัดในเรื่องดังกล่าว ร.ต.อ.เฉลิมกล่าวว่า ยืนยันว่ากระบวนการต่างๆ มีขั้นตอนซึ่งต้องเป็นไปตามหลักกฎหมายรัฐบาลไม่สามารถไปแทรกแซงกระบวนการยุติธรรมได้ ไม่เช่นนั้นก็จะผิดบทบัญญัติรัฐธรรมนูญ เช่นเดียวกับกรณีของ น.ส.บงกช คงมาลัย หรือตั๊ก ดารานักแสดง หากเห็นว่าไม่ปลอดภัยสามารถโทร.หาตนได้ทันที
ส่วนกรณีที่เมื่อวานนี้ (15 พ.ค.) ได้มีบุคคลไปเผาศาลาประจำหมู่บ้านเสื้อแดงที่อำเภอจะนะ จังหวัดสงขลา นั้น เรื่องของการเคลื่อนไหวของกลุ่มคนเสื้อแดงตนไม่ได้ร่วมกระบวนการมาตั้งแต่ต้น แต่เชื่อว่าเรื่องที่เกิดขึ้นจะไม่ส่งผลกระทบให้เกิดความรุนแรงมากขึ้น แต่หากมีตนก็จะส่งเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าไปดูแลความสงบเรียบร้อย
เมื่อถามว่า จำเป็นต้องมีการทบทวนกิจกรรมการเปิดหมู่บ้านเสื้อแดงหรือไม่ ร.ต.อ.เฉลิมกล่าวว่า ไม่ต้องเพราะตนเคยพูดมาตั้งแต่ต้นแล้วว่าไม่มีหมู่บ้านเสื้อแดง แต่การเคลื่อนไหวที่เกิดขึ้นเป็นเพียงสัญลักษณ์ของกลุ่มคนที่เห็นด้วยกับแนวทางของกลุ่มเสื้อแดง จึงได้มีการแสดงออกซึ่งก็ถือเป็นสิทธิที่สามารถแสดงออกได้
ร.ต.อ.เฉลิมยังกล่าวถึงกระแสวิพากษณ์วิจารณ์ถึงความไม่เหมาะสมหลังจากที่ พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง เลขาฯ
ศอ.บต. ไปร่วมกิจกรรมเปิดหมู่บ้านเสื้อแดงว่า ตนไม่ทราบ