ยุวชนประชาธิปัตย์นำ"ผีอีแพง"บุกสภาฯ ประจานของแพงจริงไม่ได้หลอก 18 พ.ค.นี้ เตรียมเปิดปั๊มก๊าซแอลพีจี ตัดราคารัฐบาล ขายแค่ลิตรละ11.35 บาท ย้ำต้นตอปัญหาอยู่ที่นโยบายพลังงานผิดพลาดและการขึ้นค่าแรง 300 บาท ด้านรมช.คลัง ยันราคาพลังงานที่เพิ่มขึ้น มีผลต่อราคาสินค้าไม่มาก
เมื่อวานนี้ ที่รัฐสภา (16 พ.ค.) นายณัฏฐ์ บรรทัดฐาน ส.ส.กทม.พรรคประชาธิปัตย์ ได้นำกลุ่มนิสิตนักศึกษาจากมหาวิทยาลัยต่างๆ ทั่วประเทศ ภายใต้ชื่อกลุ่ม“ยุวชนพรรคประชาธิปัตย์”แถลงข่าวโครงการ "ไม่ได้คิดไปเอง แพงจริงทั้งแผ่นดิน" ในวันที่ 18 พ.ค.นี้ ที่สถานีบริการก๊าซแอลพีจี ปากซอยสาธุประดิษฐ์ 44 โดยมีนายกรณ์ จาติกวณิช อดีตรมว.คลัง เป็นประธานในพิธีเปิด
นายวิทวัศ ชูบัว ตัวแทนกลุ่มยุวชนพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า ในวันดังกล่าว จะมีการเปิดจำหน่ายก๊าซแอลพีจี ในราคาถูก สมัยรัฐบาลนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ในราคา11.35 บาท จำนวน 10,000 ลิตร แตกต่างจากราคาปัจจุบันที่อยู่ที่ 12.99 บาทต่อลิตร หากประชาชนมาเติมก๊าซ 200 บาท จะได้ก๊าซแอลพีจี 18 ลิตร ขณะที่หากเติมในราคาปัจจุบัน จะได้เพียง 16 ลิตร ซึ่งคิดเป็นส่วนต่างประมาณ 39 บาท
ทั้งนี้ ประชาชนสามารถเติมก๊าซได้ไม่จำกัดจำนวน หากก๊าซหมดก็จะยุติกิจกรรม สำหรับเงินส่วนต่างนั้นทางกลุ่ม “ยุวชนพรรคประชาธิปัตย์” จะมีการจำหน่ายเสื้อยืดโครงการในราคา 250 บาท เพื่อนำเงินไปอุดหนุนการขายก๊าซในราคาข้างต้น
" การจัดโครงการดังกล่าว เพื่อเรียกร้องให้รัฐบาลตระหนัก และเห็นความสำคัญ และผลกระทบจากการขึ้นราคาก๊าซในอนาคต ทั้งที่รัฐบาลสามารถลดราคาให้ถูกกว่านี้ได้ เพราะหากไม่ดำเนินการ จะส่งผลกระทบให้ประชาชน ต้องแบกรับภาระที่เพิ่มขึ้น" นายวิทวัส กล่าว
นอกจากนี้กลุ่มยุวชนพรรคประชาธิปัตย์ ยังได้ลงพื้นที่สอบถามความคิดเห็นจากประชาชนจำนวน 10 จังหวัด อาทิ จังหวัดสุรินทร์ ปทุมธานี สงขลา พบว่าปัญหาราคาสินค้ามีการปรับตัวขึ้นสูง
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ช่วงท้ายการแถลงข่าว กลุ่มยุวชนพรรคประชาธิปัตย์ ได้นำตัวละคร “อีแพง” จากละคร เรื่องบ่วง มาแสดงละครสั้น ประกอบการแถลงข่าวเรื่องของแพงด้วย
**"บุญทรง"แก้ของแพงไม่ถูกจุด
ด้านนายชวนนท์ อินทรโกมาลย์สุต โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ แถลงถึงกรณีนายบุญทรง เตริยาภิรมย์ รมว.พาณิชย์ เรียกผู้ประกอบการเข้าพบ เพื่อขอให้ตรึงราคาสินค้ากว่า 200 รายการไปอีก 4 เดือน ว่า ตนอยากถามว่าการขอให้ตรึงราคาสินค้า 4 เดือน และหลังจากนั้นก็จะพิจารณาตามราคาพลังงาน ทั้งๆที่รัฐบาลประกาศตรึงราคาพลังงานเพียงแค่ 3 เดือน ซึ่งหมายความว่า เมื่อครบระยะเวลาตรึงราคาสินค้า 4 เดือน ราคาพลังงาน จะขึ้นไปดักหน้าราคาสินค้า การทำเช่นนี้ถือเป็นการทำงานในลักษณะขายผ้าเอาหน้ารอดไปวันๆ และอยากถามว่า เมื่อครบ 4 เดือนรัฐบาลจะมีมาตรการแก้ไขปัญหาราคาสินค้าอย่างไร
นายชวนนท์ ยังกล่าวถึงการที่รัฐบาลอนุมัติให้รถมินิบัส บขส. ขึ้นราคาค่าโดยสาร เมื่อวันที่ 15 พ.ค. ขณะที่วันที่ 16 พ.ค. กลับมีนโยบายตรึงราคา แอลพีจี ออกไปอีก 3 เดือน ทำให้เห็นว่าราคาสินค้าปลายทางสูงขึ้นแต่ต้นทุนกลับถูกลง อย่างนี้ใครได้ประโยชน์ เป็นรัฐบาลของประชาชน หรือรัฐบาลของนายทุนกันแน่
ส่วนกรณี นายยรรยง พวงราช ปลัดกระทรวงพาณิชย์ ออกมาระบุว่า การขึ้นค่าแรง 300 บาท กระทบต่อต้นทุนราคาสินค้าเพียง 0.25 เปอร์เซ็นต์ อยากถามว่าเป็นสินค้าอะไร ซึ่งวันนี้ มีผู้ถูกเลิกจ้าง จากนโยบายค่าแรง 300 บาท เมื่อเทียบกับเดือนก.พ. 54 จำนวน 40 คน แต่ในเดือนก.พ.55 มีแรงงานถูกแรงจ้างถึง 7,903 คน หากคิดเป็นเปอร์เซ็นต์สูงถึง 19,600 เปอร์เซ็นต์
ส่วนจำนวนผู้ประกันตนที่ถูกเลิกจ้างปี 55 มีจำนวน 1.59 หมื่นคน เพิ่มขึ้น 206 เปอร์เซ็นต์ ส่วนผู้ประกันตนที่ได้รับการชดเชยกรณีว่างงานปี 55 จำนวน 1.13 แสนคน เพิ่ม 38.63 เปอร์เซ็นต์ ข้อมูลเหล่านี้นำมาจากสำนักงานเศรษฐกิจการแรงงาน กระทรวงแรงงาน นี่ถือเป็นสัญญาณอันตรายรัฐบาลชุดนี้ และอยากให้นายยรรยง ออกมาอธิบายให้ประชาชนได้รับทราบด้วย
**"กรณ์"อัดรัฐบาลใช้วิธีขู่ ไม่ได้ผล
นายกรณ์ จาติกวณิช อดีตรมว.คลัง ได้โพสต์ข้อความบนเฟซบุ๊ก Korn Chatikavanij ระบุว่า ผมเห็นมาตรการควบคุมราคาสินค้าของรัฐบาลแล้ว อยากย้ำในข้อคิดที่ได้เขียนไว้อีกครั้งหนึ่งครับ
การที่รัฐบาลส่งสัญญาณ "ขู่ผู้ประกอบการ" ไม่ให้ขึ้นราคาเอาเปรียบประชาชน ผมไม่ว่า แต่รัฐบาลต้องยอมรับด้วยว่า ต้นทุนผู้ประกอบการสูงขึ้นจริง และบางส่วนสูงขึ้นเพราะนโยบายรัฐบาลโดยตรง อย่างเช่น นโยบายค่าแรง 300 บาท ผู้ใช้แรงงานได้ประโยชน์ แต่รัฐบาลพูดว่าจะมีมาตรการช่วยลดต้นทุนให้ผู้ประกอบการ แต่เท่าที่เห็นก็คือ การลดภาษีนิติบุคคลจาก 30 % เหลือ 23 % ซึ่งมีผลจริงก็เพียงกับบริษัทใหญ่ๆ ทั้งๆที่บริษัทเหล่านี้ เดิมมีลูกจ้างที่มีรายได้น้อยกว่า 300 บาทต่อวัน อยู่ไม่กี่คน
ส่วนนโยบายที่จะช่วยลดต้นทุนให้ SME แทบไม่ปรากฏ ดังนั้นรัฐบาลต้องเข้าใจว่า เมื่อต้นทุนเพิ่มขึ้น ราคาสินค้าที่ผลิตออกมา ก็ต้องเพิ่มขึ้นด้วย ลองคำนวนดูง่ายๆ สิครับ SME ทั่วไปมีค่าแรงเป็นต้นทุนอยู่ประมาณ 25 % เมื่อค่าแรงเพิ่มขึ้น 40 % ก็เท่ากับต้นทุนรวมเพิ่มขึ้น 10 %
คราวนี้ลองสมมุติว่า เขามีส่วนต่างกำไร (gross profit margin) อยู่ 15 % ตอนนี้กำไรเขาก็เหลือเพียง 5 % ถ้าส่วนต่างกำไรเขาเดิมอยู่ที่ 10 % ก็หมายความว่า กำไรตอนนี้หายหมด ไม่ต้องลดภาษีให้ก็ได้ครับ เพราะลดเหลือเท่าไร ก็ไม่มีกำไรไปจ่ายอยู่ดี มาตรการที่รัฐบาลเคยพูดไว้ต้องรีบเอาออกมา และถึงเวลานั้นต้องกำกับไม่ให้มีการเพิ่มราคาสินค้าอย่างไม่เป็นธรรม แต่ถ้าจะอาศัยเพียงการใช้อำนาจไปข่มขู่เขา นอกจากไม่ได้ผลแล้ว มีแต่ระบอบเผด็จการครับ ที่เขาทำกันอย่างนั้น
** "ทนุศักดิ์"ยันราคาพลังงานไม่มีผล
เมื่อวานนี้ มีการประชุมคณะกรรมการการพัฒนาเศรษฐกิจ สภาผู้แทนราษฎร ที่มี นายชนินทร์ รุ่งแสง เป็นประธานการประชุม โดยได้เชิญหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งกระทรวงพลังงาน กระทรวงพาณิชย์ กระทรวงการคลัง เข้าชี้แจงแนวทางควบคุม และแก้ไขปัญหาสินค้าราคาแพงโดยนายทนุศักดิ์ เล็กอุทัย รมช.คลัง ยอมรับว่าปัญหาสินค้าราคาแพงในพื้นที่กรุงเทพฯ เป็นผลจากระบบการบริหารจัดการเรื่องต้นทาง ปลายทาง ไม่ดี เกิดการบวกกันหลายทอด
ส่วนราคาชุดนักเรียน ปรับตัวสูงขึ้นไม่น่าจะเป็นผลกระทบจากการปรับขึ้นราคาเชื้อเพลิงบางชนิด เพราะผลิตในพื้นที่ที่ไม่มีการปรับขึ้นค่าแรง ทั้งนี้จะหาวิธีทำให้ราคาสินค้าต้นทางและปลายทาง มีความสมดุลกัน พร้อมกันนี้เชื่อว่ามาตรการต่างๆของรัฐบาล จะสามารถช่วยสร้างวินัย และความมั่นคงของประชาชนได้ เช่นเดียวกับตัวแทนกรมการค้าภายใน กระทรวงพาณิชย์ ที่เห็นว่าการปรับขึ้นค่าแรง และเชื้อเพลิง ไม่ส่งผลกระทบต่อราคาสินค้ามากนัก ซึ่งกระทรวงพาณิชย์ได้มีมาตรการช่วยเหลือประชาชนในระยะสั้น โดยขอความร่วมมือให้ผู้ประกอบการสินค้าใน 7 หมวด สินค้า 140 รายการ ตรึงราคาขายเดิมออกไปอีก 4 เดือน เพราะพบว่า ผู้ประกอบการสามารถบริหารจัดการให้ขายสินค้าในราคาเดิมได้ ขณะที่ผู้ประกอบการเอง ก็กลัวว่าการปรับขึ้นราคาสินค้า จะทำให้สูญเสียส่วนแบ่งการตลาด
ส่วนในระยะยาวจะปล่อยให้ราคาเป็นไปตามกลไกตลาด ให้การทำงานเป็นไปอย่างเข้มแข็ง พร้อมกันนี้ก็จะจัดโครงการสินค้าราคาถูกเพื่อช่วยเลือ ลดภาระค่าครองชีพประชาชนอย่างต่อเนื่อง
ด้านกรรมาธิการฯ มีความเป็นห่วงเรื่องการปรับขึ้นค่าแรง การขึ้นราคาเชื้อเพลิง จะส่งกระทบต่อราคาขึ้นราคาสินค้าหลายตัว รวมถึงชุดนักเรียน เพราะในพื้นที่ 70 จังหวัด ที่ยังไม่มีการปรับขึ้นค่าแรง 300 บาท ก็ได้ปรับราคาขึ้น ร้อยละ 40 เท่ากันทุกพื้นที่ จึงอยากให้รัฐบาลเร่งหามาตรการช่วยเหลือประชาชน และผู้ประกอบการเอสเอมอี เป็นการเร่งด่วน และต่อเนื่อง
**ให้ประชาชนผ่อนผันจ่ายค่าไฟได้
นายพิพัฒน์ชัย ไพบูลย์ โฆษกกระทรวงมหาดไทย กล่าวว่า จากการที่นายผดุง ลิ้มเจริญรัตน์ เลขานุการ รมว.มหาดไทย เดินทางไปตรวจเยี่ยมการไฟฟ้านครหลวง (กฟน.) เมื่อ
วันที่ 15 พ.ค.ที่ผ่านมา เพื่อหารือเรื่องการผ่อนผันค่าไฟฟ้าในช่วงเดือนพ.ค.ให้กับประชาชน
เนื่องจากเป็นช่วงเปิดภาคเรียน จึงมีภาระค่าใช้จ่ายมาก กระทรวงมหาดไทยเข้าใจในปัญหานี้เป็นอย่างดี จึงขอแจ้งว่า ประชาชนที่มีความประสงค์ ขอผ่อนผันค่าไฟฟ้าในเดือนพ.ค.นี้ให้ไปขอรับแบบฟอร์ม ยื่นความจำนงได้ที่การไฟฟ้านครหลวง และการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค ตามท้องที่ที่อาศัยอยู่ ตั้งแต่วันนี้ เป็นต้นไป
**"โอ๊คชวนชิม"ทำร้าน"ชูจันทร์" แน่น
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลังจาก นายพานทองเแท้ ชินวัตร ได้โพสต์ข้อความผ่านทางเฟซบุ๊ก Oak Panthongtae Shinawatra โดยระบุข้อความว่า ของดีราคาถูกหน้าพรรคปชป. โดยได้แวะมาที่ร้านชูจันทร์ ซึ่งอยู่หน้าพรรคประธิปัตย์ เป็นร้านข้าวหมูแดง-หมูกรอบ พร้อมระบุว่า ผมลองทานแล้ว อร่อยมาก และราคาเพียง 30 บาท ที่น่าสนใจ และอาจเป็นประเด็นการเมืองเล็กน้อยคือ ร้านนี้อยู่หน้าพรรคประชาธิปัตย์ครับ ก็เหลือเชื่อนะครับ ของดีราคาถูก อยู่ใกล้ๆกลับไม่มีใครพูดถึง
ทั้งนี้ ตั้งแต่ช่วงเช้าวานนี้ ได้มีประชาชนที่ทราบข่าวเรื่องดังกล่าว ทยอยเดินทางมายังร้าน "ชูจันทร์" เพื่อซื้อข้าวหมูแดง และหมูกรอบอย่างต่อเนื่อง ส่วนนบริเวณด้านในซึ่งเป็นโต๊ะประมาณ 10 โต๊ะ ซึ่งอยู่ด้านนอกใต้ต้นไม้ ก็มีลูกค้านั่งอยู่เต็มทุกโต๊ะ ขณะที่ด้านในซึ่งเป็นห้องอาหารติดแอร์ ก็มีลูกค้านั่งรอเต็มทุกโต๊ะเช่นกัน นอกเหนือจากลูกค้าขาประจำแล้ว ก็มีลูกค้าที่รู้ข่าว ก็ได้เดินทางมาซื้อข้าวหมูกรอบและข้าวหมูแดงด้วย รวมถึงสื่อมวลชน ก็ได้เดินทางมาทำข่าวเช่นกัน ทำให้ร้านชูจันทร์ คึกคักเป็นพิเศษ
เมื่อวานนี้ ที่รัฐสภา (16 พ.ค.) นายณัฏฐ์ บรรทัดฐาน ส.ส.กทม.พรรคประชาธิปัตย์ ได้นำกลุ่มนิสิตนักศึกษาจากมหาวิทยาลัยต่างๆ ทั่วประเทศ ภายใต้ชื่อกลุ่ม“ยุวชนพรรคประชาธิปัตย์”แถลงข่าวโครงการ "ไม่ได้คิดไปเอง แพงจริงทั้งแผ่นดิน" ในวันที่ 18 พ.ค.นี้ ที่สถานีบริการก๊าซแอลพีจี ปากซอยสาธุประดิษฐ์ 44 โดยมีนายกรณ์ จาติกวณิช อดีตรมว.คลัง เป็นประธานในพิธีเปิด
นายวิทวัศ ชูบัว ตัวแทนกลุ่มยุวชนพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า ในวันดังกล่าว จะมีการเปิดจำหน่ายก๊าซแอลพีจี ในราคาถูก สมัยรัฐบาลนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ในราคา11.35 บาท จำนวน 10,000 ลิตร แตกต่างจากราคาปัจจุบันที่อยู่ที่ 12.99 บาทต่อลิตร หากประชาชนมาเติมก๊าซ 200 บาท จะได้ก๊าซแอลพีจี 18 ลิตร ขณะที่หากเติมในราคาปัจจุบัน จะได้เพียง 16 ลิตร ซึ่งคิดเป็นส่วนต่างประมาณ 39 บาท
ทั้งนี้ ประชาชนสามารถเติมก๊าซได้ไม่จำกัดจำนวน หากก๊าซหมดก็จะยุติกิจกรรม สำหรับเงินส่วนต่างนั้นทางกลุ่ม “ยุวชนพรรคประชาธิปัตย์” จะมีการจำหน่ายเสื้อยืดโครงการในราคา 250 บาท เพื่อนำเงินไปอุดหนุนการขายก๊าซในราคาข้างต้น
" การจัดโครงการดังกล่าว เพื่อเรียกร้องให้รัฐบาลตระหนัก และเห็นความสำคัญ และผลกระทบจากการขึ้นราคาก๊าซในอนาคต ทั้งที่รัฐบาลสามารถลดราคาให้ถูกกว่านี้ได้ เพราะหากไม่ดำเนินการ จะส่งผลกระทบให้ประชาชน ต้องแบกรับภาระที่เพิ่มขึ้น" นายวิทวัส กล่าว
นอกจากนี้กลุ่มยุวชนพรรคประชาธิปัตย์ ยังได้ลงพื้นที่สอบถามความคิดเห็นจากประชาชนจำนวน 10 จังหวัด อาทิ จังหวัดสุรินทร์ ปทุมธานี สงขลา พบว่าปัญหาราคาสินค้ามีการปรับตัวขึ้นสูง
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ช่วงท้ายการแถลงข่าว กลุ่มยุวชนพรรคประชาธิปัตย์ ได้นำตัวละคร “อีแพง” จากละคร เรื่องบ่วง มาแสดงละครสั้น ประกอบการแถลงข่าวเรื่องของแพงด้วย
**"บุญทรง"แก้ของแพงไม่ถูกจุด
ด้านนายชวนนท์ อินทรโกมาลย์สุต โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ แถลงถึงกรณีนายบุญทรง เตริยาภิรมย์ รมว.พาณิชย์ เรียกผู้ประกอบการเข้าพบ เพื่อขอให้ตรึงราคาสินค้ากว่า 200 รายการไปอีก 4 เดือน ว่า ตนอยากถามว่าการขอให้ตรึงราคาสินค้า 4 เดือน และหลังจากนั้นก็จะพิจารณาตามราคาพลังงาน ทั้งๆที่รัฐบาลประกาศตรึงราคาพลังงานเพียงแค่ 3 เดือน ซึ่งหมายความว่า เมื่อครบระยะเวลาตรึงราคาสินค้า 4 เดือน ราคาพลังงาน จะขึ้นไปดักหน้าราคาสินค้า การทำเช่นนี้ถือเป็นการทำงานในลักษณะขายผ้าเอาหน้ารอดไปวันๆ และอยากถามว่า เมื่อครบ 4 เดือนรัฐบาลจะมีมาตรการแก้ไขปัญหาราคาสินค้าอย่างไร
นายชวนนท์ ยังกล่าวถึงการที่รัฐบาลอนุมัติให้รถมินิบัส บขส. ขึ้นราคาค่าโดยสาร เมื่อวันที่ 15 พ.ค. ขณะที่วันที่ 16 พ.ค. กลับมีนโยบายตรึงราคา แอลพีจี ออกไปอีก 3 เดือน ทำให้เห็นว่าราคาสินค้าปลายทางสูงขึ้นแต่ต้นทุนกลับถูกลง อย่างนี้ใครได้ประโยชน์ เป็นรัฐบาลของประชาชน หรือรัฐบาลของนายทุนกันแน่
ส่วนกรณี นายยรรยง พวงราช ปลัดกระทรวงพาณิชย์ ออกมาระบุว่า การขึ้นค่าแรง 300 บาท กระทบต่อต้นทุนราคาสินค้าเพียง 0.25 เปอร์เซ็นต์ อยากถามว่าเป็นสินค้าอะไร ซึ่งวันนี้ มีผู้ถูกเลิกจ้าง จากนโยบายค่าแรง 300 บาท เมื่อเทียบกับเดือนก.พ. 54 จำนวน 40 คน แต่ในเดือนก.พ.55 มีแรงงานถูกแรงจ้างถึง 7,903 คน หากคิดเป็นเปอร์เซ็นต์สูงถึง 19,600 เปอร์เซ็นต์
ส่วนจำนวนผู้ประกันตนที่ถูกเลิกจ้างปี 55 มีจำนวน 1.59 หมื่นคน เพิ่มขึ้น 206 เปอร์เซ็นต์ ส่วนผู้ประกันตนที่ได้รับการชดเชยกรณีว่างงานปี 55 จำนวน 1.13 แสนคน เพิ่ม 38.63 เปอร์เซ็นต์ ข้อมูลเหล่านี้นำมาจากสำนักงานเศรษฐกิจการแรงงาน กระทรวงแรงงาน นี่ถือเป็นสัญญาณอันตรายรัฐบาลชุดนี้ และอยากให้นายยรรยง ออกมาอธิบายให้ประชาชนได้รับทราบด้วย
**"กรณ์"อัดรัฐบาลใช้วิธีขู่ ไม่ได้ผล
นายกรณ์ จาติกวณิช อดีตรมว.คลัง ได้โพสต์ข้อความบนเฟซบุ๊ก Korn Chatikavanij ระบุว่า ผมเห็นมาตรการควบคุมราคาสินค้าของรัฐบาลแล้ว อยากย้ำในข้อคิดที่ได้เขียนไว้อีกครั้งหนึ่งครับ
การที่รัฐบาลส่งสัญญาณ "ขู่ผู้ประกอบการ" ไม่ให้ขึ้นราคาเอาเปรียบประชาชน ผมไม่ว่า แต่รัฐบาลต้องยอมรับด้วยว่า ต้นทุนผู้ประกอบการสูงขึ้นจริง และบางส่วนสูงขึ้นเพราะนโยบายรัฐบาลโดยตรง อย่างเช่น นโยบายค่าแรง 300 บาท ผู้ใช้แรงงานได้ประโยชน์ แต่รัฐบาลพูดว่าจะมีมาตรการช่วยลดต้นทุนให้ผู้ประกอบการ แต่เท่าที่เห็นก็คือ การลดภาษีนิติบุคคลจาก 30 % เหลือ 23 % ซึ่งมีผลจริงก็เพียงกับบริษัทใหญ่ๆ ทั้งๆที่บริษัทเหล่านี้ เดิมมีลูกจ้างที่มีรายได้น้อยกว่า 300 บาทต่อวัน อยู่ไม่กี่คน
ส่วนนโยบายที่จะช่วยลดต้นทุนให้ SME แทบไม่ปรากฏ ดังนั้นรัฐบาลต้องเข้าใจว่า เมื่อต้นทุนเพิ่มขึ้น ราคาสินค้าที่ผลิตออกมา ก็ต้องเพิ่มขึ้นด้วย ลองคำนวนดูง่ายๆ สิครับ SME ทั่วไปมีค่าแรงเป็นต้นทุนอยู่ประมาณ 25 % เมื่อค่าแรงเพิ่มขึ้น 40 % ก็เท่ากับต้นทุนรวมเพิ่มขึ้น 10 %
คราวนี้ลองสมมุติว่า เขามีส่วนต่างกำไร (gross profit margin) อยู่ 15 % ตอนนี้กำไรเขาก็เหลือเพียง 5 % ถ้าส่วนต่างกำไรเขาเดิมอยู่ที่ 10 % ก็หมายความว่า กำไรตอนนี้หายหมด ไม่ต้องลดภาษีให้ก็ได้ครับ เพราะลดเหลือเท่าไร ก็ไม่มีกำไรไปจ่ายอยู่ดี มาตรการที่รัฐบาลเคยพูดไว้ต้องรีบเอาออกมา และถึงเวลานั้นต้องกำกับไม่ให้มีการเพิ่มราคาสินค้าอย่างไม่เป็นธรรม แต่ถ้าจะอาศัยเพียงการใช้อำนาจไปข่มขู่เขา นอกจากไม่ได้ผลแล้ว มีแต่ระบอบเผด็จการครับ ที่เขาทำกันอย่างนั้น
** "ทนุศักดิ์"ยันราคาพลังงานไม่มีผล
เมื่อวานนี้ มีการประชุมคณะกรรมการการพัฒนาเศรษฐกิจ สภาผู้แทนราษฎร ที่มี นายชนินทร์ รุ่งแสง เป็นประธานการประชุม โดยได้เชิญหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งกระทรวงพลังงาน กระทรวงพาณิชย์ กระทรวงการคลัง เข้าชี้แจงแนวทางควบคุม และแก้ไขปัญหาสินค้าราคาแพงโดยนายทนุศักดิ์ เล็กอุทัย รมช.คลัง ยอมรับว่าปัญหาสินค้าราคาแพงในพื้นที่กรุงเทพฯ เป็นผลจากระบบการบริหารจัดการเรื่องต้นทาง ปลายทาง ไม่ดี เกิดการบวกกันหลายทอด
ส่วนราคาชุดนักเรียน ปรับตัวสูงขึ้นไม่น่าจะเป็นผลกระทบจากการปรับขึ้นราคาเชื้อเพลิงบางชนิด เพราะผลิตในพื้นที่ที่ไม่มีการปรับขึ้นค่าแรง ทั้งนี้จะหาวิธีทำให้ราคาสินค้าต้นทางและปลายทาง มีความสมดุลกัน พร้อมกันนี้เชื่อว่ามาตรการต่างๆของรัฐบาล จะสามารถช่วยสร้างวินัย และความมั่นคงของประชาชนได้ เช่นเดียวกับตัวแทนกรมการค้าภายใน กระทรวงพาณิชย์ ที่เห็นว่าการปรับขึ้นค่าแรง และเชื้อเพลิง ไม่ส่งผลกระทบต่อราคาสินค้ามากนัก ซึ่งกระทรวงพาณิชย์ได้มีมาตรการช่วยเหลือประชาชนในระยะสั้น โดยขอความร่วมมือให้ผู้ประกอบการสินค้าใน 7 หมวด สินค้า 140 รายการ ตรึงราคาขายเดิมออกไปอีก 4 เดือน เพราะพบว่า ผู้ประกอบการสามารถบริหารจัดการให้ขายสินค้าในราคาเดิมได้ ขณะที่ผู้ประกอบการเอง ก็กลัวว่าการปรับขึ้นราคาสินค้า จะทำให้สูญเสียส่วนแบ่งการตลาด
ส่วนในระยะยาวจะปล่อยให้ราคาเป็นไปตามกลไกตลาด ให้การทำงานเป็นไปอย่างเข้มแข็ง พร้อมกันนี้ก็จะจัดโครงการสินค้าราคาถูกเพื่อช่วยเลือ ลดภาระค่าครองชีพประชาชนอย่างต่อเนื่อง
ด้านกรรมาธิการฯ มีความเป็นห่วงเรื่องการปรับขึ้นค่าแรง การขึ้นราคาเชื้อเพลิง จะส่งกระทบต่อราคาขึ้นราคาสินค้าหลายตัว รวมถึงชุดนักเรียน เพราะในพื้นที่ 70 จังหวัด ที่ยังไม่มีการปรับขึ้นค่าแรง 300 บาท ก็ได้ปรับราคาขึ้น ร้อยละ 40 เท่ากันทุกพื้นที่ จึงอยากให้รัฐบาลเร่งหามาตรการช่วยเหลือประชาชน และผู้ประกอบการเอสเอมอี เป็นการเร่งด่วน และต่อเนื่อง
**ให้ประชาชนผ่อนผันจ่ายค่าไฟได้
นายพิพัฒน์ชัย ไพบูลย์ โฆษกกระทรวงมหาดไทย กล่าวว่า จากการที่นายผดุง ลิ้มเจริญรัตน์ เลขานุการ รมว.มหาดไทย เดินทางไปตรวจเยี่ยมการไฟฟ้านครหลวง (กฟน.) เมื่อ
วันที่ 15 พ.ค.ที่ผ่านมา เพื่อหารือเรื่องการผ่อนผันค่าไฟฟ้าในช่วงเดือนพ.ค.ให้กับประชาชน
เนื่องจากเป็นช่วงเปิดภาคเรียน จึงมีภาระค่าใช้จ่ายมาก กระทรวงมหาดไทยเข้าใจในปัญหานี้เป็นอย่างดี จึงขอแจ้งว่า ประชาชนที่มีความประสงค์ ขอผ่อนผันค่าไฟฟ้าในเดือนพ.ค.นี้ให้ไปขอรับแบบฟอร์ม ยื่นความจำนงได้ที่การไฟฟ้านครหลวง และการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค ตามท้องที่ที่อาศัยอยู่ ตั้งแต่วันนี้ เป็นต้นไป
**"โอ๊คชวนชิม"ทำร้าน"ชูจันทร์" แน่น
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลังจาก นายพานทองเแท้ ชินวัตร ได้โพสต์ข้อความผ่านทางเฟซบุ๊ก Oak Panthongtae Shinawatra โดยระบุข้อความว่า ของดีราคาถูกหน้าพรรคปชป. โดยได้แวะมาที่ร้านชูจันทร์ ซึ่งอยู่หน้าพรรคประธิปัตย์ เป็นร้านข้าวหมูแดง-หมูกรอบ พร้อมระบุว่า ผมลองทานแล้ว อร่อยมาก และราคาเพียง 30 บาท ที่น่าสนใจ และอาจเป็นประเด็นการเมืองเล็กน้อยคือ ร้านนี้อยู่หน้าพรรคประชาธิปัตย์ครับ ก็เหลือเชื่อนะครับ ของดีราคาถูก อยู่ใกล้ๆกลับไม่มีใครพูดถึง
ทั้งนี้ ตั้งแต่ช่วงเช้าวานนี้ ได้มีประชาชนที่ทราบข่าวเรื่องดังกล่าว ทยอยเดินทางมายังร้าน "ชูจันทร์" เพื่อซื้อข้าวหมูแดง และหมูกรอบอย่างต่อเนื่อง ส่วนนบริเวณด้านในซึ่งเป็นโต๊ะประมาณ 10 โต๊ะ ซึ่งอยู่ด้านนอกใต้ต้นไม้ ก็มีลูกค้านั่งอยู่เต็มทุกโต๊ะ ขณะที่ด้านในซึ่งเป็นห้องอาหารติดแอร์ ก็มีลูกค้านั่งรอเต็มทุกโต๊ะเช่นกัน นอกเหนือจากลูกค้าขาประจำแล้ว ก็มีลูกค้าที่รู้ข่าว ก็ได้เดินทางมาซื้อข้าวหมูกรอบและข้าวหมูแดงด้วย รวมถึงสื่อมวลชน ก็ได้เดินทางมาทำข่าวเช่นกัน ทำให้ร้านชูจันทร์ คึกคักเป็นพิเศษ