ASTVผู้จัดการรายวัน - “การุณ ใสงาม”ให้การปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา ด้านอธิบดีอัยการคดีอาญา ระบุชัดแค่รอตำรวจส่งสำนวนสอบสวนเพิ่มเติม ไม่ต้องส่งตัวจนกว่าจะนัดฟังคำสั่งคดี ขณะที่สำนวนพธม.บุกสนามบินยังต้องรอพิจารณา พร้อมสำนวนแจ้งข้อหาเพิ่ม 10 แนวร่วมพธม.
วานนี้(14 พ.ค.)ที่กองปราบปราม ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศบริเวณ หน้ากองปราบปรามภายหลังเจ้าหน้าที่ควบคุมตัวนายการุณ ใสงาม แกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยว่าพนักงานสอบสวนได้เริ่มสอบปากคำนายการุณ โดยนายการุณ มีท่าทีอิดโรยอย่างเห็นได้ชัด พร้อมทั้งปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา ทั้งนี้บริเวณหน้ากองปราบปราม มีประชาชนราว 30 คนใช้รถขยายเสียง 2 คันขึ้นปราศรัยให้กำลังใจนายการุณ พร้อมทั้งวิพากวิจารณ์การปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ตำรวจและโจมตีรัฐบาลอีกด้วย
ต่อมาเมื่อเวลา 14.00 น. พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง ที่ปรึกษา (สบ.10 )ในฐานะหัวหน้าพนักงานสอบสวนคดีกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ชุมนุมปิดสนามบินดอนเมืองและสุวรรณภูมิ กล่าวว่า ได้มาตรวจดูความเรียบร้อยของคดี ซึ่งตอนนี้พนักงานสอบสวนได้สอบปากคำนายการุณ ใสงาม และแจ้งข้อหาให้ทราบเรียบร้อยแล้ว หลังจากนั้นจะทำบันทึกการปล่อยตัวก่อนนำไปลงประจำวันแล้วปล่อยตัวไปตามคำสั่งของพนักงานอัยการ โดยไม่ต้องยื่นหลักทรัพย์ประกันตัว เนื่องจากนายการุณ ได้เข้ารับทราบข้อกล่าวหาก่อนหน้านี้แล้ว ซึ่งในกรณีนี้ทางอัยการได้แจ้งมายังพนักงานสอบสวนให้แจ้งข้อหาเพิ่มเติมแก่กลุ่มพันธมิตรฯเท่านั้น
"เจ้าหน้าที่ตำรวจทำตามคำสั่งอัยการไม่ใช่ไปสั่งแจ้งข้อหาเพิ่มเองโดยพละการซึ่งนายการุณ ก็น่าจะเข้าใจ ทั้งนี้เมื่อนายการุณ ออกมาจากรถ ทางเจ้าหน้าที่ก็ได้ประสานแพทย์ให้ทำการตรวจร่างกายว่าพร้อมจะให้ปากคำกับพนักงานสอบสวนหรือไม่ พอแพทย์ลงความเห็นว่านายการุณ จะต้องพักผ่อนอย่างน้อย 8 ชั่วโมงทางเราก็อนุญาตให้พักผ่อนจนสภาพสมบูรณ์ที่สุดก่อนนำมาสอบปากคำ และให้ความเป็นธรรมอยู่แล้ว"พล.ต.อ.สมยศ กล่าว
ผู้สื่อข่าวถามว่า จะมีการแจ้งข้อหาขัดขวางเจ้าพนักงานในขณะปฏิบัติหน้าที่หรือไม่ พล.ต.อ.สมยศ กล่าวว่า ทางพนักงานสอบสวนในคดีดังกล่าวไม่ได้แจ้งข้อหาใดๆเพิ่ม แต่ทราบมาว่า ที่ สภ.ประโคนชัย จ.บุรีรัมย์ มีการแจ้งความคดีดังกล่าวแก่นายการุณ ซึ่งแยกคนละส่วนกับคดีที่ตนรับผิดชอบอยู่ อย่างไรก็ตามในคดีชุมนุมที่สานมบินของกลุ่มพันธมิตรฯนั้นผู้ต้องหาที่ออกหมายเรียกให้มารับทราบข้อกล่าวหาเพิ่มเติม จำนวน 46 คน มารับทราบข้อกล่าวหาทั้งหมดแล้ว โดยนายการุณ เป็นรายสุดท้าย
ด้าน นายสมบูรณ์ ทองบุราณ อดีตสมาชิกวุฒิสภา กล่าวว่า เมื่อวานเจ้าหน้าที่ตำรวจตามจับกุมนายการุณ โดยที่ไม่ได้แจ้งข้อหา ซึ่งขณะนั้น นายการุณ ขออนุญาตเข้าบ้านไปอาบน้ำแต่เจ้าหน้าที่ก็ไม่ยอม นอกจากนี้น้องสาวนายการุณ มาขอรถกระบะที่ถูกยึดคืน แต่ถูกเจ้าหน้าที่ปฏิเสธ ซึ่งตนอยากถามกลับไปว่าตำรวจจะรับผิดชอบไหมกรณีที่รถยนต์เสียหาย ซึ่งทราบมาว่าระบบแก๊สเสีย กรณีเจ้าหน้าที่มูลนิธิเอากุญแจผีมาไขรถชาวบ้านผิดกฏหมายไหม และอยากถามกลับไปว่าตำรวจทำไมต้องไปรับใช้นักการเมือง
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายการุณ ใสงาม นั้น ได้ถูกพนักงานอัยการแจ้งข้อหาเพิ่มเติมในข้อหาทำลาย ทำให้เสียหายร้ายแรงต่อสิ่งอำนวยความสะดวกของท่าอากาศยานฯ พ.ร.บ.ความผิดบางประการต่อการเดินอากาศ พ.ศ.2521
วันเดียวกัน ร.ต.ต.พงษ์นิวัฒน์ ยุทธภัณฑ์บริภาร อธิบดีอัยการคดีอาญา กล่าวถึงขั้นตอนว่า หลังตำรวจกองปราบปรามจับกุมตัว นายการุณ ใสงาม ผู้ต้องหาตามหมายจับคดีปิดล้อมท่าอากาศยานดอนเมือง และท่าอากาศยานสุวรรณภูมิแล้ว ก็จะแจ้งข้อกล่าวหาและสอบคำให้การเพิ่มเติมตามที่อัยการให้ดำเนินการ จากนั้นทางพนักงานสอบสวนจะส่งสำนวนการสอบปากคำที่แจ้งข้อหาเพิ่มเติมมาให้ โดยไม่จำเป็นต้องนำตัวผู้ต้องหามาส่งอัยการ จนกว่าอัยการจะนัดฟังคำสั่งว่าจะฟ้องหรือไม่ ทั้งนี้หากอัยการพิจารณาสั่งฟ้อง จึงจะนัดตัวผู้ต้องหามาส่งฟ้องต่อศาลต่อไป
นอกจากนี้ สำนวนคดีของกลุ่มพันธมิตรฯ จำนวนทั้งหมด 114 ราย ที่อยู่ในชั้นอัยการนั้น ร.ต.ต.พงษ์นิวัฒน์ กล่าวว่า ยังไม่สามารถตอบได้ว่าจะนัดสั่งคดีเมื่อใด โดยสำนักงานอัยการได้ตั้งคณะกรรมการขึ้นมาพิจารณาสำนวนทั้งหมด และกำลังเร่งดำเนินการตรวจสอบสำนวน แต่สำนวนที่อัยการสั่งให้เจ้าหน้าที่ตำรวจแจ้งข้อหาเพิ่มเติมกับผู้ต้องหา 10 คนนั้น ยังส่งกลับมาไม่ครบ หากเจ้าหน้าที่ตำรวจส่งมาแล้วก็จะนำเข้าที่ประชุมคณะกรรมการเพื่อมีความเห็นในการสั่งคดีต่อไปโดยเร็ว
**แกนนำแดงได้ทีเย้ย"การุณ"**
นายวรชัย เหมะ ส.ส.สมุทรปราการ พรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณี นายการุณ ใสงาม แกนนำกลุ่มพันธมิตร ไม่ยอมลงจากรถยนต์มารับหมายศาลจากเจ้าหน้าที่ตำรวจ ในคดีปิดสนามบิน จนเจ้าหน้าที่ตำรวจต้องทำการขนย้าย นายการุณ ที่อยู่บนรถยนต์มาที่กองปราบปรามที่กรุงเทพฯ ว่า นายการุณ ถูกหมายจับ ในข้อหาผู้ก่อการร้าย จากกรณีการปิดสนามบิน จนถูกข้อหาผู้ก่อการร้ายสากล และตำรวจได้ตามจับมานาน แต่นายการุณ ทำตัวเหมือนอยู่เหนือกฏหมาย ไม่ยอมให้จับกุม มาดำเนินคดี ในขณะที่คนเสื้อแดง ถูกจับกุมคุมขัง แต่กลุ่มพันธมิตรทำตัวเหมือนใครทำอะไรไม่ได้ ตนขอสนับสนุนเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ทำงานอย่างถูกต้อง และอยากให้นายการุณ ยอมรับข้อหา และต่อไปทั้งกลุ่มพันธมิตร และกลุ่มคนเสื้อแดง จะต้องไม่มี 2 มาตรฐาน
วานนี้(14 พ.ค.)ที่กองปราบปราม ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศบริเวณ หน้ากองปราบปรามภายหลังเจ้าหน้าที่ควบคุมตัวนายการุณ ใสงาม แกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยว่าพนักงานสอบสวนได้เริ่มสอบปากคำนายการุณ โดยนายการุณ มีท่าทีอิดโรยอย่างเห็นได้ชัด พร้อมทั้งปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา ทั้งนี้บริเวณหน้ากองปราบปราม มีประชาชนราว 30 คนใช้รถขยายเสียง 2 คันขึ้นปราศรัยให้กำลังใจนายการุณ พร้อมทั้งวิพากวิจารณ์การปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ตำรวจและโจมตีรัฐบาลอีกด้วย
ต่อมาเมื่อเวลา 14.00 น. พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง ที่ปรึกษา (สบ.10 )ในฐานะหัวหน้าพนักงานสอบสวนคดีกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ชุมนุมปิดสนามบินดอนเมืองและสุวรรณภูมิ กล่าวว่า ได้มาตรวจดูความเรียบร้อยของคดี ซึ่งตอนนี้พนักงานสอบสวนได้สอบปากคำนายการุณ ใสงาม และแจ้งข้อหาให้ทราบเรียบร้อยแล้ว หลังจากนั้นจะทำบันทึกการปล่อยตัวก่อนนำไปลงประจำวันแล้วปล่อยตัวไปตามคำสั่งของพนักงานอัยการ โดยไม่ต้องยื่นหลักทรัพย์ประกันตัว เนื่องจากนายการุณ ได้เข้ารับทราบข้อกล่าวหาก่อนหน้านี้แล้ว ซึ่งในกรณีนี้ทางอัยการได้แจ้งมายังพนักงานสอบสวนให้แจ้งข้อหาเพิ่มเติมแก่กลุ่มพันธมิตรฯเท่านั้น
"เจ้าหน้าที่ตำรวจทำตามคำสั่งอัยการไม่ใช่ไปสั่งแจ้งข้อหาเพิ่มเองโดยพละการซึ่งนายการุณ ก็น่าจะเข้าใจ ทั้งนี้เมื่อนายการุณ ออกมาจากรถ ทางเจ้าหน้าที่ก็ได้ประสานแพทย์ให้ทำการตรวจร่างกายว่าพร้อมจะให้ปากคำกับพนักงานสอบสวนหรือไม่ พอแพทย์ลงความเห็นว่านายการุณ จะต้องพักผ่อนอย่างน้อย 8 ชั่วโมงทางเราก็อนุญาตให้พักผ่อนจนสภาพสมบูรณ์ที่สุดก่อนนำมาสอบปากคำ และให้ความเป็นธรรมอยู่แล้ว"พล.ต.อ.สมยศ กล่าว
ผู้สื่อข่าวถามว่า จะมีการแจ้งข้อหาขัดขวางเจ้าพนักงานในขณะปฏิบัติหน้าที่หรือไม่ พล.ต.อ.สมยศ กล่าวว่า ทางพนักงานสอบสวนในคดีดังกล่าวไม่ได้แจ้งข้อหาใดๆเพิ่ม แต่ทราบมาว่า ที่ สภ.ประโคนชัย จ.บุรีรัมย์ มีการแจ้งความคดีดังกล่าวแก่นายการุณ ซึ่งแยกคนละส่วนกับคดีที่ตนรับผิดชอบอยู่ อย่างไรก็ตามในคดีชุมนุมที่สานมบินของกลุ่มพันธมิตรฯนั้นผู้ต้องหาที่ออกหมายเรียกให้มารับทราบข้อกล่าวหาเพิ่มเติม จำนวน 46 คน มารับทราบข้อกล่าวหาทั้งหมดแล้ว โดยนายการุณ เป็นรายสุดท้าย
ด้าน นายสมบูรณ์ ทองบุราณ อดีตสมาชิกวุฒิสภา กล่าวว่า เมื่อวานเจ้าหน้าที่ตำรวจตามจับกุมนายการุณ โดยที่ไม่ได้แจ้งข้อหา ซึ่งขณะนั้น นายการุณ ขออนุญาตเข้าบ้านไปอาบน้ำแต่เจ้าหน้าที่ก็ไม่ยอม นอกจากนี้น้องสาวนายการุณ มาขอรถกระบะที่ถูกยึดคืน แต่ถูกเจ้าหน้าที่ปฏิเสธ ซึ่งตนอยากถามกลับไปว่าตำรวจจะรับผิดชอบไหมกรณีที่รถยนต์เสียหาย ซึ่งทราบมาว่าระบบแก๊สเสีย กรณีเจ้าหน้าที่มูลนิธิเอากุญแจผีมาไขรถชาวบ้านผิดกฏหมายไหม และอยากถามกลับไปว่าตำรวจทำไมต้องไปรับใช้นักการเมือง
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายการุณ ใสงาม นั้น ได้ถูกพนักงานอัยการแจ้งข้อหาเพิ่มเติมในข้อหาทำลาย ทำให้เสียหายร้ายแรงต่อสิ่งอำนวยความสะดวกของท่าอากาศยานฯ พ.ร.บ.ความผิดบางประการต่อการเดินอากาศ พ.ศ.2521
วันเดียวกัน ร.ต.ต.พงษ์นิวัฒน์ ยุทธภัณฑ์บริภาร อธิบดีอัยการคดีอาญา กล่าวถึงขั้นตอนว่า หลังตำรวจกองปราบปรามจับกุมตัว นายการุณ ใสงาม ผู้ต้องหาตามหมายจับคดีปิดล้อมท่าอากาศยานดอนเมือง และท่าอากาศยานสุวรรณภูมิแล้ว ก็จะแจ้งข้อกล่าวหาและสอบคำให้การเพิ่มเติมตามที่อัยการให้ดำเนินการ จากนั้นทางพนักงานสอบสวนจะส่งสำนวนการสอบปากคำที่แจ้งข้อหาเพิ่มเติมมาให้ โดยไม่จำเป็นต้องนำตัวผู้ต้องหามาส่งอัยการ จนกว่าอัยการจะนัดฟังคำสั่งว่าจะฟ้องหรือไม่ ทั้งนี้หากอัยการพิจารณาสั่งฟ้อง จึงจะนัดตัวผู้ต้องหามาส่งฟ้องต่อศาลต่อไป
นอกจากนี้ สำนวนคดีของกลุ่มพันธมิตรฯ จำนวนทั้งหมด 114 ราย ที่อยู่ในชั้นอัยการนั้น ร.ต.ต.พงษ์นิวัฒน์ กล่าวว่า ยังไม่สามารถตอบได้ว่าจะนัดสั่งคดีเมื่อใด โดยสำนักงานอัยการได้ตั้งคณะกรรมการขึ้นมาพิจารณาสำนวนทั้งหมด และกำลังเร่งดำเนินการตรวจสอบสำนวน แต่สำนวนที่อัยการสั่งให้เจ้าหน้าที่ตำรวจแจ้งข้อหาเพิ่มเติมกับผู้ต้องหา 10 คนนั้น ยังส่งกลับมาไม่ครบ หากเจ้าหน้าที่ตำรวจส่งมาแล้วก็จะนำเข้าที่ประชุมคณะกรรมการเพื่อมีความเห็นในการสั่งคดีต่อไปโดยเร็ว
**แกนนำแดงได้ทีเย้ย"การุณ"**
นายวรชัย เหมะ ส.ส.สมุทรปราการ พรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณี นายการุณ ใสงาม แกนนำกลุ่มพันธมิตร ไม่ยอมลงจากรถยนต์มารับหมายศาลจากเจ้าหน้าที่ตำรวจ ในคดีปิดสนามบิน จนเจ้าหน้าที่ตำรวจต้องทำการขนย้าย นายการุณ ที่อยู่บนรถยนต์มาที่กองปราบปรามที่กรุงเทพฯ ว่า นายการุณ ถูกหมายจับ ในข้อหาผู้ก่อการร้าย จากกรณีการปิดสนามบิน จนถูกข้อหาผู้ก่อการร้ายสากล และตำรวจได้ตามจับมานาน แต่นายการุณ ทำตัวเหมือนอยู่เหนือกฏหมาย ไม่ยอมให้จับกุม มาดำเนินคดี ในขณะที่คนเสื้อแดง ถูกจับกุมคุมขัง แต่กลุ่มพันธมิตรทำตัวเหมือนใครทำอะไรไม่ได้ ตนขอสนับสนุนเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ทำงานอย่างถูกต้อง และอยากให้นายการุณ ยอมรับข้อหา และต่อไปทั้งกลุ่มพันธมิตร และกลุ่มคนเสื้อแดง จะต้องไม่มี 2 มาตรฐาน