ASTVผู้จัดการรายวัน-ไทยนัดถก เวียดนาม กัมพูชา ปลายพ.ค.นี้ ร่วมมือค้าข้าว หวังดันราคาข้าวตลาดโลกให้สูงขึ้น คาดรอบนี้สำเร็จแน่ เตรียมเจรจาแบ่งตลาดขายข้าวให้ชัดเจน พร้อมอาสาเป็นพ่อค้าคนกลางทำตลาดข้าวให้กัมพูชา
นายมนัส สร้อยพลอย อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ เปิดเผยถึงความร่วมมือทางด้านการค้าข้าวร่วมกับประเทศสมาชิกอาเซียน เพื่อผลักดันราคาข้าวในตลาดโลก ว่า ในเดือนพ.ค.นี้ ไทยจะร่วมประชุมกับเวียดนามและกัมพูชา เพื่อหาทางเพิ่มความร่วมมือในการผลักดันราคาข้าวในตลาดโลก และป้องกันปัญหาการขายข้าวตัดราคากัน จนทำให้ราคาตกต่ำ ซึ่งไม่เป็นประโยชน์กับเกษตรกรของทั้ง 3 ประเทศ และมั่นใจว่าจะประสบผลสำเร็จ หลังจากที่ได้มีการพูดคุยกันไว้มาอย่างต่อเนื่อง
ทั้งนี้ แนวทางในการร่วมมือผลักดันราคาข้าว จะมีการทำตลาดข้าวร่วมกัน โดยในแต่ละปีจะรู้กันอยู่แล้วว่าไทยส่งออกข้าวได้ปีละเท่าใด เวียดนามเท่าใด ซึ่งเมื่อรวมกันก็จะมีปริมาณข้าวเท่านี้ ไม่เพิ่มขึ้น และในการทำตลาด ก็จะแยกกันให้ชัด หากเป็นข้าวคุณภาพสูง ไทยก็จะเข้าไปขาย หากเป็นข้าวคุณภาพต่ำลงมาหน่อย ให้เวียดนามขาย และหากซ้ำตลาดกัน ให้คุยกันก่อน ใครจะขาย เพื่อป้องกันปัญหาการขายตัดราคากันเอง
“แต่ละปี ไทยส่งออกข้าวประมาณ 9-10 ล้านตัน เวียดนาม 6-7 ล้านตัน รวมๆ แล้วข้าวก็มีอยู่เท่านี้ ไม่ต้องแย่งกันขาย แบ่งตลาดกันให้ชัด แค่นี้ก็ไม่ถูกผู้ซื้อหลอก บอกไทยขายราคานี้ แล้วไปบอกเวียดนามจะขายหรือไม่ขาย ถ้าอยากขายก็ต้องลดราคา แบบนี้มีแต่ทำให้ข้าวราคาตก ถ้าเราร่วมมือกัน ข้าวไม่มีทางตก มีแต่จะขึ้น และคิดว่าทำได้แน่เหมือนกับที่ไทยได้ร่วมมือขายยางกับอินโดนีเซีย และมาเลเซีย”นายมนัสกล่าว
สำหรับความร่วมมือกับกัมพูชา จะเป็นการเข้าไปช่วยกัมพูชาทำตลาดข้าวในตลาดโลก โดยไทยจะใช้วิธีรวบรวมข้าวของกัมพูชา แล้วนำไปทำตลาดส่งออกให้ ขณะนี้กำลังคิดวิธีการ โดยเบื้องต้นจะกำหนดเขตพิเศษตามแนวชายแดน แล้วให้โรงสี ผู้ส่งออก ไปทำ ซึ่งอาจจะให้นำเข้าข้าวเปลือกแล้วมาแปรสภาพบรรจุส่งออก หรือให้นำเข้ามาเฉพาะที่เป็นข้าวสาร แล้วมาบรรจุส่งออกแต่ไม่ว่าจะเป็นวิธีไหน จะต้องมีวิธีการควบคุมเพื่อไม่ให้ข้าวหลุดรอดเข้าสู่ตลาดภายในประเทศ หรือเข้าสู่โครงการรับจำนำ โดยจะมีการกำหนดหลักเกณฑ์ชัดเจน เช่น ต้องขึ้นทะเบียนกับกรมฯ ก่อน และต้องขออนุญาตนำเข้า เป็นต้น
นายมนัส สร้อยพลอย อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ เปิดเผยถึงความร่วมมือทางด้านการค้าข้าวร่วมกับประเทศสมาชิกอาเซียน เพื่อผลักดันราคาข้าวในตลาดโลก ว่า ในเดือนพ.ค.นี้ ไทยจะร่วมประชุมกับเวียดนามและกัมพูชา เพื่อหาทางเพิ่มความร่วมมือในการผลักดันราคาข้าวในตลาดโลก และป้องกันปัญหาการขายข้าวตัดราคากัน จนทำให้ราคาตกต่ำ ซึ่งไม่เป็นประโยชน์กับเกษตรกรของทั้ง 3 ประเทศ และมั่นใจว่าจะประสบผลสำเร็จ หลังจากที่ได้มีการพูดคุยกันไว้มาอย่างต่อเนื่อง
ทั้งนี้ แนวทางในการร่วมมือผลักดันราคาข้าว จะมีการทำตลาดข้าวร่วมกัน โดยในแต่ละปีจะรู้กันอยู่แล้วว่าไทยส่งออกข้าวได้ปีละเท่าใด เวียดนามเท่าใด ซึ่งเมื่อรวมกันก็จะมีปริมาณข้าวเท่านี้ ไม่เพิ่มขึ้น และในการทำตลาด ก็จะแยกกันให้ชัด หากเป็นข้าวคุณภาพสูง ไทยก็จะเข้าไปขาย หากเป็นข้าวคุณภาพต่ำลงมาหน่อย ให้เวียดนามขาย และหากซ้ำตลาดกัน ให้คุยกันก่อน ใครจะขาย เพื่อป้องกันปัญหาการขายตัดราคากันเอง
“แต่ละปี ไทยส่งออกข้าวประมาณ 9-10 ล้านตัน เวียดนาม 6-7 ล้านตัน รวมๆ แล้วข้าวก็มีอยู่เท่านี้ ไม่ต้องแย่งกันขาย แบ่งตลาดกันให้ชัด แค่นี้ก็ไม่ถูกผู้ซื้อหลอก บอกไทยขายราคานี้ แล้วไปบอกเวียดนามจะขายหรือไม่ขาย ถ้าอยากขายก็ต้องลดราคา แบบนี้มีแต่ทำให้ข้าวราคาตก ถ้าเราร่วมมือกัน ข้าวไม่มีทางตก มีแต่จะขึ้น และคิดว่าทำได้แน่เหมือนกับที่ไทยได้ร่วมมือขายยางกับอินโดนีเซีย และมาเลเซีย”นายมนัสกล่าว
สำหรับความร่วมมือกับกัมพูชา จะเป็นการเข้าไปช่วยกัมพูชาทำตลาดข้าวในตลาดโลก โดยไทยจะใช้วิธีรวบรวมข้าวของกัมพูชา แล้วนำไปทำตลาดส่งออกให้ ขณะนี้กำลังคิดวิธีการ โดยเบื้องต้นจะกำหนดเขตพิเศษตามแนวชายแดน แล้วให้โรงสี ผู้ส่งออก ไปทำ ซึ่งอาจจะให้นำเข้าข้าวเปลือกแล้วมาแปรสภาพบรรจุส่งออก หรือให้นำเข้ามาเฉพาะที่เป็นข้าวสาร แล้วมาบรรจุส่งออกแต่ไม่ว่าจะเป็นวิธีไหน จะต้องมีวิธีการควบคุมเพื่อไม่ให้ข้าวหลุดรอดเข้าสู่ตลาดภายในประเทศ หรือเข้าสู่โครงการรับจำนำ โดยจะมีการกำหนดหลักเกณฑ์ชัดเจน เช่น ต้องขึ้นทะเบียนกับกรมฯ ก่อน และต้องขออนุญาตนำเข้า เป็นต้น