xs
xsm
sm
md
lg

จุดพลุล้มม.112 แฉรัฐปล่อยแดงหากินศพ"อากง" "ตั๊ก"เดือดไล่ส่งไปเชียร์ต่อในนรก

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


ASTVผู้จัดการรายวัน-โฆษกพันธมิตรฯ เผย “สนธิ ลิ้มทองกุล” วิเคราะห์ รัฐบาล"ยิ่งลักษณ์-กรมราชทัณฑ์” รู้เห็นเป็นใจ ไม่ชี้แจงข้อเท็จจริงการตาย "อากง" หวังจุดกระแสให้เกิดการล้มล้าง ม.112 หรือไม่ ปชป.อัดดีไอเอส ไม่ฟ้อง "ตู่" หมิ่นสถานบัน เปรียบเหมือนลมเปลี่ยนทิศ "ธาริต" เปลี่ยนสี ฮือฮา ตั๊ก บงกช เฟซบุ๊กไล่ส่งคนเชียร์อากงตามไปเชียร์ต่อในนรก ย้อนแสบฉันรักครอบครัวพอของฉัน ทำไมหรือ?

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายปานเทพ พงษ์พัวพันธ์ โฆษกพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ได้โพตส์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว ระบุว่า “คุณสนธิ ลิ้มทองกุล วิเคราะห์กรณีการเสียชีวิตของ อากง SMS ว่า กรณีนี้ เป็นการเสียชีวิต เพราะป่วยเป็นโรคมะเร็ง ไม่ใช่เสียชีวิตโดยประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 แต่อธิบดีกรมราชทัณฑ์ก็เป็นของรัฐบาลชุดนี้ มีหน้าที่ดูแลนักโทษโดยตรง และรัฐบาลชุดนี้ ก็มาจากฐานคนเสื้อแดง แต่ทั้งอธิบดีกรมราชทัณฑ์และนายกรัฐมนตรี กลับไม่แสดงความเห็นในข้อเท็จจริงว่ามีการส่งตัวไปรักษาตัวเป็นอย่างดีที่โรงพยาบาลกลางแล้ว เหมือนเป็นการรู้เห็นเป็นใจหวังปล่อยให้เกิดการจุดกระแสให้เกิดการแก้ไขหรือล้มล้างประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 ใช่หรือไม่?

**“บิ๊กตู่”ซัดไม่เหมาะนำศพโยงสถาบัน

พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผู้บัญชาการทหารบก กล่าวถึงกรณีที่มีกลุ่มผู้ชุมนุมมีการนำประเด็นการเสียชีวิตนายอำพล ตั้งนพกุล หรืออากง ผู้ต้องหาคดีหมิ่นสถาบัน มาเป็นเงื่อนไขในการแก้ไขประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112ว่า เป็นเรื่องการเมือง กระบวนการยุติธรรม การดำเนินการอะไรก็ตาม คิดว่า เป็นหลักการทางกฎหมาย ซึ่งเป็นกฎหมายที่ใช้ทั่วไป ทุกคนรู้อยู่แล้วว่า ถ้าทำความผิดอะไร จะได้รับผลตอบแทนอย่างไร

ในส่วนของการรักษาพยาบาลเป็นกติกาของกรมราชทัณฑ์อยู่แล้ว คิดว่า ไม่ได้มีมาตรฐานใด แต่ต้องไปดูว่า อาการของอากงหนักอยู่หรือไม่ ซึ่งเป็นการตัดสินใจของคนที่เกี่ยวข้อง ตนคงไม่ก้าวล่วง ประเด็นสำคัญ คือ กองทัพเสียใจ ไม่ว่า ใครก็ตามที่เป็นคนไทย ขอให้ทุกคนสำนึกความเป็นคนไทยกันมากๆ ว่า ความเป็นคนไทยต้องเคารพกฎหมาย รักชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

เมื่อถามว่า มองว่า จะมีผลกระทบไปถึงสถาบันหรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า คนส่วนใหญ่ต้องแยกแยะออกว่า การที่นำมาเป็นประเด็น ไม่เป็นการสมควรที่จะพาดพิง ก้าวล่วง คิดว่า ไม่น่าจะใช่ประเด็น ต้องมองความเป็นจริงว่า คือ อะไร เขาถูกจับกุมเพราะอะไร คิดว่า สิ่งที่มีปัญหาเกิดขึ้น เพราะเขาไม่แข็งแรง เขามีโรคภัยไข้เจ็บที่มีอาการหนักอยู่แล้ว เป็นมะเร็งขั้นสุดท้าย ซึ่งเราต้องไปแก้ตรงนั้น เพื่อไม่ให้มีเหตุการณ์อย่างนี้ขึ้นมาอีก ทั้งนี้ อย่าเอาเราเข้าไปเกี่ยวข้อง ตนไม่อยากเปิดศึกอะไรกับใครทั้งสิ้น

**หวั่นศพ “อากง” ชนวนแก้ป.วิ.อาญา 112

นายแทนคุณ จิตอิสระ โฆษกประจำตัว นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า ทุกฝ่ายสะเทือนใจ แต่กลับมีการนำการเสียชีวิตของอากง มาใช้เพื่อให้เกิดการปลุกปั่นเกลียดชังให้เกิดความเข้าใจผิด ซึ่งอยากให้คนเสื้อแดงและประชาชน ตั้งคำถามกับรัฐบาลว่าการเสียชีวิต เกิดจากการปล่อยปะละเลยหรือไม่ หรือเกิดจากความ ละหลวมของเจ้าหน้าที่ โดยจะต้องมีการตรวจสอบ ไม่อยากให้เป็นน้ำผึ้งหยดเดียว หากมีการเคลื่อนไหว เรื่องนี้ควรให้อยู่ในความเหมาะสม อีกทั้งไม่ใช่พอมีใครเสียชีวิตและมาโทษ ป.วิ.อาญามาตรา 112

**อัดลมเปลี่ยนทิศ "ธาริต" เปลี่ยนสี
 

นายแทนคุณกล่าวอีกว่า มีความเป็นห่วง จะมีอำนาจเข้ามาแทรกแซง ซึ่งนายจตุพรได้พูดจริง กระทำความผิดชัดเจน โดยมีมูลเหตุจูงใจในการกระทำ การที่นายธาริต สั่งไม่ฟ้อง คงอาจจะใช้ถ้อยคำที่ว่า ลมเปลี่ยนทิศ ธาริต เปลี่ยนสี

**'ญาติ-เสื้อแดงเคลื่อนศพผ่านสภา-ทำเนียบ

ที่ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก กลุ่มญาติ และกลุ่มปฏิญญาหน้าศาล ซึ่งเป็นกลุ่มคนเสื้อแดงที่เรียกร้องปล่อยตัวนักโทษการเมือง ได้ทำการเคลื่อนย้ายโลงศพ อากง ออกจากบริเวณทางเท้าหน้าศาลอาญา ขึ้นรถยนต์ผ่านไปยังรัฐสภาและทำเนียบรัฐบาล ก่อนที่ไปยังวัดด่านสำโรง เพื่อตั้งบำเพ็ญกุศลตามศาสนา และยังได้ผ่านหน้าบ้านของนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะด้วย

ที่วัดด่านสำโรง ต.สำโรงเหนือ อ.เมือง จ.สมุทรปราการ กลุ่มญาติตั้งศพไว้ ณ ศาลามิตรอุดม-แพทย์ปรีชา โดยนางรสมาลิน ตั้งนพกุล ภรรยาของอากง กล่าวว่า จะทำการตั้งศพสวดพระอภิธรรมรวมทั้งหมด 7 คืน และจะทำการเก็บศพไว้ก่อนเนื่องจากมารดาของอากงเพิ่งเสียชีวิตไป ยังไม่ครบ 100 วัน เพราะตามประเพณีของชาวจีน จะยังไม่เผา โดย นปช. จะเป็นเจ้าภาพสวดพระอภิธรรมในคืนแรก

**ดีเอสไอสั่งไม่ฟ้อง"ตู่"ปราศรัยหมิ่น

นายธาริต เพ็งดิษฐ์ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) แถลงผลการสอบสวนคดีการกระทำความผิดความมั่นคงแห่งรัฐหรือความผิดตามมาตรา 112 ซึ่งเป็นคดีที่อยู่ในความรับผิดชอบของพนักงานสอบสวนคดีพิเศษ โดยมี 2 คดีสำคัญ คือ คดีนายจตุพร พรหมพันธุ์ กับพวกกล่าวปราศรัยเมื่อวันที่ 10 เม.ย.2553 ที่อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย ซึ่งข้อความที่กล่าวปราศรัยบนเวทีเป็นข้อความที่ไม่สมควรจะมากล่าวซ้ำ คดีนี้พนักงานสอบสวนดีเอสไอได้ประชุมร่วมกับพนักงานอัยการ และมีความเห็นร่วมกันสมควรสั่งไม่ฟ้องนายจตุพรกับพวก ด้วยเหตุผล คือ การสอบสวนพยานหลักฐานที่เกี่ยวข้องทั้งหมด รวมทั้งคำกล่าวในการปราศรัยไม่เข้าข่ายความผิดมาตรา 112 โดยขณะนี้ ดีเอสไอได้ส่งสำนวนให้อัยการแล้ว และอยู่ในดุลยพินิจของอัยการว่าจะพิจารณาอย่างไร ซึ่งคดีนี้ อัยการสามารถมีความเห็น 3 แนวทางคือ 1.สั่งไม่ฟ้องตามความเห็นของพนักงานสอบสวนของดีเอสไอ 2.สั่งฟ้อง และ3.สั่งให้มีการสอบสวนพยานเพิ่มเติม

สำหรับความคืบหน้าคดีผังล้มเจ้าหรือคดี 101 นายธาริต กล่าวว่า มีผู้ถูกกล่าวหาตามผังทั้งหมด 39 คน มีการแยกดำเนินคดีเฉพาะตัวบุคคล 23 ราย ซึ่งจำนวนนี้ พนักงานสอบสวนดีเอสไอได้ทำความเห็นมีทั้งสั่งฟ้องและสั่งไม่ฟ้อง และได้สรุปสำนวนส่งให้อัยการไปแล้ว และการสอบสวนคดีนี้ ดีเอสไอได้ขอให้เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องเป็นพยานเพื่ออธิบายถึงขั้นตอนการจัดทำผังและความเชื่อมโยงของบุคคลทั้งหมด แต่ปรากฏว่าไม่มีพยานยืนยันการกระทำความผิดชัดเจน พนักงานสอบสวนดีเอสไอและพนักงานอัยการที่ร่วมสอบคดีนี้ มีความเห็นร่วมกันให้งดการสอบสวน เนื่องจากขณะนี้ ยังไม่พบการกระทำความผิด จึงส่งเรื่องให้อัยการสูงสุดเห็นชอบต่อไป

เมื่อถามว่า การที่มีความเห็นสั่งไม่ฟ้องคดีนายจตุพรหมิ่นสถาบันแสดงว่าสามารถนำคำปราศรัยไปเผยแพร่ได้ใช่หรือไม่ นายธาริต กล่าวว่า ยังไม่ได้ เพราะต้องรอจนกว่าอัยการจะมีคำสั่งในคดีว่า จะสั่งฟ้องหรือไม่

**“มาร์ค”กังขาทำไมสั่งไม่ฟ้อง

นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า รู้สึกข้องใจในดุลพินิจ 2 ประการ คือ 1.เนื้อหาที่มีการปราศรัย มีความไม่เหมาะสม และมีเจตนาที่ค่อนข้างชัด 2.การแถลงข่าวในวันนี้สอดรับกับคำพูดของแกนนำเสื้อแดงก่อนหน้านี้ โดยกำลังตรวจสอบที่มาที่ไปของการสั่งไม่ฟ้อง ตนยืนยันว่าคนที่ใช้ดุลพินิจก็ต้องมีความรับผิดชอบทางกฎหมายด้วย ส่วนจะเป็นการแถลงเพื่อรองรับตำแหน่งให้นายจตุพรหรือไม่นั้น เป็นเรื่องที่ต้องติดตามต่อไป ยืนยันว่าเรื่องนี้เป็นที่น่ากังขา

เมื่อถามว่าอะไรทำให้นายธาริต เปลี่ยนดุลพินิจของตัวเอง เพราะอดีตเขาเคยพูดว่ากรณีดังกล่าวเข้าข่ายหมิ่นเบื้องสูง นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ต้องถามเจ้าตัว แต่คนใช้ดุลพินิจต้องรับผิดชอบ ส่วนดีเอสไอจะถูกแทรกแซงทางการเมืองหรือไม่ ตนเห็นว่าดีเอสไอก็มีแนวโน้มที่จะรองรับสิ่งที่แกนนำเสื้อแดงพูดตลอดเวลา ในที่สุดก็จะทำให้กระทบต่อหน่วยงาน อยากขอให้เจ้าหน้าที่ช่วยดำเนินการอย่างตรงไปตรงมา

เมื่อถามว่าขณะนี้ยังมีอีกหลายคดีที่ยังค้างอยู่ในการพิจารณาของดีเอสไอ เป็นห่วงหรือไม่ว่าจะเกิดปัญหาในลักษณะเดียวกัน นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ถ้าคำปราศรับแบบนี้ มีบรรทัดฐานว่าทำได้ เป็นห่วงว่ากฎหมายคงจะมีปัญหาแน่นอน

***"ตั๊ก"เฟซบุ๊กไล่ไปเชียร์ต่อในนรก

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในโลกออนไลน์ ได้มีการฟอร์เวิร์ดภาพที่เป็นข้อความการสนทนาบนเฟซบุ๊ก ซึ่งระบุว่าเป็นนักแสดงสาวชื่อดัง ตั๊ก บงกช คงมาลัย ที่ได้แสดงความเห็นเกี่ยวกับการเสียชีวิตของอากงในทำนองที่ไม่เห็นด้วยกับคนที่ออกมาเคลื่อนไหวและใช้ศพของชายชราคนนี้เป็นเครื่องมือ โดยมีใจความว่า

09.57 เวรกรรมของอากง
09.59 แต่อากงไม่อยู่ก็ดีนะคะ แผ่นดินจะได้ดีขึ้น ^-^
10.00 จริงๆ แผ่นดินก็ดีอยู่แล้ว จะได้ดียิ่นขึ้นเน้อออออ
17.08 ถึงฉันจะเปิดนม เปิดอะไร หรือมีชื่อเสียงไม่ดี หรืออะไรก็ตามที่คุณจะสันหามาด่า แต่ฉันก็ไม่โง่ แล้วทำไมคุณกล้าสู้เพื่ออากง แล้วเมื่อไหร่คุณจะตายค่ะ จะได้ไปช่วยอากงต่อในนรก เพราะอากงคุณตกนรกแน่ จากกรรมที่หมิ่นพ่อของฉัน
17.09 คุณรักอากง ฉันก็รักครอบครัวพ่อของฉัน ทำไมเหรอ

ทั้งนี้ หลังจากมีผู้นำภาพดังกล่าวไปโพสต์ผ่านเฟซบุ๊กในหลายๆ ส่วน ปรากฏว่าได้มีคนอื่นๆ เข้ามาพากันกด Like ให้เป็นจำนวนมาก

ล่าสุดผู้สื่อข่าวได้สอบถามไปยังนักแสดงสาว “ตั๊ก บงกช” ซึ่งเจ้าตัวยอมรับว่า ข้อความดังกล่าวเป็นของตนจริง และการที่โพสต์ข้อความเหล่านั้น ก็เป็นการแสดงถึงคนที่ตนรักและเคารพ ถูกดูหมิ่น แต่ตนไม่ขอแสดงความคิดเห็นในเรื่องอื่นๆ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการเคลื่อนไหวของเสื้อแดงหรืออะไรก็ตาม

ทั้งนี้ สำหรับภาพข้อความของนักแสดงสาวนั้น เป็นการตัดเนื้อหาบางส่วนมาจากการที่เจ้าตัวได้เข้าไปโพสต์โต้ตอบไว้ในเฟซบุ๊กของคนที่ใช้ชื่อว่า “สหายน้อย ชื่อที่คนทั้งซอยรุมรังแก” (https://www.facebook.com/photo.php?fbid=3073395525244) ซึ่งในหน้าเฟซบุ๊กดังกล่าวปรากฏว่าได้มีบางส่วนเข้ามาโพสต์ข้อความด่าเธออย่างหยาบคายหลายต่อหลายข้อความเลยทีเดียว
กำลังโหลดความคิดเห็น