xs
xsm
sm
md
lg

บี้"เหลิม"ไล่จับ"แม้ว ปชป.ท้าให้จับทั้งคู่

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ASTVผู้จัดการรายวัน/ตาก-“นะคะมวย” ยืนยันความบริสุทธิ์ต่อหน้าสื่อไทย-เทศนับร้อย ท้าให้ ป.ป.ส.ไทย-พม่า เข้ามาตรวจสอบพื้นที่ได้เลย ถามหมายจับมีมาตั้งแต่ปี 46 แต่ทำไมเอามาเป็นประเด็นช่วงนี้ ไล่ “เหลิม” ไปจับ “ทักษิณ” ก่อน บอกมีความผิดชัดเจนศาลไทยตัดสินแล้ว ปชป. ได้ทีท้าให้จับทั้ง 2 คน

วานนี้ (10 พ.ค.) นายพลนะคะมวย ผู้บัญชาการทหารสูงสุดกองกำลังกะเหรี่ยงโกะทูบลอ หรือKAO ได้เปิดแถลงข่าวต่อสื่อมวลชนทั้งไทย-พม่า และผู้สื่อข่าวจากต่างประเทศ กว่า 100 คน ณ.กองบัญชาการใหญ่กองกำลัง KAO โดยมีหน่วยคอมมานโด KAO กว่า 500 นาย พร้อมอาวุธครบมือมาคอยคุ้มกัน และรักษาความปลอดภัยให้ผู้นำ KAO

นายพลนะคะมวย กล่าวว่า ขอยืนยันความบริสุทธิ์ว่าไม่ได้ยุ่งเกี่ยว หรือเกี่ยวข้องกับการค้ายาเสพติด และพร้อมที่จะให้ทางการไทยเข้ามาตรวจสอบ โดยจะให้ความปลอดภัยอย่างเต็มที่ โดยรัฐบาลไทยและพม่า ต่างมีหน่วยงาน ป.ป.ส. ซึ่งสามารถประสานงานกัน และเข้ามาตรวจสอบพื้นที่ของตนเองพร้อมกันได้เลย เมื่อมีการตรวจสอบชัดเจนแล้ว ตนเองก็จะได้ใช้เวลาเพื่อไปพัฒนาพื้นที่เขตกะเหรี่ยง และให้ประชาชนชาวกะเหรี่ยงกินดีอยู่ดี มีความบริสุทธิ์และยุติธรรมในการปกครอง

ทั้งนี้ ตนเองเป็นชาวกะเหรี่ยง สัญชาติพม่า หากมีความผิดจริงก็จะต้องสู้คดีในพม่า ทำไมต้องไปขึ้นศาลไทย ที่สำคัญตนเองไม่มีความผิด อีกประการ คือ หมายจับของทางการไทย มีขึ้นตั้งแต่ปี 2546 แต่ทำไมเพิ่งนำมาเปิดประเด็นในเวลานี้ ซึ่งเป็นจังหวะเวลาที่ตนเองกำลังจะมีการเจรจากับรัฐบาลพม่า ทำให้เกิดความเสียหายกับตนเองมาก

“ผมพร้อมที่จะให้ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกรัฐมนตรี จับกุม หากมาตรวจสอบและพบว่าผมผิดจริง ตอนนี้ขอให้ บิ๊กเฉลิม ไปตามจับพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีไทยก่อน เพราะคดีดังกล่าวศาลไทยได้ตัดสินและระบุโทษความผิดไปแล้ว เพื่อรักษากฎหมายไทยให้ถูกต้อง มีความหมาย ส่วนคดีผมนั้น ยังไม่มีอะไรที่มีหลักฐานเลย มีเพียงการกล่าวหา สร้างความเสียหายให้ผมเท่านั้นเอง”

นายพลนะคะมวยกล่าวเพิ่มเติมว่า ตนเองไม่เคยค้ายาเสพติด ไม่เคยให้กองกำลังทหารของตนเอง รวมทั้งประชาชนค้ายาเสพติด แต่สิ่งที่ตนเองจะทำ คือ พัฒนากองทัพเพื่อความเป็นเอกภาพและสันติภาพของชนชาวกะเหรี่ยงทุกคน เราต่อสู้เพื่ออิสรภาพและเพื่อความเป็นอยู่ที่ดีของประชาชน

**"เฉลิม"โบ้ยคนละกรณีกับ"แม้ว

ที่รัฐสภา ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า เขาจะแถลงอย่างไรก็ช่าง เพราะว่าที่ตนประเมินเป็นไปตามหลักกฏหมายไทย ศาลออกหมายจับ พล.ต.นะคะมวย เมื่อวันที่ 26 ส.ค.2546 พล.ต.นะคะมวย คิดว่าตนไม่ผิด ทำไมไม่มอบหมายให้ทนายความยื่นคำร้องต่อศาลให้ศาลถอนหมายจับ และตนจะไม่ส่งใครติดตาม แต่แหล่งข่าวที่น่าเชื่อถือของตนระบุว่าพล.ต.นะคะมวยจะกล่าวหาเจ้าหน้าที่ไทยทั้งทหารและตำรวจ 2-3 คน เพื่อสร้างตัวเองให้ดูดี ส่วนสื่อมวลชนที่ไปติดตามข่าวจะเชื่อถือคำพูดหรือไม่ ตนไม่ทราบ แต่สำหรับตัวเองไม่เชื่อถือ เพราะมองว่าสร้างความปั่นป่วนเท่านั้น ตนไม่เต้นตาม คำพูดของผู้ต้องหาเชื่อก็ได้ไม่เชื่อก็ได้ แต่สิ่งที่ตนดีใจ คือ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี มอบหมายให้ตนปฏิบัติหน้าที่นี้

เมื่อถามว่าเหตุใดรัฐบาลไทยจึงไม่ไล่จับพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ทั้งที่พ.ต.ท.ทักษิณก็มีหมายจับเช่นกัน ร.ต.อ.เฉลิม กล่าวว่า พ.ต.ท.ทักษิณโดนปัญหาทางการเมือง ไม่ได้ทำผิดอะไร ถ้าไม่มีการปฏิวัติ ก็ไม่มีเรื่อง พล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน หัวหน้าพรรคมาตุภูมิ ยังออกมายอมรับเลยว่าการปฏิวัติเมื่อปี 2549 ผิด แต่นักการเมืองบางคนไม่ยอมรับ สำหรับกรณีนะคะมวยเป็นเรื่องการค้ายาเสพติด มันคนละเรื่อง คนละประเด็น และหากพบเห็นนะคะมวยในประเทศไทยก็จะจับทันที เพราะมีหมายจับอยู่แล้ว

อย่างไรก็ตาม เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (ป.ป.ส.) จะมาพบตนเพื่อรายงานความคืบหน้าว่า อธิบดีกรมตำรวจของประเทศพม่าตอบกลับมาว่าอย่างไรในการขอความร่วมมือจับตัวพล.ต.นะคะมวย ซึ่งตนก็เชื่อว่าท่าทีของอธิบดีกรมตำรวจพม่าจะมีสัญญาณที่ดี เพราะจากแหล่งข่าวเมื่อประมาณ 48 ชั่วโมง มีนายทหารพม่ายศพลโทเรียกนะคะมวยไปกำชับว่าอย่ามาปิดชายแดน การปฏิบัติของตนไม่ใช่เพราะอารมณ์ แต่เป็นหน้าที่ที่ต้องทำเพื่อบ้านเมือง ไม่ใช่เพื่อตนเอง ทั้งนี้ กรณีของนะคะมวยเป็นการออกหมายจับไม่ใช่การติดแบล็กลิสต์

**จี้จับทั้งคู่อย่าสองมาตรฐาน

นายเทพไท เสนพงศ์ ส.ส. นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า การที่พล.ต.นะคะมวยแนะนำให้ร.ต.อ.เฉลิมไปไล่จับพ.ต.ท.ทักษิณให้ได้เสียก่อน เป็นเรื่องที่ถูกต้อง และในขณะเดียวกัน ถ้าพล.ต.นะคะมวยกระทำความผิดจริง ร.ต.อ.เฉลิมก็ไม่ควรระเว้นการปฏิบัติหน้าที่ จะต้องใช้การบังคับกฎหมายให้เสมอภาคกันโดยไม่เลือกปฏิบัติ

**ทหารคุมชายแดน 2 ฝั่งปกติ

พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผู้บัญชาการทหารบก กล่าวว่า ได้สั่งการลงไปแล้วให้กองทัพภาคที่ 3 เพิ่มมาตรการกวดขันกำลังพลเข้า-ออกตามแนวชายแดน ช่องทางสำคัญต่างๆ ที่มีอยู่ และต้องดูแลคนไทยให้ปลอดภัย เราไม่ได้เป็นคู่ศัตรูกับใคร ปัญหาที่เกิดขึ้นว่าไปตามกฎหมาย ตามกระบวนการยุติธรรม ในเมื่อมีสำนวนและกระบวนการยุติธรรมกล่าวอ้างก็ต้องนำหลักฐานมาแก้ ซึ่งต้องเอาหลักฐานมาแก้กัน คิดว่า ต้องติดตามสถานการณ์ต่อไป วันนี้ยังไม่มีการรายงานเหตุการณ์ผิดปกติ และยังไม่มีเหตุอะไรเกิดขึ้นที่มีผลกระทบต่อชายแดน ยังเรียบร้อยอยู่ โดย 7 กองกำลังพยายามทำหน้าที่ให้ดีที่สุด ทั้งนี้ ยืนยันกองกำลังของไทยทั้ง 7 กองกำลังตามแนวชายแดนจะทำหน้าที่ให้ดีที่สุด ไม่ว่าจะทิศเหนือ ใต้ ตะวันออก และตะวันตก ดังนั้น ขอให้ทหารได้พักผ่อนมั้ง หากจะเปิดศึกทุกด้านคงไม่ไหว
กำลังโหลดความคิดเห็น