ASTVผู้จัดการรายวัน -“นะคะมวย”กร้าวให้ “เฉลิม”แสดงความรับผิดชอบชื่อติด 25บัญชีผู้ค้ายาเสพติด งัดมาตรการตอบโต้ ปิดด่านเจดีย์สามองค์ทะลุถึงแม่สอด ห้ามคนไทยเข้าพม่า และไม่รับรองความปลอดภัย พร้อมท้าให้โชว์หลักฐาน "เพรียวพันธ์” ชี้ “หน่อคำ” แค่พ่อค้ายาเล็กๆ ขอตัวจากลาวไม่ยาก แต่ติดจีนขอตัวก่อน
รายงานข่าวจากชายแดนจังหวัดตาก แจ้งว่า ที่กองบัญชาการกองทัพโกะทูบลอ (KAO) ที่แยกตัวออกมาจากกองกำลังทหารกะเหรี่ยงพุทธเพื่อประชาธิปไตย (DKBA) นายพล นะคะมวย ผู้บัญชาการทหารสูงสุดของกองทัพกะเหรี่ยงโกะทูบลอ KAO (ผู้บัญชาการกองพล 999 กองพันพิเศษ 907 ดีเคบีเอ) มีอำนาจควบคุมการเข้า-ออก ตามแนวชายแดนไทย-พม่า ด้าน อ.พบพระ อ.อุ้มผาง และเขตชายแดน จ.กาญจนบุรี ได้นำนายทหาร ฝ่ายพลเรือน และผู้นำระดับสูง แถลงข่าวต่อสื่อมวลชนไทย และต่างประเทศ ในกรณีที่พลเอก นะคะมวย ถูกทางการไทยขึ้นบัญชีดำเป็นผู้ค้ายาเสพติด
โดยนายพล นะคะมวย ต้องการให้รัฐบาลไทยแสดงความรับผิดชอบในการกล่าวหาตนเองเป็นผู้ค้ายาเสพติด ทำให้เสื่อมเสียชื่อเสียงวงศ์ตระกูล และทำให้เกิดปัญหาความสัมพันธ์ระหว่างฝ่ายกะเหรี่ยงโกะทูบลอกับฝ่ายไทย รวมไปถึงความสัมพันธ์ระหว่างไทยกับพม่าด้วย
นายพล นะคะมวย กล่าวว่า หากฝ่ายไทยไม่ลบชื่อของตนเองออกจากบัญชีผู้ค้ายาเสพติด จะเพิ่มมาตรการตอบโต้ตามแนวชายแดนมากขึ้น โดยจะมีการปิดท่าขนส่งสินค้าไปจนถึงอำเภอแม่สอด จังหวัดตาก และจะมีมาตรการอื่นๆ ตามมา ซึ่งจะให้เวลารัฐบาลไทยในการลบชื่อออก
นอกจากนี้ หากฝ่ายร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกรัฐมนตรี และทีมงานข้องใจ ขอให้เข้าพื้นที่ของโกะทูบลอได้ทันที โดยพร้อมที่จะรักษาความปลอดภัยให้ และหากฝ่ายตนเองผิดจริง ก็พร้อมที่จะเข้าไปเขตไทยเพื่อมอบตัวด้วยศักดิ์ศรีชายชาติทหารของชาวกะเหรี่ยง
ขณะเดียวกัน เจ้าหน้าที่ทหารหน่วยเฉพาะกิจกรมทหารราบที่ 4 อำเภอแม่สอด จังหวัดตาก ได้เฝ้าระวัง และสังเกตการณ์ตามแนวชายแดนไทย-พม่า ด้านอำเภอพบพระเป็นกรณีพิเศษ เน้นไม่ให้ประชาชนข้ามไปฝั่งพม่าเกรงว่าจะถูกจับกุม และดูแลรักษาความสงบชายแดนไทย- พม่า หลังจากที่นายพล นะคะมวย ผู้นำ KAO ได้สั่งปิดช่องทางเข้า-ออกชายแดนทั้งหมด 12 จุด ตั้งแต่อำเภอพบพระขึ้นไปจนถึงอำเภออุ้มผาง จังหวัดตาก ในพื้นที่รับผิดชอบของ ฉก.ร.4 แต่ล่าสุดจนถึงขณะนี้ยังไม่มีเหตุรุนแรงเกิดขึ้น
อย่างไรก็ตาม หลังจากทางการไทยได้ประกาศบัญชีรายชื่อผู้ค้ายาเสพติด โดยพลเอก นะคะมวย มีรายชื่ออยู่ในบัญชีด้วย จึงเกิดความไม่พอใจฝ่ายไทย ประกาศการปิดช่องทางเข้า-ออก ทำให้ประชาชนที่ทราบข่าวไม่กล้าเข้าออกตามแนวชายแดน รวมทั้งผู้ประกอบการค้าไม้และค้าแร่ในฝั่งพม่าต้องถูกสั่งให้ยุติการดำเนินกิจการไปก่อน เนื่องจากทางฝ่ายกะเหรี่ยงไม่รับรองความปลอดภัยคนไทยที่ข้ามแดนไปฝั่งพม่าในเขตอิทธิพลของ KAO
**ชายแดนด่านเจดีย์สามองค์ยังปกติ
นายวิบูลย์ ปั้นศิริ นายอำเภอสังขละบุรี จ.กาญจนบุรี กล่าวถึงสถานการณ์ชายแดนบริเวณจุดผ่อนปรนทางการค้า บ้านพระเจดีย์สามองค์ พื้นที่หมู่ 9 ต.หนองลู อ.สังขละบุรี ว่า หลังจากที่มีข่าวว่า นายพล นะคะมวย ออกแถลงการณ์ว่าจะปิดช่องทางทางการค้าตั้งแต่ จ.ตาก มาถึง จ.กาญจนบุรี โดยในส่วนของอ.สังขละบุรี ที่มีชายแดนติดต่อกับพม่า ซึ่งเป็นที่ตั้งของจุดผ่อนปรนทางการค้าที่บริเวณบ้านพระเจดียสามองค์ ที่ประชาชนติดต่อค้าขายกับประเทศเพื่อนบ้าน คือ เมืองพญาตองซู ประเทศพม่า สถานการณ์ยังเป็นปกติ
ทั้งนี้ จากการตรวจสอบระหว่างชุดประสานงานชายแดนทั้งสองฝ่าย ทราบว่า สถานการณ์ในพื้นที่จริง เป็นการดูแลของทหารพม่า โดยในพื้นที่ชายแดนบ้านพญาตองซู อิทธิพลของนายพล นะคะมวย ยังไม่ครอบคลุมทั้งพื้นที่และได้รับการยืนยันจากทางการพม่าว่า สถานการณ์ยังเป็นปกติ ในส่วนของชาวบ้านที่ค้าขายตามแนวชายแดนก็เป็นปกติ ดังนั้น ตอนนี้สถานการณ์ชายแดนด้านด่านเจดีย์สามองค์จึงยังไม่มีผลกระทบการปิดด่านการค้าตามที่นายพล นะคะมวย ได้ประกาศในแถลงการณ์ออกมา แต่จะติดตามสถานการณ์ต่อไป ทั้งนี้ ทุกอย่างอยู่ภายใต้การกำกับดูแลของกองกำลังสุรสีห์ กองพลทหารราบที่ 9 ที่รับผิดชอบดูแลเรื่องความสงบและการจัดระเบียบตลอดแนวชายแดนจังหวัดกาญจนบุรี โดยมีการปฏิบัติตามปกติยังไม่สิ่งผิดปกติใดๆ ทั้งสิ้น
**"เหลิม"ลั่นไม่เจรจาเข้าไทยจับทันที
ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บํารุง รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะกำกับดูแลสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กล่าวว่า ศาลอาญารัชดามีหมายจับนายพล นะคะมวย ตั้งแต่ปี 2546 ว่าเกี่ยวข้องกับยาเสพติด ซึ่งการที่ศาลจะออกหมายจับได้ต้องมีหลักฐาน และการที่นายพล นะคะมวย บอกว่าจะฟ้องศาลอาญาระหว่างประเทศก็ไม่มีผลอะไร อย่างไรก็ตาม หลังจากที่ทางการไทยออกประกาศ ทางรัฐมนตรีต่างประเทศของกองทัพกะเหรี่ยงโกะทูบลอก็ได้ติดต่อผ่านคนที่รู้จักตนเอง เพื่อมาอธิบายว่าตัวเองบริสุทธิ์ไม่ได้เกี่ยวของกับยาเสพติด แต่ตนไม่เจรจาด้วย เพราะเรื่องนี้ศาลออกหมายจับไปแล้ว ไม่ใช่อำนาจของตน ถ้านายพล นะคะมวย เข้ามาประเทศไทยก็จะต้องถูกจับกุมตามกฎหมาย
**ผบ.ตร.ชี้ “หน่อคำ”แค่พ่อค้ายาเล็กๆ
ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.ต.อ.เพรียวพันธ์ ดามาพงศ์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ได้เข้าพบ.ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บํารุง รองนายกรัฐมนตรี ก่อนให้สัมภาษณ์ว่า กรณีที่นายหน่อคำ หัวหน้าโจรสลัด ที่เรียกค่าคุ้มครองในแม่น้ำโขงถูกทางการลาวจับกุมแล้ว และรอเอกสารจากตำรวจไทยว่า เรื่องนายหน่อคำมีหมายจับเก่าอยู่แล้ว ตนได้ให้เจ้าหน้าที่สืบค้นหมายอยู่ เชื่อว่าของเราไม่มีผลอะไร แต่ในส่วนของคดีปล้นเรือจีนยังไม่ออกหมายจับ
ผู้สื่อข่าวถามว่า ได้มีการประสานกับทางการลาวเพื่อขอมาดำเนินคดีแล้วหรือไม่ พล.ต.อ.เพรียวพันธ์ กล่าวว่า ทางการจีนคงดำเนินการไป โดยคาดว่าจะขอตัวนายหน่อคำกับทางการลาวโดยตรง เพราะถูกควบคุมตัวอยู่ที่นั้น
เมื่อถามต่อว่า หากไทยขอตัวนายหน่อคำมาจะเป็นเรื่องยากหรือไม่ พล.ต.อ.เพรียวพันธ์ กล่าวว่า ตามขั้นตอนแล้วไม่น่ายากอะไร เพราะนายหน่อคำเป็นเพียงคนร้ายค้ายาเสพติดเท่านั้นเอง ไม่มีเรื่องเกี่ยวข้องทางการเมือง ตนคิดว่าไม่น่ายาก
รายงานข่าวแจ้งว่า ในใบประกาศจับของ สตช. ระบุว่า นายหน่อคำ มีค่านำจับ 2 ล้านบาท ขณะที่นายพล นะคะมวย มีค่านำจำ 1 ล้านบาท
รายงานข่าวจากชายแดนจังหวัดตาก แจ้งว่า ที่กองบัญชาการกองทัพโกะทูบลอ (KAO) ที่แยกตัวออกมาจากกองกำลังทหารกะเหรี่ยงพุทธเพื่อประชาธิปไตย (DKBA) นายพล นะคะมวย ผู้บัญชาการทหารสูงสุดของกองทัพกะเหรี่ยงโกะทูบลอ KAO (ผู้บัญชาการกองพล 999 กองพันพิเศษ 907 ดีเคบีเอ) มีอำนาจควบคุมการเข้า-ออก ตามแนวชายแดนไทย-พม่า ด้าน อ.พบพระ อ.อุ้มผาง และเขตชายแดน จ.กาญจนบุรี ได้นำนายทหาร ฝ่ายพลเรือน และผู้นำระดับสูง แถลงข่าวต่อสื่อมวลชนไทย และต่างประเทศ ในกรณีที่พลเอก นะคะมวย ถูกทางการไทยขึ้นบัญชีดำเป็นผู้ค้ายาเสพติด
โดยนายพล นะคะมวย ต้องการให้รัฐบาลไทยแสดงความรับผิดชอบในการกล่าวหาตนเองเป็นผู้ค้ายาเสพติด ทำให้เสื่อมเสียชื่อเสียงวงศ์ตระกูล และทำให้เกิดปัญหาความสัมพันธ์ระหว่างฝ่ายกะเหรี่ยงโกะทูบลอกับฝ่ายไทย รวมไปถึงความสัมพันธ์ระหว่างไทยกับพม่าด้วย
นายพล นะคะมวย กล่าวว่า หากฝ่ายไทยไม่ลบชื่อของตนเองออกจากบัญชีผู้ค้ายาเสพติด จะเพิ่มมาตรการตอบโต้ตามแนวชายแดนมากขึ้น โดยจะมีการปิดท่าขนส่งสินค้าไปจนถึงอำเภอแม่สอด จังหวัดตาก และจะมีมาตรการอื่นๆ ตามมา ซึ่งจะให้เวลารัฐบาลไทยในการลบชื่อออก
นอกจากนี้ หากฝ่ายร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกรัฐมนตรี และทีมงานข้องใจ ขอให้เข้าพื้นที่ของโกะทูบลอได้ทันที โดยพร้อมที่จะรักษาความปลอดภัยให้ และหากฝ่ายตนเองผิดจริง ก็พร้อมที่จะเข้าไปเขตไทยเพื่อมอบตัวด้วยศักดิ์ศรีชายชาติทหารของชาวกะเหรี่ยง
ขณะเดียวกัน เจ้าหน้าที่ทหารหน่วยเฉพาะกิจกรมทหารราบที่ 4 อำเภอแม่สอด จังหวัดตาก ได้เฝ้าระวัง และสังเกตการณ์ตามแนวชายแดนไทย-พม่า ด้านอำเภอพบพระเป็นกรณีพิเศษ เน้นไม่ให้ประชาชนข้ามไปฝั่งพม่าเกรงว่าจะถูกจับกุม และดูแลรักษาความสงบชายแดนไทย- พม่า หลังจากที่นายพล นะคะมวย ผู้นำ KAO ได้สั่งปิดช่องทางเข้า-ออกชายแดนทั้งหมด 12 จุด ตั้งแต่อำเภอพบพระขึ้นไปจนถึงอำเภออุ้มผาง จังหวัดตาก ในพื้นที่รับผิดชอบของ ฉก.ร.4 แต่ล่าสุดจนถึงขณะนี้ยังไม่มีเหตุรุนแรงเกิดขึ้น
อย่างไรก็ตาม หลังจากทางการไทยได้ประกาศบัญชีรายชื่อผู้ค้ายาเสพติด โดยพลเอก นะคะมวย มีรายชื่ออยู่ในบัญชีด้วย จึงเกิดความไม่พอใจฝ่ายไทย ประกาศการปิดช่องทางเข้า-ออก ทำให้ประชาชนที่ทราบข่าวไม่กล้าเข้าออกตามแนวชายแดน รวมทั้งผู้ประกอบการค้าไม้และค้าแร่ในฝั่งพม่าต้องถูกสั่งให้ยุติการดำเนินกิจการไปก่อน เนื่องจากทางฝ่ายกะเหรี่ยงไม่รับรองความปลอดภัยคนไทยที่ข้ามแดนไปฝั่งพม่าในเขตอิทธิพลของ KAO
**ชายแดนด่านเจดีย์สามองค์ยังปกติ
นายวิบูลย์ ปั้นศิริ นายอำเภอสังขละบุรี จ.กาญจนบุรี กล่าวถึงสถานการณ์ชายแดนบริเวณจุดผ่อนปรนทางการค้า บ้านพระเจดีย์สามองค์ พื้นที่หมู่ 9 ต.หนองลู อ.สังขละบุรี ว่า หลังจากที่มีข่าวว่า นายพล นะคะมวย ออกแถลงการณ์ว่าจะปิดช่องทางทางการค้าตั้งแต่ จ.ตาก มาถึง จ.กาญจนบุรี โดยในส่วนของอ.สังขละบุรี ที่มีชายแดนติดต่อกับพม่า ซึ่งเป็นที่ตั้งของจุดผ่อนปรนทางการค้าที่บริเวณบ้านพระเจดียสามองค์ ที่ประชาชนติดต่อค้าขายกับประเทศเพื่อนบ้าน คือ เมืองพญาตองซู ประเทศพม่า สถานการณ์ยังเป็นปกติ
ทั้งนี้ จากการตรวจสอบระหว่างชุดประสานงานชายแดนทั้งสองฝ่าย ทราบว่า สถานการณ์ในพื้นที่จริง เป็นการดูแลของทหารพม่า โดยในพื้นที่ชายแดนบ้านพญาตองซู อิทธิพลของนายพล นะคะมวย ยังไม่ครอบคลุมทั้งพื้นที่และได้รับการยืนยันจากทางการพม่าว่า สถานการณ์ยังเป็นปกติ ในส่วนของชาวบ้านที่ค้าขายตามแนวชายแดนก็เป็นปกติ ดังนั้น ตอนนี้สถานการณ์ชายแดนด้านด่านเจดีย์สามองค์จึงยังไม่มีผลกระทบการปิดด่านการค้าตามที่นายพล นะคะมวย ได้ประกาศในแถลงการณ์ออกมา แต่จะติดตามสถานการณ์ต่อไป ทั้งนี้ ทุกอย่างอยู่ภายใต้การกำกับดูแลของกองกำลังสุรสีห์ กองพลทหารราบที่ 9 ที่รับผิดชอบดูแลเรื่องความสงบและการจัดระเบียบตลอดแนวชายแดนจังหวัดกาญจนบุรี โดยมีการปฏิบัติตามปกติยังไม่สิ่งผิดปกติใดๆ ทั้งสิ้น
**"เหลิม"ลั่นไม่เจรจาเข้าไทยจับทันที
ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บํารุง รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะกำกับดูแลสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กล่าวว่า ศาลอาญารัชดามีหมายจับนายพล นะคะมวย ตั้งแต่ปี 2546 ว่าเกี่ยวข้องกับยาเสพติด ซึ่งการที่ศาลจะออกหมายจับได้ต้องมีหลักฐาน และการที่นายพล นะคะมวย บอกว่าจะฟ้องศาลอาญาระหว่างประเทศก็ไม่มีผลอะไร อย่างไรก็ตาม หลังจากที่ทางการไทยออกประกาศ ทางรัฐมนตรีต่างประเทศของกองทัพกะเหรี่ยงโกะทูบลอก็ได้ติดต่อผ่านคนที่รู้จักตนเอง เพื่อมาอธิบายว่าตัวเองบริสุทธิ์ไม่ได้เกี่ยวของกับยาเสพติด แต่ตนไม่เจรจาด้วย เพราะเรื่องนี้ศาลออกหมายจับไปแล้ว ไม่ใช่อำนาจของตน ถ้านายพล นะคะมวย เข้ามาประเทศไทยก็จะต้องถูกจับกุมตามกฎหมาย
**ผบ.ตร.ชี้ “หน่อคำ”แค่พ่อค้ายาเล็กๆ
ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.ต.อ.เพรียวพันธ์ ดามาพงศ์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ได้เข้าพบ.ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บํารุง รองนายกรัฐมนตรี ก่อนให้สัมภาษณ์ว่า กรณีที่นายหน่อคำ หัวหน้าโจรสลัด ที่เรียกค่าคุ้มครองในแม่น้ำโขงถูกทางการลาวจับกุมแล้ว และรอเอกสารจากตำรวจไทยว่า เรื่องนายหน่อคำมีหมายจับเก่าอยู่แล้ว ตนได้ให้เจ้าหน้าที่สืบค้นหมายอยู่ เชื่อว่าของเราไม่มีผลอะไร แต่ในส่วนของคดีปล้นเรือจีนยังไม่ออกหมายจับ
ผู้สื่อข่าวถามว่า ได้มีการประสานกับทางการลาวเพื่อขอมาดำเนินคดีแล้วหรือไม่ พล.ต.อ.เพรียวพันธ์ กล่าวว่า ทางการจีนคงดำเนินการไป โดยคาดว่าจะขอตัวนายหน่อคำกับทางการลาวโดยตรง เพราะถูกควบคุมตัวอยู่ที่นั้น
เมื่อถามต่อว่า หากไทยขอตัวนายหน่อคำมาจะเป็นเรื่องยากหรือไม่ พล.ต.อ.เพรียวพันธ์ กล่าวว่า ตามขั้นตอนแล้วไม่น่ายากอะไร เพราะนายหน่อคำเป็นเพียงคนร้ายค้ายาเสพติดเท่านั้นเอง ไม่มีเรื่องเกี่ยวข้องทางการเมือง ตนคิดว่าไม่น่ายาก
รายงานข่าวแจ้งว่า ในใบประกาศจับของ สตช. ระบุว่า นายหน่อคำ มีค่านำจับ 2 ล้านบาท ขณะที่นายพล นะคะมวย มีค่านำจำ 1 ล้านบาท