ASTV ผู้จัดการรายวัน - ก.ล.ต.แจงกรณีกรรมการ และผู้บริหารถูกกล่าวโทษ บริษัทต้องยื่นขอจดทะเบียนเปลี่ยนแปลงกรรมการใน14วัน
สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) แจ้งว่า ตามที่ปรากฏข่าวเกี่ยวกับกรณีที่ ก.ล.ต. กล่าวโทษ ว่าจะมีผลต่อการดำรงตำแหน่งกรรมการและผู้บริหารของผู้ถูกกล่าวโทษอย่างไรนั้น
นายวสันต์ เทียนหอม รองเลขาธิการ ก.ล.ต. เปิดเผยว่า ตามพระราชบัญญัติหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ พ.ศ. 2535 ผู้ที่ถูก ก.ล.ต. กล่าวโทษในการกระทำความผิดที่กำหนดไว้ เช่น การสร้างราคาหลักทรัพย์ การใช้ข้อมูลภายในซื้อขายหลักทรัพย์ หรือการกระทำโดยทุจริต ถือว่ามีลักษณะขาดความน่าไว้วางใจในการเป็นกรรมการและผู้บริหาร และต้องพ้นจากตำแหน่งดังกล่าว
นอกจากนี้ กรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ ได้ออกประกาศกำหนดให้บริษัทที่ได้รับแจ้งจาก ก.ล.ต. ว่า กรรมการของบริษัทต้องพ้นจากตำแหน่งด้วยเหตุดังกล่าวข้างต้น บริษัทมีหน้าที่ต้องยื่นขอจดทะเบียนเปลี่ยนแปลงกรรมการภายใน 14 วัน ซึ่งการไม่ดำเนินการดังกล่าว จะเป็นความผิดตามพระราชบัญญัติบริษัทมหาชนจำกัด พ.ศ. 2535 ด้วย
สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) แจ้งว่า ตามที่ปรากฏข่าวเกี่ยวกับกรณีที่ ก.ล.ต. กล่าวโทษ ว่าจะมีผลต่อการดำรงตำแหน่งกรรมการและผู้บริหารของผู้ถูกกล่าวโทษอย่างไรนั้น
นายวสันต์ เทียนหอม รองเลขาธิการ ก.ล.ต. เปิดเผยว่า ตามพระราชบัญญัติหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ พ.ศ. 2535 ผู้ที่ถูก ก.ล.ต. กล่าวโทษในการกระทำความผิดที่กำหนดไว้ เช่น การสร้างราคาหลักทรัพย์ การใช้ข้อมูลภายในซื้อขายหลักทรัพย์ หรือการกระทำโดยทุจริต ถือว่ามีลักษณะขาดความน่าไว้วางใจในการเป็นกรรมการและผู้บริหาร และต้องพ้นจากตำแหน่งดังกล่าว
นอกจากนี้ กรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ ได้ออกประกาศกำหนดให้บริษัทที่ได้รับแจ้งจาก ก.ล.ต. ว่า กรรมการของบริษัทต้องพ้นจากตำแหน่งด้วยเหตุดังกล่าวข้างต้น บริษัทมีหน้าที่ต้องยื่นขอจดทะเบียนเปลี่ยนแปลงกรรมการภายใน 14 วัน ซึ่งการไม่ดำเนินการดังกล่าว จะเป็นความผิดตามพระราชบัญญัติบริษัทมหาชนจำกัด พ.ศ. 2535 ด้วย
