ASTVผู้จัดการรายวัน-“เจ๊หน่อย”ซึ่งรสพระธรรม ประกาศไม่รับเก้าอี้ รมต.ในปีนี้ หลังพ้นโทษการเมือง ขอลุยสร้างสะพานบุญลุมนิพีสถานให้สำเร็จก่อน พร้อมแบะท่าไม่ลงชิงตำแหน่งผู้ว่าฯ กทม. อ้างอายุมาก ด้าน “ปู”ยกมือไหว้สื่อ “ขอไม่ถามปรับครม.”
วานนี้ (7 พ.ค.55) คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ หนึ่งในสมาชิกบ้านเลขที่ 111 ในฐานะประธานคณะดำเนินโครงการบูรณะปฏิสังขรณ์สถานที่ประสูติของพระพุทธเจ้า ณ.ลุมพิพีสถาน ประเทศเนปาล ให้สัมภาษณ์ถึงอนาคตทางการเมืองภายหลังอดีตกรรมการบริหารพรรคไทยรักไทยจะพ้นจากการถูกตัดสิทธิ์ทางการเมืองว่า จะไม่ขอรับตำแหน่งใด ๆ ใน ครม. และสมัครใจที่จะขอเว้นวรรคทางการเมืองต่อไปชั่วคราว เพราะปีนี้ตั้งใจว่าจะขอทำงานบูรณะปฏิสังขรณ์สะพานบุญลุมพินีสถาน ประเทศเนปาล เพื่อถวายเป็นพุทธบูชาและถวายเป็นพระราชกุศลแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯและสมเด็จพระนางเจ้าฯพระบรมราชินีนาถ ซึ่งเป็นสถานที่ประสูติของพระพุทธเจ้าให้แล้วเสร็จ
ทั้งนี้ หากมารับหน้าที่ทางการเมืองอาจทำให้งานบุญดังกล่าวถูกบิดเบือน ใส่ร้าย ป้ายสี จากฝ่ายตรงข้ามทำให้งานไม่สำเร็จ อย่างไรก็ตามเรื่องการเมืองคงไม่ทิ้ง เพราะอยู่ในเส้นเลือดแล้ว ทั้งนี้ตนกำลังเขียนหนังสืออาจใช้ชื่อ "5 ปีที่หายไป" หลังปฏิวัติ 9 กันยายน 2549 ออกมาในเร็วๆ นี้เป็นเบื้องหลังของผู้ถูกปฏิวัติเป็นอย่างไร หากทำได้อยากเปิดตัวเดือนหน้าภายหลังบ้านเลขที่ 111พ้นโทษทางการเมือง
นอกจากนั้นอีกเหตุผลหนึ่งตนมองว่าที่ผ่านมาไม่มีโอกาสร่วมในการเลือกตั้งครั้งที่ผ่านมา จึงไม่ควรเอาเปรียบเพื่อนฟ้องน้องพี่ภายในพรรคเพื่อไทยโดยเข้าไปรับตำแหน่งใด ๆ ตนอยู่กับการเมืองมากกว่า 20 ปี เข้าใจ และเห็นใจหัวอกคนที่ลงเลือกตั้ง แต่วันนี้มีข่าวทุกวันว่าคนบ้านเลขที่ 111 จะเข้ามารับตำแหน่ง มายึดโควตา จะปลดคนนั้นปลดคนนี้เพื่อให้คนบ้าน 111 ได้เข้าไปแทน จึงขอให้กำลังคนที่ทำงานทุกคน เพราะ ส.ส. และรัฐมนตรีที่ดำรงตำแหน่งอยู่ก็มีความรู้ ความสามารถ การไปบอกว่าเป็นผู้เล่นแถวสองแถวสามก็จะเป็นการทำร้ายจิตใจมากเกินไป แต่เชื่อว่าคงจะมีคนบ้านเลขที่ 111 เข้าไปบ้าง แต่คงไม่ใช่เข้าไปทั้งหมด น่าจะเป็นการเข้าไปเสริมกันดีกว่า และตนขอเป็นผู้สนับสนุน เพราะรัฐบาลอาจต้องการคนที่เชี่ยวชาญในบ้างเรื่อง
ส่วนกระแสข่าว พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี มีแนวคิดจะปรับโครงสร้างพรรคเพื่อไทยใหม่เพื่อรองรับสมาชิกบ้านเลขที่ 111 นั้น ในหลักการโครงสร้างพรรคเพื่อไทยมีอยู่แล้วและดีอยู่แล้ว มีคณะกรรมการอยู่หลายชุด ถ้าสมาชิกบ้านเลขที่ 111 เข้ามาคงไม่มีการไปปรับโครงสร้างหรือเข้าไปยึดพรรคอะไร คงมีบางคนที่ถนัดด้านไหนก็จะสามารถเข้าไปช่วยได้อย่างเต็มตัว
เมื่อถามว่า มองจุดอ่อนจุดแข็งของรัฐบาลอย่างไร และควรมีการปรับเปลี่ยนอย่างไรหรือไม่ เพราะขณะนี้รัฐบาลโดนโจมตีอย่างหนักในเรื่องปัญหาสินค้าแพง คุณหญิงสุดารัตน์ กล่าวว่า การบริหารงานของรัฐบาลเป็นเรื่องน่าเห็นใจ เพราะเป็นช่วงเวลาหลังมหาอุทกภัยที่กินพื้นที่ 1 ใน 3 ของประเทศ กินพื้นที่อู่ข้าวอู่น้ำ แหล่งผลิตอาหารและการเกษตรของประเทศ ดังนั้นเมื่อสินค้าขาดแคลนก็มีราคาแพง และยังมีการท่วมพื้นที่อุตสาหกรรมทำให้กระทบกับการส่งออกและการผลิตสินค้าเพื่อการอุปโภคบริโภค ราคาสินค้าแพง คงจะแพงในระยะนี้ ตนก็เห็นใจว่ามันเป็นเหตุสุดวิสัยและต้องให้เวลาในการปรับตัว ทั้งนี้นายกรัฐมนตรีและรัฐบาลก็พยายามอย่างยิ่งในการแก้ไขสินค้าราคาแพง
ต่อข้อถามว่า ยังสนใจที่จะลงสมัครชิงตำแหน่งผู้ว่าฯ กทม. หรือไม่ คุณหญิงสุดารัตน์ กล่าวว่า พร้อมจะสนับสนุนหาคนที่มีความรู้ความสามารถมาลงสมัคร เนื่องจากตนอายุมากแล้ว อยากเปิดโอกาสให้คนใหม่บ้าง
**ปูไหว้สื่อ“ไม่ให้ถามปรับครม.”
เวลา 08.00 น. ที่ตลาดสดพิชัย เทศบาลนครปากเกร็ด จังหวัดนนทบุรี นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เดินทางมาลงพื้นที่ตรวจสอบราคาสินค้า พร้อมพบปะพ่อค้าแม่ค้าและประชาชน โดยมีนายวิม รุ่งวัฒนจินดา เลขานุการรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี คณะผู้ติดตามและสื่อมวลชน ร่วมลงพื้นที่ด้วยผู้สื่อข่าวถามนายกฯถึงกระแสปรับครม. ซึ่งนายกฯ ยังคงปฏิเสธที่จะพูดเรื่องการปรับ ครม. โดยกล่าวพร้อมยกมือไหว้ทำทีเป็นขอร้องนักข่าวอย่างอารมณ์ดี ว่า "ทำเรื่องนี้ก่อนเถอะ ตอนนี้ห้ามก่อนนะ เรื่องปรับ ครม. ขอเรื่องอาหาร-ร้านค้าก่อ เดี๋ยวสินค้าไม่ได้ขาย เรื่องปรับ ครม.ขอไว้วันหลัง เดี๋ยวเรื่องราคาสินค้าไม่พาดหัว เราต้องช่วยกันเรื่องสินค้า อุตส่าห์มาเดินตลาดทั้งที"
**พท.สายอีสานหนุนตู่นั่งมท.2
ที่ตลาดสดแม่สมบูรณ์ ต.จอหอ อ.เมือง จ.นครราชสีมา นายแพทย์สุรวิทย์ คนสมบูรณ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข แกนนำพรรคเพื่อไทย สมาชิกพรรคเพื่อไทย จ.ชัยภูมิ กล่าวที่ จ.นครราชสีมา ภายหลังตรวจราคาสินค้าในตลาดสดถึงกระแสการปรับ ครม.ว่า การปรับคณะรัฐมนตรีเป็นอำนาจของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ตนเองก็ไม่ทราบว่า จะมีการปรับมากน้อยอย่างไร แต่ตนเชื่อว่าเป็นปรกติในเรื่องของการปรับคณะรัฐมนตรีเมื่อถึงเวลาอันสมควร ส่วนการจะปรับใครเข้า ใครออกต่างๆนั้น เป็นอำนาจของนายกรัฐมนตรี
ส่วนกรณีชื่อของนายจตุพร พรหมพันธุ์ ส.ส.พรรคเพื่อไทย และเป็นแกนนำ นปช.คนเสื้อแดงที่จะได้ปรับ ครม.มานั่งตำแหน่งรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทยตามที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีเคยรับปากไว้นั้นเรื่องนี้ นพ.สุรวิทย์ กล่าวว่า ตนเองก็คิดว่านายจตุพร พรหมพันธุ์ เป็นบุคคลหนึ่งที่มีความรู้ ความสามารถและเป็นผู้ที่มองเหตุการณ์ต่างๆได้ค่อนข้างกว้างขวาง ความรู้ ความสามารถของเขาเป็นได้
ส่วนที่มีกระแสว่าเพื่อนสมาชิกพรรคเพื่อไทยส่วนหนึ่งออกมาต่อต้านนายจตุพร จะมีปัญหาความแตกแยกในพรรคหรือไม่ นพ.สุรวิทย์ กล่าวเรื่องนี้ว่า ตนยังไม่เห็นมีใครต่อต้านนายจตุพร มีแต่คนรักนายจตุพร อยู่
ส่วนกระแสคนบ้านเลขที่ 111 จะได้โควตาเป็นรัฐมนตรีจะยอมรับได้หรือไม่ นพ.สุรวิทย์ กล่าวว่า คนบ้านเลขที่ 111 เป็นบุคคลที่มีประสบการณ์ เคยเป็นรัฐมนตรี เคยทำงานให้กับบ้านเมืองมามาก เมื่อท่านมีโอกาสที่จะเข้ามาเป็นได้ตนเชื่อว่า จะมีหลายคนเข้ามาร่วมกิจกรรมกับเรา ทั้งในส่วนที่เป็นรัฐมนตรี ทั้งในส่วนที่ทำงานให้กับพรรคของเราเมื่อถูกปลดจากกรณีการเมืองของแต่ละคน ส่วนจะต้องพูดคุยเรื่องตำแหน่งกับ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตรนั้น นพ.สุรวิทย์กล่าวว่า เรื่องนี้คงเป็นเรื่องของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เป็นเรื่องของคณะกรรมการบริหารพรรคเพื่อไทยจะหารือกัน
**ไม่มีทางสลัดภาพตระกูลชินวัตร
ที่พรรคประชาธิปัตย์ นายเทพไท เสนพงศ์ ส.ส.นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีกระแสข่าวพรรคเพื่อไทยจะปรับโครงสร้างพรรคเพื่อก้าวไปสู่การเป็นสถาบันทางการเมือง ว่า เป็นเรื่องที่เป็นไปได้ยาก เพราะพื้นฐานทางการเมืองของพรรคเพื่อไทย ไม่ได้เกิดจากพรรคมวลชนที่แท้จริง แต่เป็นการจัดตั้งพรรครูปแบบทางธุรกิจ เหมือนบริษัทที่มีเจ้าของแต่เพียงผู้เดียว
นายเทพไท กล่าวว่า การจะปรับโครงสร้างพรรคเป็นพรรคมหาชน เพื่อจะสลัดภาพตระกูลชินวัตร และพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้ ถ้าตราบใดคนในพรรคเพื่อไทยยังคงพึ่งพิงกระแส และเงินทุนจากพ.ต.ท.ทักษิณ แต่เพียงผู้เดียว ก็เป็นเรื่องยาก และตราบใดที่ยังไม่มีการแก้ไขรัฐธรรมนูญให้เป็นผลสำเร็จ ที่จะล้มเลิกมาตรา 237 เกี่ยวกับการยุบพรรค สมาชิกพรรคเพื่อไทยระดับแกนนำก็ไม่กล้าเสี่ยงที่จะเข้ามาดำรงตำแหน่งกรรมการบริหารพรรค ก็จะต้องมีนอมินี และกรรมการบริหารพรรคตัวปลอม เข้ามาขับเคลื่อน จึงไม่สามารถทำให้พรรคเพื่อไทยเป็นพรรคสถาบันในอุดมคติ ของคนบางกลุ่มในพรรคเพื่อไทยได้
**'ถาวร'ยินดี'ตู่จ่อนั่งมท.2
ที่พรรคประชาธิปัตย์ นายถาวร เสนเนียม รองเลขาธิการ และ ส.ส.สงขลา พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึง กระแสข่าวนายจตุพร พรหมพันธ์ ส.ส.บัญชีรายชื่อพรรคเพื่อไทยและแกนนำแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) จะได้เข้ามาเป็นรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทยในการปรับคณะรัฐมนตรีว่า ต้องขอแสดงความยินดีกับนายจตุพร ด้วยและขอให้กำลังใจในการทำงาน มีอะไรให้ตนช่วยเหลือก็เข้ามาพูดคุยกันได้
ผู้สื่อข่าวถามถึงความเหมาะสม นายถาวรกล่าวว่า เรื่องนี้จะไปก้าวล่วงการตัดสินใจของใครไม่ได้ ไม่ว่าจะเป็นการตัดสินใจของคนใด พรรคใดก็แล้วแต่ ต้องดูการทำงานของเขาก่อนว่าทำได้ดีหรือไม่ ถ้าไม่ดีค่อยวิจารณ์ ตนเป็นคนมีน้ำใจนักกีฬาอยู่แล้ว แต่ถ้าจะให้วิจารณ์ก็คงต้องวิจารณ์การทำงานของน.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตรนายกรัฐมนตรี มากกว่าเพราะไม่มีจุดยืนการทำงานที่แน่นอน เพราะต้องเห็นใจคนที่ทำหน้าที่ ตรงที่ว่าเข้ามาทำงานไม่เท่าไหร่ก็ถูกปรับออก
**ชี้ทำงานไม่ดีค่อยวิจารณ์
ต่อข้อถามถึงกระแสข่าวออกมาว่าการเข้ามารับตำแหน่งของนายจตุพร ในครั้งนี้เพื่อให้เข้าไปช่วยตอบกระทู้ถามสดเรื่องปัญหาชายแดนใต้ในสภาฯเพราะนายยงยุทธ วิชัยดิษฐ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยเป็นคนพูดไม่เก่ง นายถาวร กล่าวว่า พูดเก่งหรือไม่ไม่ใช่ประเด็นแต่ประเด็นอยู่ที่ว่าทำงานเก่งหรือไม่ เพราะการทำหน้าที่ในสภาไม่ใช่การโต้วาที จะใครเข้ามาตอบก็แล้วแต่ถ้าไม่ทำงานจริงๆก็คงจะตอบคำถามไม่ได้ ซึ่ง น.ส.ยิ่งลักษณ์ เป็นผู้อำนวยการศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนใต้ (ผอ..ศอบต.) เป็นผู้อำนวยการกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร ผอ.กอ.รมน.เป็นประธานบอร์ดสภาความมั่นคงแห่งชาติ( สมช.) ถ้าตัวนายกฯ เองไม่ทำงานแล้วให้คนอื่นไปตอบคำถามแทนในสภา แล้วใครจะตอบแทนได้ ตนขอยืนยันว่าๆไม่ใช่ความผิดของนายยงยุทธ แต่เป็นความผิดของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ กับ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี
เมื่อถามว่า เกิดแรงต้านหรือไม่กับการที่รัฐบาลมอบหมายให้นายจตุพร ลงไปรับผิดชอบความมั่นคงชายแดนใต้ นายถาวร กล่าวว่า ยังไม่ได้สำรวจคนในพื้นที่ ตนคิดว่าจะต้องรอให้เข้ามาทำงานในพื้นที่จริงๆก่อน ค่อยมีการสำรวจหรือทำโพล์เพื่อตรวจสอบการทำงานต่อไป
**111เสียบรมต.โลกลืมทำครม.ล้ม
นายเทพไท เสนพงศ์ ส.ส.นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกระแสข่าวปรับครม.ที่จะเอาสมาชิกบ้านเลขที่ 111 เข้ามารับตำแหน่งแทน ว่า น่าจะมีการปรับในช่วงเปิดสมัยประชุมสามัญทั่วไปแล้ว และการที่สมาชิกบ้านเลขที่ 111 เข้ามาแทนที่รมต.โลกลืมจำนวนมากนั้นก็ย่อมสร้างความขัดแย้งในพรรคเพื่อไทยอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้เพราะรมต.ที่จะถูกปรับออกก็ย่อมมีกลุ่ม แก๊งค์ ผู้สนับสนุนของตัวเองคงไม่มีใครยินยอมให้ปรับออกจากตำแหน่งไปอย่างง่ายๆ
โดยเฉพาะตำแหน่งรมว.มหาดไทยที่มีกระแสข่าวว่าจะมีการเปลี่ยนแปลงนั้นส่วนตัวไม่เชื่อว่าใครจะเอานายยงยุทธ วิชัยดิษฐ์ ออกจาตำแหน่งได้เพราะดูจากโครงสร้างพรรคเพื่อไทย นายยงยุทธไม่ใช่สมาชิกธรรมดามีสถานะเป็นถึงหัวหน้าพรรคเป็นผู้เสียสละทำงานให้พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ อย่างถวายหัวมาโดยตลอด และในช่วงเป็นรมว.มหาดไทยก็ไม่ได้สร้างความเสียหายตรงกันข้ามกลับเป็นผู้มีบุคลิกประนีประนอมประสานงานลดแรงเสียดทานทางการเมืองให้กับรัฐบาลมาโดยตลอด ถ้าหากมีการปรับครม.ครั้งใหญ่จริงโดยเอาสมาชิกบ้านเลขที่ 111 มาทั้งแผงก็จะเกิดแรงกระเพื่อมทางการเมืองอย่าหลีกเลี่ยงไม่ได้และเป็นการนับถอยหลังอายุของรัฐบาลชุดนี้
วานนี้ (7 พ.ค.55) คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ หนึ่งในสมาชิกบ้านเลขที่ 111 ในฐานะประธานคณะดำเนินโครงการบูรณะปฏิสังขรณ์สถานที่ประสูติของพระพุทธเจ้า ณ.ลุมพิพีสถาน ประเทศเนปาล ให้สัมภาษณ์ถึงอนาคตทางการเมืองภายหลังอดีตกรรมการบริหารพรรคไทยรักไทยจะพ้นจากการถูกตัดสิทธิ์ทางการเมืองว่า จะไม่ขอรับตำแหน่งใด ๆ ใน ครม. และสมัครใจที่จะขอเว้นวรรคทางการเมืองต่อไปชั่วคราว เพราะปีนี้ตั้งใจว่าจะขอทำงานบูรณะปฏิสังขรณ์สะพานบุญลุมพินีสถาน ประเทศเนปาล เพื่อถวายเป็นพุทธบูชาและถวายเป็นพระราชกุศลแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯและสมเด็จพระนางเจ้าฯพระบรมราชินีนาถ ซึ่งเป็นสถานที่ประสูติของพระพุทธเจ้าให้แล้วเสร็จ
ทั้งนี้ หากมารับหน้าที่ทางการเมืองอาจทำให้งานบุญดังกล่าวถูกบิดเบือน ใส่ร้าย ป้ายสี จากฝ่ายตรงข้ามทำให้งานไม่สำเร็จ อย่างไรก็ตามเรื่องการเมืองคงไม่ทิ้ง เพราะอยู่ในเส้นเลือดแล้ว ทั้งนี้ตนกำลังเขียนหนังสืออาจใช้ชื่อ "5 ปีที่หายไป" หลังปฏิวัติ 9 กันยายน 2549 ออกมาในเร็วๆ นี้เป็นเบื้องหลังของผู้ถูกปฏิวัติเป็นอย่างไร หากทำได้อยากเปิดตัวเดือนหน้าภายหลังบ้านเลขที่ 111พ้นโทษทางการเมือง
นอกจากนั้นอีกเหตุผลหนึ่งตนมองว่าที่ผ่านมาไม่มีโอกาสร่วมในการเลือกตั้งครั้งที่ผ่านมา จึงไม่ควรเอาเปรียบเพื่อนฟ้องน้องพี่ภายในพรรคเพื่อไทยโดยเข้าไปรับตำแหน่งใด ๆ ตนอยู่กับการเมืองมากกว่า 20 ปี เข้าใจ และเห็นใจหัวอกคนที่ลงเลือกตั้ง แต่วันนี้มีข่าวทุกวันว่าคนบ้านเลขที่ 111 จะเข้ามารับตำแหน่ง มายึดโควตา จะปลดคนนั้นปลดคนนี้เพื่อให้คนบ้าน 111 ได้เข้าไปแทน จึงขอให้กำลังคนที่ทำงานทุกคน เพราะ ส.ส. และรัฐมนตรีที่ดำรงตำแหน่งอยู่ก็มีความรู้ ความสามารถ การไปบอกว่าเป็นผู้เล่นแถวสองแถวสามก็จะเป็นการทำร้ายจิตใจมากเกินไป แต่เชื่อว่าคงจะมีคนบ้านเลขที่ 111 เข้าไปบ้าง แต่คงไม่ใช่เข้าไปทั้งหมด น่าจะเป็นการเข้าไปเสริมกันดีกว่า และตนขอเป็นผู้สนับสนุน เพราะรัฐบาลอาจต้องการคนที่เชี่ยวชาญในบ้างเรื่อง
ส่วนกระแสข่าว พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี มีแนวคิดจะปรับโครงสร้างพรรคเพื่อไทยใหม่เพื่อรองรับสมาชิกบ้านเลขที่ 111 นั้น ในหลักการโครงสร้างพรรคเพื่อไทยมีอยู่แล้วและดีอยู่แล้ว มีคณะกรรมการอยู่หลายชุด ถ้าสมาชิกบ้านเลขที่ 111 เข้ามาคงไม่มีการไปปรับโครงสร้างหรือเข้าไปยึดพรรคอะไร คงมีบางคนที่ถนัดด้านไหนก็จะสามารถเข้าไปช่วยได้อย่างเต็มตัว
เมื่อถามว่า มองจุดอ่อนจุดแข็งของรัฐบาลอย่างไร และควรมีการปรับเปลี่ยนอย่างไรหรือไม่ เพราะขณะนี้รัฐบาลโดนโจมตีอย่างหนักในเรื่องปัญหาสินค้าแพง คุณหญิงสุดารัตน์ กล่าวว่า การบริหารงานของรัฐบาลเป็นเรื่องน่าเห็นใจ เพราะเป็นช่วงเวลาหลังมหาอุทกภัยที่กินพื้นที่ 1 ใน 3 ของประเทศ กินพื้นที่อู่ข้าวอู่น้ำ แหล่งผลิตอาหารและการเกษตรของประเทศ ดังนั้นเมื่อสินค้าขาดแคลนก็มีราคาแพง และยังมีการท่วมพื้นที่อุตสาหกรรมทำให้กระทบกับการส่งออกและการผลิตสินค้าเพื่อการอุปโภคบริโภค ราคาสินค้าแพง คงจะแพงในระยะนี้ ตนก็เห็นใจว่ามันเป็นเหตุสุดวิสัยและต้องให้เวลาในการปรับตัว ทั้งนี้นายกรัฐมนตรีและรัฐบาลก็พยายามอย่างยิ่งในการแก้ไขสินค้าราคาแพง
ต่อข้อถามว่า ยังสนใจที่จะลงสมัครชิงตำแหน่งผู้ว่าฯ กทม. หรือไม่ คุณหญิงสุดารัตน์ กล่าวว่า พร้อมจะสนับสนุนหาคนที่มีความรู้ความสามารถมาลงสมัคร เนื่องจากตนอายุมากแล้ว อยากเปิดโอกาสให้คนใหม่บ้าง
**ปูไหว้สื่อ“ไม่ให้ถามปรับครม.”
เวลา 08.00 น. ที่ตลาดสดพิชัย เทศบาลนครปากเกร็ด จังหวัดนนทบุรี นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เดินทางมาลงพื้นที่ตรวจสอบราคาสินค้า พร้อมพบปะพ่อค้าแม่ค้าและประชาชน โดยมีนายวิม รุ่งวัฒนจินดา เลขานุการรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี คณะผู้ติดตามและสื่อมวลชน ร่วมลงพื้นที่ด้วยผู้สื่อข่าวถามนายกฯถึงกระแสปรับครม. ซึ่งนายกฯ ยังคงปฏิเสธที่จะพูดเรื่องการปรับ ครม. โดยกล่าวพร้อมยกมือไหว้ทำทีเป็นขอร้องนักข่าวอย่างอารมณ์ดี ว่า "ทำเรื่องนี้ก่อนเถอะ ตอนนี้ห้ามก่อนนะ เรื่องปรับ ครม. ขอเรื่องอาหาร-ร้านค้าก่อ เดี๋ยวสินค้าไม่ได้ขาย เรื่องปรับ ครม.ขอไว้วันหลัง เดี๋ยวเรื่องราคาสินค้าไม่พาดหัว เราต้องช่วยกันเรื่องสินค้า อุตส่าห์มาเดินตลาดทั้งที"
**พท.สายอีสานหนุนตู่นั่งมท.2
ที่ตลาดสดแม่สมบูรณ์ ต.จอหอ อ.เมือง จ.นครราชสีมา นายแพทย์สุรวิทย์ คนสมบูรณ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข แกนนำพรรคเพื่อไทย สมาชิกพรรคเพื่อไทย จ.ชัยภูมิ กล่าวที่ จ.นครราชสีมา ภายหลังตรวจราคาสินค้าในตลาดสดถึงกระแสการปรับ ครม.ว่า การปรับคณะรัฐมนตรีเป็นอำนาจของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ตนเองก็ไม่ทราบว่า จะมีการปรับมากน้อยอย่างไร แต่ตนเชื่อว่าเป็นปรกติในเรื่องของการปรับคณะรัฐมนตรีเมื่อถึงเวลาอันสมควร ส่วนการจะปรับใครเข้า ใครออกต่างๆนั้น เป็นอำนาจของนายกรัฐมนตรี
ส่วนกรณีชื่อของนายจตุพร พรหมพันธุ์ ส.ส.พรรคเพื่อไทย และเป็นแกนนำ นปช.คนเสื้อแดงที่จะได้ปรับ ครม.มานั่งตำแหน่งรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทยตามที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีเคยรับปากไว้นั้นเรื่องนี้ นพ.สุรวิทย์ กล่าวว่า ตนเองก็คิดว่านายจตุพร พรหมพันธุ์ เป็นบุคคลหนึ่งที่มีความรู้ ความสามารถและเป็นผู้ที่มองเหตุการณ์ต่างๆได้ค่อนข้างกว้างขวาง ความรู้ ความสามารถของเขาเป็นได้
ส่วนที่มีกระแสว่าเพื่อนสมาชิกพรรคเพื่อไทยส่วนหนึ่งออกมาต่อต้านนายจตุพร จะมีปัญหาความแตกแยกในพรรคหรือไม่ นพ.สุรวิทย์ กล่าวเรื่องนี้ว่า ตนยังไม่เห็นมีใครต่อต้านนายจตุพร มีแต่คนรักนายจตุพร อยู่
ส่วนกระแสคนบ้านเลขที่ 111 จะได้โควตาเป็นรัฐมนตรีจะยอมรับได้หรือไม่ นพ.สุรวิทย์ กล่าวว่า คนบ้านเลขที่ 111 เป็นบุคคลที่มีประสบการณ์ เคยเป็นรัฐมนตรี เคยทำงานให้กับบ้านเมืองมามาก เมื่อท่านมีโอกาสที่จะเข้ามาเป็นได้ตนเชื่อว่า จะมีหลายคนเข้ามาร่วมกิจกรรมกับเรา ทั้งในส่วนที่เป็นรัฐมนตรี ทั้งในส่วนที่ทำงานให้กับพรรคของเราเมื่อถูกปลดจากกรณีการเมืองของแต่ละคน ส่วนจะต้องพูดคุยเรื่องตำแหน่งกับ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตรนั้น นพ.สุรวิทย์กล่าวว่า เรื่องนี้คงเป็นเรื่องของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เป็นเรื่องของคณะกรรมการบริหารพรรคเพื่อไทยจะหารือกัน
**ไม่มีทางสลัดภาพตระกูลชินวัตร
ที่พรรคประชาธิปัตย์ นายเทพไท เสนพงศ์ ส.ส.นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีกระแสข่าวพรรคเพื่อไทยจะปรับโครงสร้างพรรคเพื่อก้าวไปสู่การเป็นสถาบันทางการเมือง ว่า เป็นเรื่องที่เป็นไปได้ยาก เพราะพื้นฐานทางการเมืองของพรรคเพื่อไทย ไม่ได้เกิดจากพรรคมวลชนที่แท้จริง แต่เป็นการจัดตั้งพรรครูปแบบทางธุรกิจ เหมือนบริษัทที่มีเจ้าของแต่เพียงผู้เดียว
นายเทพไท กล่าวว่า การจะปรับโครงสร้างพรรคเป็นพรรคมหาชน เพื่อจะสลัดภาพตระกูลชินวัตร และพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้ ถ้าตราบใดคนในพรรคเพื่อไทยยังคงพึ่งพิงกระแส และเงินทุนจากพ.ต.ท.ทักษิณ แต่เพียงผู้เดียว ก็เป็นเรื่องยาก และตราบใดที่ยังไม่มีการแก้ไขรัฐธรรมนูญให้เป็นผลสำเร็จ ที่จะล้มเลิกมาตรา 237 เกี่ยวกับการยุบพรรค สมาชิกพรรคเพื่อไทยระดับแกนนำก็ไม่กล้าเสี่ยงที่จะเข้ามาดำรงตำแหน่งกรรมการบริหารพรรค ก็จะต้องมีนอมินี และกรรมการบริหารพรรคตัวปลอม เข้ามาขับเคลื่อน จึงไม่สามารถทำให้พรรคเพื่อไทยเป็นพรรคสถาบันในอุดมคติ ของคนบางกลุ่มในพรรคเพื่อไทยได้
**'ถาวร'ยินดี'ตู่จ่อนั่งมท.2
ที่พรรคประชาธิปัตย์ นายถาวร เสนเนียม รองเลขาธิการ และ ส.ส.สงขลา พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึง กระแสข่าวนายจตุพร พรหมพันธ์ ส.ส.บัญชีรายชื่อพรรคเพื่อไทยและแกนนำแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) จะได้เข้ามาเป็นรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทยในการปรับคณะรัฐมนตรีว่า ต้องขอแสดงความยินดีกับนายจตุพร ด้วยและขอให้กำลังใจในการทำงาน มีอะไรให้ตนช่วยเหลือก็เข้ามาพูดคุยกันได้
ผู้สื่อข่าวถามถึงความเหมาะสม นายถาวรกล่าวว่า เรื่องนี้จะไปก้าวล่วงการตัดสินใจของใครไม่ได้ ไม่ว่าจะเป็นการตัดสินใจของคนใด พรรคใดก็แล้วแต่ ต้องดูการทำงานของเขาก่อนว่าทำได้ดีหรือไม่ ถ้าไม่ดีค่อยวิจารณ์ ตนเป็นคนมีน้ำใจนักกีฬาอยู่แล้ว แต่ถ้าจะให้วิจารณ์ก็คงต้องวิจารณ์การทำงานของน.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตรนายกรัฐมนตรี มากกว่าเพราะไม่มีจุดยืนการทำงานที่แน่นอน เพราะต้องเห็นใจคนที่ทำหน้าที่ ตรงที่ว่าเข้ามาทำงานไม่เท่าไหร่ก็ถูกปรับออก
**ชี้ทำงานไม่ดีค่อยวิจารณ์
ต่อข้อถามถึงกระแสข่าวออกมาว่าการเข้ามารับตำแหน่งของนายจตุพร ในครั้งนี้เพื่อให้เข้าไปช่วยตอบกระทู้ถามสดเรื่องปัญหาชายแดนใต้ในสภาฯเพราะนายยงยุทธ วิชัยดิษฐ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยเป็นคนพูดไม่เก่ง นายถาวร กล่าวว่า พูดเก่งหรือไม่ไม่ใช่ประเด็นแต่ประเด็นอยู่ที่ว่าทำงานเก่งหรือไม่ เพราะการทำหน้าที่ในสภาไม่ใช่การโต้วาที จะใครเข้ามาตอบก็แล้วแต่ถ้าไม่ทำงานจริงๆก็คงจะตอบคำถามไม่ได้ ซึ่ง น.ส.ยิ่งลักษณ์ เป็นผู้อำนวยการศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนใต้ (ผอ..ศอบต.) เป็นผู้อำนวยการกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร ผอ.กอ.รมน.เป็นประธานบอร์ดสภาความมั่นคงแห่งชาติ( สมช.) ถ้าตัวนายกฯ เองไม่ทำงานแล้วให้คนอื่นไปตอบคำถามแทนในสภา แล้วใครจะตอบแทนได้ ตนขอยืนยันว่าๆไม่ใช่ความผิดของนายยงยุทธ แต่เป็นความผิดของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ กับ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี
เมื่อถามว่า เกิดแรงต้านหรือไม่กับการที่รัฐบาลมอบหมายให้นายจตุพร ลงไปรับผิดชอบความมั่นคงชายแดนใต้ นายถาวร กล่าวว่า ยังไม่ได้สำรวจคนในพื้นที่ ตนคิดว่าจะต้องรอให้เข้ามาทำงานในพื้นที่จริงๆก่อน ค่อยมีการสำรวจหรือทำโพล์เพื่อตรวจสอบการทำงานต่อไป
**111เสียบรมต.โลกลืมทำครม.ล้ม
นายเทพไท เสนพงศ์ ส.ส.นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกระแสข่าวปรับครม.ที่จะเอาสมาชิกบ้านเลขที่ 111 เข้ามารับตำแหน่งแทน ว่า น่าจะมีการปรับในช่วงเปิดสมัยประชุมสามัญทั่วไปแล้ว และการที่สมาชิกบ้านเลขที่ 111 เข้ามาแทนที่รมต.โลกลืมจำนวนมากนั้นก็ย่อมสร้างความขัดแย้งในพรรคเพื่อไทยอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้เพราะรมต.ที่จะถูกปรับออกก็ย่อมมีกลุ่ม แก๊งค์ ผู้สนับสนุนของตัวเองคงไม่มีใครยินยอมให้ปรับออกจากตำแหน่งไปอย่างง่ายๆ
โดยเฉพาะตำแหน่งรมว.มหาดไทยที่มีกระแสข่าวว่าจะมีการเปลี่ยนแปลงนั้นส่วนตัวไม่เชื่อว่าใครจะเอานายยงยุทธ วิชัยดิษฐ์ ออกจาตำแหน่งได้เพราะดูจากโครงสร้างพรรคเพื่อไทย นายยงยุทธไม่ใช่สมาชิกธรรมดามีสถานะเป็นถึงหัวหน้าพรรคเป็นผู้เสียสละทำงานให้พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ อย่างถวายหัวมาโดยตลอด และในช่วงเป็นรมว.มหาดไทยก็ไม่ได้สร้างความเสียหายตรงกันข้ามกลับเป็นผู้มีบุคลิกประนีประนอมประสานงานลดแรงเสียดทานทางการเมืองให้กับรัฐบาลมาโดยตลอด ถ้าหากมีการปรับครม.ครั้งใหญ่จริงโดยเอาสมาชิกบ้านเลขที่ 111 มาทั้งแผงก็จะเกิดแรงกระเพื่อมทางการเมืองอย่าหลีกเลี่ยงไม่ได้และเป็นการนับถอยหลังอายุของรัฐบาลชุดนี้
