ASTVผู้จัดการรายวัน-ข้าวถุงไทยกระอัก ผู้ส่งออกทยอยปิดกิจการเหตุนโยบายรัฐ ซ้ำร้ายกลาง พ.ค.นี้ โมเดิร์นเทรดใหญ่เทสโก้โลตัสจ่อขึ้นค่าโลจิสติกส์ อีก 15% เผยยังดีข้าวหอมมะลิได้ปรับขึ้นอีก 10 บาทต่อ ถุงเดือนนี้
นายสมเกียรติ มรรคยาธร นายกสมาคมผู้ประกอบการข้าวถุงไทย เปิดเผยว่า สถานการณ์ของผู้ประกอบการข้าวถุงของไทยขณะนี้ พบว่า ผู้ส่งออกข้าวของไทยหลายรายได้รับผลกระทบ จากนโยบายรับจำนำข้าวของรัฐบาลอย่างมาก เพราะ ทราบมาว่า มีผู้ส่งออกข้าวบางราย ต้องปิดกิจการ ไปแล้วประมาณ 5-6 ราย เพราะไม่สามารถส่งออก ข้าวไปตลาดต่างประเทศได้ตามปกติ ซึ่งสมาคมผู้ส่ง ออกข้าวไทยน่าจะมีตัวเลขที่ชัดเจน
“ต้องการให้ทางภาครัฐรับรู้ว่า การบิดเบือนกลไกตลาด และโครงสร้างราคาที่ไม่เป็นธรรมของราคาข้าว เป็น สถานการณ์ที่ไม่ปกติและอาจจะส่งผลกระทบต่อทั้งตลาดได้”
นอกจากนั้นผู้ประกอบการข้าวถุงของไทยในขณะนี้กำลังได้รับผลกระทบจากกรณีที่มีกระแสว่า ในวันที่ 15 พฤษภาคมนี้ ห้างค้าปลีกบางราย (ห้าง เทสโก้ โลตัส) เตรียมที่จะปรับค่าขนส่งสินค้าขึ้น (โลจิสติกส์) หรือค่า กระจายสินค้าอีกไม่ตำกว่า 10-15% โดยอ้าง เหตุผลว่าต้น ทุนค่าขนส่งจากราคาน้ำมันที่เพิ่มขึ้นมาก ซึ่งหากปรับ
ขึ้นจริงแล้วก็จะยิ่งเพิ่มต้นทนให้กับผู้ประกอบการอีก อย่างไรก็ตามขณะนี้ผู้ประกอบการข้าวถุงอยู่ระหว่างเจรจากับห้างค้าปลีกในเรื่องดังกล่าว
นายสมเกียรติกล่าวต่อว่า ล่าสุดในเดือนพฤษภาคมนี้ ราคาข้าวถุงไทยคือ ข้าวหอมมะลิ ขนาดบรรจุ 5 กิโลกรัม มีโอกาสปรับราคาขายประมาณ 10 บาทต่อถุง ซึ่งเป็น การปรับราคาตามกลไกตลาด และต้นทุนการผลิตสินค้า ที่สูงขึ้น รวมไปถึงปริมาณข้าวในท้องตลาดที่มีน้อยลง จากนโยบายรับจำนำของภาครัฐบาล
“ราคาข้าวถุงหอมมะลิที่ปรับขึ้นครั้งนี้ยังอยู่ในเพดานราคาควบคุมของกระทรวงพาณิชย์ ที่กำหนดราคาเพดานไว้ที่ 250 บาทในขนาดบรรจุ 5 กิโลกรัมต่อถุง แต่ว่าราคาจะปรับขึ้นถึง ราคาเพดานของกระทรวง ยังไม่รู้ เพราะวายังมีอีกหลายปัจจัยที่กระทบต่อการ พิจารณาต้นุทนในอนาคต ซึ่งในปี 2551 ราคาข้าวหอมมะลิ เคยปรับราคาขึ้นสูงสุดเท่ากับราคา ควบคุมแล้ว”
ส่วนราคาข้าวขาว ยังไม่มีโอกาสที่จะปรับราคาสินค้าขึ้น เพราะสถานการณ์ยังปกติ โดยราคาควบคุมอยู่ที่ 180 บาท ขนาดบรรจุ 5 กิโลกรัม.
นายสมเกียรติ มรรคยาธร นายกสมาคมผู้ประกอบการข้าวถุงไทย เปิดเผยว่า สถานการณ์ของผู้ประกอบการข้าวถุงของไทยขณะนี้ พบว่า ผู้ส่งออกข้าวของไทยหลายรายได้รับผลกระทบ จากนโยบายรับจำนำข้าวของรัฐบาลอย่างมาก เพราะ ทราบมาว่า มีผู้ส่งออกข้าวบางราย ต้องปิดกิจการ ไปแล้วประมาณ 5-6 ราย เพราะไม่สามารถส่งออก ข้าวไปตลาดต่างประเทศได้ตามปกติ ซึ่งสมาคมผู้ส่ง ออกข้าวไทยน่าจะมีตัวเลขที่ชัดเจน
“ต้องการให้ทางภาครัฐรับรู้ว่า การบิดเบือนกลไกตลาด และโครงสร้างราคาที่ไม่เป็นธรรมของราคาข้าว เป็น สถานการณ์ที่ไม่ปกติและอาจจะส่งผลกระทบต่อทั้งตลาดได้”
นอกจากนั้นผู้ประกอบการข้าวถุงของไทยในขณะนี้กำลังได้รับผลกระทบจากกรณีที่มีกระแสว่า ในวันที่ 15 พฤษภาคมนี้ ห้างค้าปลีกบางราย (ห้าง เทสโก้ โลตัส) เตรียมที่จะปรับค่าขนส่งสินค้าขึ้น (โลจิสติกส์) หรือค่า กระจายสินค้าอีกไม่ตำกว่า 10-15% โดยอ้าง เหตุผลว่าต้น ทุนค่าขนส่งจากราคาน้ำมันที่เพิ่มขึ้นมาก ซึ่งหากปรับ
ขึ้นจริงแล้วก็จะยิ่งเพิ่มต้นทนให้กับผู้ประกอบการอีก อย่างไรก็ตามขณะนี้ผู้ประกอบการข้าวถุงอยู่ระหว่างเจรจากับห้างค้าปลีกในเรื่องดังกล่าว
นายสมเกียรติกล่าวต่อว่า ล่าสุดในเดือนพฤษภาคมนี้ ราคาข้าวถุงไทยคือ ข้าวหอมมะลิ ขนาดบรรจุ 5 กิโลกรัม มีโอกาสปรับราคาขายประมาณ 10 บาทต่อถุง ซึ่งเป็น การปรับราคาตามกลไกตลาด และต้นทุนการผลิตสินค้า ที่สูงขึ้น รวมไปถึงปริมาณข้าวในท้องตลาดที่มีน้อยลง จากนโยบายรับจำนำของภาครัฐบาล
“ราคาข้าวถุงหอมมะลิที่ปรับขึ้นครั้งนี้ยังอยู่ในเพดานราคาควบคุมของกระทรวงพาณิชย์ ที่กำหนดราคาเพดานไว้ที่ 250 บาทในขนาดบรรจุ 5 กิโลกรัมต่อถุง แต่ว่าราคาจะปรับขึ้นถึง ราคาเพดานของกระทรวง ยังไม่รู้ เพราะวายังมีอีกหลายปัจจัยที่กระทบต่อการ พิจารณาต้นุทนในอนาคต ซึ่งในปี 2551 ราคาข้าวหอมมะลิ เคยปรับราคาขึ้นสูงสุดเท่ากับราคา ควบคุมแล้ว”
ส่วนราคาข้าวขาว ยังไม่มีโอกาสที่จะปรับราคาสินค้าขึ้น เพราะสถานการณ์ยังปกติ โดยราคาควบคุมอยู่ที่ 180 บาท ขนาดบรรจุ 5 กิโลกรัม.