อำมาตย์-ไพร่แดง..ศึกที่“ปรองดอง”กันไม่ได้!

สอดแนมการเมือง
โดย : ชัชวาลย์ ชาติสุทธิชัย

วันที่ 27 เมษายน 2555 กลางดึกบนทางด่วนโทลเวย์

รถ“ปอร์เช่”ขับด้วยความเร็วสูง ได้พุ่งเข้าชนท้ายรถ“ฟอร์จูนเนอร์”อย่างแรง จนคนขับรถที่พรรคพวกผมรู้จัก..เสียชีวิตทั้งคู่

หนึ่ง-เป็นเศรษฐีพันล้าน นายไทยฟ้า ชยวรประภา เจ้าของ“บัดดี้กรุ๊ป”ที่ทำธุรกิจโรงแรมดัง ในแหล่งท่องเที่ยวนามกระฉ่อน..ตรอกข้าวสาร

สอง-เป็นนายทหารหนุ่มอนาคตไกล พ.ต.ศักดิภัทร ปทุมารักษ์ ทายาทนักการเมืองอดีตรมช.กระทรวงเกษตรฯ นายชาญชัย ปทุมารักษ์ ที่เพิ่งลาจากโลกไปในห้วงสงกรานต์นี้เอง

ทั้งคู่ตายทันทีโดยไม่รู้ตัว..ด้วยความเร็วของรถพอร์ช ที่เข็มไมล์ยังค้างเติ่งอยู่ที่ 280 กม./ชม.!

นับเป็นข่าวร้ายที่เตือนสติให้นึกถึง “รถการเมืองไทย”ที่“แม้ว”กะ“ปู”เป็น“โชเฟอร์” ขับตะบึงบนถนนการเมืองอย่างไร้สติในยามนี้

ที่สำคัญ“รถการเมือง”คันนี้ กำลังวิ่งเข้าสู่“โค้งหักข้อศอก” ที่จะพลาดไม่ได้โดยเด็ดขาด เพราะเคยมี“รถการเมือง”แหกโค้งตกเหวตายมาแล้ว!

ส่วน“รถการเมืองปัจจุบัน”จะพุ่งออกจากถนน พลิกคว่ำพังแหลกทั้งคัน จนคนในรถฯตายเรียบหรือตายบางส่วน หรือรอดปลอดภัยราวปาฏิหารย์ ฯลฯ

นั่นต้องรอให้“เอเอสทีวี”รายงานสดให้ทราบกันอีกทีครับ

อย่างไรก็ตาม..ชาวโลกที่ติดตามดู“รถการเมืองไทย”คันนี้ ก็ต้องระทึกใจอยู่ตลอดเวลา เพราะรถฯที่ขนอันธพาลแดง และผู้โดยสารมากมาย รวมทั้งยังมีกลุ่ม“อำมาตย์”อดีต“โชเฟอร์”นั่งอยู่ด้วย

กำลังวิ่งด้วยความเร็วสูงเกินกฏหมายกำหนด รถฯ ก็ส่ายไปมาอย่างน่ากลัว!

เมื่อส่องกล้องเข้าไปดูภายใน“รถการเมืองไทย” ก็เห็นสิ่งไม่ถูกต้องมากมาย ที่สำคัญ..ปกติ“รถการเมือง”ทั่วโลก จะมี“คนขับรถฯ”เพียงคนเดียว คอยบังคับรถฯให้แล่นสู่จุดหมายปลายทาง

แต่“รถการเมืองไทย”ปัจจุบันนี้..ดันมี“คนขับรถฯ”ถึง 2 คน!

หนึ่ง-เป็นหญิง-หน้าตาดี-แต่สมองกลวง เธอมี“ใบขับขี่”ตามกฏหมายไทย แต่เธอไม่เคยขับ“รถการเมือง”มาก่อนเลย แถมไม่เคยรู้-ไม่เคยสนใจ เส้นทางที่“รถการเมือง”ทุกคันในโลก จะต้องนำพาผู้โดยสารสู่ปลายทางที่ต้องไป..นั่นคือ..

“รถการเมืองทุกคันในโลก”จะต้องแล่นตรงดิ่ง ไปยังถนนสายชาติเจริญและประชาชนกินดีอยู่ดี!

ทว่า..การณ์กลับมี“แม้ว” โมฆะบุรุษที่ทำผิดกฏหมายบ้านเมือง จนกลายเป็นนักโทษหนีคุกในปัจจุบัน แถมยังไร้“ใบขับขี่รถฯ”ทั้งในประเทศและสากล มาข้องเกี่ยวกับ“รถการเมืองไทย”คันนี้ด้วย

โดย“แม้ว”ได้ใช้เงินทองและอันธพาลรับจ้างแดง เข้ายึด“รถการเมือง”คันนี้ จากกลุ่มอำมาตย์หรือ“โชเฟอร์มาร์ค”

ดังนั้น “แม้ว”จึงมีฐานะเป็น“โชเฟอร์รถฯตัวจริง” ที่มีอำนาจสั่ง“ปู-โชเฟอร์หุ่น”ให้หันพวงมาลัย ขับรถฯ ไปยังเป้าหมายที่“แม้ว”ต้องการแบบ 100% เต็ม

เมื่อเป็นเช่นนี้..แทนที่“โชเฟอร์ปู”จะขับรถฯตรงไปยัง ถนนสายชาติเจริญ-ประชาชนกินดีอยู่ดี “ปู”กลับขับรถฯ มุ่งหน้าไปทำ“ธุระด่วนส่วนตัว”ให้“แม้ว” โดยไม่แยแสผู้โดยสารส่วนใหญ่ ที่เป็นเจ้าของ“รถการเมืองไทย”ตัวจริงเสียงจริงแม้แต่น้อย

แถมระหว่างทาง“โชเฟอร์ปู”ยังปล่อยให้แดงล้มเจ้า รุมผลักกลุ่ม“อำมาตย์”ให้ตกจากรถฯอยู่ตลอดเวลา พฤติกรรมดังกล่าวของ“โชเฟอร์ปู” จึงไม่ต่างไปจากยุค“โชเฟอร์แม้ว”เลย

แต่การถีบ“อำมาตย์”ให้ตกจากรถฯ ก็ยังทำไม่สำเร็จตามอำเภอใจ“แม้ว” เพราะผู้คนในรถฯส่วนใหญ่ และแม้วเกรงผู้ดูแลความมั่นคงปลอดภัย“รถการเมือง” ซึ่งมีอาวุธอยู่ในมือพร้อมสรรพจะลุกฮือ “แม้ว-ปู”เลยต้องออกมาลวงหลอกว่า

“อำมาตย์-ไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง กับการบังคับ“รถการเมือง” อีกทั้ง..โชเฟอร์ปู-แม้ว ก็ไม่เคยโกรธแค้นอำมาตย์เลย แถม..รักอำมาตย์ปานจะกลืนกินอีกด้วย..ฮ่าฮ่า..”

ทั้งๆที่“โชเฟอร์แม้ว”เคยด่าทอ“อำมาตย์”มาตลอด แถมยังเคยยกพวกเผาเมือง-ปล้นเมือง ถึงขนาดฆ่าผู้คนในรถฯ และผู้ปกป้องความปลอดภัยรถฯ ในห้วงที่ “แม้ว”ยังไม่ได้เป็น“โชเฟอร์รถฯ”อีกด้วย

เมื่อแม้วยึด“รถการเมือง”จาก“มาร์ค”ได้เแล้ว แม้วจึงเปลี่ยนจากการเป็น“ปีศาจ” กลายมาเป็น“นักบุญจอมปลอม” ตะโกนหาแต่สันติและการ“ปรองดองจอมปลอม”บังหน้าขึ้นมาทันที!

ทันทีที่“โชเฟอร์แม้ว-ปู”นำ“รถการเมือง” แล่นออกนอกเส้นทางสู่จุดหมายที่ควรไปโดยพละการ ผู้คนในรถฯส่วนใหญ่จึงช่วยกันห้ามและตะโกนคัดค้าน แต่“โชเฟอร์แม้ว-ปู”ไม่ฟังเสียง..กลับเหยียบคันเร่ง จนรถฯทวีความเร็วอย่างน่ากลัว

นั่นคือ สภาพ“รถการเมืองไทย”คันปัจจุบัน ที่ชาวโลกกำลังจับตาดูอย่างไม่กะพริบตาว่า จะวิ่งสู่เป้าหมายถนนสาย“รัฐไทยใหม่” โดยสวัสดิภาพครบถ้วน 100 % หรือจะห้อตกเหวตาม“รถการเมือง”คันอื่นๆ ที่ตัว“โชเฟอร์แม้ว”เองนั่นแหละ ก็เคยขับรถฯตกเหวมาแล้ว เมื่อวันที่ 19 กันยายน 2549

ดังนั้น จึงไม่มีผู้โดยสารหน้าโง่ กับเหล่าอำมาตย์ที่เคยขับรถฯ อีกทั้งรู้เส้นทางถนนสายการเมืองจนปรุโปร่ง ปล่อยให้“รถการเมือง”ที่ขับโดยโชเฟอร์หญิงสมองเอ๋อ กับโชเฟอร์ชาย “จอมโกง”อย่าง“แม้ว”กะ“ปู” ขับพาไปลงเหวหรือท่องนรกแน่นอน..จริงไหม?

ห้วงนี้..การต่อสู้ระหว่างรัฐบาลไพร่แดง“แม้ว-ปู” กับฝ่าย“อำมาตย์”จึงอยู่ในสภาวะแหลมคม ชนิดต่างฝ่ายต่าง“แพ้”กันไม่ได้โดยเด็ดขาด

ในรัฐสภานั้น..อำมาตย์ที่เป็นฝ่ายค้านวันนี้ ทำได้แค่จีบปากจีบคอพูดไปวันๆเท่านั้นเอง แต่ไร้น้ำยา..เพราะจะแพ้ซ้ำซากกับพวกมากลากไป หรือเผด็จการรัฐสภาทุกครั้งครา

ใครที่หลงคารมว่า..พรรคอำมาตย์ที่ดีแต่พูด แต่บริหารชาติแบบเหยาะแหยะ จะยับยั้งหรือเอาชนะพลังความชั่ว“แม้ว-ปู”ได้นั้น..เชิญฝันไปอีกสิบชาติ!

หาก“แม้ว-ปู”แก้รัฐธรรมนูญใหม่ จนคุมศาลและกองทัพได้เมื่อไหร่ วันนั้นแหละจะเป็นวันที่“แม้ว”ชนะศึกฝ่าย“อำมาตย์”ได้อย่างเบ็ดเสร็จเด็ดขาด

เมื่อ“อำมาตย์แพ้ราบคาบ”รัฐไทยเก่าจะง่อนแง่นจนล้มครืนลง พวก“ไพร่แดง”จะขึ้นเป็น“อำมาตย์ยุคใหม่”แม้วกับไพร่แดงจะเร่งสร้างรัฐไทยใหม่ ที่แดงกันทั้งแผ่นดินไทยโดยพลัน

ทว่าหากรัฐบาล“ไพร่แดงแพ้ราบคาบ” มิใช่แพ้แบบชั่วคราวดั่งครา“แม้ว”เผาเมือง และก่อการร้ายฆ่าทหารกับประชาชน หากแต่แพ้เพราะโดนถอนรากถอนโคน อีกทั้งการเมืองมีการปฏิรูปครั้งใหญ่ในทุกมิติ

นั่นหมายถึง..แม้วผู้ชั่วร้าย..จะต้องตายนอกแผ่นดินไทยอย่างแน่นอน!

ด้วยกองทัพแดงและนักการเมืองชั่วของแม้ว ไม่อาจยึดอำนาจรัฐด้วยเงินและการโกงได้อีกต่อไป รวมทั้งอิทธิพลของนักการเมืองขี้โกง ทั้งระบบในประเทศนี้ได้ยุติลงโดยสิ้นเชิงนั่นเอง

ตอนนี้..แม้วจึงต้องงัดสารพัดกลยุทธ ออกมาสู้กับ“อำมาตย์”อย่างเต็มที่ ทั้งลับและเปิดเผย ทั้งไม้อ่อนและไม้แข็ง ทั้งไม้อ้อนและไม้โกหกตอแหล เล่นเอาคนไม่รู้การเมืองงงกับภาพ อำมาตย์กับไพร่แดง“จูบปาก”กันอย่างโจ๋งครึ่ม

ทว่า..เนื้อแท้ความขัดแย้งทางการเมือง ยังคงดำรงอยู่และพัฒนาโดยไม่มีการเปลี่ยนแปลง ด้วยแดงล้มเจ้าที่มีแม้ว-ปูหนุนหลัง ยังคงเดินหน้าโค่นล้มอำมาตย์ดังเดิม นั่นเป็นสิ่งที่“อำมาตย์-แม้ว”รู้ดี!

ในขณะเดียวกัน..แม้วกับแดงทั้งหลาย ก็ไม่เคยไว้ใจ“อำมาตย์”กับทหารที่เคยล้มรัฐบาลแม้วมาแล้ว จึงมีการเตรียมกำลังไว้ปกป้องรัฐบาล“แม้วแดง” ผสานไปกับขบวนการแดงล้มเจ้า ยังคงบ่อนทำลายความมั่นคงสถาบันฯ อย่างต่อเนื่อง

อำมาตย์กับไพร่แดง..จึงยังคงทำศึก ที่“ปรองดอง”กันไม่ได้ต่อไป จนกว่าฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งจะคว้าชัยชนะ!

แต่แม้วกับกลุ่มแดงล้มเจ้ากำลังเหิมเกริม เพราะเชื่อว่ารัฐไทยเก่าของอำมาตย์กำลังจะล้มลงแล้ว เพราะทหารใหญ่บางคนวางเฉย ด้วยการ“เอาหูไปนาเอาตาไปไร่” ดังนั้น หากแดงล้มเจ้ายังบ่อนเซาะสถาบันฯ ไปเรื่อยๆ “อำมาตย์”ก็จะพ่ายแพ้ในไม่ช้านี้อย่างแน่นอน

ส่วน“รัฐไทยใหม่”ของแม้วนั้น..กำลังอยู่ในห้วง“พระอาทิตย์”ขึ้น

ตอนนี้..ท่าน“ผู้นำหน้าเหลี่ยม”กำลังเลือกว่า จะเป็น“สมเด็จฯ โกงจนชิน” หรือเป็น“ประธาธิปดีโกงทั้งโคตร”แห่งรัฐไทยใหม่ดีหว่า?

ตรงนี้..มิใช่เรื่อง“ช่างแม่มัน”แต่เป็นเรื่อง“ช่างแม่แม้ว”ว่ะ..ฮ่าฮ่าฮ่า...