ASTVผู้จัดการรายวัน-พันธมิตรฯ ยื่น “อสส.-กกต.-ปปช.” เอาผิด ส.ส. ส.ว. และรัฐมนตรี รวม 416 คน มีส่วนล้มล้างรัฐธรรมนูญปี 50 ฐานกระทำความผิดต่อหน้าที่ และประพฤติมิชอบ เขียนรัฐธรรมนูญใหม่เพื่อประโยชน์ของตัวเอง พร้อมขอให้ อสส. ส่งศาลรัฐธรรมนูญสั่งชำเรารัฐธรรมนูญ และเพิกถอนสิทธิเลือกตั้ง
ผู้สื่อข่าวรายงานจากศูนย์ราชการเฉลิมพระเกียรติแจ้งวัฒนะ อาคาร เอ ซึ่งเป็นที่ตั้งของสำนักงานอัยการสูงสุดว่า เมื่อเวลา 09.00 น. วานนี้ (26 เม.ย.) พล.ต.จำลอง ศรีเมือง พร้อมด้วยนายพิภพ ธงไชย นายปานเทพ พัวพงศ์พันธุ์ นายศรัณยู วงศ์กระจ่าง แกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย (พธม.) พร้อมด้วยกลุ่มพันธมิตรรวมตัวกันเพื่อยื่นหนังสือคัดค้านการแก้ไขรัฐธรรมนูญ โดยจะยื่นต่ออัยการสูงสุด คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) และสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) เพื่อเอาผิดส.ส.และส.ว. 416 คน ที่สนับสนุนลงมติสนับสนุนการแก้ไขรัฐธรรมนูญ
ในการยื่นหนังสือดังกล่าว ได้ยื่นให้อัยการสูงสุด ผ่านนายวินัย ดำรงค์มงคลกุล อธิบดีกรมอัยการคดีพิเศษ ซึ่งเป็นตัวแทนรับหนังสือ โดยได้ขอให้อัยการร้องต่อศาลรัฐธรรมนูญ เพื่อขอให้ศาลฯ สั่งหยุดการกระทำ คือ การดำเนินการแก้ไขรัฐธรรมนูญที่กลุ่มพันธมิตร เห็นว่า การแก้ไขรัฐธรรมนูญควรแก้ไขเป็นรายมาตรา ไม่ใช่กระทำดังเช่นสมาชิกรัฐสภาดำเนินการอยู่ ซึ่งถือเป็นการฉีกรัฐธรรมนูญ 50 ที่ผ่านความเห็นชอบของประชาชน เป็นการแก้ไขรัฐธรรมนูญโดยไม่ผ่านความเห็นชอบของประชาชน การกระทำดังกล่าว ถือเป็นการล้มล้างรัฐธรรมนูญ รวมทั้งขอให้ศาลรัฐธรรมนูญมีคำสั่งเพิกถอนสิทธิเลือกตั้งส.ส.และส.ว.ที่ลงมติดังกล่าว
จากนั้นแกนนำพันธมิตรได้นำกลุ่มผู้ชุมนุมเดินทางมายังสำนักงาน กกต. ที่ตั้งอยู่ที่ศูนย์ราชการ อาคาร บี เพื่อขอให้กกต. เอาผิดนักการเมือง และพรรคการเมือง โดยขอให้ กกต. พิจารณายุบพรรคการเมือง และเพิกถอนสิทธิเลือกตั้ง ส.ส.และ ส.ว.จำนวน 416 คน โดยการยื่นหนังสือให้ กกต. นั้น มีนายอิสระ เสียงเพราะดี ผู้อำนวยการสำนักเลขานุการคณะกรรมการการเลือกตั้ง เป็นผู้รับหนังสือ
สำหรับการรวมตัวของกลุ่มพันธมิตรฯ ที่สำนักงานอัยการสูงสุด และที่สำนักงานกกต. เป็นไปด้วยความเรียบร้อย ท่ามกลางการดูแลรักษาความปลอดภัยของเจ้าหน้าที่ตำรวจทั้งในและนอกเครื่องแบบ รวมทั้งเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยของศูนย์ราชการ ทั้งนี้ จะพบว่ากลุ่มผู้ชุมนุมของพันธมิตรที่ส่วนใหญ่เป็นกลุ่มที่เคยร่วมชุมนุมในอดีต โดยส่วนหนึ่งเป็นพันธมิตรที่อยู่ในพื้นที่กทม. และบางส่วนเดินทางมาจากจังหวัดต่างๆ
จากนั้น เวลา 10.15 น. กลุ่มพันธมิตรได้ขึ้นรถยนต์ที่จัดเตรียมไว้เดินทางจากศูนย์ราชการไปยังสำนักงาน ป.ป.ช. สนามบินน้ำ เพื่อยื่นเรื่องต่อคณะกรรมการ ป.ป.ช. ตามมาตรา 275 ของรัฐธรรมนูญ กรณีแก้ไขรัฐธรรมนูญ เป็นการล้มล้างระบอบประชาธิปไตยอันพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข และมาตรา 157 ฐานะละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ที่แก้ไขรัฐธรรมนูญโดยไม่ผ่านความเห็นชอบจากประชาชน รวมถึงมาตรา 113 ของกฎหมายอาญาที่มีโทษถึงขั้นประหารชีวิต ซึ่งการยื่นต่อป.ป.ช.ครั้งนี้ ได้ของให้ป.ป.ช. ส่งเรื่องต่อศาลฎีกาแผนกคดีอาญาผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง เพื่อเอาผิดกับนักการเมืองทั้ง 416 คน โดยมีนายวิทยา อาคมพิทักษ์ ผู้ช่วยเลขาธิการ ป.ป.ช. มารับเรื่อง
ผู้สื่อข่าวรายงานจากศูนย์ราชการเฉลิมพระเกียรติแจ้งวัฒนะ อาคาร เอ ซึ่งเป็นที่ตั้งของสำนักงานอัยการสูงสุดว่า เมื่อเวลา 09.00 น. วานนี้ (26 เม.ย.) พล.ต.จำลอง ศรีเมือง พร้อมด้วยนายพิภพ ธงไชย นายปานเทพ พัวพงศ์พันธุ์ นายศรัณยู วงศ์กระจ่าง แกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย (พธม.) พร้อมด้วยกลุ่มพันธมิตรรวมตัวกันเพื่อยื่นหนังสือคัดค้านการแก้ไขรัฐธรรมนูญ โดยจะยื่นต่ออัยการสูงสุด คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) และสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) เพื่อเอาผิดส.ส.และส.ว. 416 คน ที่สนับสนุนลงมติสนับสนุนการแก้ไขรัฐธรรมนูญ
ในการยื่นหนังสือดังกล่าว ได้ยื่นให้อัยการสูงสุด ผ่านนายวินัย ดำรงค์มงคลกุล อธิบดีกรมอัยการคดีพิเศษ ซึ่งเป็นตัวแทนรับหนังสือ โดยได้ขอให้อัยการร้องต่อศาลรัฐธรรมนูญ เพื่อขอให้ศาลฯ สั่งหยุดการกระทำ คือ การดำเนินการแก้ไขรัฐธรรมนูญที่กลุ่มพันธมิตร เห็นว่า การแก้ไขรัฐธรรมนูญควรแก้ไขเป็นรายมาตรา ไม่ใช่กระทำดังเช่นสมาชิกรัฐสภาดำเนินการอยู่ ซึ่งถือเป็นการฉีกรัฐธรรมนูญ 50 ที่ผ่านความเห็นชอบของประชาชน เป็นการแก้ไขรัฐธรรมนูญโดยไม่ผ่านความเห็นชอบของประชาชน การกระทำดังกล่าว ถือเป็นการล้มล้างรัฐธรรมนูญ รวมทั้งขอให้ศาลรัฐธรรมนูญมีคำสั่งเพิกถอนสิทธิเลือกตั้งส.ส.และส.ว.ที่ลงมติดังกล่าว
จากนั้นแกนนำพันธมิตรได้นำกลุ่มผู้ชุมนุมเดินทางมายังสำนักงาน กกต. ที่ตั้งอยู่ที่ศูนย์ราชการ อาคาร บี เพื่อขอให้กกต. เอาผิดนักการเมือง และพรรคการเมือง โดยขอให้ กกต. พิจารณายุบพรรคการเมือง และเพิกถอนสิทธิเลือกตั้ง ส.ส.และ ส.ว.จำนวน 416 คน โดยการยื่นหนังสือให้ กกต. นั้น มีนายอิสระ เสียงเพราะดี ผู้อำนวยการสำนักเลขานุการคณะกรรมการการเลือกตั้ง เป็นผู้รับหนังสือ
สำหรับการรวมตัวของกลุ่มพันธมิตรฯ ที่สำนักงานอัยการสูงสุด และที่สำนักงานกกต. เป็นไปด้วยความเรียบร้อย ท่ามกลางการดูแลรักษาความปลอดภัยของเจ้าหน้าที่ตำรวจทั้งในและนอกเครื่องแบบ รวมทั้งเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยของศูนย์ราชการ ทั้งนี้ จะพบว่ากลุ่มผู้ชุมนุมของพันธมิตรที่ส่วนใหญ่เป็นกลุ่มที่เคยร่วมชุมนุมในอดีต โดยส่วนหนึ่งเป็นพันธมิตรที่อยู่ในพื้นที่กทม. และบางส่วนเดินทางมาจากจังหวัดต่างๆ
จากนั้น เวลา 10.15 น. กลุ่มพันธมิตรได้ขึ้นรถยนต์ที่จัดเตรียมไว้เดินทางจากศูนย์ราชการไปยังสำนักงาน ป.ป.ช. สนามบินน้ำ เพื่อยื่นเรื่องต่อคณะกรรมการ ป.ป.ช. ตามมาตรา 275 ของรัฐธรรมนูญ กรณีแก้ไขรัฐธรรมนูญ เป็นการล้มล้างระบอบประชาธิปไตยอันพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข และมาตรา 157 ฐานะละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ที่แก้ไขรัฐธรรมนูญโดยไม่ผ่านความเห็นชอบจากประชาชน รวมถึงมาตรา 113 ของกฎหมายอาญาที่มีโทษถึงขั้นประหารชีวิต ซึ่งการยื่นต่อป.ป.ช.ครั้งนี้ ได้ของให้ป.ป.ช. ส่งเรื่องต่อศาลฎีกาแผนกคดีอาญาผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง เพื่อเอาผิดกับนักการเมืองทั้ง 416 คน โดยมีนายวิทยา อาคมพิทักษ์ ผู้ช่วยเลขาธิการ ป.ป.ช. มารับเรื่อง