ASTVผู้จัดการรายวัน-ปชป. จัดหนัก เตรียมยื่นถอดถอนส.ส.กดบัตรแทนกัน และยื่นศาลตีความคว่ำร่างรัฐธรรมนูญ หลังสภาร่วมชำเรารัฐธรรมนูญซัดกันนัว พท. โวยถูกใส่ร้ายหวังกลบข่าวภาพโป๊ อ้างบริเวณในภาพเป็นทางเดินไม่มีช่องเสียบบัตร พร้อมการันตีไม่โมฆะ ปชป.รุมบี้ “ค้อนปลอม” ตั้งกรรมการสอบหามือเสียบ “ชูวิทย์” เผยมีอีก 4 คลิป
วานนี้ (25 เม.ย.) เมื่อเวลา 10.00 น. มีการประชุมร่วมรัฐสภา มีนายสมศักดิ์ เกียรติสุรนนท์ ประธานรัฐสภา ทำหน้าที่ประธานการประชุม ซึ่งก่อนเข้าวาระเพื่อพิจารณาร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย (ฉบับที่) พ.ศ. ... ในมาตรา 291/6 นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ ส.ส. กทม. พรรคเพื่อไทย ได้ขอหารือเรื่องข้อกล่าวหาจากน.ส.รสนา โตสิตระกูลส.ว. กทม. ว่า มีสมาชิกเสียบบัตรลงคะแนนแทนกัน โดยได้นำภาพถ่ายมาประกอบเพื่อยืนยันว่าไม่เป็นความจริง เพราะบริเวณที่ปรากฏในรูปภาพไม่มีช่องเสียบบัตร ซึ่งถือเป็นการใส่ร้ายป้ายสีทำให้เสื่อมเสีย พร้อมท้าทายว่าหากมีการเสียบบัตรแทนกันจริงตนพร้อมจะลาออก
ด้านนายวิวัฒน์ชัย โหตระไวศยะ ส.ส.ศรีษะเกษ พรรคเพื่อไทย ลุกอภิปรายว่า ไม่อยากเปลืองตัวชี้แจงเรื่องไร้สาระและเป็นข้อกล่าวหาที่ไม่คิดว่าจะเกิดขึ้นได้ โดยเพราะส.ส.ที่เอาโชว์รูปภาพ ที่ไม่ทราบว่าเป็นรูปของตนหรือเดินโชว์สื่อไปทั่ว มีเจตนาหวังกลบข่าวคลิปโป๊โผล่กลางสภา ตนมาร่วมประชุมสภาเป็นประจำ ขอถามว่าตนจะไปกดบัตรให้ใคร เพราะตรงบริเวณนั้นเป็นทางเดิน
น.ส.รสนาชี้แจงว่า ความจริงตนไม่คิดว่าจะเอาภาพมาแสดง แต่เมื่อถูกท้าทายจึงต้องให้รู้ไว้เพื่อเป็นการปราม เพราะรัฐธรรมนูญเป็นกฏหมายสำคัญต้องทำให้ถูกต้องทั้งกระบวนการและเนื้อหา ทุกคนเป็นตัวแทนปวงชนชาวไทย สามารถมีอิสระในการโหวต หากสมาชิกอยู่ข้างนอก ไม่ได้ฟังเพื่ออภิปราย และยังมีการกดบัตรแทนกัน เมื่อถูกกล่าวหาว่าตนใส่ร้ายก็ต้องเอาภาพมาแสดงและยินดีให้ความร่วมมือที่จะไปให้ข้อมูลกับคณะกรรมการตรวจสอบ และหากตั้งใจจะหาความจริงก็กล่องวงจรปิดหาที่จะให้ข้อมูลได้
“ดิฉันยืนยันว่าไม่ใช่เรื่องการเล่นเกม ที่กล่าวหาว่าเอาเรื่องนี้ กลบข่าวส.ส.ดูภาพไม่เหมาะสม ความจริงเรื่องสมาชิกดูภาพถ้าพูดตามภาษาพระก็แค่ระดับ ปาจิตตีย์ หรือสังฆาทิเสส แต่คนที่กดบัตรแทนกันต้องถึงขั้นปราชิก ต้องขับออกจากการเป็นสมาชิกสภา”
นพ.วรงค์ เดิชกิจวิกรม ส.ส. พิษณุโลก พรรคประชาธิปัตย์ เสนอว่า ควรให้มีตัวแทนจาก ฝ่ายรัฐบาล ฝ่ายค้าน และ ฝ่ายส.ว. ฝ่ายละ 2 คนไปร่วมเป็นกรรมการในการตรวจสอบกรณีการกดบัตรแทนกัน
นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ผู้นำฝ่ายค้านในสภา กล่าวว่า ต้องยอมรับว่าบางครั้งเดินไปจะพบว่าทั้งแถวมีคนกดบัตรเรียบร้อยทั้งที่ไม่มีคนนั่งอยู่ทั้งแถว ถามว่าจะมีมาตรการอย่าวงไรเพื่อให้สมาชิกมั่นใจไม่มี จะมีการให้เจ้าหน้าที่ ดึงกลับไปหรือไม่ เมื่อมาให้มาเอาไปลงคะแนน สั่งให้กล้องวงจรปิดจับภาพไม่ให้เกิดความผิดพลาดในอนาคต
นายสมศักดิ์ กล่าวว่า ตนมอบหมายให้เลขาธิการสภาตั้งคณะกรรมการตรวจสอบ และจะปฏิบัติตามคำแนะนำของผู้นำฝ่ายค้าน ต่อไปนี้หากใครพบเห็นว่ามีการเสียบบัตรแทนกันให้ทักท้วงเลยจะได้ให้มีการลงคะแนนใหม่ เพราะปล่อยผ่านเลยไม่แล้วมาพูดจะไม่มีน้ำหนัก
**ปชป.เล็งถอดถอน-ตีความคว่ำรธน.
นายอภิสิทธิ์ให้สัมภาษณ์อีกว่า นอกจากจะขัดต่อหลักจริยธรรมแล้ว ยังเป็นการละเมิดสิทธิของคนอื่นตามรัฐธรรมนูญด้วย เนื่องจากส.ส.แต่ละคนมีสิทธิเท่ากัน คือ 1 เสียง การกดบัตรแทนเท่ากับคนที่กดไปใช้สิทธิของคนอื่น ขณะที่คนที่ปล่อยให้คนอื่นใช้สิทธิแทนตัวเองก็ไม่ได้ทำหน้าที่ในการเข้าประชุม จึงไม่ใช่เรื่องเล็กที่จะปัดให้ผ่านพ้นไป และหากเรื่องดังกล่าวเกี่ยวข้องกับการพิจารณากฎหมายก็จะเกิดคำถามว่ากระบวนการตรากฎหมายชอบด้วยรัฐธรรมนูญ จึงต้องเร่งตรวจสอบข้อเท็จจริง ซึ่งพรรคประชาธิปัตย์ก็จะติดตามว่าในส่วนของคณะกรรมการที่จะตั้งขึ้น
ขณะเดียวกันใครที่มีข้อมูลหลักฐานเก็บภาพระหว่างการลงมติไว้ก็ควรนำมาเป็นหลักฐานด้วย เพราะการลงมติที่ไม่ชอบด้วยกฎหมายจะส่งผกระทบต่อการตรารัฐธรรมนูญที่กำลังดำเนินการให้ไม่ชอบด้วยรัฐธรรมนูญไปด้วย เนื่องจากไม่เป็นไปตามเงื่อนไขในการตรากฎหมาย
โดยฝ่ายกฎหมายพรรคประชาธิปัตย์กำลังพิจารณาเรื่องนี้ว่า มีช่องทางที่จะดำเนินการอย่างไรบ้าง เพราะสิ่งที่เกิดขึ้นนอกจากขัดรัฐธรรมนูญแล้วยังขัดต่อกฎหมายความเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์บัตรอิเล็กทรอนิกส์ ซึ่งส.ส.ที่กดบัตรแทนกันก็อาจเข้าข่ายทำผิดกฎหมายที่จะนำไปสู่การยื่นถอดถอน โดยพรรคพิจารณาควบคู่ไปพร้อมกับผลกระทบต่อการตรากฎหมาย ซึ่งเท่าที่ดูน่าจะดำเนินการได้เลยหลังจากเกิดเหตุการณ์ขึ้นโดยไม่จำเป็นต้องรอให้กระบวนการแก้ไขรัฐธรรมนูญแล้วเสร็จในวาระ 3 ก่อน ซึ่งตนยืนยันว่าการดำเนินการเรื่องนี้ไม่ใช่การเตะถ่วงการแก้ไขรัฐธรรมนูญแต่เป็นเรื่องของความถูกต้อง
**รสนา ยื่นป.ป.ช.ถอดถอน
น.ส.รสนากล่าวว่า อาจจะรวบรวมข้อมูลไปยื่นต่อ ป.ป.ช.เอง เพราะถือว่าเรื่องนี้เป็นการทำผิดตามตำแหน่งหน้าที่ เป็นความผิดทางอาญา ซึ่งอาจทำให้ถูกถอดถอนได้ การกดบัตรแทนกันไม่ว่าจะเป็นฝ่ายรัฐบาล ฝ่ายค้าน หรือ ส.ว. ก็ไม่ควรทำทั้งนั้น โดยรัฐธรรมนูญมาตรา 126 ก็ระบุชัดว่า ให้สมาชิกคนหนึ่งยอมมีเสียงหนึ่งในการออกเสียงลงคะแนน ถ้ามีคะแนนเสียงเท่ากัน ให้ประธานในที่ประชุมออกเสียงเพิ่มขึ้นอีกเสียงหนึ่งเป็นสิ่งชี้ขาด
**ชูวิทย์เผยมีอีก 4 คลิปฟ้องศาล
นายชูวิทย์กล่าวเสริมในเรื่องนี้ว่า ตนมีคลิปภาพยืนยันว่ามีสมาชิกรัฐสภา กดบัตรแสดงตนและโหวตแทนกันตั้งแต่วาระหนึ่ง และวาระสองจริง และเตรียมส่งเรื่องให้ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาทันทีภายหลังจากที่รัฐสภามีมติโหวตผ่านร่างรัฐธรรมนูญในวาระสาม อย่างไรก็ตาม คลิปที่ปรากฎภาพส.ส.กดบัตรแสดงตนแทนกัน ซึ่งตนนำมาแถลงข่าวเมื่อวันที่ 24 เม.ย.นั้น เป็นเพียง 2 ใน 6 คลิปที่ตนบันทึกได้เท่านั้น ซึ่งอีก 4 คลิปหลังนั้น ถือเป็นคลิปเด็ดที่เห็นภาพชัดเจน ส่วนส.ส.ที่ปรากฎในคลิปนั้น มีทั้งส.ส.ของพรรคเพื่อไทย และส.ส.พรรคประชาธิปัตย์
**ค้อนปลอมการันตี ไม่กระทบรธน.
นายสมศักดิ์ ในฐานะประธานคณะกรรมการจริยธรรมฯ กล่าวก่อนประชุมว่า ใครมีหลักฐานก็ส่งมาได้ ถ้าอยากให้ทางคณะกรรมการจริยธรรมฯ มีหลักฐานมาประกอบในการพิจารณา กรณีของนายชูวิทย์ ก็ต้องนำมาร้องต่อคณะกรรมการฯ หรือนายชูวิทย์ อาจร้องต่อผู้ตรวจการแผ่นดินได้โดยตรง อย่างไรก็ตาม ปัญหานี้จะมีผลกระทบต่อการโหวตร่างรัฐธรรมนูญหรือไม่นั้น ก็ต้องมาดูกัน แต่ส่วนตัวเห็นว่าไม่น่ากระทบทำให้รัฐธรรมนูญต้องตกไป เนื่องจากจำนวนผู้โหวตมีเกิน 300 คน จึงคิดว่าน่าจะเป็นเรื่องความผิดชอบเกี่ยวกับจริยธรรมส่วนบุคคลมากกว่า
**"ปู"บอกจะสะดุดก็เรื่องงของสภา
น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์หลังจากเข้ามาเซ็นชื่อเข้าประชุมร่วมรัฐสภา ว่า คงต้องตรวจสอบข้อเท็จจริงโดยให้สภาฯ เป็นผู้ดำเนินการ ซึ่งในส่วนของพรรคเพื่อไทยก็มีมาตรการในการลงโทษ
หลังจากนั้นนายกฯ ได้เดินทางออกจากอาคารัฐสภา เพื่อเดินทางไปร่วมงานงานร่วมงาน 60 ปี ไทยโทรทัศน์ 35 ปี อสมท. และกล่าวอีกครั้ง ว่า ต้องแยกเป็น 2 ส่วน สภาฯ ก็มีหน้าที่ในการตรวจสอบ ในส่วนของทางพรรคก็ต้องดูข้อเท็จจริงก่อนว่าข้อเท็จจริงเป็นอย่างไร ถ้าอะไรที่ไม่ถูกต้องก็ต้องว่ากัน
ผู้สื่อข่าวถามว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนี้จะทำให้การแก้รัฐธรรมนูญจะสะดุดหรือไม่ หากมีการยื่นตีความ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ตอบว่า คงต้องเป็นเรื่องของสภาฯ ส่วนตัวเองก็ยังไม่ทราบว่าลายละเอียดข้อมูลเป็นอย่างไรบ้าง ส่วนเรื่องบทลงโทษนั้นก็คงต้องขอดูรายละเอียดข้อเท็จจริงทั้งหมดก่อน
** "เต้น"ซัดถ่วงเวลาหวังล้มกระดาน
นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ รมช.เกษตรและสหกรณ์ กล่าวว่า มีบางฝ่ายที่นั่งในสภาอยากให้กระบวนการร่างรัฐธรรมนูญฉบับนี้มีอันเป็นไปตลอดเวลาอยู่แล้ว ฉะนั้นเกิดเหตุภาพดังกล่าวคงไม่น่าวิตกเพิ่มเติม เพราะเห็นปรากฏการณ์ถ่วงเวลา หรือพยายามที่จะล้มกระดานแก้ไขรัฐธรรมนูญมาตลอดเส้นทาง ซึ่งมีข้อน่าวิเคราะห์ว่าหากกรณีดังกล่าวเป็นประเด็นถึงขั้นกระบวนการยกร่างรัฐธรรมนูญจะต้องล้มไปทั้งกระดาน แล้วกฎหมายเกือบ 200 ฉบับที่ร่างกันในยุครัฐบาลคณะรัฐประหาร องค์ประชุมไม่ครบชัดๆ ตัวเลขปรากฏหลักฐานยืนยัน แต่กฎหมายเหล่านั้นมีผลบังคับใช้ได้อย่างไร และบังคับใช้จนปัจจุบัน โดยไม่มีใครแสดงท่าทางทักท้วงนอกเหนือจากประชาชนฝ่ายประชาธิปไตยซึ่งพูดเรื่องนี้มาตลอด ดังนั้น ถ้าจะหยิบยกมาคุยกันจะมาคุยพร้อมกันหรือไม่ หรือหาสรุปพร้อมกันเลยหรือไม่ ตนคิดว่าฝ่ายรัฐบาลคงไม่วิตกอะไรเพิ่ม เพราะอยู่ภาวการณ์ปกติ คือ ฝ่ายหนึ่งเดินหน้าแก้ไขรัฐธรรมนูญ แต่อีกฝ่ายหนึ่งพยายามปกป้องไว้ทุกวิถีทาง เพราะตนเองได้ประโยชน์ทุกวิถีทาง
**"วิวัฒน์ชัย"แจ้งความหมิ่นประมาท
อีกด้านนายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ ในฐานะโฆษกพรรคเพื่อไทย เข้าแจ้งความดำเนินคดีกับน.ส.รสนา นายสมชาย และนายบุญยอด ที่ สน.ดุสิต จากกรณีที่ร่วมกันกล่าวหานายวิวัฒน์ชัย กดบัตรแทนกันในระหว่างการประชุมร่วมรัฐสภา เมื่อวันที่ 24 เม.ย.
จากการตรวจสอบพบว่าส.ส.ที่เท้าแขนมาข้างหลังตามภาพ คือ นายวิวัฒน์ชัย ซึ่งนั่งอยู่ในตำแหน่งแถวที่ 5 ซึ่งการเอื้อมมือมาข้างหลังนั้น เป็นบริเวณทางเดินไม่มีไมโครโฟน และไม่มีที่เสียบบัตรลงคะแนน ดังนั้น การกระทำดังกล่าวน่าจะมีเจตนาหมิ่นประมาท จงใจใส่ร้าย ป้ายสี ทำให้นายวิวัฒน์ชัย เสียหาย รวมทั้งกระทบไปถึงสมาชิกสภานิติบัญญัติทั้งหมด จึงได้แจ้งความดำเนินคดีทั้ง 3 คน ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 326 328 ฐานหมิ่นประมาทด้วยการโฆษณา
ขณะที่นายบุญยอด กล่าวว่า ไม่มีปัญหา เพราะตนไม่มีเจตนากลั่นแกล้ง หรือหมิ่นประมาทใคร เพียงแต่เป็นการทำหน้าที่ส.ส.
**ปิดฉากรูปโป๊จับมือใครดมไม่ได้
นายคัมภีร์ ดิษฐากรณ์ รองเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร ระบุว่า ได้รับหนังสือยืนยันจากบริษัทแอลจี ประเทศเกาหลีถึงการบันทึกข้อมูลการเชื่อมต่อสัญญาณ ไวไฟ ดองเกิล กับโทรศัพท์มือถือว่า ไม่มีอุปกรณ์ที่บันทึกประวัติการใช้งาน ทำให้ไม่สามารถเก็บข้อมูลการใช้งานที่ข้ามวันได้ ดังนั้น จึงไม่สามารถตรวจสอบหมายเลขโทรศัพท์ ที่เป็นผู้ปล่อยภาพโป๊ขึ้นสู่จอทีวีพลาสม่าได้ สำหรับประเด็นการตรวจสอบถือว่าแล้วเสร็จแล้ว จากนี้จะเตรียมทำรายงานเสนอต่อประธานรัฐสภาต่อไป
วานนี้ (25 เม.ย.) เมื่อเวลา 10.00 น. มีการประชุมร่วมรัฐสภา มีนายสมศักดิ์ เกียรติสุรนนท์ ประธานรัฐสภา ทำหน้าที่ประธานการประชุม ซึ่งก่อนเข้าวาระเพื่อพิจารณาร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย (ฉบับที่) พ.ศ. ... ในมาตรา 291/6 นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ ส.ส. กทม. พรรคเพื่อไทย ได้ขอหารือเรื่องข้อกล่าวหาจากน.ส.รสนา โตสิตระกูลส.ว. กทม. ว่า มีสมาชิกเสียบบัตรลงคะแนนแทนกัน โดยได้นำภาพถ่ายมาประกอบเพื่อยืนยันว่าไม่เป็นความจริง เพราะบริเวณที่ปรากฏในรูปภาพไม่มีช่องเสียบบัตร ซึ่งถือเป็นการใส่ร้ายป้ายสีทำให้เสื่อมเสีย พร้อมท้าทายว่าหากมีการเสียบบัตรแทนกันจริงตนพร้อมจะลาออก
ด้านนายวิวัฒน์ชัย โหตระไวศยะ ส.ส.ศรีษะเกษ พรรคเพื่อไทย ลุกอภิปรายว่า ไม่อยากเปลืองตัวชี้แจงเรื่องไร้สาระและเป็นข้อกล่าวหาที่ไม่คิดว่าจะเกิดขึ้นได้ โดยเพราะส.ส.ที่เอาโชว์รูปภาพ ที่ไม่ทราบว่าเป็นรูปของตนหรือเดินโชว์สื่อไปทั่ว มีเจตนาหวังกลบข่าวคลิปโป๊โผล่กลางสภา ตนมาร่วมประชุมสภาเป็นประจำ ขอถามว่าตนจะไปกดบัตรให้ใคร เพราะตรงบริเวณนั้นเป็นทางเดิน
น.ส.รสนาชี้แจงว่า ความจริงตนไม่คิดว่าจะเอาภาพมาแสดง แต่เมื่อถูกท้าทายจึงต้องให้รู้ไว้เพื่อเป็นการปราม เพราะรัฐธรรมนูญเป็นกฏหมายสำคัญต้องทำให้ถูกต้องทั้งกระบวนการและเนื้อหา ทุกคนเป็นตัวแทนปวงชนชาวไทย สามารถมีอิสระในการโหวต หากสมาชิกอยู่ข้างนอก ไม่ได้ฟังเพื่ออภิปราย และยังมีการกดบัตรแทนกัน เมื่อถูกกล่าวหาว่าตนใส่ร้ายก็ต้องเอาภาพมาแสดงและยินดีให้ความร่วมมือที่จะไปให้ข้อมูลกับคณะกรรมการตรวจสอบ และหากตั้งใจจะหาความจริงก็กล่องวงจรปิดหาที่จะให้ข้อมูลได้
“ดิฉันยืนยันว่าไม่ใช่เรื่องการเล่นเกม ที่กล่าวหาว่าเอาเรื่องนี้ กลบข่าวส.ส.ดูภาพไม่เหมาะสม ความจริงเรื่องสมาชิกดูภาพถ้าพูดตามภาษาพระก็แค่ระดับ ปาจิตตีย์ หรือสังฆาทิเสส แต่คนที่กดบัตรแทนกันต้องถึงขั้นปราชิก ต้องขับออกจากการเป็นสมาชิกสภา”
นพ.วรงค์ เดิชกิจวิกรม ส.ส. พิษณุโลก พรรคประชาธิปัตย์ เสนอว่า ควรให้มีตัวแทนจาก ฝ่ายรัฐบาล ฝ่ายค้าน และ ฝ่ายส.ว. ฝ่ายละ 2 คนไปร่วมเป็นกรรมการในการตรวจสอบกรณีการกดบัตรแทนกัน
นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ผู้นำฝ่ายค้านในสภา กล่าวว่า ต้องยอมรับว่าบางครั้งเดินไปจะพบว่าทั้งแถวมีคนกดบัตรเรียบร้อยทั้งที่ไม่มีคนนั่งอยู่ทั้งแถว ถามว่าจะมีมาตรการอย่าวงไรเพื่อให้สมาชิกมั่นใจไม่มี จะมีการให้เจ้าหน้าที่ ดึงกลับไปหรือไม่ เมื่อมาให้มาเอาไปลงคะแนน สั่งให้กล้องวงจรปิดจับภาพไม่ให้เกิดความผิดพลาดในอนาคต
นายสมศักดิ์ กล่าวว่า ตนมอบหมายให้เลขาธิการสภาตั้งคณะกรรมการตรวจสอบ และจะปฏิบัติตามคำแนะนำของผู้นำฝ่ายค้าน ต่อไปนี้หากใครพบเห็นว่ามีการเสียบบัตรแทนกันให้ทักท้วงเลยจะได้ให้มีการลงคะแนนใหม่ เพราะปล่อยผ่านเลยไม่แล้วมาพูดจะไม่มีน้ำหนัก
**ปชป.เล็งถอดถอน-ตีความคว่ำรธน.
นายอภิสิทธิ์ให้สัมภาษณ์อีกว่า นอกจากจะขัดต่อหลักจริยธรรมแล้ว ยังเป็นการละเมิดสิทธิของคนอื่นตามรัฐธรรมนูญด้วย เนื่องจากส.ส.แต่ละคนมีสิทธิเท่ากัน คือ 1 เสียง การกดบัตรแทนเท่ากับคนที่กดไปใช้สิทธิของคนอื่น ขณะที่คนที่ปล่อยให้คนอื่นใช้สิทธิแทนตัวเองก็ไม่ได้ทำหน้าที่ในการเข้าประชุม จึงไม่ใช่เรื่องเล็กที่จะปัดให้ผ่านพ้นไป และหากเรื่องดังกล่าวเกี่ยวข้องกับการพิจารณากฎหมายก็จะเกิดคำถามว่ากระบวนการตรากฎหมายชอบด้วยรัฐธรรมนูญ จึงต้องเร่งตรวจสอบข้อเท็จจริง ซึ่งพรรคประชาธิปัตย์ก็จะติดตามว่าในส่วนของคณะกรรมการที่จะตั้งขึ้น
ขณะเดียวกันใครที่มีข้อมูลหลักฐานเก็บภาพระหว่างการลงมติไว้ก็ควรนำมาเป็นหลักฐานด้วย เพราะการลงมติที่ไม่ชอบด้วยกฎหมายจะส่งผกระทบต่อการตรารัฐธรรมนูญที่กำลังดำเนินการให้ไม่ชอบด้วยรัฐธรรมนูญไปด้วย เนื่องจากไม่เป็นไปตามเงื่อนไขในการตรากฎหมาย
โดยฝ่ายกฎหมายพรรคประชาธิปัตย์กำลังพิจารณาเรื่องนี้ว่า มีช่องทางที่จะดำเนินการอย่างไรบ้าง เพราะสิ่งที่เกิดขึ้นนอกจากขัดรัฐธรรมนูญแล้วยังขัดต่อกฎหมายความเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์บัตรอิเล็กทรอนิกส์ ซึ่งส.ส.ที่กดบัตรแทนกันก็อาจเข้าข่ายทำผิดกฎหมายที่จะนำไปสู่การยื่นถอดถอน โดยพรรคพิจารณาควบคู่ไปพร้อมกับผลกระทบต่อการตรากฎหมาย ซึ่งเท่าที่ดูน่าจะดำเนินการได้เลยหลังจากเกิดเหตุการณ์ขึ้นโดยไม่จำเป็นต้องรอให้กระบวนการแก้ไขรัฐธรรมนูญแล้วเสร็จในวาระ 3 ก่อน ซึ่งตนยืนยันว่าการดำเนินการเรื่องนี้ไม่ใช่การเตะถ่วงการแก้ไขรัฐธรรมนูญแต่เป็นเรื่องของความถูกต้อง
**รสนา ยื่นป.ป.ช.ถอดถอน
น.ส.รสนากล่าวว่า อาจจะรวบรวมข้อมูลไปยื่นต่อ ป.ป.ช.เอง เพราะถือว่าเรื่องนี้เป็นการทำผิดตามตำแหน่งหน้าที่ เป็นความผิดทางอาญา ซึ่งอาจทำให้ถูกถอดถอนได้ การกดบัตรแทนกันไม่ว่าจะเป็นฝ่ายรัฐบาล ฝ่ายค้าน หรือ ส.ว. ก็ไม่ควรทำทั้งนั้น โดยรัฐธรรมนูญมาตรา 126 ก็ระบุชัดว่า ให้สมาชิกคนหนึ่งยอมมีเสียงหนึ่งในการออกเสียงลงคะแนน ถ้ามีคะแนนเสียงเท่ากัน ให้ประธานในที่ประชุมออกเสียงเพิ่มขึ้นอีกเสียงหนึ่งเป็นสิ่งชี้ขาด
**ชูวิทย์เผยมีอีก 4 คลิปฟ้องศาล
นายชูวิทย์กล่าวเสริมในเรื่องนี้ว่า ตนมีคลิปภาพยืนยันว่ามีสมาชิกรัฐสภา กดบัตรแสดงตนและโหวตแทนกันตั้งแต่วาระหนึ่ง และวาระสองจริง และเตรียมส่งเรื่องให้ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาทันทีภายหลังจากที่รัฐสภามีมติโหวตผ่านร่างรัฐธรรมนูญในวาระสาม อย่างไรก็ตาม คลิปที่ปรากฎภาพส.ส.กดบัตรแสดงตนแทนกัน ซึ่งตนนำมาแถลงข่าวเมื่อวันที่ 24 เม.ย.นั้น เป็นเพียง 2 ใน 6 คลิปที่ตนบันทึกได้เท่านั้น ซึ่งอีก 4 คลิปหลังนั้น ถือเป็นคลิปเด็ดที่เห็นภาพชัดเจน ส่วนส.ส.ที่ปรากฎในคลิปนั้น มีทั้งส.ส.ของพรรคเพื่อไทย และส.ส.พรรคประชาธิปัตย์
**ค้อนปลอมการันตี ไม่กระทบรธน.
นายสมศักดิ์ ในฐานะประธานคณะกรรมการจริยธรรมฯ กล่าวก่อนประชุมว่า ใครมีหลักฐานก็ส่งมาได้ ถ้าอยากให้ทางคณะกรรมการจริยธรรมฯ มีหลักฐานมาประกอบในการพิจารณา กรณีของนายชูวิทย์ ก็ต้องนำมาร้องต่อคณะกรรมการฯ หรือนายชูวิทย์ อาจร้องต่อผู้ตรวจการแผ่นดินได้โดยตรง อย่างไรก็ตาม ปัญหานี้จะมีผลกระทบต่อการโหวตร่างรัฐธรรมนูญหรือไม่นั้น ก็ต้องมาดูกัน แต่ส่วนตัวเห็นว่าไม่น่ากระทบทำให้รัฐธรรมนูญต้องตกไป เนื่องจากจำนวนผู้โหวตมีเกิน 300 คน จึงคิดว่าน่าจะเป็นเรื่องความผิดชอบเกี่ยวกับจริยธรรมส่วนบุคคลมากกว่า
**"ปู"บอกจะสะดุดก็เรื่องงของสภา
น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์หลังจากเข้ามาเซ็นชื่อเข้าประชุมร่วมรัฐสภา ว่า คงต้องตรวจสอบข้อเท็จจริงโดยให้สภาฯ เป็นผู้ดำเนินการ ซึ่งในส่วนของพรรคเพื่อไทยก็มีมาตรการในการลงโทษ
หลังจากนั้นนายกฯ ได้เดินทางออกจากอาคารัฐสภา เพื่อเดินทางไปร่วมงานงานร่วมงาน 60 ปี ไทยโทรทัศน์ 35 ปี อสมท. และกล่าวอีกครั้ง ว่า ต้องแยกเป็น 2 ส่วน สภาฯ ก็มีหน้าที่ในการตรวจสอบ ในส่วนของทางพรรคก็ต้องดูข้อเท็จจริงก่อนว่าข้อเท็จจริงเป็นอย่างไร ถ้าอะไรที่ไม่ถูกต้องก็ต้องว่ากัน
ผู้สื่อข่าวถามว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนี้จะทำให้การแก้รัฐธรรมนูญจะสะดุดหรือไม่ หากมีการยื่นตีความ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ตอบว่า คงต้องเป็นเรื่องของสภาฯ ส่วนตัวเองก็ยังไม่ทราบว่าลายละเอียดข้อมูลเป็นอย่างไรบ้าง ส่วนเรื่องบทลงโทษนั้นก็คงต้องขอดูรายละเอียดข้อเท็จจริงทั้งหมดก่อน
** "เต้น"ซัดถ่วงเวลาหวังล้มกระดาน
นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ รมช.เกษตรและสหกรณ์ กล่าวว่า มีบางฝ่ายที่นั่งในสภาอยากให้กระบวนการร่างรัฐธรรมนูญฉบับนี้มีอันเป็นไปตลอดเวลาอยู่แล้ว ฉะนั้นเกิดเหตุภาพดังกล่าวคงไม่น่าวิตกเพิ่มเติม เพราะเห็นปรากฏการณ์ถ่วงเวลา หรือพยายามที่จะล้มกระดานแก้ไขรัฐธรรมนูญมาตลอดเส้นทาง ซึ่งมีข้อน่าวิเคราะห์ว่าหากกรณีดังกล่าวเป็นประเด็นถึงขั้นกระบวนการยกร่างรัฐธรรมนูญจะต้องล้มไปทั้งกระดาน แล้วกฎหมายเกือบ 200 ฉบับที่ร่างกันในยุครัฐบาลคณะรัฐประหาร องค์ประชุมไม่ครบชัดๆ ตัวเลขปรากฏหลักฐานยืนยัน แต่กฎหมายเหล่านั้นมีผลบังคับใช้ได้อย่างไร และบังคับใช้จนปัจจุบัน โดยไม่มีใครแสดงท่าทางทักท้วงนอกเหนือจากประชาชนฝ่ายประชาธิปไตยซึ่งพูดเรื่องนี้มาตลอด ดังนั้น ถ้าจะหยิบยกมาคุยกันจะมาคุยพร้อมกันหรือไม่ หรือหาสรุปพร้อมกันเลยหรือไม่ ตนคิดว่าฝ่ายรัฐบาลคงไม่วิตกอะไรเพิ่ม เพราะอยู่ภาวการณ์ปกติ คือ ฝ่ายหนึ่งเดินหน้าแก้ไขรัฐธรรมนูญ แต่อีกฝ่ายหนึ่งพยายามปกป้องไว้ทุกวิถีทาง เพราะตนเองได้ประโยชน์ทุกวิถีทาง
**"วิวัฒน์ชัย"แจ้งความหมิ่นประมาท
อีกด้านนายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ ในฐานะโฆษกพรรคเพื่อไทย เข้าแจ้งความดำเนินคดีกับน.ส.รสนา นายสมชาย และนายบุญยอด ที่ สน.ดุสิต จากกรณีที่ร่วมกันกล่าวหานายวิวัฒน์ชัย กดบัตรแทนกันในระหว่างการประชุมร่วมรัฐสภา เมื่อวันที่ 24 เม.ย.
จากการตรวจสอบพบว่าส.ส.ที่เท้าแขนมาข้างหลังตามภาพ คือ นายวิวัฒน์ชัย ซึ่งนั่งอยู่ในตำแหน่งแถวที่ 5 ซึ่งการเอื้อมมือมาข้างหลังนั้น เป็นบริเวณทางเดินไม่มีไมโครโฟน และไม่มีที่เสียบบัตรลงคะแนน ดังนั้น การกระทำดังกล่าวน่าจะมีเจตนาหมิ่นประมาท จงใจใส่ร้าย ป้ายสี ทำให้นายวิวัฒน์ชัย เสียหาย รวมทั้งกระทบไปถึงสมาชิกสภานิติบัญญัติทั้งหมด จึงได้แจ้งความดำเนินคดีทั้ง 3 คน ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 326 328 ฐานหมิ่นประมาทด้วยการโฆษณา
ขณะที่นายบุญยอด กล่าวว่า ไม่มีปัญหา เพราะตนไม่มีเจตนากลั่นแกล้ง หรือหมิ่นประมาทใคร เพียงแต่เป็นการทำหน้าที่ส.ส.
**ปิดฉากรูปโป๊จับมือใครดมไม่ได้
นายคัมภีร์ ดิษฐากรณ์ รองเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร ระบุว่า ได้รับหนังสือยืนยันจากบริษัทแอลจี ประเทศเกาหลีถึงการบันทึกข้อมูลการเชื่อมต่อสัญญาณ ไวไฟ ดองเกิล กับโทรศัพท์มือถือว่า ไม่มีอุปกรณ์ที่บันทึกประวัติการใช้งาน ทำให้ไม่สามารถเก็บข้อมูลการใช้งานที่ข้ามวันได้ ดังนั้น จึงไม่สามารถตรวจสอบหมายเลขโทรศัพท์ ที่เป็นผู้ปล่อยภาพโป๊ขึ้นสู่จอทีวีพลาสม่าได้ สำหรับประเด็นการตรวจสอบถือว่าแล้วเสร็จแล้ว จากนี้จะเตรียมทำรายงานเสนอต่อประธานรัฐสภาต่อไป
