ASTVผู้จัดการรายวัน - มือมืดซิ่ง จยย.ยิงถล่ม-ขว้างระเบิดใส่วงเหล้าหน้าร้านขายโฟมกันกระแทก ริมถนนกัลปพฤกษ์ ตายคาที่ 2 ศพ บาดเจ็บสาหัส 3 ราย ตำรวจตั้งห้าปมสังหาร แต่ให้น้ำหนักเรื่องทะเลาะวิวาทช่วงสงกรานต์ที่ผ่านมา เพราะ1ในผู้เสียชีวิตชอบเที่ยวและมักมีเรื่องในสถานบันเทิงเป็นประจำ
วานนี้ (22 เม.ย.) ร.ต.ต.บุญมา คนกล้า ร้อยเวร สน.เพชรเกษม รับแจ้งเหตุขว้างระเบิดใส่ร้านดำรงโฟม ริมถนนกัลปพฤกษ์ก่อนถึงทางเบี่ยงตัดถนนกาญจนภิเษก แขวงและเขตบางแค กทม. มีผู้เสียชีวิตและได้รับบาดเจ็บหลายรายจึงรายงานผู้บังคับบัญชาทราบก่อนรุดไปตรวจสอบ พร้อม พ.ต.อ.ทักษิณ พ่วงเงิน รอง ผบก.น.9 พ.ต.อ.มานะ กลัดเข็มเพชร ผกก.สน.เพชรเกษม แพทย์นิติเวช เจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน (พฐ.) และเจ้าหน้าที่มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง
ที่เกิดเหตุเป็นร้านขายฟองน้ำกันกระแทก พบศพนายโจอี้ สายดง อายุ 37 ปี อยู่บ้านเลขที่ 115 ม.8 ต.เพ็กใหญ่ อ.พล จ.ขอนแก่น ลูกชายเจ้าของร้าน และนายนาถ ไม่ทราบนามสกุล อายุประมาณ 40 ปี ลูกจ้างนนอนเสียชีวิตอยู่ภายในร้าน สภาพศพถูกสะเก็ดระเบิดมีบาดแผลหลายแห่ง และยังพบศพสุนัขพันธุ์พุดเดิลสีขาวถูกแรงระเบิดเสียชีวิต ขณะที่รถยนต์อีซูซุ มิว-เซเว่น สีขาว ทะเบียน 3179 กรุงเทพฯ และรถ จยย.ยามาฮ่าส นูโว สีส้ม ทะเบียน ยลท 37 กรุงเทพฯ ที่จอดอยู่ภายในร้านมีร่องรอยถูกกระสุนปืน และสะเก็ดระเบิดได้รับความเสียหาย ที่บริเวณหน้าร้านยังรอยระเบิดที่พื้นถนนลึก 5 ซม. ใกล้กันพบกระเดื่องระเบิดชนิดขว้างตกอยู่ใต้โต๊ะอาหารเจ้าหน้าที่จึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน
ส่วนผู้บาดเจ็บ 3 รายทราบชื่อ นายดำรง อุดมพร อายุ 58 ปี เจ้าของร้าน และนายสมบูรณ์ สีมอ อายุ 55 ปีเจ้าของร้านสมบูรณ์โฟมที่อยู่ติดกัน และนายเด่น ไม่ทราบนามสกุล ลูกจ้าง ทั้งหมดอาการสาหัสถูกนำส่ง รพ.พระราม 2 และ รพ.เกษมราษฎร์บางแคไปก่อนหน้าแล้ว
สอบสวน น.ส.อริศา สายดง ลูกสาวผู้ตาย ให้การด้วยอาการตกใจไม่หายว่า ก่อนเกิดเหตุกลุ่มคนตายตั้งวงดื่มสุรากันอยู่ที่หน้าร้าน ระหว่างนั้นได้มีกลุ่มวัยรุ่นขับขี่รถ จยย.ผ่านมา จากนั้นตนได้ยินเสียงปืน และเสียงระเบิดดังสนั่นหวั่นไหว เมื่อวิ่งออกมาดูก็พบว่าพ่อ และพี่ชาย รวมทั้งกลุ่มเพื่อนถูกสะเก็ดระเบิดได้รับบาดเจ็บ และเสียชีวิตจึงรีบพาคนเจ็บส่ง รพ. และแจ้งเจ้าหน้าที่มาทำการตรวจสอบ
เบื้องต้น เจ้าหน้าที่ตำรวจสันนิษฐานว่า ผู้ก่อเหตุอาจเป็นวัยรุ่นแก๊ง จยย.ที่มาขับขี่ประลองความเร็วกันบนถนนกัลปพฤกษ์ และถนนกาญจนาภิเษก และเคยถูกกลุ่มผู้ตายด่าทอว่าสร้างความเดือดร้อนรำคาญจนเกิดความไม่พอใจหวนกลับมาแก้แค้น แต่ยังไม่ตัดประเด็นความขัดแย้งในธุรกิจค้าโฟมกันกระแทกที่มีมูลค่าหลายล้านบาท และมีคู่แข่งในย่านเดียวกันอยู่ถึง 3 กลุ่ม ซึ่งเจ้าหน้าที่จะเร่งสอบสวนหาสาเหตุที่แน่ชัดอีกครั้ง ก่อนติดตามตัวคนร้ายที่ก่อเหตุมาดำเนินคดีตามกฎหมาย
ต่อมาเจ้าหน้าที่ชุดคลี่คลายคดี นำโดย พ.ต.ท.ชยุต มีศิลป์ รอง ผกก.สส.บก.น.9 พร้อมกำลังเดินทางเข้าตรวจสอบกล้องวงจรปิดซึ่งติดตั้งไว้กันขโมยบริเวณหน้าร้านดำรงค์โฟม พบว่ากล้อง จำนวน 2 ตัว สามารถบันทึกภาพผู้ต้องสงสัยเอาไว้ได้ 2 ราย เป็นชายวัยรุ่นรูปร่างสันทัด แต่งกายมิดชิด สวมหมวกนิรภัยแบบเต็มใบ พากันขับขี่และซ้อนท้ายรถ จยย.ยังไม่ทราบยี่ห้อ รุ่น และหมายเลขทะเบียน ผ่านหน้าโกดังไปเมื่อเวลา 22.15 น.โดยระหว่างที่เกิดเหตุนั้น คนซ้อนท้ายได้โยนระเบิดขว้างสังหารเข้าใส่วงเหล้าของผู้ตายก่อนจะพากันเร่งเครื่องหลบหนีไปทางถนนกาญจนาภิเษกมุ่งหน้าถนนพระราม 2 ซึ่งเจ้าหน้าที่จะรวบรวมเป็นหลักฐานในการติดตามตัวคนร้ายมาดำเนินคดีต่อไป ส่วนระเบิดขว้างสังหารที่คนร้ายใช้คาดว่าเป็นแบบ เอ็ม 242 ของประเทศจีน แต่จะต้องรอผลการตรวจสอบของกองพิสูจน์หลักฐานร่วมกับเจ้าหน้าที่ชุดเก็บกู้ฯ เพื่อรอการยืนยันให้แน่ชัดอีกครั้ง
วันเดียวกัน พล.ต.ต.พิสิฏฐ์ พิสุทธิศักดิ์ รอง ผบช.น. เรียกประชุมฝ่ายสืบสวนเพื่อติดตามความคืบหน้าและเร่งรัดคดีที่คนร้ายขับขี่รถจักรยานยนต์เป็นพาหนะขว้างระเบิดใส่ ร้านดำรงโฟม ตั้งอยู่ริมถนนกัลปพฤกษ์ตัดถนนกาญจนาภิเษก แขวง-เขตบางแค กทม. เหตุเกิดเมื่อเวลาประมาณ 22.15 น.วันที่ 21 เม.ย. ที่ผ่านมา เป็นเหตุให้นายโจอี้ สายดง อายุ 37 ปี และนายสีนาท บุตรวิชา อายุ 54 ปี เสียชีวิต ส่วนนายสมบูรณ์ สายดง อายุ 56 ปี บิดานายโจอี้ นายดำรง อุดมพร อายุ 58 ปี และนายณรงค์ศักดิ์ คงดี อายุ 40 ปี ได้รับบาดเจ็บ
พล.ต.ต.พิสิษฐ์ กล่าวภายหลังการประชุม ว่า จากสอบสวนทราบว่าก่อนที่จะเกิดเหตุผู้บาดเจ็บและเสียชีวิตรวมทั้งหมด 5 คน ได้ตั้งวงดื่มสุรากัน ส่วนแนวทางการสืบสวนสาเหตุในครั้งนี้ตั้งไว้ 5 ประเด็น ตั้งแต่เรื่องชู้สาว ทะเลาะวิวาท ขัดแย้งธุรกิจ และอื่นๆซึ่งทุกประเด็นยังไม่ได้ตัดทิ้งแต่ได้ให้น้ำหนักไปเรื่องการทะเลาะวาทช่วงเทศกาลสงกรานต์และทะเลาะวิวาทในกลุ่มตามสถานบันเทิงเพราะนายโจอี้ ผู้ตายและเพื่อนในกลุ่มชอบเที่ยวและมีปัญหาในสถานบันเทิงเป็นประจำ สำหรับภาพกล้องวงจรปิดที่ติดอยู่บริเวณใกล้ที่เกิดเหตุนั้นทางฝ่ายสืบสวน กก.สส.บก.น.9 ตรวจสอบพบดูว่าเป็นภาพคนร้ายในระยะไกลทำให้มองเห็นไม่ชัดเจน ส่วนคนร้ายที่ก่อเหตุนั้นน่าจะมีความชำนาญเพราะมีทักษะในการขว้าง สำหรับระเบิดที่คนร้ายใช้ลงมือนั้นเป็นระเบิดชนิด 82-2 ซึ่งผลิตในประเทศจีน มีระยะการทำร้ายรัศมี 6 เมตร และมีการใช้อย่างแพร่หลายในประเทศเพื่อนบ้าน.
วานนี้ (22 เม.ย.) ร.ต.ต.บุญมา คนกล้า ร้อยเวร สน.เพชรเกษม รับแจ้งเหตุขว้างระเบิดใส่ร้านดำรงโฟม ริมถนนกัลปพฤกษ์ก่อนถึงทางเบี่ยงตัดถนนกาญจนภิเษก แขวงและเขตบางแค กทม. มีผู้เสียชีวิตและได้รับบาดเจ็บหลายรายจึงรายงานผู้บังคับบัญชาทราบก่อนรุดไปตรวจสอบ พร้อม พ.ต.อ.ทักษิณ พ่วงเงิน รอง ผบก.น.9 พ.ต.อ.มานะ กลัดเข็มเพชร ผกก.สน.เพชรเกษม แพทย์นิติเวช เจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน (พฐ.) และเจ้าหน้าที่มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง
ที่เกิดเหตุเป็นร้านขายฟองน้ำกันกระแทก พบศพนายโจอี้ สายดง อายุ 37 ปี อยู่บ้านเลขที่ 115 ม.8 ต.เพ็กใหญ่ อ.พล จ.ขอนแก่น ลูกชายเจ้าของร้าน และนายนาถ ไม่ทราบนามสกุล อายุประมาณ 40 ปี ลูกจ้างนนอนเสียชีวิตอยู่ภายในร้าน สภาพศพถูกสะเก็ดระเบิดมีบาดแผลหลายแห่ง และยังพบศพสุนัขพันธุ์พุดเดิลสีขาวถูกแรงระเบิดเสียชีวิต ขณะที่รถยนต์อีซูซุ มิว-เซเว่น สีขาว ทะเบียน 3179 กรุงเทพฯ และรถ จยย.ยามาฮ่าส นูโว สีส้ม ทะเบียน ยลท 37 กรุงเทพฯ ที่จอดอยู่ภายในร้านมีร่องรอยถูกกระสุนปืน และสะเก็ดระเบิดได้รับความเสียหาย ที่บริเวณหน้าร้านยังรอยระเบิดที่พื้นถนนลึก 5 ซม. ใกล้กันพบกระเดื่องระเบิดชนิดขว้างตกอยู่ใต้โต๊ะอาหารเจ้าหน้าที่จึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน
ส่วนผู้บาดเจ็บ 3 รายทราบชื่อ นายดำรง อุดมพร อายุ 58 ปี เจ้าของร้าน และนายสมบูรณ์ สีมอ อายุ 55 ปีเจ้าของร้านสมบูรณ์โฟมที่อยู่ติดกัน และนายเด่น ไม่ทราบนามสกุล ลูกจ้าง ทั้งหมดอาการสาหัสถูกนำส่ง รพ.พระราม 2 และ รพ.เกษมราษฎร์บางแคไปก่อนหน้าแล้ว
สอบสวน น.ส.อริศา สายดง ลูกสาวผู้ตาย ให้การด้วยอาการตกใจไม่หายว่า ก่อนเกิดเหตุกลุ่มคนตายตั้งวงดื่มสุรากันอยู่ที่หน้าร้าน ระหว่างนั้นได้มีกลุ่มวัยรุ่นขับขี่รถ จยย.ผ่านมา จากนั้นตนได้ยินเสียงปืน และเสียงระเบิดดังสนั่นหวั่นไหว เมื่อวิ่งออกมาดูก็พบว่าพ่อ และพี่ชาย รวมทั้งกลุ่มเพื่อนถูกสะเก็ดระเบิดได้รับบาดเจ็บ และเสียชีวิตจึงรีบพาคนเจ็บส่ง รพ. และแจ้งเจ้าหน้าที่มาทำการตรวจสอบ
เบื้องต้น เจ้าหน้าที่ตำรวจสันนิษฐานว่า ผู้ก่อเหตุอาจเป็นวัยรุ่นแก๊ง จยย.ที่มาขับขี่ประลองความเร็วกันบนถนนกัลปพฤกษ์ และถนนกาญจนาภิเษก และเคยถูกกลุ่มผู้ตายด่าทอว่าสร้างความเดือดร้อนรำคาญจนเกิดความไม่พอใจหวนกลับมาแก้แค้น แต่ยังไม่ตัดประเด็นความขัดแย้งในธุรกิจค้าโฟมกันกระแทกที่มีมูลค่าหลายล้านบาท และมีคู่แข่งในย่านเดียวกันอยู่ถึง 3 กลุ่ม ซึ่งเจ้าหน้าที่จะเร่งสอบสวนหาสาเหตุที่แน่ชัดอีกครั้ง ก่อนติดตามตัวคนร้ายที่ก่อเหตุมาดำเนินคดีตามกฎหมาย
ต่อมาเจ้าหน้าที่ชุดคลี่คลายคดี นำโดย พ.ต.ท.ชยุต มีศิลป์ รอง ผกก.สส.บก.น.9 พร้อมกำลังเดินทางเข้าตรวจสอบกล้องวงจรปิดซึ่งติดตั้งไว้กันขโมยบริเวณหน้าร้านดำรงค์โฟม พบว่ากล้อง จำนวน 2 ตัว สามารถบันทึกภาพผู้ต้องสงสัยเอาไว้ได้ 2 ราย เป็นชายวัยรุ่นรูปร่างสันทัด แต่งกายมิดชิด สวมหมวกนิรภัยแบบเต็มใบ พากันขับขี่และซ้อนท้ายรถ จยย.ยังไม่ทราบยี่ห้อ รุ่น และหมายเลขทะเบียน ผ่านหน้าโกดังไปเมื่อเวลา 22.15 น.โดยระหว่างที่เกิดเหตุนั้น คนซ้อนท้ายได้โยนระเบิดขว้างสังหารเข้าใส่วงเหล้าของผู้ตายก่อนจะพากันเร่งเครื่องหลบหนีไปทางถนนกาญจนาภิเษกมุ่งหน้าถนนพระราม 2 ซึ่งเจ้าหน้าที่จะรวบรวมเป็นหลักฐานในการติดตามตัวคนร้ายมาดำเนินคดีต่อไป ส่วนระเบิดขว้างสังหารที่คนร้ายใช้คาดว่าเป็นแบบ เอ็ม 242 ของประเทศจีน แต่จะต้องรอผลการตรวจสอบของกองพิสูจน์หลักฐานร่วมกับเจ้าหน้าที่ชุดเก็บกู้ฯ เพื่อรอการยืนยันให้แน่ชัดอีกครั้ง
วันเดียวกัน พล.ต.ต.พิสิฏฐ์ พิสุทธิศักดิ์ รอง ผบช.น. เรียกประชุมฝ่ายสืบสวนเพื่อติดตามความคืบหน้าและเร่งรัดคดีที่คนร้ายขับขี่รถจักรยานยนต์เป็นพาหนะขว้างระเบิดใส่ ร้านดำรงโฟม ตั้งอยู่ริมถนนกัลปพฤกษ์ตัดถนนกาญจนาภิเษก แขวง-เขตบางแค กทม. เหตุเกิดเมื่อเวลาประมาณ 22.15 น.วันที่ 21 เม.ย. ที่ผ่านมา เป็นเหตุให้นายโจอี้ สายดง อายุ 37 ปี และนายสีนาท บุตรวิชา อายุ 54 ปี เสียชีวิต ส่วนนายสมบูรณ์ สายดง อายุ 56 ปี บิดานายโจอี้ นายดำรง อุดมพร อายุ 58 ปี และนายณรงค์ศักดิ์ คงดี อายุ 40 ปี ได้รับบาดเจ็บ
พล.ต.ต.พิสิษฐ์ กล่าวภายหลังการประชุม ว่า จากสอบสวนทราบว่าก่อนที่จะเกิดเหตุผู้บาดเจ็บและเสียชีวิตรวมทั้งหมด 5 คน ได้ตั้งวงดื่มสุรากัน ส่วนแนวทางการสืบสวนสาเหตุในครั้งนี้ตั้งไว้ 5 ประเด็น ตั้งแต่เรื่องชู้สาว ทะเลาะวิวาท ขัดแย้งธุรกิจ และอื่นๆซึ่งทุกประเด็นยังไม่ได้ตัดทิ้งแต่ได้ให้น้ำหนักไปเรื่องการทะเลาะวาทช่วงเทศกาลสงกรานต์และทะเลาะวิวาทในกลุ่มตามสถานบันเทิงเพราะนายโจอี้ ผู้ตายและเพื่อนในกลุ่มชอบเที่ยวและมีปัญหาในสถานบันเทิงเป็นประจำ สำหรับภาพกล้องวงจรปิดที่ติดอยู่บริเวณใกล้ที่เกิดเหตุนั้นทางฝ่ายสืบสวน กก.สส.บก.น.9 ตรวจสอบพบดูว่าเป็นภาพคนร้ายในระยะไกลทำให้มองเห็นไม่ชัดเจน ส่วนคนร้ายที่ก่อเหตุนั้นน่าจะมีความชำนาญเพราะมีทักษะในการขว้าง สำหรับระเบิดที่คนร้ายใช้ลงมือนั้นเป็นระเบิดชนิด 82-2 ซึ่งผลิตในประเทศจีน มีระยะการทำร้ายรัศมี 6 เมตร และมีการใช้อย่างแพร่หลายในประเทศเพื่อนบ้าน.