xs
xsm
sm
md
lg

ผ่าน5วัน253ศพ นครศรี-สุราษฎร์แชมป์ 12จว.ไร้คนตายลุ้นเงินล้าน

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ASTVผู้จัดการรายวัน - 7 วันอันตรายของการรณรงค์สงกรานต์ปลอดภัยตายเป็นศูนย์ ผ่านวันที่5 มีผู้เสียชีวิตจากอุบัติเหตุแล้ว 253 ราย บาดเจ็บอีก 2,751 ราย เมาแล้วขับสาเหตุอันดับหนึ่ง นครศรีฯ-สุราษฎร์ฯ แซงนำยอดตายสูงสุด 10 ศพ ขณะที่ 12 จังหวัด ลุ้นเงินล้านเหตุไร้ตาย โฆษกรัฐบาลโอ่เป็นผลงาน ประหยัดงบสาธารณสุขอื้อ

วานนี้ (16 เม.ย.) ศูนย์อำนวยการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนช่วงเทศกาลสงกรานต์ปี 2555 โดยกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย สรุปสถิติอุบัติเหตุทางถนนประจำวันที่ 15 เม.ย. 55 ตั้งแต่วันที่ 11 - 15 เม.ย .55 ได้เกิดอุบัติเหตุ 447 ครั้งมีผู้เสียชีวิต 43 รายผู้บาดเจ็บ 463 คน รวม 5 วัน เกิดอุบัติเหตุ 2,581 ครั้ง ผู้เสียชีวิต 253 ราย ผู้บาดเจ็บ 2,751 คน โดยกำชับให้เจ้าหน้าที่ประจำจุดตรวจเข้มงวดกวดขันรถโดยสารสาธารณะ เพื่อป้องกันอุบัติเหตุรายใหญ่ พร้อมประชาสัมพันธ์ให้ผู้โดยสารหมั่นสังเกตอาการของผู้ขับขี่ เพื่อป้องกันอาการหลับในที่เป็นสาเหตุของ

นายเกษม มูลจันทร์ รองอธิบดีกรมคุมประพฤติ ในฐานะประธานแถลงข่าวกล่าวว่า ศูนย์อำนวยการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนช่วงเทศกาลสงกรานต์ปี 2555 โดยกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ได้รวบรวมสถิติอุบัติเหตุทางถนนประจำวันที่ 15 เมษายน 2555 เป็นวันที่ 5 ของการรณรงค์ “สงกรานต์ปลอดภัย ตายเป็นศูนย์” เกิดอุบัติเหตุ 447 ครั้ง ผู้เสียชีวิต 43 ราย ผู้บาดเจ็บ 463 คน

สรุปอุบัติเหตุทางถนนสะสม 5 วัน ตั้งแต่วันที่ 11 - 15 เม.ย. 55 เกิดอุบัติเหตุรวม 2,581 ครั้ง ผู้เสียชีวิตรวม 253 ราย ผู้บาดเจ็บรวม 2,751 คน จังหวัดที่ไม่เกิดอุบัติเหตุในช่วง 5 วัน มี 1 จังหวัด ได้แก่ หนองบัวลำภู จังหวัดที่ไม่มีผู้เสียชีวิตในช่วง5วันมี 12 จังหวัด จังหวัดที่ไม่มีผู้บาดเจ็บในช่วง 5 วัน มี 4 จังหวัด จังหวัดที่เกิดอุบัติเหตุสะสมสูงสุด ได้แก่เชียงราย 106 ครั้ง จังหวัดที่มีผู้เสียชีวิตสะสมสูงสุด ได้แก่ นครศรีธรรมราช สุราษฎร์ธานี จังหวัดละ 10 ราย จังหวัดที่มีผู้บาดเจ็บสะสมสูงสุด ได้แก่ เชียงราย 106 คน

สาเหตุที่ทำให้เกิดอุบัติเหตุสูงสุด เมาสุรา ร้อยละ 42.28 ขับรถเร็วเกินกำหนด ร้อยละ 21.70 ยานพาหนะที่เกิดอุบัติเหตุสูงสุด ได้แก่ รถจักรยานยนต์ ร้อยละ 83.12 รถปิคอัพ ร้อยละ 12.34 พฤติกรรมเสี่ยงที่ก่อให้เกิดการบาดเจ็บและเสียชีวิตสูงสุด ได้แก่ การโดยสารรถจักรยานยนต์โดยไม่สวมหมวกนิรภัย ร้อยละ 31.23 ไม่คาดเข็มขัดนิรภัย ร้อยละ 1.78 ส่วนใหญ่เกิดในเส้นทางตรง ร้อยละ 62.86 บนถนน อบต./หมู่บ้าน ร้อยละ 36.02 ถนนทางหลวงแผ่นดิน ร้อยละ 33.78 ช่วงเวลาที่เกิดอุบัติเหตุสูงสุด ได้แก่ ช่วงเวลา 16.01 - 20.00 น. ร้อยละ 32.66 ผู้บาดเจ็บและผู้เสียชีวิตส่วนใหญ่อยู่ในกลุ่มวัยแรงงาน ร้อยละ 51.58

จังหวัดที่ไม่เกิดอุบัติเหตุ 9 จังหวัด ได้แก่ กำแพงเพชร ฉะเชิงเทรา ชัยภูมิ ตราด นครนายก บึงกาฬ หนองบัวลำภู อำนาจเจริญ และอุบลราชธานี จังหวัดที่เกิดอุบัติเหตุสูงสุด ได้แก่ นครสวรรค์ 25 ครั้ง จังหวัดที่ไม่มีผู้เสียชีวิต 51 จังหวัด จังหวัดที่มีผู้เสียชีวิตสูงสุด ได้แก่ นครสวรรค์ 5 คน จังหวัดที่ไม่มีผู้บาดเจ็บ 11 จังหวัด จังหวัดที่มีผู้บาดเจ็บสูงสุด ได้แก่ นครสวรรค์ เพชรบูรณ์ สุราษฎร์ธานี จังหวัดละ 21 คน ทั้งนี้ ได้จัดตั้งจุดตรวจหลัก 2,411 จุด เจ้าหน้าที่ปฏิบัติงาน 69,819 คน เรียกตรวจยานพาหนะ 743,201 คัน มีผู้ถูกดำเนินคดีรวม 114,165 ราย โดยมีความผิดฐานไม่สวมหมวกนิรภัย 33,051 ราย รองลงมา ไม่มีใบขับขี่ 32,882 ราย

ศปถ.วิเคราะห์อุบัติเหตุรายใหญ่พบว่า ส่วนใหญ่ผู้ขับขี่มักมีอาการหลับในเมื่อใกล้ถึงที่หมาย จึงขอให้ผู้โดยสารยานพาหนะหมั่นสังเกตอาการของผู้ขับขี่ หากมีอาการหาวบ่อย ง่วงซึม ให้ชวนคุย หรือให้ผู้ขับขี่ทานผลไม้เปรี้ยว หรือเคี้ยวหมากฝรั่ง จะช่วยคลายอาการง่วงนอนได้ หรือให้เพื่อนร่วมทางขับรถแทน หากไม่มีผู้ขับรถแทนให้จอดรถพักเพื่อเปลี่ยนอิริยาบถในบริเวณที่ปลอดภัย เช่น สถานีบริการน้ำมัน จุดพักรถริมทาง เป็นต้น จะช่วยคลายอาการง่วงนอน และความอ่อนล้าที่เป็นต้นเหตุของอุบัติเหตุทางถนนได้” รองอธิบดีกรมคุมประพฤติ กล่าว

นอกจากนี้ ศปถ.ได้ประสานจังหวัดกำชับเจ้าหน้าที่ประจำจุดตรวจให้เข้มงวดกวดขันการเรียกตรวจรถโดยสารสาธารณะ เพื่อตรวจสอบสภาพความพร้อมของร่างกายและวัดปริมาณแอลกอฮอล์ในเลือดเพื่อป้องกันการเกิดอุบัติเหตุรายใหญ่ ที่จะทำให้มีผู้เสียชีวิตจำนวนมาก รวมทั้งให้กวดขันบริเวณการจำหน่ายสิ่งของโดยเฉพาะบริเวณจุดเสี่ยงอุบัติเหตุ เช่น คอสะพาน ไหล่ทางแคบ ริมข้างทางเพื่อป้องกันอุบัติเหตุ

ด้านนายวิบูลย์ สงวนพงศ์ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) เลขานุการศูนย์อำนวยการ ความปลอดภัยทางถนน (ศปถ.) เปิดเผยถึงการดำเนินงานรณรงค์ป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนช่วงเทศกาลสงกรานต์ปี 2555 ว่า ในช่วง 5 วันของการรณรงค์“สงกรานต์ปลอดภัย ตายเป็นศูนย์” ตั้งแต่วันที่11 - 15 เมษายน 2555 มีจังหวัดที่ไม่เกิดอุบัติเหตุในช่วง 5 วัน 1 จังหวัด ได้แก่ หนองบัวลำภู จังหวัดที่ไม่มีผู้เสียชีวิต “ตายเป็นศูนย์” รวม 12 จังหวัด แยกเป็น ภาคเหนือ 1 จังหวัด ได้แก่ กำแพงเพชร ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 2 จังหวัด ได้แก่ นครพนม และหนองบัวลำภู ภาคกลาง 4 จังหวัด ได้แก่ ชลบุรี ลพบุรี สิงห์บุรี และตราด ภาคใต้ 5 จังหวัด ตรัง ปัตตานี ยะลา ระนอง และสตูล

“ ศปถ.ได้เน้นย้ำให้ 12 จังหวัดที่สถิติการเสียชีวิตเป็น “ศูนย์” ดำเนินการตามแนวทางที่เป็นปัจจัยแห่งความสำเร็จในการลดจำนวนผู้เสียชีวิตจากอุบัติเหตุทางถนนอย่างเข้มข้นและต่อเนื่อง สำหรับจังหวัดที่เกิดอุบัติเหตุสูงและมีจำนวนผู้เสียชีวิตมาก ให้นำข้อมูลมาวิเคราะห์ ปรับแผนการจัดตั้งจุดตรวจและวางแนวทาง การแก้ไขปัญหาอุบัติเหตุทางถนนให้สอดคล้องกับสภาพการจราจรในพื้นที่เพื่อควบคุมพฤติกรรมเสี่ยง “เมาแล้วขับ ขับรถเร็ว ไม่สวมหมวกนิรภัย” ที่เป็นสาเหตุหลักของการเกิดอุบัติเหตุทางถนน โดยเฉพาะบริเวณจุดเสี่ยงที่มีการเล่นน้ำสงกรานต์ รวมถึงเส้นทางเชื่อมต่อระหว่างถนนสายรองและถนนสายหลัก วันนี้เป็นวันที่ประชาชนเดินทางกลับ จึงขอให้เจ้าหน้าที่ทุกภาคส่วนร่วมกันรณรงค์ประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนใช้รถใช้ถนนอย่างปลอดภัย “อธิบดีฯ ปภ.กล่าว

***รัฐบาลฟุ้งเป็นผลงาน

วันเดียวกัน ที่ทำเนียบรัฐบาล นายอนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด รักษาการโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงการรณรงค์เพื่อลดการเกิดอุบัติเหตุในช่วงเทศกาลสงกรานต์ระหว่างวันที่ 11-15 เมษายนของปี 2555 เทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้วว่า ปัจจัยชี้วัดที่จะดูผลสัมฤทธิ์ของการรณรงค์ดังกล่าวต้องดู 3 ปัจจัยหลักประกอบกัน คือ จำนวนครั้งของการเกิดอุบัติเหตุ จำนวนผู้ได้รับบาดเจ็บ และจำนวนผู้เสียชีวิต ซึ่งพบว่าสถิติของปีนี้ใน 2 ปัจจัยแรกนั้นมีสถิติลดลง และจนถึงขณะนี้ยังมีจังหวัดที่มีสถิติการเสียชีวิตจากการเกิดอุบัติเหตุในช่วงดังกล่าวเป็น "ศูนย์" ถึง 12 จังหวัด

"ผลจากการรณรงค์ได้เน้นย้ำให้ประชาชนตระหนักถึงความสูญเสียของการเกิดอุบัติเหตุในช่วงเทศกาลสงกรานต์ ทั้งการกำชับเจ้าหน้าที่ให้เข้มงวดกวดขันในการตั้งจุดตรวจ เพื่อยับยั้งพฤติกรรมเมาแล้วขับ ทำให้สถิติการเกิดอุบัติเหตุของปีนี้ลดลง ส่งผลถึงการประหยัดงบประมาณด้านการสาธารณสุขของประเทศซึ่งมาจากเงินงบประมาณแผ่นดินไปได้มาก"

อย่างไรก็ตาม ทางรัฐบาลจะได้เฝ้าระวังและรณรงค์เพื่อลดการเกิดอุบัติเหตุในช่วงเทศกาลต่างๆ ต่อไปอย่างต่อเนื่อง และในวันนี้ขอให้พี่น้องประชาชนที่เดินทางไปพักผ่อนท่องเที่ยวกับครอบครัว เดินทางกลับโดยสวัสดิภาพ เพื่อจะช่วยกันทำให้สถิติในภาพรวมดีขึ้นทั้งระบบ".
กำลังโหลดความคิดเห็น