xs
xsm
sm
md
lg

“แม้ว” คุย 2555 ปีทอง ตั้งเป้าสูง ขอกลับไทย

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ทันทีที่เครื่องบินโดยสารของ “นช.แม้ว - ทักษิณ ชินวัตร” แตะพื้นสนามบินนานาชาติเสียมราฐ เมื่อช่วงก่อนเที่ยงของวันที่ 14 เม.ย. ที่ผ่านมา บรรยากาศภายในเมืองเสียมราฐ ที่ดูชุลมุนวุ่นวายอยู่แล้ว เพราะมวลชนคนเสื้อแดงที่รวมพลมารอต้อนรับล่วงหน้า ก็ต้องอลหม่านขึ้นเป็นทวีคูณ

ด้วยมาตรการรักษาความปลอดภัยที่เข้มงวดอย่างหนัก สังเกตได้จากอากัปกิริยาของเจ้าหน้าที่ทหาร-ตำรวจ ของกัมพูชาเรือนหมื่น ที่กระจายอยู่โดยรอบเมืองได้ปรับอารมณ์เข้าสู่โหมดเอาจริงเอาจังขั้นสูงสุด

หน่วยเคลื่อนที่เร็ว ที่ประจำตามจุดต่างๆ โดยเฉพาะบริเวณสี่แยก ก็ได้เพิ่มจำนวนขึ้นอีกเท่าตัว จากเดิมที่วางกำลังไว้ 3 นาย ก็เพิ่มเป็น 6 นายต่อชุด พร้อมสรรพด้วยอาวุธปืนครบมือ และจักรยานยนต์ใหม่เอี่ยม เตรียมพร้อมสำหรับการเผชิญเหตุไม่คาดฝัน อย่างเต็มที่

ที่หนักที่สุดคงเป็นบริเวณโดยรอบโรงแรม ซิตี้ อังกอร์ ซึ่งเป็นที่พำนักของ “ทักษิณ” ตลอด 3 วัน ตามกำหนดการ ที่นอกเหนือจากเจ้าหน้าที่ที่วางกำลังเต็มพื้นที่ การจราจรที่คับคั่งไปด้วยรถยนต์ ทั้งบัส ทั้งแวน หรือที่มาในรูปแบบคาราวานจากประเทศไทย ได้จับจองยึดที่ว่างทุกจุดหน้าโรงแรม เป็นที่จอดรถชั่วคราว หนำซ้ำยังมีกลุ่มคนเสื้อแดง ตั้งแถวจัดขบวนต้อนรับ “ทักษิณ” อีกยาวเหยียด จนทำให้การจรจรที่ติดขัด เข้าระดับวิกฤติ

แม้แต่สื่อมวลชนไทยที่ติดตามไปทำข่าวถึงแดนปลากรอบ ซึ่งได้รับการอำนวยความสะดวกจากทางพรรคเพื่อไทย ประสานงานให้ แต่ก็ยังได้รับความลำบากในการทำงาน ทั้งเรื่องการติดต่อสื่อสาร การปิดกั้นเข้า-ออกพื้นที่ แม้จะมีบัตรแสดงตนก็ตาม

หนักที่สุดคงหนีไม่พ้นการเบียดเสียดเยียดยัด แทรกขบวนของ “ทักษิณ” เพื่อติดตามทำข่าวแบบเกาะติด แน่นอนย่อมต้องเผชิญกับฝูงชนคนเสื้อแดง ที่ต้องการสัมผัส “ทักษิณ” อย่างใกล้ชิดเช่นกัน การทำงานของชุดบอดี้การ์ด ที่ “เพื่อนรักฮุนเซน” จัดเตรียมไว้ ก็ลำบากตามไปด้วย

แว่วว่า สาเหตุสำคัญที่ทีมงานระดับสูงทางฝั่งกัมพูชา จัดให้ “ทักษิณ” ค้างแรมที่โรงแรม ซิตี้ อังกอร์ ซึ่งเป็นเพียงโรงแรมในระดับ 4 ดาวเท่านั้น แทนที่จะเป็นโรงแรมระดับไฮเอนด์หรือ 5 ดาว ที่มีอยู่หลายแห่งให้สมฐานะของอาคันตุกะ ก็เนื่องมาจาก มาตราการรักษาความปลอดภัยนี้เอง อีกทั้งยังมีข้อมูลไม่เป็นที่เปิดเผยว่า โรงแรมแห่งนี้มีนายทหารใหญ่ของกัมพูชาเป็นเจ้าของ จึงถือว่า วางใจได้ในระดับสูง

ส่วนตัวของ “ทักษิณ” ซึ่งเดินทางมาถึง หลังเสร็จภารกิจจากประเทศลาว เมื่อลงเครื่องปุ๊บ ก็ตรงเข้าโรงแรมที่พักทันที ด้วยสีหน้าที่มีรอยยิ้มอยู่ตลอด แต่ก็เจือไปด้วยร่องรอยแห่งความอ่อนเพลีย ทั้งยังต้องพบศึกหนัก ด้วยการต้อนรับจากกลุ่มคนเสื้อแดงที่เรียงแถวเต็มพื้นที่ล็อบบี้ของโรงแรม เมื่อต่างกรูหวังเข้าประชิดตัว “ทักษิณ” ให้ได้

จนทำให้อดีตผู้นำที่รับการอารักขาดั่ง “ไข่ในหิน” ต้องกระเด็นกระดอนไปตามแรงยื้อยุดฉุดกระชากของบรรดา “แม้วแฟนคลับ”

เมื่อหลุดจากวงล้อมกองเชียร์ได้แล้ว ก็ถึงคราวที่บรรดารัฐมนตรี ส.ส. และแกนนำพรรค-คนเสื้อแดง ที่ตบเท้ามากันหลายร้อยชีวิต ได้พบปะกับ “นายใหญ่” บ้าง บางส่วนก็ได้ควงกะ ติดตามมาจากประเทศลาว อีกส่วนก็มาสมทบ ตระเตรียมงานที่กัมพูชา

ช็อตประทับใจก็คงอยู่ที่ “ครอบครัวเทียนทอง” ที่ยกครัวทั้ง “เสนาะ-อุไรวรรณ- สรวงศ์” และหลานชาย “ฐานิสร์” รมช.มหาดไทย มาจาก จ.สระแก้ว ที่อยู่ชิดขอบชายแดน จึงเสมือนหนึ่งเป็น “เจ้าถิ่น” ไปโดยปริยาย

และไม่แปลกที่งานนี้ “ป๋าเหนาะ” จะรับหน้าเสื่อ เป็นสปอนเซอร์สนับสนุนรถรา และสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ รวมถึงประสานงานในระหว่างที่อยู่ในกัมพูชา นอกเหนือจากที่ทางการกัมพูชา จัดเตรียมไว้ให้

คนแรกที่ “ทักษิณ” ปรี่ไปทักทายก็เป็น “เสนาะ” ที่ได้โผเข้าสวมกอดกันอย่างชื่นมื่น ก่อนร่วมรับประทานอาหาร โดยที่ “ทักษิณ” นั่งกลาง และมี “เสนาะ” ขนาบข้าง บนโต๊ะอาหารที่มีข้าวเหนียวไก่ย่าง น้ำพริก และปลาดุกย่างชุดใหญ่ จากโรงแรม ในขณะที่เปิบอาหารด้วยมือกันอย่างเอร็ดอร่อย ก็ยังไม่วายที่ทั้งคู่มีการกระซิบกระซาบกันโดยตลอด

จากนั้นก็มีการตั้งโต๊ะรดน้ำดำหัวในเทศกาลสงกรานต์ โดยมี “เสนาะ” ซึ่งได้ชื่อว่าเป็นตัวจักรสำคัญที่ส่ง “ทักษิณ” ให้ได้นั่งเก้าอี้นายกรัฐมนตรี สมัยแรก เป็นตัวแทนรดน้ำ และอวยพรให้ “ทักษิณ” ในฐานะที่อาวุโสสูงสุด ซึ่งความโดยสรุปของพรที่ให้ต่อกันก็คือ

“ขอให้ได้กลับบ้าน”

นอกจากระดับแกนนำแล้ว “ทักษิณ” ก็ยังเปิดโอกาสให้คนเสื้อแดง เข้าพบปะรดน้ำอย่างใกล้ชิด แต่ก็ยากจะทั่วถึง เพราะมีจำนวนมากเกินไป จนคนที่ผิดหวังบ่นกระปอดกระแปดว่าเดินทางมาไกล รอวันนี้มานานถึง 5 ปีที่จะได้พบ แต่ก็ต้องผิดหวัง ผู้เฒ่า ผู้แก่ หลายคนถึงกลับร่ำไห้ ที่ไม่ได้โอกาสเหมือนคนอื่นๆ บ้าง

ตัดมาที่ไฮไลต์ สำคัญของวัน ที่มีการปราศรัย พบปะประชาชนครั้งใหญ่ ณ เวทีกลางแจ้งลานมิตรภาพกัมพูชา-เกาหลีใต้ หรือ อังกอร์จุงยู

โดยสิ่งที่แกนนำผู้รับผิดชอบจัดงาน มีความกังวลเป็นอย่างยิ่ง ก็คือ เรื่องเก้าอี้ 50,000 ที่นั่ง ที่เตรียมไว้บนเนื้อที่มากกว่า 100 ไร่ จะเต็มความจุหรือไม่ หลังจากที่ลุ้นกันตุ่มๆ ต่อมๆ พอแดดร่วมลมตก ก็มีมวลชนเสื้อแดงที่ข้ามฝั่งมาทยอยจับจองพื้นที่กันแน่นขนัด

ซึ่งจะเต็มทุกที่นั่งตามที่แกนนำหวังไว้ แต่ก็ต้องยอมรับว่า จำนวนผู้เข้าร่วมน่าจะมีไม่น้อยกว่า 30,000 คน ซึ่งถือว่าเกินความหมายในการจัดชุมนุมต่างแดน เมื่อ “ทักษิณ” เดินทางมาถึงราว 5 โมงครึ่ง ก็โดดขึ้บจับไมค์ ทักทายกับพี่น้องที่เฝ้าติดตามทันที

แน่นอนว่า เรื่องที่ต้องตอกย้ำ นอกจากการ ยกย่องผลงานของรัฐบาล “ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร” แล้ว ก็ต้องออกลูกอ้อน เรื่อง “ขอกลับบ้าน” คล้ายเป็นแผ่นเสียงตกร่องใน “ทริปสงกรานต์” ซ้ำกับที่พูดถึง 3 วันติดๆ ก่อนหน้านี้ ที่ประเทศลาว

แต่รอบนี้ดู “ทักษิณ” จะมั่นใจเป็นพิเศษ แม้จะไม่ได้ระบุห้วงเวลาอย่าง 3 - 4 เดือน หรือภายในปีนี้ อย่างที่เคยพูดๆมา โดยเฉพาะประโยคที่ว่า “กลับเท่ๆ เหมือนพระเอกในละคร” ที่ว่าตามท้องเรื่องอาจจะบอบช้ำหน่อย แต่สุดท้ายคนก็จะรู้ว่าเป็น “พระเอก”

หนำซ้ำยังมีคำพูดช่วงหนึ่ง “ทักษิณ” ย้ำหลายรอบว่า ปี 2555 ถือเป็นปีมหามงคล โดยอ้างถึงวันสำคัญที่จะเกิดขึ้นในรอบปี ทำเอาคนฟังถึงกับอึ้ง คิดไปต่างๆ นานาว่า “ทักษิณ” เขาคิดอะไรอยู่

แต่เมื่อคิดตามตรรกะง่ายๆ ก็เชื่อว่า “เป้าสูง” ที่ “ทักษิณ” ต้องการสื่อออกมาก็คือ การได้รับ “อภัยโทษ” เนื่องในโอกาสมหามงคลนั่นเอง

นอกจากการปราศรัยอ้อนคนเสื้อแดงเกือบชั่วโมงแล้ว “ทักษิณ” ยังได้โชว์ลูกคอ ร้องเพลงตามคำเรียกร้อง เริ่มด้วยเพลงเบาๆ อย่าง “เล่าสู่กันฟัง - หนุ่มนาข้าวสาวนาเกลือ” และอีกไม่ต่ำกว่า 20 เพลงติดๆ

ที่น่าสนใจที่สุด เห็นจะเป็นบทเพลง “let it be” ผลงานของสี่เต่าทอง “เดอะบีทเทิลล์” ที่ “ทักษิณ” นำมาตีความหมายอย่างตรงไปตรงมา แปลว่า “ช่างแม่มัน” โดยพูดเองว่า เป็นเพลงของพวก “เก็บกด-ไร้ทางออก” แถมมีท่อนหนึ่ง ที่ร้องออกว่ามา “จะเป็นจะตาย ช่างแม่มัน” ซึ่งไม่รู้ว่า หมายความถึงใคร

สังเกตจากความช่างเจรจาของ “ทักษิณ” บนเวทีครั้งนี้แล้ว จะเห็นได้ว่า นอกจากอาการตี่นเต้น ปลื้มใจกับจำนวนคนเสื้อแดงที่มาเข้าร่วม ซึ่งถือเป็นครั้งแรกอย่างเป็นทางการที่ “ทักษิณ” มาขึ้นเวทีในลักษณะนี้ เพราะที่ผ่านมา มีโอกาสเพียงเจรจาผ่าน “สไกป์”

และเป็นครั้งแรกอีกเช่นกันที่ “ทักษิณ” พร้อมด้วย “จตุพร พรหมพันธุ์-ณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ” ขึ้นเวทีของคนเสื้อแดงพร้อมๆ กัน
กำลังโหลดความคิดเห็น