ASTVผู้จัดการรายวัน-สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ พร้อมด้วยสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ เสด็จฯ มายังพระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท ภายในพระบรมมหาราชวัง ในการพระราชพิธีเลี้ยงพระ ก่อนเชิญพระโกศพระอัฐิประดิษฐาน ณ สุสานหลวง
วานนี้ (12 เม.ย.) เมื่อเวลา 10.33 น. ณ พระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท ในพระบรมมหาราชวัง พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร เสด็จฯแทนพระองค์ในการพระราชพิธีเลี้ยงพระ พร้อมทั้งอัญเชิญพระโกศพระอัฐิ สมเด็จพระเจ้าภคินีเธอ เจ้าฟ้าเพชรรัตนราชสุดา สิริโสภาพัณณวดี โดยพระราเชนทรยาน จากพระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท ไปยังพระวิมาน พระที่นั่งจักรีมหาปราสาท และอัญเชิญพระสรีรางคาร โดยพระวอสีวิกากาญจน์ จากพระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท ไปยังเสาวภาประดิษฐาน สุสานหลวง วัดราชบพิธสถิตมหาสีมาราม การนี้ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าศรีรัศมิ์ พระวรชายาในสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร พระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าสิริวัณณวรีนารีรัตน์ โดยเสด็จด้วย
ครั้นเสด็จพระราชดำเนินถึง สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร ทรงจุดธูปเทียนเครื่องราชสักการะพระอัฐิ ซึ่งประดิษฐานในบุษบกพระแท่นสุวรรณเบญจดล ทรงจุดธูปเทียนเครื่องนมัสการบูชาพระพุทธรูปประจำพระชนมวารของสมเด็จพระเจ้าภคินีเธอ เจ้าฟ้าเพชรรัตนราชสุดา สิริโสภาพัณณวดี ที่ประดิษฐานบนแท่นมุกราชบัลลังก์นพปฎลมหาเศวตฉัตร พระสงฆ์ 30 รูป ที่สวดพระพุทธมนต์ตั้งแต่วันก่อน ถวายพระพร
จากนั้นทรงประเคนภัตตาหาร พระสงฆ์รับพระราชทานฉันเสร็จแล้ว ทรงประเคนจตุปัจจัยไทยธรรม แด่สมเด็จพระราชาคณะและพระราชาคณะ พระสงฆ์ถวายอนุโมทนา ถวายอดิเรก ถวายพระพรลา ทรงจุดธูปเทียนเครื่องทรงธรรม พระพรหมมุนี ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดราชบพิธสถิตมหาสีมาราม พระราชาคณะถวายศีลและถวายพระธรรมเทศนากัณฑ์ 1 จบแล้ว ถวายอนุโมทนา พระสงฆ์ 4 รูป รับอนุโมทนา ทรงประเคนจตุปัจจัยไทยธรรมบูชากัณฑ์เทศน์ และทรงทอดผ้าไตรถวายพระเทศน์ รับอนุโมทนา พระสงฆ์ 5 รูป สดับปกรณ์ ถวายอดิเรก ถวายพระพรลา แล้วเจ้าพนักงานนิมนต์พระสงฆ์ 86 รูป เท่าพระชันษาสมเด็จพระเจ้าภคินีเธอ เจ้าฟ้าเพชรรัตนราชสุดา สิริสภาพัณณวดี ขึ้นนั่งยังอาสนสงฆ์ ทรงทอดผ้าไตร พระสงฆ์สดับปกรณ์ ถวายอนุโมทนา ถวายอดิเรก ถวายพระพรลา
ถัดมาเวลา 12.40 น. เริ่มตั้งริ้วขบวนพระอิสริยยศที่ 5 อัญเชิญพระอัฐิขึ้นประดิษฐาน ณ พระวิมาน พระที่นั่งจักรีมหาปราสาท เจ้าพนักงานเทียบพระที่นั่งราเชนทรยานสำหรับอัญเชิญพระโกศพระอัฐิสมเด็จพระเจ้าภคินีเธอ เจ้าฟ้าเพชรรัตนราชสุดา สิริโสภาพัณณวดี ไว้ที่เกยพระที่นั่งอาภรณ์พิโมกข์ปราสาท ตำรวจหลวง มหาดเล็กหลวงเป็นคู่แห่ 4 สาย ข้าราชการพลเรือนชั้นผู้ใหญ่ ทหารนายพลราชองครักษ์เป็นคู่เคียงพระที่นั่งราเชนทรยานทรงพระโกศพระอัฐิพร้อมด้วยเครื่องพระอภิรุมชุมสาย สังข์ แตรงอน แตรฝรั่ง ปี่ กลองชนะ พระแสงหว่างเครื่อง พระกลด บังพระสูรย์ พัดโบก เจ้าพนักงานภูษามาลาประคอง และพระประยูรญาติเชิญเครื่องพระอิสริยยศไว้พร้อม ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้เจ้าพนักงานภูษามาลาเชิญพระโกศพระอัฐิสมเด็จพระเจ้าภคินีเธอ เจ้าฟ้าเพชรรัตนราชสุดา สิริโสภาพัณณวดี ลงจากบุษบกพระแท่นสุวรรณเบญจดล ไปออกพระทวารพระที่นั่งดุสิตมหาปราสาทมุขตะวันออกไปยังเกยพระที่นั่งอาภรณ์พิโมกข์ปราสาท ในการนี้พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯให้ สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร และสมพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ทรงปฏิบัติพระราชกรณียกิจแทนพระองค์ พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าศรีรัศมิ์ พระวรชายาในสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร พระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าสิริวัณณวรีนารีรัตน์ เสด็จฯ ตามริ้วขบวนพระอิสริยยศที่ 5
ขณะเดียวกัน เจ้าพนักงานภูษามาลาประดิษฐานพระโกศพระอัฐิในบุษบกพระที่นั่งราเชนทรยาน ขบวนพระอิสริยยศประโคมสังข์ แตรงอน แตรฝรั่ง ปี่ กลองชนะ พร้อมแล้วยาตราขบวนพระอิสริยยศเชิญพระอัฐิ จากพระที่นั่งอาภรณ์พิโมกข์ปราสาทไปยังพระที่นั่งจักรีมหาปราสาท เมื่อเทียบพระที่นั่งราเชนทรยานที่อัฒจันทร์ตะวันออกพระที่นั่งจักกรีมหาปราสาท แล้ว เจ้าพนักงานภูษามาลาเชิญพระโกศอัฐิขึ้นพระวิมาน พระที่นั่งจักรีมหาปราสาท เมื่อประดิษฐานพระโกศพระอัฐิในพระวิมานทองเสร็จเรียบร้อยแล้ว สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร และสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ทรงจุดธูปเทียนบูชาพระสัมพุทธพรรโณพาศ ทรงจุดธูปเทียนเครื่องราชสักการะพระอัฐิ ก่อนเสด็จพระราชดำเนินกลับ
ส่วนในช่วงบ่าย เวลา 16.30 น. พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จพระราชดำเนินแทนพระองค์ ในการพระราชพิธีบรรจุพระสรีรางคารสมเด็จพระเจ้าภคินีเธอ เจ้าฟ้าเพชรรัตนราชสุดา สิริโสภาพัณณวดี ครั้นเสด็จพระราชดำเนินโดยรถยนต์พระที่นั่งเข้าสู่พระบรมมหาราชวัง เจ้าพนักงานภูษามาลาเชิญพระผอบพระสรีรางคารสมเด็จพระเจ้าภคินีเธอ เจ้าฟ้าเพชรรัตนราชสุดา สิริโสภาพัณวดี โดยพระราชยานจากพระศรีรัตน์เจดีย์ไปออกประตูเกยหลังวัดพระศรีรัตนศาสดาราม เชิญขึ้นประดิษฐานในรถยนต์พระที่นั่ง
จากนั้น เริ่มยาตรารั้วขบวนพระอิสริยยศที่ 6 อัญเชิญพระสรีรางคาร โดยพระวอสีวิกาญจน์ออกจากพระบรมมหาราชวัง มีขบวนกองเกียรติยศทหารม้ารักษาพระองค์แห่นำ ในการนี้ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จฯโดยขบวนรถยนต์พระที่นั่ง ตามรถยนต์พระที่นั่งพระสรีรางคาร แล้วทหารม้ารักษาพระองค์กองเกียรติยศขบวนหลังตามขบวนเชิญพระสรีรางคาร ออกจากประตูวิไชยศรี เลี้ยวขวาเข้าสู่ถนนหน้าพระลาน เลี้ยวขวาตัดเข้าสู่ถนนสนามไชย เลี้ยวซ้ายถนนกัลยาณไมตรี ข้ามสะพานช้างโรงสี เลี้ยวขวาถนนอัษฎางค์ เลี้ยวซ้ายถนนราชบพิธ ขบวนหน้าทหารม้ารักษาพระองค์แห่นำรถยนต์พระที่นั่ง อัญเชิญพระสรีรางคาร เทียบประตูทางเสด็จวัดราชบพิธสถิตมหาสีมาราม พนักงานภูษามาลาเชิญพระผอบพระสรีรางคารเข้าซุ้มประตูวัดแล้ว สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จพระราชดำเนินตามพระสรีรางคาร ทหารกองเกียรติยศถวายความเคารพ แตรวงบรรเลงเพลงสรรเสริญพระบารมี เจ้าพนักงานภูษามาลาเชิญพระผอบพระสรีรางคารไปประดิษฐานที่โต๊ะหมู่ทองในพระอุโบสถข้างพุทธบัลลังก์พระพุทธอังคีรส
สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมาร ทรงจุดธูปเทียนเครื่องนมัสการบูชาพระพุทธอังคีรสประธานอุโบสถ และทรงจุดธูปเทียนเครื่องทองน้อยถวายราชสักการะพระบรมราชสรีรางคารพระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 7 พระราชสรีรางคารสมเด็จพระนางเจ้ารำไพพรรณี พระบรมราชินี ในรัชกาลที่ 7 และพระสรีรางคารสมเด็จพระเจ้าภคินีเธอ เจ้าฟ้าเพชรรัตนราชสุดา สิริโสภาพัณวดี จากนั้นทรงทอดผ้าไตรถวายพระสงฆ์วัดราชบพิธสถิตมหาสีมาราม 30 รูป พระสงฆ์สดับปกรณ์ ถวายอนุโมทนา ถวายอดิเรก
เจ้าพนักงานภูษามาลาเชิญผอบพระสรีรางคารสมเด็จพระเจ้าภคินีเธอ เจ้าฟ้าเพชรรัตนราชสุดา สิริโสภาพัณวดี ไปยังเสาวภาประดิษฐาน สุสานหลวง วัดราชบพิธสถิตมหาสีมาราม สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จพระราชดำเนินถึงเสาวภาประดิษฐาน สุสานหลวง แล้วเสด็จเข้าเสาวภาประดิษฐาน ทรงเชิญพระสรีรางคารลงในถ้ำศิลา แล้วทรงปิดฝาถ้ำศิลา และเลื่อนเชิญเข้าสู่ที่บรรจุ ทรงวางพวงมาลา ทรงจุดธูปเทียนเครื่องทองน้อย ถวายราชสักการะ ขณะนั้นชาวพนักงานประโคมสังข์ แตรงอน แตรฝรั่ง ปี่ กลองชนะ ทหารกองเกียรติยศถวายความเคารพ แตรวงบรรเลงเพลงมหาชัย จากนั้นเสด็จพระราชดำเนินไปประทับรถยนต์พระที่นั่ง บริเวณประตูอนุสรณ์สถาน วัดราชบพิธสถิตมหาสีมาราม ถนนอัษฎางค์ เสด็จพระราชดำเนินกลับ แล้วเจ้าหน้าที่ปิดผนึกที่บรรจุพระสรีรางคาร เป็นอันเสร็จพิธี
สำหรับเสาวภาประดิษฐาน สุสานหลวงนั้น มีลักษณะเหมือนกับอนุสรณ์สถานรังสีวัฒนา เป็นอาคารจัตุรมุข ยอดสถูปเชื่อมกันด้วยมุขกะสัน ตรงกลางเป็นสนถูปขนาดใหญ่ บุด้วยโมเสคสีทอง ส่วนสถูปอีก 3 องค์มีขนาดย่อมกว่าทาด้วยสีขาว ภายในบรรจุพระสรีรางคาร พระราชโอรสและพระราชธิดา อันประสูติแต่สมเด็จพระศรีพัชรินทรบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนี พระพันปีหลวง รวมทั้งสมาชิกบางพระองค์ ในราชสกุลจักรพงษ์และพระราชสกุลจุฑาธุช
ส่วนที่มณฑลพิธีท้องสนามหลวง นางโสมสุดา ลียะวณิช อธิบดีกรมศิลปากร กล่าวว่า จำนวนผู้เข้าชมพระเมรุวันแรก 7, 219 คน ส่วนวันที่ 2 มีประชาชนเดินทางเข้ามาชมพระเมรุ เฉพาะที่ลงทะเบียน ทั้งหมด 8,500 คน รวมผู้เข้าชมสองวันเป็น 15,719 คน
นายธงทอง จันทรางศุ ปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า เดิมกำหนดไว้ว่าจะเปิดให้ประชาชนเข้าชมพระเมรุ ระหว่างวันที่ 11-17 เม.ย. พบว่ามีประชาชนเดินทางเข้ามาชมพระเมรุในแต่ละวันจำนวนมาก จึงเห็นว่าจะขยายเวลาการเข้าชมไปจนถึงวันที่ 25 เม.ย. หลังจากนั้นก็จะดำเนินการรื้อถอนทันที
วานนี้ (12 เม.ย.) เมื่อเวลา 10.33 น. ณ พระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท ในพระบรมมหาราชวัง พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร เสด็จฯแทนพระองค์ในการพระราชพิธีเลี้ยงพระ พร้อมทั้งอัญเชิญพระโกศพระอัฐิ สมเด็จพระเจ้าภคินีเธอ เจ้าฟ้าเพชรรัตนราชสุดา สิริโสภาพัณณวดี โดยพระราเชนทรยาน จากพระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท ไปยังพระวิมาน พระที่นั่งจักรีมหาปราสาท และอัญเชิญพระสรีรางคาร โดยพระวอสีวิกากาญจน์ จากพระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท ไปยังเสาวภาประดิษฐาน สุสานหลวง วัดราชบพิธสถิตมหาสีมาราม การนี้ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าศรีรัศมิ์ พระวรชายาในสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร พระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าสิริวัณณวรีนารีรัตน์ โดยเสด็จด้วย
ครั้นเสด็จพระราชดำเนินถึง สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร ทรงจุดธูปเทียนเครื่องราชสักการะพระอัฐิ ซึ่งประดิษฐานในบุษบกพระแท่นสุวรรณเบญจดล ทรงจุดธูปเทียนเครื่องนมัสการบูชาพระพุทธรูปประจำพระชนมวารของสมเด็จพระเจ้าภคินีเธอ เจ้าฟ้าเพชรรัตนราชสุดา สิริโสภาพัณณวดี ที่ประดิษฐานบนแท่นมุกราชบัลลังก์นพปฎลมหาเศวตฉัตร พระสงฆ์ 30 รูป ที่สวดพระพุทธมนต์ตั้งแต่วันก่อน ถวายพระพร
จากนั้นทรงประเคนภัตตาหาร พระสงฆ์รับพระราชทานฉันเสร็จแล้ว ทรงประเคนจตุปัจจัยไทยธรรม แด่สมเด็จพระราชาคณะและพระราชาคณะ พระสงฆ์ถวายอนุโมทนา ถวายอดิเรก ถวายพระพรลา ทรงจุดธูปเทียนเครื่องทรงธรรม พระพรหมมุนี ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดราชบพิธสถิตมหาสีมาราม พระราชาคณะถวายศีลและถวายพระธรรมเทศนากัณฑ์ 1 จบแล้ว ถวายอนุโมทนา พระสงฆ์ 4 รูป รับอนุโมทนา ทรงประเคนจตุปัจจัยไทยธรรมบูชากัณฑ์เทศน์ และทรงทอดผ้าไตรถวายพระเทศน์ รับอนุโมทนา พระสงฆ์ 5 รูป สดับปกรณ์ ถวายอดิเรก ถวายพระพรลา แล้วเจ้าพนักงานนิมนต์พระสงฆ์ 86 รูป เท่าพระชันษาสมเด็จพระเจ้าภคินีเธอ เจ้าฟ้าเพชรรัตนราชสุดา สิริสภาพัณณวดี ขึ้นนั่งยังอาสนสงฆ์ ทรงทอดผ้าไตร พระสงฆ์สดับปกรณ์ ถวายอนุโมทนา ถวายอดิเรก ถวายพระพรลา
ถัดมาเวลา 12.40 น. เริ่มตั้งริ้วขบวนพระอิสริยยศที่ 5 อัญเชิญพระอัฐิขึ้นประดิษฐาน ณ พระวิมาน พระที่นั่งจักรีมหาปราสาท เจ้าพนักงานเทียบพระที่นั่งราเชนทรยานสำหรับอัญเชิญพระโกศพระอัฐิสมเด็จพระเจ้าภคินีเธอ เจ้าฟ้าเพชรรัตนราชสุดา สิริโสภาพัณณวดี ไว้ที่เกยพระที่นั่งอาภรณ์พิโมกข์ปราสาท ตำรวจหลวง มหาดเล็กหลวงเป็นคู่แห่ 4 สาย ข้าราชการพลเรือนชั้นผู้ใหญ่ ทหารนายพลราชองครักษ์เป็นคู่เคียงพระที่นั่งราเชนทรยานทรงพระโกศพระอัฐิพร้อมด้วยเครื่องพระอภิรุมชุมสาย สังข์ แตรงอน แตรฝรั่ง ปี่ กลองชนะ พระแสงหว่างเครื่อง พระกลด บังพระสูรย์ พัดโบก เจ้าพนักงานภูษามาลาประคอง และพระประยูรญาติเชิญเครื่องพระอิสริยยศไว้พร้อม ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้เจ้าพนักงานภูษามาลาเชิญพระโกศพระอัฐิสมเด็จพระเจ้าภคินีเธอ เจ้าฟ้าเพชรรัตนราชสุดา สิริโสภาพัณณวดี ลงจากบุษบกพระแท่นสุวรรณเบญจดล ไปออกพระทวารพระที่นั่งดุสิตมหาปราสาทมุขตะวันออกไปยังเกยพระที่นั่งอาภรณ์พิโมกข์ปราสาท ในการนี้พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯให้ สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร และสมพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ทรงปฏิบัติพระราชกรณียกิจแทนพระองค์ พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าศรีรัศมิ์ พระวรชายาในสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร พระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าสิริวัณณวรีนารีรัตน์ เสด็จฯ ตามริ้วขบวนพระอิสริยยศที่ 5
ขณะเดียวกัน เจ้าพนักงานภูษามาลาประดิษฐานพระโกศพระอัฐิในบุษบกพระที่นั่งราเชนทรยาน ขบวนพระอิสริยยศประโคมสังข์ แตรงอน แตรฝรั่ง ปี่ กลองชนะ พร้อมแล้วยาตราขบวนพระอิสริยยศเชิญพระอัฐิ จากพระที่นั่งอาภรณ์พิโมกข์ปราสาทไปยังพระที่นั่งจักรีมหาปราสาท เมื่อเทียบพระที่นั่งราเชนทรยานที่อัฒจันทร์ตะวันออกพระที่นั่งจักกรีมหาปราสาท แล้ว เจ้าพนักงานภูษามาลาเชิญพระโกศอัฐิขึ้นพระวิมาน พระที่นั่งจักรีมหาปราสาท เมื่อประดิษฐานพระโกศพระอัฐิในพระวิมานทองเสร็จเรียบร้อยแล้ว สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร และสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ทรงจุดธูปเทียนบูชาพระสัมพุทธพรรโณพาศ ทรงจุดธูปเทียนเครื่องราชสักการะพระอัฐิ ก่อนเสด็จพระราชดำเนินกลับ
ส่วนในช่วงบ่าย เวลา 16.30 น. พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จพระราชดำเนินแทนพระองค์ ในการพระราชพิธีบรรจุพระสรีรางคารสมเด็จพระเจ้าภคินีเธอ เจ้าฟ้าเพชรรัตนราชสุดา สิริโสภาพัณณวดี ครั้นเสด็จพระราชดำเนินโดยรถยนต์พระที่นั่งเข้าสู่พระบรมมหาราชวัง เจ้าพนักงานภูษามาลาเชิญพระผอบพระสรีรางคารสมเด็จพระเจ้าภคินีเธอ เจ้าฟ้าเพชรรัตนราชสุดา สิริโสภาพัณวดี โดยพระราชยานจากพระศรีรัตน์เจดีย์ไปออกประตูเกยหลังวัดพระศรีรัตนศาสดาราม เชิญขึ้นประดิษฐานในรถยนต์พระที่นั่ง
จากนั้น เริ่มยาตรารั้วขบวนพระอิสริยยศที่ 6 อัญเชิญพระสรีรางคาร โดยพระวอสีวิกาญจน์ออกจากพระบรมมหาราชวัง มีขบวนกองเกียรติยศทหารม้ารักษาพระองค์แห่นำ ในการนี้ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จฯโดยขบวนรถยนต์พระที่นั่ง ตามรถยนต์พระที่นั่งพระสรีรางคาร แล้วทหารม้ารักษาพระองค์กองเกียรติยศขบวนหลังตามขบวนเชิญพระสรีรางคาร ออกจากประตูวิไชยศรี เลี้ยวขวาเข้าสู่ถนนหน้าพระลาน เลี้ยวขวาตัดเข้าสู่ถนนสนามไชย เลี้ยวซ้ายถนนกัลยาณไมตรี ข้ามสะพานช้างโรงสี เลี้ยวขวาถนนอัษฎางค์ เลี้ยวซ้ายถนนราชบพิธ ขบวนหน้าทหารม้ารักษาพระองค์แห่นำรถยนต์พระที่นั่ง อัญเชิญพระสรีรางคาร เทียบประตูทางเสด็จวัดราชบพิธสถิตมหาสีมาราม พนักงานภูษามาลาเชิญพระผอบพระสรีรางคารเข้าซุ้มประตูวัดแล้ว สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จพระราชดำเนินตามพระสรีรางคาร ทหารกองเกียรติยศถวายความเคารพ แตรวงบรรเลงเพลงสรรเสริญพระบารมี เจ้าพนักงานภูษามาลาเชิญพระผอบพระสรีรางคารไปประดิษฐานที่โต๊ะหมู่ทองในพระอุโบสถข้างพุทธบัลลังก์พระพุทธอังคีรส
สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมาร ทรงจุดธูปเทียนเครื่องนมัสการบูชาพระพุทธอังคีรสประธานอุโบสถ และทรงจุดธูปเทียนเครื่องทองน้อยถวายราชสักการะพระบรมราชสรีรางคารพระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 7 พระราชสรีรางคารสมเด็จพระนางเจ้ารำไพพรรณี พระบรมราชินี ในรัชกาลที่ 7 และพระสรีรางคารสมเด็จพระเจ้าภคินีเธอ เจ้าฟ้าเพชรรัตนราชสุดา สิริโสภาพัณวดี จากนั้นทรงทอดผ้าไตรถวายพระสงฆ์วัดราชบพิธสถิตมหาสีมาราม 30 รูป พระสงฆ์สดับปกรณ์ ถวายอนุโมทนา ถวายอดิเรก
เจ้าพนักงานภูษามาลาเชิญผอบพระสรีรางคารสมเด็จพระเจ้าภคินีเธอ เจ้าฟ้าเพชรรัตนราชสุดา สิริโสภาพัณวดี ไปยังเสาวภาประดิษฐาน สุสานหลวง วัดราชบพิธสถิตมหาสีมาราม สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จพระราชดำเนินถึงเสาวภาประดิษฐาน สุสานหลวง แล้วเสด็จเข้าเสาวภาประดิษฐาน ทรงเชิญพระสรีรางคารลงในถ้ำศิลา แล้วทรงปิดฝาถ้ำศิลา และเลื่อนเชิญเข้าสู่ที่บรรจุ ทรงวางพวงมาลา ทรงจุดธูปเทียนเครื่องทองน้อย ถวายราชสักการะ ขณะนั้นชาวพนักงานประโคมสังข์ แตรงอน แตรฝรั่ง ปี่ กลองชนะ ทหารกองเกียรติยศถวายความเคารพ แตรวงบรรเลงเพลงมหาชัย จากนั้นเสด็จพระราชดำเนินไปประทับรถยนต์พระที่นั่ง บริเวณประตูอนุสรณ์สถาน วัดราชบพิธสถิตมหาสีมาราม ถนนอัษฎางค์ เสด็จพระราชดำเนินกลับ แล้วเจ้าหน้าที่ปิดผนึกที่บรรจุพระสรีรางคาร เป็นอันเสร็จพิธี
สำหรับเสาวภาประดิษฐาน สุสานหลวงนั้น มีลักษณะเหมือนกับอนุสรณ์สถานรังสีวัฒนา เป็นอาคารจัตุรมุข ยอดสถูปเชื่อมกันด้วยมุขกะสัน ตรงกลางเป็นสนถูปขนาดใหญ่ บุด้วยโมเสคสีทอง ส่วนสถูปอีก 3 องค์มีขนาดย่อมกว่าทาด้วยสีขาว ภายในบรรจุพระสรีรางคาร พระราชโอรสและพระราชธิดา อันประสูติแต่สมเด็จพระศรีพัชรินทรบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนี พระพันปีหลวง รวมทั้งสมาชิกบางพระองค์ ในราชสกุลจักรพงษ์และพระราชสกุลจุฑาธุช
ส่วนที่มณฑลพิธีท้องสนามหลวง นางโสมสุดา ลียะวณิช อธิบดีกรมศิลปากร กล่าวว่า จำนวนผู้เข้าชมพระเมรุวันแรก 7, 219 คน ส่วนวันที่ 2 มีประชาชนเดินทางเข้ามาชมพระเมรุ เฉพาะที่ลงทะเบียน ทั้งหมด 8,500 คน รวมผู้เข้าชมสองวันเป็น 15,719 คน
นายธงทอง จันทรางศุ ปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า เดิมกำหนดไว้ว่าจะเปิดให้ประชาชนเข้าชมพระเมรุ ระหว่างวันที่ 11-17 เม.ย. พบว่ามีประชาชนเดินทางเข้ามาชมพระเมรุในแต่ละวันจำนวนมาก จึงเห็นว่าจะขยายเวลาการเข้าชมไปจนถึงวันที่ 25 เม.ย. หลังจากนั้นก็จะดำเนินการรื้อถอนทันที