ASTVผู้จัดการรายวัน-สมเด็จพระนางเจ้าฯ สิริกิติ์ เสด็จบำเพ็ญพระราชกุศลพระอัฐิ เจ้าฟ้าเพชรรัตน์ฯ ประชาชนทั้งไทย-เทศ แห่ชมพระเมรุแน่นขนัด วันแรกเกือบ 5 พันคน ขอความร่วมมือแต่งกายสุภาพ งดนุ่งสั้น สายเดี่ยว
วานนี้ (11 เม.ย.) เวลา 16.46 น. พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ เสด็จฯ แทนพระองค์ ในการบำเพ็ญพระราชกุศลพระอัฐิสมเด็จพระเจ้าภคินีเธอ เจ้าฟ้าเพชรรัตนราชสุดา สิริโสภาพัณณวดี ณ พระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท ในพระบรมมหาราชวัง โดยสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯสยามมกุฎราชกุมาร สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯสยามบรมราชกุมารี พระเจ้าวรวงศ์เธอพระองค์เจ้าศรีรัศมิ์ พระวรชายาในสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯสยามมกุฎราชกุมาร พระเจ้าวรวงศ์เธอพระองค์เจ้าโสมสวลีพระวรราชาทินัดดามาตุ พระเจ้าหลานเธอพระองค์เจ้าสิริวัณณวรีนารีรัตน์ เสด็จในการนี้ด้วย
เมื่อสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ เสด็จพระราชดำเนินถึงพระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท ในพระบรมมหาราชวัง ทรงจุดธูปเทียนเครื่องราชสักการะพระบรมอัฐิและพระอัฐิสมเด็จพระบรมราชบุพการีที่เชิญออกประดิษฐาน ณ พระแท่นมุกราชบัลลังก์นพปฎลมหาเศวตฉัตร ซึ่งแวดล้อมด้วยต้นไม้ทองเงิน เครื่องบรมราชอิสริยยศราชูปโภคและเครื่องราชสักการะ ทรงจุดธูปเทียนเครื่องราชสักการะพระอัฐิ สมเด็จพระเจ้าภคินีเธอ เจ้าฟ้าเพชรรัตนราชสุดา สิริโสภาพัณณวดี ซึ่งประดิษฐานในบุษบกพระแท่นสุวรรณเบญจดล
จากนั้นทรงจุดธูปเทียนเครื่องนมัสการบูชาพระพุทธรูปประจำพระชนมวารพระบรมอัฐิและพระอัฐิสมเด็จพระบรมราชบุพการี ที่พระแท่นมณฑลมุก และทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ ถวายพัดรองที่ระลึกงานทรงบำเพ็ญพระราชกุศลพระอัฐิแด่พระราชาคณะที่ถวายพระธรรมเทศนา พระราชาคณะ 30 รูปสวดพระพุทธมนต์ พระรับอนุโมทนา 4 รูปและพระสงฆ์สดับปกรณ์ 10 รูป พระสงฆ์ 30 รูปที่สวดพระพุทธมนต์ จบแล้วสมเด็จพระนางเจ้าฯพระบรมราชินีนาถทรงทอดผ้าไตรถวายพระสงฆ์ 30 รูปที่สวดพระพุทธมนต์ สดับปกรณ์ พระอัฐิสมเด็จพระเจ้าภคินีเธอ เจ้าฟ้าเพชรรัตนราชสุดา สิริโสภาพัณณวดี ถวายอนุโมทนา ถวายอดิเรก ถวายพระพรลา
ต่อมาสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ทรงจุดธูปเทียนเครื่องทรงธรรม แล้วทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯให้สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯทรงจุดธูปเทียนเครื่องทองน้อยบูชาพระอัฐิสมเด็จพระบรมราชบุพการี และพระอัฐิสมเด็จพระเจ้าภคินีเธอเจ้าเพชรรัตน์ฯ พระวิสุทธิวงศาจารย์ รองเจ้าอาวาสวัดปากน้ำ ภาษีเจริญ คณะถวายศีลและถวายพระธรรมเทศนากัณฑ์ 1 จบแล้ว ถวายอนุโมทนา พระสงฆ์ 4 รูปรับอนุโมทนา สมเด็จพระนางเจ้าฯพระบรมราชินีนาถทรงประเคนจตุปัจจัยไทยธรรมบูชากัณฑ์เทศน์และทรงทอดผ้าไตรถวายพระเทศน์รับอนุโมทนา 5 รูป สดับปกรณ์ ถวายดิเรก ถวายพระพรลา
สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ ทรงทอดผ้าไตรอีก 10 ไตร ถวายพระสงฆ์ 10 รูปสดับปกรณ์พระบรมอัฐิและพระอัฐิสมเด็จสมเด็จพระบรมราชบุพการี ที่เชิญประดิษฐานในการพระราชกุศลนี้ แล้วถวายอนุโมทนา ถวายอดิเรก ถวายพระพรลา สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ เสด็จพระราชดำเนินกลับ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำนักพระราชวังแจ้งหมายกำหนดการพระราชพิธีในวันอังคารที่ 12 เม.ย.2555 ว่า เวลา10.30 น. พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯให้สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร และสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จแทนพระองค์ไปในการพระราชพิธีเลี้ยงพระเชิญพระโกศพระอัฐิขึ้นประดิษฐาน ณ พระที่นั่งจักรีมหาปราสาท
โดยหลังจากที่เสร็จสิ้นพระราชพิธีเลี้ยง พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯให้สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯสยามมกุฎราชกุมาร เสด็จแทนพระองค์เชิญพระโกศพระอัฐิโดยพระที่นั่งราเชนทรยานจากพระที่นั่งดุสิตมหาปราสาทขึ้นประดิษฐาน ณ พระวิมานบนพระที่นั่งจักรีมหาปราสาท ในริ้วขบวนที่ 5 ระยะทางทั้งหมด 63 เมตร ใช้เวลาประมาณ 10 นาทีโดยเดินตามจังหวะกลอง
จากนั้นเวลา 16.30 น. ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯให้สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จฯแทนพระองค์ในริ้วขบวนที่ 6 เชิญพระสรีรางคาร จากพระศรีรัตนเจดีย์วัดพระศรีรัตนศาสดาราม โดยรถยนต์พระที่นั่งไปบรรจุยังสุสานหลวง วัดราชบพิธสถิตมหาสีมาราม ในระยะทาง 961 เมตรใช้เวลาประมาณ 15 นาที
ผู้สื่อข่าวรายงานอีกว่า สำหรับบรรยากาศที่มณฑลพิธีท้องสนามหลวง ซึ่งกรมศิลปากร ร่วมกับสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดพื้นที่ให้ประชาชนชื่นชมพระเมรุ ในพระราชพิธีพระราชทานเพลิงพระศพสมเด็จพระเจ้าภคินีเธอ เจ้าฟ้าเพชรรัตนราชสุดา สิริโสภาพัณณวดี เป็นวันแรก มีพระภิกษุ สามเณร แม่ชี รวมทั้งประชาชนชาวไทยและต่างชาติ เดินทางมาชมพระเมรุเป็นจำนวนมาก
นายธงทอง จันทรางศุ ปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ตามธรรมเนียมประเพณี ภายหลังจากจัดพระราชพิธีเสร็จแล้ว จะมีการรื้อถอนพระเมรุ ในส่วนงานตกแต่งทั้งงานประณีตศิลป์ต่างๆ อาทิ ฉากบังเพลิง เทวดา สัตว์หิมพานต์ บางส่วนจะนำไปเก็บในพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ กระถางที่มีพระนามาภิไธยย่อ พร จะนำไปไว้ยังพระราชนิเวศน์มฤคทายวัน จ.เพชรบุรี พระราชวังสนามจันทร์ จ.นครปฐม และวังรื่นฤดี กรุงเทพฯ สำหรับโครงสร้างพระเมรุ เป็นโครงสร้างชั่วคราว เป็นเหล็กไม้อัด ก็จะมีการจำหน่ายออกไป ส่วนไม้ดอกไม้ประดับเป็นของสวนนงนุชนำมาประดับตกแต่ง
สำหรับประชาชนที่เดินทางมาชมพระเมรุ ขอให้แต่งกายสุภาพเรียบร้อย ใส่สีใดก็ได้ และงดสวมใส่ชุดที่ไม่เหมาะสม เช่น เสื้อสายเดี่ยว กางเกงขาสั้น เป็นต้น
นางโสมสุดา ลียะวณิช อธิบดีกรมศิลปากร กล่าวว่า จำนวนประชาชนที่เดินทางเข้ามาชมพระเมรุในวันแรกอย่างไม่เป็นทางการ โดยยอดที่มาลงทะเบียน แบ่งเป็นประชาชน พระสงฆ์ ประมาณ 4,600 คน และชาวต่างชาติ 66 คน
วานนี้ (11 เม.ย.) เวลา 16.46 น. พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ เสด็จฯ แทนพระองค์ ในการบำเพ็ญพระราชกุศลพระอัฐิสมเด็จพระเจ้าภคินีเธอ เจ้าฟ้าเพชรรัตนราชสุดา สิริโสภาพัณณวดี ณ พระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท ในพระบรมมหาราชวัง โดยสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯสยามมกุฎราชกุมาร สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯสยามบรมราชกุมารี พระเจ้าวรวงศ์เธอพระองค์เจ้าศรีรัศมิ์ พระวรชายาในสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯสยามมกุฎราชกุมาร พระเจ้าวรวงศ์เธอพระองค์เจ้าโสมสวลีพระวรราชาทินัดดามาตุ พระเจ้าหลานเธอพระองค์เจ้าสิริวัณณวรีนารีรัตน์ เสด็จในการนี้ด้วย
เมื่อสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ เสด็จพระราชดำเนินถึงพระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท ในพระบรมมหาราชวัง ทรงจุดธูปเทียนเครื่องราชสักการะพระบรมอัฐิและพระอัฐิสมเด็จพระบรมราชบุพการีที่เชิญออกประดิษฐาน ณ พระแท่นมุกราชบัลลังก์นพปฎลมหาเศวตฉัตร ซึ่งแวดล้อมด้วยต้นไม้ทองเงิน เครื่องบรมราชอิสริยยศราชูปโภคและเครื่องราชสักการะ ทรงจุดธูปเทียนเครื่องราชสักการะพระอัฐิ สมเด็จพระเจ้าภคินีเธอ เจ้าฟ้าเพชรรัตนราชสุดา สิริโสภาพัณณวดี ซึ่งประดิษฐานในบุษบกพระแท่นสุวรรณเบญจดล
จากนั้นทรงจุดธูปเทียนเครื่องนมัสการบูชาพระพุทธรูปประจำพระชนมวารพระบรมอัฐิและพระอัฐิสมเด็จพระบรมราชบุพการี ที่พระแท่นมณฑลมุก และทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ ถวายพัดรองที่ระลึกงานทรงบำเพ็ญพระราชกุศลพระอัฐิแด่พระราชาคณะที่ถวายพระธรรมเทศนา พระราชาคณะ 30 รูปสวดพระพุทธมนต์ พระรับอนุโมทนา 4 รูปและพระสงฆ์สดับปกรณ์ 10 รูป พระสงฆ์ 30 รูปที่สวดพระพุทธมนต์ จบแล้วสมเด็จพระนางเจ้าฯพระบรมราชินีนาถทรงทอดผ้าไตรถวายพระสงฆ์ 30 รูปที่สวดพระพุทธมนต์ สดับปกรณ์ พระอัฐิสมเด็จพระเจ้าภคินีเธอ เจ้าฟ้าเพชรรัตนราชสุดา สิริโสภาพัณณวดี ถวายอนุโมทนา ถวายอดิเรก ถวายพระพรลา
ต่อมาสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ทรงจุดธูปเทียนเครื่องทรงธรรม แล้วทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯให้สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯทรงจุดธูปเทียนเครื่องทองน้อยบูชาพระอัฐิสมเด็จพระบรมราชบุพการี และพระอัฐิสมเด็จพระเจ้าภคินีเธอเจ้าเพชรรัตน์ฯ พระวิสุทธิวงศาจารย์ รองเจ้าอาวาสวัดปากน้ำ ภาษีเจริญ คณะถวายศีลและถวายพระธรรมเทศนากัณฑ์ 1 จบแล้ว ถวายอนุโมทนา พระสงฆ์ 4 รูปรับอนุโมทนา สมเด็จพระนางเจ้าฯพระบรมราชินีนาถทรงประเคนจตุปัจจัยไทยธรรมบูชากัณฑ์เทศน์และทรงทอดผ้าไตรถวายพระเทศน์รับอนุโมทนา 5 รูป สดับปกรณ์ ถวายดิเรก ถวายพระพรลา
สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ ทรงทอดผ้าไตรอีก 10 ไตร ถวายพระสงฆ์ 10 รูปสดับปกรณ์พระบรมอัฐิและพระอัฐิสมเด็จสมเด็จพระบรมราชบุพการี ที่เชิญประดิษฐานในการพระราชกุศลนี้ แล้วถวายอนุโมทนา ถวายอดิเรก ถวายพระพรลา สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ เสด็จพระราชดำเนินกลับ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำนักพระราชวังแจ้งหมายกำหนดการพระราชพิธีในวันอังคารที่ 12 เม.ย.2555 ว่า เวลา10.30 น. พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯให้สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร และสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จแทนพระองค์ไปในการพระราชพิธีเลี้ยงพระเชิญพระโกศพระอัฐิขึ้นประดิษฐาน ณ พระที่นั่งจักรีมหาปราสาท
โดยหลังจากที่เสร็จสิ้นพระราชพิธีเลี้ยง พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯให้สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯสยามมกุฎราชกุมาร เสด็จแทนพระองค์เชิญพระโกศพระอัฐิโดยพระที่นั่งราเชนทรยานจากพระที่นั่งดุสิตมหาปราสาทขึ้นประดิษฐาน ณ พระวิมานบนพระที่นั่งจักรีมหาปราสาท ในริ้วขบวนที่ 5 ระยะทางทั้งหมด 63 เมตร ใช้เวลาประมาณ 10 นาทีโดยเดินตามจังหวะกลอง
จากนั้นเวลา 16.30 น. ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯให้สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จฯแทนพระองค์ในริ้วขบวนที่ 6 เชิญพระสรีรางคาร จากพระศรีรัตนเจดีย์วัดพระศรีรัตนศาสดาราม โดยรถยนต์พระที่นั่งไปบรรจุยังสุสานหลวง วัดราชบพิธสถิตมหาสีมาราม ในระยะทาง 961 เมตรใช้เวลาประมาณ 15 นาที
ผู้สื่อข่าวรายงานอีกว่า สำหรับบรรยากาศที่มณฑลพิธีท้องสนามหลวง ซึ่งกรมศิลปากร ร่วมกับสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดพื้นที่ให้ประชาชนชื่นชมพระเมรุ ในพระราชพิธีพระราชทานเพลิงพระศพสมเด็จพระเจ้าภคินีเธอ เจ้าฟ้าเพชรรัตนราชสุดา สิริโสภาพัณณวดี เป็นวันแรก มีพระภิกษุ สามเณร แม่ชี รวมทั้งประชาชนชาวไทยและต่างชาติ เดินทางมาชมพระเมรุเป็นจำนวนมาก
นายธงทอง จันทรางศุ ปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ตามธรรมเนียมประเพณี ภายหลังจากจัดพระราชพิธีเสร็จแล้ว จะมีการรื้อถอนพระเมรุ ในส่วนงานตกแต่งทั้งงานประณีตศิลป์ต่างๆ อาทิ ฉากบังเพลิง เทวดา สัตว์หิมพานต์ บางส่วนจะนำไปเก็บในพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ กระถางที่มีพระนามาภิไธยย่อ พร จะนำไปไว้ยังพระราชนิเวศน์มฤคทายวัน จ.เพชรบุรี พระราชวังสนามจันทร์ จ.นครปฐม และวังรื่นฤดี กรุงเทพฯ สำหรับโครงสร้างพระเมรุ เป็นโครงสร้างชั่วคราว เป็นเหล็กไม้อัด ก็จะมีการจำหน่ายออกไป ส่วนไม้ดอกไม้ประดับเป็นของสวนนงนุชนำมาประดับตกแต่ง
สำหรับประชาชนที่เดินทางมาชมพระเมรุ ขอให้แต่งกายสุภาพเรียบร้อย ใส่สีใดก็ได้ และงดสวมใส่ชุดที่ไม่เหมาะสม เช่น เสื้อสายเดี่ยว กางเกงขาสั้น เป็นต้น
นางโสมสุดา ลียะวณิช อธิบดีกรมศิลปากร กล่าวว่า จำนวนประชาชนที่เดินทางเข้ามาชมพระเมรุในวันแรกอย่างไม่เป็นทางการ โดยยอดที่มาลงทะเบียน แบ่งเป็นประชาชน พระสงฆ์ ประมาณ 4,600 คน และชาวต่างชาติ 66 คน
