ASTVผู้จัดการรายวัน-คณะศิษยานุศิษย์หลวงตามหาบัวมอบเงินบริจาคอีก 19,000 เหรียญสหรัฐ ถือเป็นครั้งที่ 17 เข้าบัญชีคลังหลวงตามโครงการช่วยชาติ หวังปลูกจิตสำนักที่ดีให้คนรุ่นหลังรู้สึกอยากปกป้องบ้านเมือง คาดต่อไปจะจัดเป็นประเพณีผ้าป่าประจำทุกปี พร้อมเชื่อมั่น"ประสาร" จะดูแลเงินส่วนนี้ต่อไปได้ ทำให้โครงการนี้มีเงินบริจาคทั้งสิ้น 10,233,600 เหรียญสหรัฐ และทองคำรวมน้ำหนักทั้งสิ้น 13,000 กิโลกรัม
เมื่อวานนี้ (12เม.ย.) คณะศิษยานุศิษย์ขององค์หลวงตามหาบัว ญาณสัมปันโน ซึ่งมีทั้งพระสงฆ์และฆราวาสได้มอบเงินบริจาคจำนวน 19,000 เหรียญสหรัฐ ให้แก่ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เข้าบัญชีทุนสำรองเงินตรา หรือคลังหลวง ถือเป็นครั้งที่ 17 โดยครั้งนี้มีนายประสาร ไตรรัตน์วรกุล ผู้ว่าการธปท. พร้อมด้วยนายชาญชัย บุญฤทธิ์ไชยศรี ผู้ช่วยผู้ว่าการ สายช่วยงานบริหาร
เป็นตัวแทนของธปท.รับมอบ
พระอาจารย์สรรวัศ ปภัสสโร กล่าวภายหลังจากการมอบเงินบริจาคให้ธปท.ว่า การบริจาคเงินในครั้งนี้เกิดจากทางศิษยานุศิษย์ขององค์หลวงตามหาบัวได้เทศฝากฝังในเรื่องคลังหลวง เมื่อปี 2551 ทำให้ทางครูบาอาจารย์เห็นว่าหลวงตาต้องการให้ลูกศิษย์สืบทอดเจตนารมณ์ของหลวงตาในโครงการช่วยชาติต่อไป เพื่อให้คนไทยที่ต้องการมีส่วนร่วมบริจาคมีจิตสำนักในการรักษาคลังหลวงและในวันที่ 12 เม.ย.เป็นวันที่เปิดโครงการช่วยชาติ จึงได้รวบรวมเงินบริจาคจากลูกศิษย์และครูบาอาจารย์มาในครั้งนี้
"เมื่อมีการเปลี่ยนแปลงรัฐบาลแต่ละครั้ง ทางรัฐบาลจะขอเงินจากคลังหลวงไปใช้ทุกครั้ง และทุกรัฐบาลที่เข้ามาใช้เงินอย่างเดียว กู้อย่างเดียว มีแต่หนี้สิน จึงเหลือเงินก้อนเดียวที่จะสร้างความมั่นใจได้ว่าจะพยายามรักษาบ้านเมือง คือ เงินของคลังหลวง และแม้ในส่วนของจำนวนเงินจะไม่มากนัก แต่เป็นการปลูกจิตสำนึกที่ดีว่าได้ช่วยให้เงินเข้าคลังหลวงพอกพูนมากขึ้น ก็เป็นช่วยให้เศรษฐกิจบ้านเมืองมั่นคงขึ้นในระดับหนึ่ง"
การรวบรวมเงินบริจาคครั้งนี้ จัดเป็นประเพณี “ผ้าป่า 12 เมษายน สืบหน่อต่อแขนง เพิ่มพูนและปกป้องคลังหลวง ตามรอยหลวงตา” ซึ่งคาดว่าจะจัดประจำทุกปี นับตั้งแต่ปีนี้เป็นต้นไป ส่วนวิธีการรวบรวมเงินจากลูกศิษย์หลวงตาฯ ซึ่งอยู่หลายแห่ง รวมถึงลูกศิษย์ที่อาศัยอยู่ในต่างประเทศเช่นกัน จึงต้องมีการหารือรูปแบบกันอีกครั้งว่าจะจัดจัดตั้งเป็นกองทุนหรือเปิดเป็นบัญชีธนาคาร หรือวิธีการใดต่อไป
พระอาจารย์สรรวัศ กล่าวเพิ่มเติมว่า การรับมอบเงินบริจาคในครั้งนี้ ได้เล่าให้ทางผู้ว่าการธปท.ฟังว่าจะเป็นเงินเบื้องต้นของปฐมฤกษ์ ซึ่งเงินบริจาคครั้งนี้ใช้เวลารวบรวมไม่นาน แต่สิ่งที่ได้มาเป็นสืบทอดจากหลวงตาฯ ที่มีคุณค่ามาก ขณะเดียวกันก็ยินดีมากที่ท่านผู้ว่าการธปท.ให้เกียรติต่อคณะลูกศิษย์หลวงตาเป็นอย่างมากและทางลูกศิษย์หลวงตาเองก็เชื่อใจท่านผู้ว่าการคนนี้อยู่แล้ว
สำหรับการจัดผ้าป่าฯ ในปีนี้ ถือเป็นปีแรก คณะศิษยานุศิษย์ของหลวงตามหาบัวฯ ได้มอบดราฟท์ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) เลขที่ 388292096 จำนวน 17,000 เหรียญสหรัฐและเงินสดอีก 2,000 เหรียญสหรัฐ รวมเป็นสินทรัพย์ที่บริจาคทั้งสิ้น 19,000 เหรียญสหรัฐให้แก่ธปท. เพื่อใช้เป็นทุนสำรองเงินตราของฝ่ายออกบัตรของธปท.
ทั้งนี้ ธปท.ได้รับมอบเงินดอลลาร์และทองคำตามโครงการช่วยชาติฯ ครั้งแรกเมื่อวันที่ 6 ก.ค.2541 และเมื่อครั้งที่ 16 สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์ อัครราชกุมารี เสร็จทรงเป็นประธานในพิธีรับมอบทองคำน้ำหนัก 920.5 กิโลกรัม ซึ่งเป็นเงินบริจาคในงานบำเพ็ญกุศลสรีระสังขารหลวงตามหาบัวฯ ไปซื้อทองคำมอบให้ธปท. ดังนั้น เมื่อรวมกับเงินบริจาคครั้งนี้ด้วยรวมทั้งสิ้นมีเงินบริจาค 10,233,600 เหรียญสหรัฐ และทองคำรวมน้ำหนักทั้งสิ้น 13,000 กิโลกรัม
เมื่อวานนี้ (12เม.ย.) คณะศิษยานุศิษย์ขององค์หลวงตามหาบัว ญาณสัมปันโน ซึ่งมีทั้งพระสงฆ์และฆราวาสได้มอบเงินบริจาคจำนวน 19,000 เหรียญสหรัฐ ให้แก่ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เข้าบัญชีทุนสำรองเงินตรา หรือคลังหลวง ถือเป็นครั้งที่ 17 โดยครั้งนี้มีนายประสาร ไตรรัตน์วรกุล ผู้ว่าการธปท. พร้อมด้วยนายชาญชัย บุญฤทธิ์ไชยศรี ผู้ช่วยผู้ว่าการ สายช่วยงานบริหาร
เป็นตัวแทนของธปท.รับมอบ
พระอาจารย์สรรวัศ ปภัสสโร กล่าวภายหลังจากการมอบเงินบริจาคให้ธปท.ว่า การบริจาคเงินในครั้งนี้เกิดจากทางศิษยานุศิษย์ขององค์หลวงตามหาบัวได้เทศฝากฝังในเรื่องคลังหลวง เมื่อปี 2551 ทำให้ทางครูบาอาจารย์เห็นว่าหลวงตาต้องการให้ลูกศิษย์สืบทอดเจตนารมณ์ของหลวงตาในโครงการช่วยชาติต่อไป เพื่อให้คนไทยที่ต้องการมีส่วนร่วมบริจาคมีจิตสำนักในการรักษาคลังหลวงและในวันที่ 12 เม.ย.เป็นวันที่เปิดโครงการช่วยชาติ จึงได้รวบรวมเงินบริจาคจากลูกศิษย์และครูบาอาจารย์มาในครั้งนี้
"เมื่อมีการเปลี่ยนแปลงรัฐบาลแต่ละครั้ง ทางรัฐบาลจะขอเงินจากคลังหลวงไปใช้ทุกครั้ง และทุกรัฐบาลที่เข้ามาใช้เงินอย่างเดียว กู้อย่างเดียว มีแต่หนี้สิน จึงเหลือเงินก้อนเดียวที่จะสร้างความมั่นใจได้ว่าจะพยายามรักษาบ้านเมือง คือ เงินของคลังหลวง และแม้ในส่วนของจำนวนเงินจะไม่มากนัก แต่เป็นการปลูกจิตสำนึกที่ดีว่าได้ช่วยให้เงินเข้าคลังหลวงพอกพูนมากขึ้น ก็เป็นช่วยให้เศรษฐกิจบ้านเมืองมั่นคงขึ้นในระดับหนึ่ง"
การรวบรวมเงินบริจาคครั้งนี้ จัดเป็นประเพณี “ผ้าป่า 12 เมษายน สืบหน่อต่อแขนง เพิ่มพูนและปกป้องคลังหลวง ตามรอยหลวงตา” ซึ่งคาดว่าจะจัดประจำทุกปี นับตั้งแต่ปีนี้เป็นต้นไป ส่วนวิธีการรวบรวมเงินจากลูกศิษย์หลวงตาฯ ซึ่งอยู่หลายแห่ง รวมถึงลูกศิษย์ที่อาศัยอยู่ในต่างประเทศเช่นกัน จึงต้องมีการหารือรูปแบบกันอีกครั้งว่าจะจัดจัดตั้งเป็นกองทุนหรือเปิดเป็นบัญชีธนาคาร หรือวิธีการใดต่อไป
พระอาจารย์สรรวัศ กล่าวเพิ่มเติมว่า การรับมอบเงินบริจาคในครั้งนี้ ได้เล่าให้ทางผู้ว่าการธปท.ฟังว่าจะเป็นเงินเบื้องต้นของปฐมฤกษ์ ซึ่งเงินบริจาคครั้งนี้ใช้เวลารวบรวมไม่นาน แต่สิ่งที่ได้มาเป็นสืบทอดจากหลวงตาฯ ที่มีคุณค่ามาก ขณะเดียวกันก็ยินดีมากที่ท่านผู้ว่าการธปท.ให้เกียรติต่อคณะลูกศิษย์หลวงตาเป็นอย่างมากและทางลูกศิษย์หลวงตาเองก็เชื่อใจท่านผู้ว่าการคนนี้อยู่แล้ว
สำหรับการจัดผ้าป่าฯ ในปีนี้ ถือเป็นปีแรก คณะศิษยานุศิษย์ของหลวงตามหาบัวฯ ได้มอบดราฟท์ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) เลขที่ 388292096 จำนวน 17,000 เหรียญสหรัฐและเงินสดอีก 2,000 เหรียญสหรัฐ รวมเป็นสินทรัพย์ที่บริจาคทั้งสิ้น 19,000 เหรียญสหรัฐให้แก่ธปท. เพื่อใช้เป็นทุนสำรองเงินตราของฝ่ายออกบัตรของธปท.
ทั้งนี้ ธปท.ได้รับมอบเงินดอลลาร์และทองคำตามโครงการช่วยชาติฯ ครั้งแรกเมื่อวันที่ 6 ก.ค.2541 และเมื่อครั้งที่ 16 สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์ อัครราชกุมารี เสร็จทรงเป็นประธานในพิธีรับมอบทองคำน้ำหนัก 920.5 กิโลกรัม ซึ่งเป็นเงินบริจาคในงานบำเพ็ญกุศลสรีระสังขารหลวงตามหาบัวฯ ไปซื้อทองคำมอบให้ธปท. ดังนั้น เมื่อรวมกับเงินบริจาคครั้งนี้ด้วยรวมทั้งสิ้นมีเงินบริจาค 10,233,600 เหรียญสหรัฐ และทองคำรวมน้ำหนักทั้งสิ้น 13,000 กิโลกรัม