วานนี้ ( 10 เม.ย. ) ผู้สื่อข่าวรายงานว่าจากรัฐสภาว่า ช่วงที่น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุมคณะรัฐมนตรี ที่อาคารรัฐสภา ณ ห้องประชุมงบประมาณ ชั้น 3 ซึ่งเปลี่ยนมาจาก ตึกเเดง สำนักเลขาธิการครม.
พบว่า คณะรัฐมนตรีบางคนกลับยังสวมสูท ร่วมประชุมแถมในห้องประชุมยังเปิดแอร์เย็นฉ่ำ ซึ่งคาดว่า จะต่ำกว่า 25 องศาฯ โดยต่างกับที่นายกรัฐมนตรี เป้นประธานเปิดงานรณรงค์ประหยัดพลังงาน ที่ทำเนียบรัฐบาล จะมีการถอดสูท ปิดไฟตึกสันติไมตรี
ขณะเดียวกันยังพบว่า รถประจำตำแหน่ง รัฐมนตรีบางคนยังติดเครื่องเพื่อรอเจ้านายมาขึ้นรถออกจากรัฐสภา รวมทั้งส.ส.ทั้งฝ่ายค้าน รัฐบาล หรือวุฒิสภาบางคนก็ยังให้คนขับรถเปิดแอร์เย็นฉ่ำเช่นเดียวกันด้วย
รายงานว่าแจ้งว่า เมื่อวันที่ 2 เม.ย.ที่ประชุมครม. มีมติให้รณรงค์เรื่องการประหยัดพลังงาน โดยการปรับอุณหภูมิในห้องประชุมครม.เพียง 25-27 องศา และเชิญครม.ทุกคนร่วมกันถอดสูทนั่งประชุม รวมทั้งมีมติให้ทุกหน่วยงานร่วมกันประหยัดพลังงานด้วย.
วันเดียวกันที่ทำเนียบรัฐบาล เวลา 13.30 น. น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เป็นประธานรณรงค์ประหยัดพลังงาน ตามโครงการ "10 เมษา ปฏิบัติการช่วยชาติ งดใช้พลังงาน 1 ชั่วโมง" โดยนายกรัฐมนตรีได้นำปิดไฟภายในตึกสันติไมตรี ทำเนียบรัฐบาล พร้อมปรับอุณหภูมิของเครื่องปรับอากาศที่ 26 องศาเซลเซียส ซึ่งนายกรัฐมนตรี ได้สวมชุดสีดำ และไม่ได้ใส่สูท ขณะที่ผู้ที่มาร่วมงานทุกคน ไม่ว่าจะเป็นนายกิตติรัตน์ ณ ระนอง รองนายกรัฐมนตรี และรมว.คลัง และ นายอารักษ์ ชลธาร์นนท์ รมว.พลังงาน ก็ได้ร่วมถอดสูทเพื่อช่วยกันรณรงค์ประหยัดพลังงานเช่นกัน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากการคาดการณ์ในปี 2555 ความต้องการการใช้ไฟฟ้าสูงสุดของประเทศจะเกิดขึ้นในวันเดียวกันนี้ (10 เม.ย.) ระหว่างเวลา 14.00-15.00 น. เพราะเป็นช่วงเวลาที่ร้อนที่สุด ประกอบกับสหภาพเมียนมาร์จะหยุดจ่ายก๊าซธรรมชาติเพื่อซ่อมบำรุงประจำปี ซึ่งจะทำให้ปริมาณก๊าซหายไปจากระบบประมาณ 1,100 ล้านลูกบาศก์ฟุตต่อวันระหว่าง 8-17 เม.ย. รัฐบาลจึงเชิญชวนให้ประชาชนลดใช้พลังงานปิดไฟดวงที่ไม่ใช้และปรับอุณภูมิเครื่องปรับอากาศไว้ที่ 26 องศาเซลเซียส
พบว่า คณะรัฐมนตรีบางคนกลับยังสวมสูท ร่วมประชุมแถมในห้องประชุมยังเปิดแอร์เย็นฉ่ำ ซึ่งคาดว่า จะต่ำกว่า 25 องศาฯ โดยต่างกับที่นายกรัฐมนตรี เป้นประธานเปิดงานรณรงค์ประหยัดพลังงาน ที่ทำเนียบรัฐบาล จะมีการถอดสูท ปิดไฟตึกสันติไมตรี
ขณะเดียวกันยังพบว่า รถประจำตำแหน่ง รัฐมนตรีบางคนยังติดเครื่องเพื่อรอเจ้านายมาขึ้นรถออกจากรัฐสภา รวมทั้งส.ส.ทั้งฝ่ายค้าน รัฐบาล หรือวุฒิสภาบางคนก็ยังให้คนขับรถเปิดแอร์เย็นฉ่ำเช่นเดียวกันด้วย
รายงานว่าแจ้งว่า เมื่อวันที่ 2 เม.ย.ที่ประชุมครม. มีมติให้รณรงค์เรื่องการประหยัดพลังงาน โดยการปรับอุณหภูมิในห้องประชุมครม.เพียง 25-27 องศา และเชิญครม.ทุกคนร่วมกันถอดสูทนั่งประชุม รวมทั้งมีมติให้ทุกหน่วยงานร่วมกันประหยัดพลังงานด้วย.
วันเดียวกันที่ทำเนียบรัฐบาล เวลา 13.30 น. น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เป็นประธานรณรงค์ประหยัดพลังงาน ตามโครงการ "10 เมษา ปฏิบัติการช่วยชาติ งดใช้พลังงาน 1 ชั่วโมง" โดยนายกรัฐมนตรีได้นำปิดไฟภายในตึกสันติไมตรี ทำเนียบรัฐบาล พร้อมปรับอุณหภูมิของเครื่องปรับอากาศที่ 26 องศาเซลเซียส ซึ่งนายกรัฐมนตรี ได้สวมชุดสีดำ และไม่ได้ใส่สูท ขณะที่ผู้ที่มาร่วมงานทุกคน ไม่ว่าจะเป็นนายกิตติรัตน์ ณ ระนอง รองนายกรัฐมนตรี และรมว.คลัง และ นายอารักษ์ ชลธาร์นนท์ รมว.พลังงาน ก็ได้ร่วมถอดสูทเพื่อช่วยกันรณรงค์ประหยัดพลังงานเช่นกัน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากการคาดการณ์ในปี 2555 ความต้องการการใช้ไฟฟ้าสูงสุดของประเทศจะเกิดขึ้นในวันเดียวกันนี้ (10 เม.ย.) ระหว่างเวลา 14.00-15.00 น. เพราะเป็นช่วงเวลาที่ร้อนที่สุด ประกอบกับสหภาพเมียนมาร์จะหยุดจ่ายก๊าซธรรมชาติเพื่อซ่อมบำรุงประจำปี ซึ่งจะทำให้ปริมาณก๊าซหายไปจากระบบประมาณ 1,100 ล้านลูกบาศก์ฟุตต่อวันระหว่าง 8-17 เม.ย. รัฐบาลจึงเชิญชวนให้ประชาชนลดใช้พลังงานปิดไฟดวงที่ไม่ใช้และปรับอุณภูมิเครื่องปรับอากาศไว้ที่ 26 องศาเซลเซียส
