ASTVผู้จัดการรายวัน-ฟ้าหญิงจุฬาภรณ์ ทรงยกฉัตร 7 ชั้น ประดับพระเมรุพระศพเจ้าฟ้าเพชรรัตน์ฯ พร้อมเปิดให้ประชาชนร่วมชื่นชมความงามและถ่ายภาพ และเปิดให้เข้าชมภายในพระเมรุตั้งแต่ 11-17 เม.ย.นี้ หลังเสร็จพระราชพิธี
วานนี้ (3 เม.ย.) พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์ อัครราชกุมารี เสด็จแทนพระองค์ ไปในการประกอบพิธียกยอดสัปตปฎลเศวตฉัตรยอดพระเมรุ ในงานพระราชทานเพลิงพระศพ สมเด็จพระเจ้าภคิเธอเจ้าฟ้าเพชรรัตนราชสุดา สิริโสภาพัณณวดี โดยมีคณะบุคคลสำคัญ เข้าร่วม อาทิ นายพลากร สุวรรณรัตน องค์มนตรี พล.อ.ยุทธศักดิ์ ศศิประภา รองนายกรัฐมนตรี นายยงยุทธ วิชัยดิษฐ รองนายกรัฐมนตรี นางสุกุมล คุณปลื้ม รมว.วัฒนธรรม
ต่อมา เวลา17.06 น. สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์ฯ เสด็จถึงยังพระที่นั่งทรงธรรม พระเมรุ พล.อ.ยุทธศักดิ์ ศศิประภา รองนายกฯ กราบบังคมทูลกล่าวรายงาน และเบิกกรรมการจัดสร้างพระเมรุ ประกอบไปด้วย นางโสมสุดา ลียะวณิช อธิบดีกรมศิลปากร พลอากาศตรีอาวุธ เงินชูกลิ่น ผู้ออกมาพระเมรุและสิ่งปลูกสร้างประกอบพระเมรุ นายสุทิน เจริญสวัสดิ์ วิศวกรผู้ออกแบบพระเมรุ นายกัมพล ตันสัจจา ผู้รับผิดชอบในการจัดสวนตกแต่งดอกไม้ประดับรอบพระเมรุ
จากนั้นเวลา 17.19 น.สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์ อัครราชกุมารี เสด็จไปยังที่ประดิษฐานสัปตปฎลเศวตฉัตร ทรงพระสุหร่าย ทรงเจิมสัปตปฎลเศวตฉัตร โหรหลวงลั่นฆ้องชัย ชาวพนักงานประโคมสังฆ์ แตร และดุริยางค์ จากนั้นอธิบดีกรมศิลปากร ถวายสายสูตรยกสัปตปฎลเศวตฉัตร เมื่อสัปตปฎลเศวตฉัตรขึ้นสู่ยอดพระเมรุแล้ว สมเด็จพระเจ้าลูกเธอเจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์ อัครราชกุมารี พระราชทานสายสูตร ให้อธิบดีกรมศิลปากร รับไปผูกที่เสาบัว จึงเสด็จกลับ
นางโสมสุดา ลียะวณิช อธิบดีกรมศิลปากร กล่าวว่า พิธียกฉัตรวันนี้ ถือเป็นเครื่องหมายที่แสดงถึงเสร็จสมบูรณ์ของการจัดสร้างพระเมรุ ทั้งนี้ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ยังได้ทรงโปรดเกล้าฯ พระราชทานสัปตปฎลเศวตฉัตร (ฉัตร 7 ชั้น) เป็นเครื่องเพิ่มเติมพระเกียรติยศด้วย
อย่างไรก็ตาม ส่วนที่ยังต้องนำมาติดตั้งเพิ่มเติมหลังจากนี้ คือ เครื่องสดประกอบพระจิตกาธาน ขณะนี้ทางสำนักพระราชวังกำลังดำเนินการตกแต่งเครื่องสดประกอบพระจิตกาธานอยู่ คาดว่าจะนำมาติดตั้งในวันที่ 8 เม.ย.นี้
ทั้งนี้ ในส่วนของการจัดทำเครื่องสดประกอบพระจิตกาธานของงานพระศพที่ผ่านๆ มา สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี จะเสด็จทรงร่วมแทงหยวกประดับเครื่องสดพระจิตกาธานด้วย แต่ในส่วนของงานเครื่องสดดับพระจิตกาธานครั้งนี้ ยังไม่ทราบว่าจะเสด็จทรงร่วมในวันไหน เพราะยังไม่ได้กำหนด
นอกจากนี้ ในช่วงเช้าของวันที่ 4 เม.ย. จะมีการยกนั่งร้านบนยอดฉัตรพระเมรุออก ซึ่งหลังจากนี้ ก็จะถือว่าพระเมรุ มีความสวยงามสมบูรณ์แบบที่สุด ในส่วนของประชาชนที่จะเดินทางมาชมความสวยงามหรือบันทึกภาพก็สามารถมาชื่นชมความงามได้ โดยเฉพาะในช่วงค่ำที่จะมีการเปิดไฟประดับสวยงาม อย่างไรก็ตาม หลังจากเสร็จสิ้นพระราชพิธี ในวันที่ 11-17 เม.ย.นี้ จะมีการเปิดให้ประชาชนสามารถเข้าชมภายในราชวัตรพระเมรุได้ และจะทำการรื้อถอนหลังจากนั้นให้แล้วเสร็จภายใน 45 วัน เพื่อคืนพื้นที่ให้กทม. ในการจัดงานเฉลิมพระชนมพรรษา 80 พรรษาสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถต่อไป
วานนี้ (3 เม.ย.) พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์ อัครราชกุมารี เสด็จแทนพระองค์ ไปในการประกอบพิธียกยอดสัปตปฎลเศวตฉัตรยอดพระเมรุ ในงานพระราชทานเพลิงพระศพ สมเด็จพระเจ้าภคิเธอเจ้าฟ้าเพชรรัตนราชสุดา สิริโสภาพัณณวดี โดยมีคณะบุคคลสำคัญ เข้าร่วม อาทิ นายพลากร สุวรรณรัตน องค์มนตรี พล.อ.ยุทธศักดิ์ ศศิประภา รองนายกรัฐมนตรี นายยงยุทธ วิชัยดิษฐ รองนายกรัฐมนตรี นางสุกุมล คุณปลื้ม รมว.วัฒนธรรม
ต่อมา เวลา17.06 น. สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์ฯ เสด็จถึงยังพระที่นั่งทรงธรรม พระเมรุ พล.อ.ยุทธศักดิ์ ศศิประภา รองนายกฯ กราบบังคมทูลกล่าวรายงาน และเบิกกรรมการจัดสร้างพระเมรุ ประกอบไปด้วย นางโสมสุดา ลียะวณิช อธิบดีกรมศิลปากร พลอากาศตรีอาวุธ เงินชูกลิ่น ผู้ออกมาพระเมรุและสิ่งปลูกสร้างประกอบพระเมรุ นายสุทิน เจริญสวัสดิ์ วิศวกรผู้ออกแบบพระเมรุ นายกัมพล ตันสัจจา ผู้รับผิดชอบในการจัดสวนตกแต่งดอกไม้ประดับรอบพระเมรุ
จากนั้นเวลา 17.19 น.สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์ อัครราชกุมารี เสด็จไปยังที่ประดิษฐานสัปตปฎลเศวตฉัตร ทรงพระสุหร่าย ทรงเจิมสัปตปฎลเศวตฉัตร โหรหลวงลั่นฆ้องชัย ชาวพนักงานประโคมสังฆ์ แตร และดุริยางค์ จากนั้นอธิบดีกรมศิลปากร ถวายสายสูตรยกสัปตปฎลเศวตฉัตร เมื่อสัปตปฎลเศวตฉัตรขึ้นสู่ยอดพระเมรุแล้ว สมเด็จพระเจ้าลูกเธอเจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์ อัครราชกุมารี พระราชทานสายสูตร ให้อธิบดีกรมศิลปากร รับไปผูกที่เสาบัว จึงเสด็จกลับ
นางโสมสุดา ลียะวณิช อธิบดีกรมศิลปากร กล่าวว่า พิธียกฉัตรวันนี้ ถือเป็นเครื่องหมายที่แสดงถึงเสร็จสมบูรณ์ของการจัดสร้างพระเมรุ ทั้งนี้ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ยังได้ทรงโปรดเกล้าฯ พระราชทานสัปตปฎลเศวตฉัตร (ฉัตร 7 ชั้น) เป็นเครื่องเพิ่มเติมพระเกียรติยศด้วย
อย่างไรก็ตาม ส่วนที่ยังต้องนำมาติดตั้งเพิ่มเติมหลังจากนี้ คือ เครื่องสดประกอบพระจิตกาธาน ขณะนี้ทางสำนักพระราชวังกำลังดำเนินการตกแต่งเครื่องสดประกอบพระจิตกาธานอยู่ คาดว่าจะนำมาติดตั้งในวันที่ 8 เม.ย.นี้
ทั้งนี้ ในส่วนของการจัดทำเครื่องสดประกอบพระจิตกาธานของงานพระศพที่ผ่านๆ มา สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี จะเสด็จทรงร่วมแทงหยวกประดับเครื่องสดพระจิตกาธานด้วย แต่ในส่วนของงานเครื่องสดดับพระจิตกาธานครั้งนี้ ยังไม่ทราบว่าจะเสด็จทรงร่วมในวันไหน เพราะยังไม่ได้กำหนด
นอกจากนี้ ในช่วงเช้าของวันที่ 4 เม.ย. จะมีการยกนั่งร้านบนยอดฉัตรพระเมรุออก ซึ่งหลังจากนี้ ก็จะถือว่าพระเมรุ มีความสวยงามสมบูรณ์แบบที่สุด ในส่วนของประชาชนที่จะเดินทางมาชมความสวยงามหรือบันทึกภาพก็สามารถมาชื่นชมความงามได้ โดยเฉพาะในช่วงค่ำที่จะมีการเปิดไฟประดับสวยงาม อย่างไรก็ตาม หลังจากเสร็จสิ้นพระราชพิธี ในวันที่ 11-17 เม.ย.นี้ จะมีการเปิดให้ประชาชนสามารถเข้าชมภายในราชวัตรพระเมรุได้ และจะทำการรื้อถอนหลังจากนั้นให้แล้วเสร็จภายใน 45 วัน เพื่อคืนพื้นที่ให้กทม. ในการจัดงานเฉลิมพระชนมพรรษา 80 พรรษาสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถต่อไป