xs
xsm
sm
md
lg

ผู้จัดการสุดสัปดาห์

x

ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร เธอเป็นได้แค่ “พริตตี้”

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


ASTVผู้จัดการสุดสัปดาห์-ในขณะที่ “นช.ทักษิณ ชินวัตร”ผู้เป็นพี่ชายกระเสือกกระสนดิ้นรนเพื่อหาทางกลับประเทศไทยโดยไม่ต้องรับผิด “นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร” น้องสาวผู้ได้ชื่อว่าเป็นนายกรัฐมนตรีที่สวยที่สุดในโลกก็กำลังสนุกสนานกับการอวดรูปโฉมโนมพรรณผ่านเสื้อผ้าหน้าผมและความงามแห่งเรือนร่างของตนเองอย่างขะมักเขม้นไม่แพ้กัน

ภาพล่าสุดที่คนไทยและคนทั้งโลกได้เห็นกันก็คือ ภาพที่นายกฯ ยิ่งลักษณ์สวมใส่ชุด “ฮันบก” ซึ่งเป็นชุดประจำชาติของเกาหลีในระหว่างเดินทางเยือนสาธารณรัฐเกาหลีเอย่างเป็นทางการระหว่างวันที่ 24-27 มีนาคม 2555 และนำมาโพสต์เอาไว้ในเฟซบุ๊กส่วนตัว Yingluck Shinawatra

พร้อมทั้งอธิบายเหตุผลประกอบการแต่งชุดฮันบกเอาไว้อีกต่างหากว่า “เพื่อเป็นเกียรติแก่เจ้าภาพ”

แน่นอน ไม่มีใครปฏิเสธความสวยงามแห่งเรือนร่างของเธอ

ยิ่งได้เห็นเธอในชุดฮันบกด้วยแล้ว เชื่อว่าหลายคนคงนึกจินตนาการกันไปต่างๆ นานา

สำหรับคนเสื้อแดงแล้ว ภาพ “นารีอินฮันบก” ก็ยังคงสร้างความลุ่มหลงงมงายและสร้างความประทับใจอยู่อย่างไม่เสื่อมคลาย

“สวยไม่สร่างจริงๆ นายกเราแยกไม่ออกเลยไทยหรือเกาหลี”

“นายกปู น่ารักจริงๆใส่ชุดนี้ ดีใจที่เลือกนายกปู เป็นนายกจริงๆ”

สวยมากถึงขั้นคุณสรยุทธนำภาพมาออกรายการเรื่องเล่าเช้านี้เลยครับ

นั่นคือส่วนหนึ่งของถ้อยคำชื่นชมที่สามารถหาอ่านได้ในเฟซบุ๊กของนายกฯยิ่งลักษณ์ รวมทั้งเว็บไซต์ของคนเสื้อแดง

ทั้งนี้ หลังจากเกิดเสียงวิพากษ์วิจารณ์ ในวันถัดมานายกฯ ยิ่งลักษณ์ก็แก้เกมทันทีด้วยการสวมชุดไทยประยุกต์เข้าร่วมงานเลี้ยงรับรองและงานเลี้ยงอาหารค่ำแบบ Gala Dinner ที่นาย Lee Myung-bak ประธานาธิบดีสาธารณรัฐเกาหลีและนาง Kim Yook-ok ภริยา เป็นเจ้าภาพจัดขึ้น เพื่อเป็นเกียรติแก่ผู้นำที่เข้าร่วมการประชุม ณ โรงแรมชิลล่า

แต่คำถามที่เกิดขึ้นก็คือ สถานะของนางสาวยิ่งลักษณ์ในวันนี้คืออะไร เธอคือนายกรัฐมนตรีแห่งราชอาณาจักรไทย มิใช่ “พริตตี้” ที่ขายความงาม ขายหุ่นและขายเรือนร่างของตนเองเพื่อแลกกับการสร้างแรงดึงดูดใจให้คนมาซื้อสินค้า

นางสาวยิ่งลักษณ์มิใช่ “พริตตี้มอเตอร์โชว์” ที่ใส่เสื้อผ้าน้อยชิ้น โชว์เนินอกอล่างฉ่าง โชว์สะโพก โชว์เรียวขาขาวๆ ล่อไอ้เข้ที่แวะเวียนกันเข้ามาสัมผัสด้วยความหื่นกระหายทางเพศ

“ดิฉันเป็นผู้หญิงก็รักสวยรักงามเป็นธรรมดา แต่เชื่อว่า ประชาชนจะมองที่ผลงานมากกว่า ซึ่งตลอด 7 เดือนของการบริหารประเทศนั้น ได้พยายามที่จะติดตามผลสำรวจความพึงพอใจในการบริหารประเทศจากประชาชน เพื่อที่จะปรับปรุงตัวเองให้ตรงกับความต้องการของประชาชน”นั่นคือคำอธิบายของนางสาวยิ่งลักษณ์เมื่อถูกถามจากสื่อมวลชนอย่างตรงไปตรงมาถึงเสียงวิพากษ์วิจารณ์ว่า นายกรัฐมนตรีมักโชว์แฟชั่นมากกว่าวิชั่น

ทว่า ทุกวันนี้ ถามว่า นางสาวยิ่งลักษณ์มีอะไรที่แตกต่างจากพริตตี้ในงานมอเตอร์โชว์ที่กำลังโชว์นมโชว์ก้นล่อไอ้เข้อยู่ที่อิมแพ็คเมืองทองธานี เพราะนับตั้งแต่เธอดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีหญิงคนแรกของประเทศไทย ก็มิเคยปรากฏผลงานอันโดดเด่นและเป็นชิ้นเป็นอันให้เห็น นางสาวยิ่งลักษณ์ยังคงดำรงสภาพเป็น “หุ่นเชิด” ของโคลนนิงผู้พี่อย่างเสมอต้นเสมอปลาย

แต่ที่ยิ่งคิดก็ยิ่งหดหู่ใจก็คือ ถ้าจะว่าไปแล้วพริตตี้มอเตอร์โชว์ยังสร้างผลงานและสร้างรายได้ ให้กับประเทศไทยมากกว่านายกฯ ยิ่งลักษณ์เสียด้วยซ้ำไป เพราะใครจะไปคาดคิดว่า หลังจากที่ประเทศไทยเผชิญกับมหาอุทกภัย บริษัทผลิตรถยนต์และชิ้นส่วนยานยนต์ต้องพินาศฉิบหาย ขณะที่ประชาชนก็ต้องตกระกำลำบากจากภาวะน้ำท่วม จนหลายคนฟันธงว่า ยอดขายรถปีนี้คงจะหยอยเหงาและซึมเซาตามไปด้วย ทว่าการณ์กลับกลายเป็นว่า ยอดคนที่เข้าไปชมงานมอเตอร์โชว์ปีนี้ทะลักทะลายไม่ต่างอะไรจากทุกครั้งที่ผ่านมา เผลอๆ จะมากกว่าเสียด้วยซ้ำไป

“งานบางกอกฯ มอเตอร์โชว์ปีนี้ เชื่อว่าจะคึกคักกว่าทุกปี เพราะมีรถยนต์รุ่นใหม่เปิดตัวทีน่าสนใจ โดยเฉพาะอีโคคาร์ที่มีการเปิดตัวใหม่เพิ่มอีก 2 โมเดลพร้อมกัน คือมิตซูบิชิ มิราจ และซูซูกิ สวิฟท์ ขณะเดียวกันฮอนด้าก็กลับมาพร้อมผลิต ทำให้เริ่มสามารถส่งมอบรถได้ จึงคาดว่าภายในปีนี้จะมียอดจองประมาณ 4 หมื่นคัน หรือมีเงินสะพัดประมาณ 3 หมื่นล้านบาท และมีผู้เข้าชมงานกว่า 1.7 ล้านบาท” “ปราจิน เอี่ยมลำเนา” ประธานจัดงานบางกอกอินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ 2012 ให้ข้อมูล

อย่างน้อยส่วนหนึ่งที่คนเข้าชมงานมอเตอร์โชว์และจองรถกันอย่างจ้าละหวั่นก็มีผลมาจากบรรดาน้องๆ พริตตี้ที่ช่วยเรียกเรตติ้งให้

ถามว่า นายกฯ นกแก้วทำได้อย่างที่น้องๆ พริตตี้มอเตอร์โชว์ทำได้หรือไม่

การไปสร้างความเชื่อมั่นให้กับนักลงทุนต่างชาติอย่างญี่ปุ่น-เกาหลี นายกฯ ยิ่งลักษณ์สามารถมีผลงานที่เป็น “รูปธรรม” ซึ่งจับต้องได้กลับมาให้เห็นบ้างหรือไม่

สิ่งที่ผู้คนในสังคมจับต้องได้ก็คือ การแต่งตัวสวยๆ ด้วยเสื้อผ้าอาภรณ์และถนิมพิมพาพรรณเนี้ยบตั้งแต่หัวจดปลายเท้าไปปรากฏตัวตรงนี้ทีตรงนั้นที

แม้กระทั่งในช่วงที่คนไทยต้องเผชิญกับวิบากกรรมอย่างมหาอุทกภัยในปี 2554 นายกฯ ยิ่งลักษณ์ยังมีแก่ใจคำนึงถึงเสื้อผ้าหน้าผมอย่างไม่เปลี่ยนแปลง ไม่เช่นนั้นเราคงไม่เห็นเธอใส่ “รองเท้าเบอร์เบอร์รี่” คู่ละหลายหมื่นบาทเดินกรีดกรายไปตรวจน้ำท่วม ทั้งๆ ที่สามารถใส่รองเท้าบูทคู่ละสองสามร้อย เหมือนกับชาวบ้านร้านถิ่นได้

บรรดาหนุ่มกลัดมันประจำเว็บไซต์ต่างๆ ถึงขนาดออกความเห็นให้นายกฯ ยิ่งลักษณ์เดินทางไปเยือนประเทศบราซิล โดยเฉพาะงานคาร์นิวัลสักครั้ง เนื่องจากอยากเห็นนายกฯ ยิ่งลักษณ์ในชุดประจำชาติแซมบ้าเพื่อเป็นเกียรติให้กับเจ้าภาพบ้าง

ด้วยเหตุดังกล่าว ฉายา “นายกฯ นกแก้ว” ที่สื่อมวลชนตั้งให้จึงไม่เกินเลยไปจากความจริงเลยแม้แต่น้อย เพราะวันนี้คนไทยสัมผัสได้แค่เพียงความสวยงามแห่งสรีระที่เธอตั้งใจอวดรูปโฉมโนมพรรณให้ได้เป็นบุญตา รวมทั้งลีลาการอ่านโพยในการปาฐกถาหรือเปิดงานตามสถานที่ต่างๆ อย่างเอาเป็นเอาตายเท่านั้น

หรือนี่คือหน้าที่ที่เธอได้รับมอบหมายจากผู้เป็นพี่ชายหลังจากพิสูจน์ให้เห็นแล้วว่า เป็นสิ่งที่เหมาะสมกับคุณลักษณะของน้องสาวสุดที่รักที่สุดแล้ว และสรุปสั้นๆได้ว่า เธอเป็นได้แค่พริตตี้ให้กับผู้เป็นพี่ชายเท่านั้น

เดชะบุญที่ในการไปเยือนสาธารณรัฐเกาหลีในครั้งนี้ เธอยังพอมีภูมิความรู้รอบตัวอยู่บ้าง เพราะเธอยังรู้จักซีรีส์เกาหลีอย่าง "ฟูลเฮ้าส์" และ "แดจังกึม" รวมทั้งรู้จักนักร้องเกาหลีชื่อดังอย่างเรน และวง 2PM

แน่นอน บรรดาข้าทาสบริวารของตระกูลซึ่งรู้ดีถึงบทบาทที่นางสาวยิ่งลักษณ์ได้รับก็ออกมาชูรักแร้เชลียร์เจ้านายเป็นการใหญ่ เหมือนดังเช่นที่ นายอนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด รักษาการโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ด้วยความภูมิอกภูมิใจว่า “ได้รับคำบอกเล่าจากทางการและประชาชนชาวเกาหลีใต้ว่า นายกรัฐมนตรีของไทยได้รับความนิยมอย่างมากที่เกาหลีใต้ พอๆ กับได้รับความสนใจระดับดารา”

นี่คือความจริงแท้แน่นอนในตัวตนของนางสาวยิ่งลักษณ์ที่ไม่มีใครปฏิเสธได้ ไม่เช่นนั้นแล้วเธอคงไม่ถูกกล่าวขานจากนักวิชาการรวมถึงสื่อต่างประเทศถึงความโดดเด่นการแต่งกายจนเป็นที่ยอมรับเช่นนี้

ดังเช่นเมื่อวันที่ 25 ม.ค.ที่ผ่านมา "เดลี่ เมล์" สื่อชื่อดังของอังกฤษ ได้ออกมากล่าวชื่นชมนายกรัฐมนตรีของไทยที่แต่งกายอย่างมีสง่าในขณะเข้าร่วมการฉลองวันชาติของอินเดีย ท่ามกลางเหล่าผู้นำชาติต่าง ๆ โดยมีการพาดหัวข่าวว่า "Coating' from the Thai PM's stylebook" หรือการแต่งกายตามสูตรของนายกรัฐมนตรีไทย

ไม่เช่นนั้นแล้ว “คริส อากีโน” น้องสาวคนสวยของประธานาธิบดีเบนีโญ อากีโนที่ 3 แห่งฟิลิปปินส์ คงไม่ชื่นชม “น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร” นายกรัฐมนตรีของไทยผ่าน “ทวิตเตอร์” จนถึงขนาดปรารถนาที่จะให้ “คุณปู” มาเป็นพี่สะใภ้หรือใช้ศัพท์ชาวบ้านๆ ว่า อยากได้มาเป็น “เมีย” พี่ชายของเธอที่ยังคงครองตัวเป็นโสดกันเลยทีเดียว

และนั่นยังรวมถึง “ธีรยุทธ บุญมี” ผู้อำนวยการสถาบันสัญญาธรรมศักดิ์เพื่อพัฒนาประชาธิปไตย มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ที่ตัดสินใจสวมเสื้อกั๊กออกมาวิพากษ์วิจารณ์การเมืองไทยเมื่อวันที่ 18 มีนาคม 2555 พร้อมชื่นชมนายกฯ ปูคนสวยเอาไว้ว่า “คุณยิ่งลักษณ์แต่งตัวดี สมาร์ทมาก ท่านจะติด 1 ในผู้นำสตรีที่แต่งตัวดีที่สุดของโลกในปลายปี 2555 นี้ และจะได้คะแนนนิยมเยอะมาก เพราะชาวบ้านชอบให้คนสวยแต่งตัวดีๆ ชาวบ้านจะยิ้มย่อง เป็นโฟโต้จีนิกคือถ่ายรูปขึ้น”

กระนั้นก็ดี แม้ดูเหมือนว่า ผู้เป็นพี่ชายจะชื่นชมโสมนัสกับบทบาทของผู้เป็นน้องสาวที่ถูกขีดเส้นได้อย่างลงตัว แต่สถานะความเป็นนายกรัฐมนตรีจาก “ครอบครัวชินวัตร-ดามาพงศ์” ก็มิได้มั่นคงเท่าใดนัก เนื่องเพราะสิ่งที่ทุกคนประจักษ์ได้ในคุณลักษณะอันโดดเด่นของน้องปูมีเพียงประการเดียวคือ ความสวย ซึ่งนั่นไม่เพียงพอสำหรับการณ์ใหญ่ที่รออยู่เบื้องหน้า

ยิ่งในระยะหลังที่เธอตกเป็นข่าวฉาวและคึกโครมจากกรณีชั้น 7 โรงแรมโฟร์ซีซั่นส์ด้วยแล้ว ก็ยิ่งทำให้คุณค่าของความเป็นนายกรัฐมนตรีในสายตาของเครือญาติด้อยลงไปไม่น้อย เพราะมีข่าวกระเส็นกระสายออกมาว่า เธอเคารพนอบน้อมต่อ “ผู้ชายบนชั้น 7” อย่างหน้ามืดตามัวและไม่ยอมฟังใคร กระทั่งทำให้พี่สะใภ้ชื่อ “พจมาน” ไม่พอใจมากขึ้นเป็นลำดับ

ทั้งนี้ ความไม่พอใจของคุณหญิงอ้อเริ่มก่อตัวขึ้นจากปมประเด็นกรณีเด้งนายธีระชัย ภูวนาถนรานุบาล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ซึ่งเป็นเด็กวังจันทร์ส่องหล้าให้พ้นจากตำแหน่ง แล้วดัน “เดอะโต้ง-กิตติรัตน์ ณ ระนอง” เด็กสายตรงของนายกรัฐมนตรีขึ้นมาเสียบแทน

ด้วยเหตุดังกล่าว สิ่งที่ผุดขึ้นมาในหมู่เสนาอำมาตย์แห่งวังจันทร์ส่องหล้าในขณะนี้ก็คือ ในเมื่อคนอย่างยิ่งนางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตรยังเป็นนายกรัฐมนตรีได้ แล้วทำไมคนอย่าง “พล.ต.อ.เพรียวพันธ์ ดามาพงศ์” สายตรงแห่งวังจันทร์ส่องหล้าและพี่ชายสุดที่รักของคุณหญิงอ้อจะมานั่งเก้าอี้ตัวนี้เพื่อเป็นเกียรติเป็นศรีแก่ตระกูลดามาพงศ์ไม่ได้ เพราะในเดือนกันยายนนี้ “บิ๊กอ๊อฟ” ก็จะเกษียณอายุราชการแล้ว ดังนั้น จึงมีสิทธิอันชอบธรรมที่จะย้ายก้นไปนั่งเก้าอี้ผู้บริหารสูงสุดของประเทศได้

นี่คือคำถามที่กำลังดังขรมอยู่ในวังจันทร์ส่องหล้าในยามที่เห็น “พริตตี้ประเทศไทย” ชื่อยิ่งลักษณ์ ชินวัตร เดินกรีดกรายโชว์รูปโฉมโนมพรรณให้ได้สัมผัสไม่เว้นแต่ละวัน
.นายกฯ นกแก้วในชุดฮันบก ชนวนสำคัญที่ทำให้นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตรถูกเปรียบเปรยว่าไม่ต่างอะไรจากพริตตี้
.หลังถูกวิพากษ์วิจารณ์จากสังคม เฟซบุ๊กของนายกฯ ยิ่งลักษณ์ในวันถัดมาก็นำภาพนายกรัฐมนตรีแต่งชุดไทยเพื่อเตรียมเข้าร่วมงานเลี้ยงอาหารค่ำที่นาย Lee-Myung-bak ประธานาธิบดีสาธารณรัฐเกาหลีและภรรยาเป็นเจ้าภาพเพื่อเป็นเกียรติแก่ผู้นำที่เข้าร่วมการประชุม ณ โรงแรมชิลล่า กรุงโซล สาธารณรัฐเกาหลีมาเผยแพร่
ชุดสวยๆ ของนายกฯ ยิ่งลักษณ์ในงานผู้ไทนานาชาติที่กาฬสินธุ์
สวยสุดๆ ขณะเดินทางเยือนฟิลิปปินส์
ชุดเครื่องประดับมุกที่นายกฯ ใส่มาต้อนรับพล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ที่ทำเนียบรัฐบาล
สวมชุดไทยที่วังนารายณ์ จ.ลพบุรี
ชะแว้บไปถ่ายรูปที่ทัชมาฮาลขณะเดินทางไปเยือนอินเดียอย่างเป็นทางการ
อีกชุดสวยๆ ที่หลายคนประทับใจไม่รู้ลืม
ผ้าพันคอที่เปลี่ยนให้เห็นไม่ซ้ำวัน
ร่วมประชุมเวทีดาวอสที่สหพันธรัฐสวิส
งามแต้ๆ ในชุดนักบิน
ใส่เบอร์เบอรี่คู่แพงไปกรวดน้ำท่วม
กำลังโหลดความคิดเห็น