ASTVผู้จัดการรายวัน -โนมูระ พัฒนสิน กำไรไตรมาส 2 ปีนี้หดเหลือ 20 ล้านบาท จากปีก่อนทำไว้ 48 ล้านบาท หรือลดลงเเกือบ 58% เนื่องจากรายได้ลดลง ทั้งรายได้ค่านายหน้า วาณิชธนกิจ และอื่น ๆ ผลจากมูลค่าซื้อขายหลักทรัพย์ของตลาดโดยรวมเฉลี่ยต่อวันต่ำกว่าปีก่อน
นางสาววรางคณา วสุวานิข ผู้อำนวยการอาวุโส สายงานการเงิน บริษัทหลักทรัพย์ โนมูระ พัฒนสิน จำกัด (มหาชน) หรือ CNS แจ้งผลงานไตรมาส 2 สิ้นสุด 29 กุมภาพันธ์ 55 ว่าบริษัทมีกำไรสุทธิ 20.17 ล้านบาท ลดลงจากงวดเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 47.55 ล้านบาท หรือลดลง 27.38 ล้านบาทคิดเป็นลดลง 57.58%
โดยไตรมาส 2 ปีนี้ บริษัทมีรายได้รวมลดลง 29.53 ล้านบาท เนื่องจากรายได้ค่านายหน้าซื้อขายหลักทรัพย์และสัญญาซื้อขายล่วงหน้าลดลง 13.91% หรือ 8.53% ส่วนใหญ่เป็นผลจากการลดลงของมูลค่าซื้อขายหลักทรัพย์ของตลาดโดยรวมเฉลี่ยประมาณ 32,153 ล้านบาทต่อวันในไตรมา 2 ปีก่อน มาเป็น 27,137 ล้านบาทต่อวันในไตรมาสเดียวกันของปี 55 หรือลดลง 15.60% ส่งผลให้รายได้ค่าธรรมเนียมลดลง อันเป็นผลจากรายได้วาณิชธนกิจต่ำลง แม้ว่างวดนี้จะมีกำไรจากการซื้อขายหลักทรัพย์และสัญญาซื้อขายล่วงหน้าลดลง28.11 ล้านบาท เนื่องจากไตรมาส 2 ปีก่อนบริษัทมีกำไรจากการขายเงินลงทุนในหลักทรัพย์เผื่อขายประมาณ 28.95 ล้านบาท ส่วนรายได้ดอกเบี้ยและเงินปัน และดอกเบี้ยจากการกู้ยืมเพื่อซื้อหลักทรัพย์เพิ่มขึ้น 25.68 ล้านบาท เนื่องจากอัตราดอกเบี้ยในตลาดเพิ่มขึ้น
ขณะที่ต้นทุนทางการเงินเพิ่มขึ้น เป็นผลจากการเพิ่มขึ้นของอัตราดอกเบี้ยในท้องตลาด และต้นทุนเงินกู้ยืมจากสถาบันการเงินในประเทศเพื่อใช้เป็นทุนหมุนเวียนของบริษัท ส่วนค่าธรรมเนียมและบริการจ่ายเพิ่มขึ้น เป็นผลจากการเพิ่มขึ้นของค่าบริการจ่ายจาก
ปริมาณธุรกรรมการเป็นนายหน้าซื้อขายหลักทรัพย์เพิ่มขึ้น
นางสาววรางคณา วสุวานิข ผู้อำนวยการอาวุโส สายงานการเงิน บริษัทหลักทรัพย์ โนมูระ พัฒนสิน จำกัด (มหาชน) หรือ CNS แจ้งผลงานไตรมาส 2 สิ้นสุด 29 กุมภาพันธ์ 55 ว่าบริษัทมีกำไรสุทธิ 20.17 ล้านบาท ลดลงจากงวดเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 47.55 ล้านบาท หรือลดลง 27.38 ล้านบาทคิดเป็นลดลง 57.58%
โดยไตรมาส 2 ปีนี้ บริษัทมีรายได้รวมลดลง 29.53 ล้านบาท เนื่องจากรายได้ค่านายหน้าซื้อขายหลักทรัพย์และสัญญาซื้อขายล่วงหน้าลดลง 13.91% หรือ 8.53% ส่วนใหญ่เป็นผลจากการลดลงของมูลค่าซื้อขายหลักทรัพย์ของตลาดโดยรวมเฉลี่ยประมาณ 32,153 ล้านบาทต่อวันในไตรมา 2 ปีก่อน มาเป็น 27,137 ล้านบาทต่อวันในไตรมาสเดียวกันของปี 55 หรือลดลง 15.60% ส่งผลให้รายได้ค่าธรรมเนียมลดลง อันเป็นผลจากรายได้วาณิชธนกิจต่ำลง แม้ว่างวดนี้จะมีกำไรจากการซื้อขายหลักทรัพย์และสัญญาซื้อขายล่วงหน้าลดลง28.11 ล้านบาท เนื่องจากไตรมาส 2 ปีก่อนบริษัทมีกำไรจากการขายเงินลงทุนในหลักทรัพย์เผื่อขายประมาณ 28.95 ล้านบาท ส่วนรายได้ดอกเบี้ยและเงินปัน และดอกเบี้ยจากการกู้ยืมเพื่อซื้อหลักทรัพย์เพิ่มขึ้น 25.68 ล้านบาท เนื่องจากอัตราดอกเบี้ยในตลาดเพิ่มขึ้น
ขณะที่ต้นทุนทางการเงินเพิ่มขึ้น เป็นผลจากการเพิ่มขึ้นของอัตราดอกเบี้ยในท้องตลาด และต้นทุนเงินกู้ยืมจากสถาบันการเงินในประเทศเพื่อใช้เป็นทุนหมุนเวียนของบริษัท ส่วนค่าธรรมเนียมและบริการจ่ายเพิ่มขึ้น เป็นผลจากการเพิ่มขึ้นของค่าบริการจ่ายจาก
ปริมาณธุรกรรมการเป็นนายหน้าซื้อขายหลักทรัพย์เพิ่มขึ้น
