โสภณ องค์การณ์
ASTVผู้จัดการสุดสัปดาห์
บ้านเมืองของหมู่เฮาชาวไทยจะมุ่งสู่ทิศทางไหน ท่ามกลางบรรยากาศร้อนระอุ เหมาะกับการปะทุของวิกฤติรอบใหม่ ซึ่งคาดว่าจะมีการรบราฆ่าฟันกันกลางเมืองระหว่างคนไทย อาจมีกองกำลังรับจ้างรบต่างชาติเข้ามาร่วมวงโดยอำนาจเงินของกังฉินสัมภเวสี
คุยกับใคร ก็บอกว่าการนองเลือดคงเลี่ยงไม่ได้ การเมืองในสภาฯ ไม่สร้างความปรองดอง เมื่อทาสเงินเหลี่ยมร้ายดันทุรังหักดิบใช้เสียงพวกมากลากไปผ่านมาตรการต่างๆ เพื่อนำไปสู่ผลสุดท้าย คือเหลี่ยมร้ายและขบวนการรอดคุก พ้นโทษ กุมอำนาจรัฐ
ทำไมพวกเฝ้าติดตามสถานการณ์การเมืองจึงเชื่อ บ้างก็ฟันธง ว่าจะต้องรบกันแน่ ระหว่างขบวนการเหลี่ยมร้าย โดยมีพรรคการเมือง ชนเผ่าเสื้อแดง และเครือข่ายฝ่ายหนึ่ง ห้ำหั่นกับฝ่ายไม่เอาพวกเหลี่ยมร้ายซึ่งห่วงว่ารัฐไทยจะเป็นรัฐล้มเหลว
ทางเลือกอื่นๆ ไม่มีแล้วหรือ เพื่อเลี่ยงสภาวะที่คนไทยต้องจับอาวุธฆ่ากัน?
มี! แต่ไม่ใช่เส้นทางนำไปสู่สันติภาพ เพราะขบวนการเหลี่ยมร้ายประกาศเป้าหมายชัดเจน เย้ยฟ้าท้าดินว่าจะยุบศาลปกครอง ศาลรัฐธรรมนูญ องค์กรอิสระ นิรโทษกรรมให้เหลี่ยมร้าย สมุนอาชญากรการเมืองมีคดีติดตัว พวกเผาบ้านเผาเมือง
แปรสภาพรัฐไทยให้เป็น “แดงทั้งแผ่นดิน” ทุกชีวิตอยู่ไต้อุ้งตีนเหลี่ยมร้าย!
ความเชื่อว่าจะเกิดมิคสัญญีเหมือนเป็นอย่างที่ฝรั่งว่า “self-fulfilling prophecy” คือร่ำที่จะให้เกิด โดยประเมินสถานการณ์แวดล้อมและสิ่งบอกเหตุ การผยองอำนาจของนักการเมืองทาสเหลี่ยมซึ่งไม่สนใจกฎหมายบ้านเมือง ความรู้สึกของคนกลุ่มอื่นๆ
ปาหี่กลางสภาโดยทหารแก่เก่าเก็บ แต่แฝงพิษเต็มบั้ง ผลักดันช่วยเหลือเหลี่ยมร้ายทำให้วิญญูชนมองด้วยความสมเพชเวทนาว่าระบบราชการได้เพาะเชื้อคนทรยศบ้านเมือง รับใช้คนชั่ว มากกว่าทำหน้าที่เพื่อประโยชน์สุขของประชาชน
นักการเมืองฝ่ายค้านรู้สึกแล้วว่าการเมืองในระบบรัฐสภาใช้ไม่ได้ในเมืองไทย เมื่อพฤติกรรมพวกมากลากไปไม่มีจิตสำนึกด้านความถูกต้องดีงาม! ผู้แทนราษฎรเป็นตัวแทนของโจรการเมือง ออกกฎหมาย แก้กฎหมายเอื้ออาทรอาชญากรแผ่นดิน
นักการเมืองในสภาฯ กระเหี้ยนกระหือรือช่วยเหลือเหลี่ยมร้าย ไม่แยแสความรู้สึกของประชาชนซึ่งอยู่ในสภาวะจำยอม มองความลำพองด้วยตาปริบๆ
เหลี่ยมร้ายอยากกลับบ้านเก่า ไม่อยากอยู่บ้านใหม่ซื้อไว้ในดูไบ ฮ่องกง และในประเทศอื่นๆ! คฤหาสน์หลังใหญ่ในลอนดอนยังเป็นเขตต้องห้าม เมื่ออังกฤษยังมองเหลี่ยมร้ายว่าเป็นบุคคลไม่พึงปรารถนา หลังจากข่าวอายัดเงิน 1.4 แสนล้านบาท
สงกรานต์ปีนี้ เหลี่ยมร้ายจะเลียบชายแดนไทย มาพักในเวียงจันท์ และเสียมราฐ เปิดโอกาสให้ชนเผ่าเสื้อแดง ทาสเงิน และผีโม่แป้งสารพัดแห่กันไปรดน้ำดำหัว คาดว่าจะมีหลายหมื่นคน ไปชื่นชมบารมีเหลี่ยมร้ายและถือโอกาสวางบิลเบิกเงินด้วย
การมาล่อเป้าอย่างอหังการ ไม่กลัวเจ้าหน้าที่ไทยไล่ล่า เพราะตำรวจ อัยการ และกฎไกกฎหมายของรัฐไทยมองว่าเหลี่ยมร้ายเป็นผู้มีบารมีเหนือกฎหมายไทย ทำอะไรไม่ผิด! นารีหน้าขาว ผู้นำรัฐบาล ไม่หวั่นว่าจะมีใครฟ้องร้องว่าละเว้นการปฏิบัติหน้าที่
หลายคนอยากรู้ว่าเหลี่ยมร้ายอยากกลับบ้านเก่าหรือไม่? ใจจริงอยากกลับแน่ เพราะรู้ดีว่าไม่มีแผ่นดินไหนที่ยอมให้กังฉินชั่วร้ายตายแล้วเกิดหลายรอบ โกงซ้ำซาก เพราะคนส่วนหนึ่งเห็นแก่เงิน หน้ามืดตามัว จิตสำนึกมืดบอด เอาแต่ได้ เห็นแก่ตัว
เหลี่ยมแยกไม่ออกเมื่อพูดหลอกตัวเอง และหลอกชนเผ่าเสื้อแดง! สิ่งที่เป็นจริงคือเหลี่ยมร้ายไม่มีเพื่อนแท้ มีแต่ศัตรูและสมุนลิ่วล้อ! เพื่อนร่วมรุ่น ร่วมประเภทอื่นๆ ถูกลดระดับให้เป็นลูกน้อง ทาสเงิน! คนแวดล้อมมีพวกสู้แล้วรวย สร้างราคาขอวางบิล
ความเป็นไทยนิสัยโอบอ้อมอารีตั้งแต่ยุคโบราณถูกแปรสภาพเป็นเสือหิว มักง่าย ชอบของฟรี ขายสิทธิ ขายเสียงให้นักการเมืองชั่ว แลกกับค่าตัวต่ำกว่าราคาหมาไทยส่งไปขายเวียดนาม! ปัจจุบันแผ่นดินไทยมีคนดีที่สุด กับคนชั่วที่สุด อาศัยอยู่ด้วยกัน
เหลี่ยมร้ายอยากกลับบ้านเก่าแทบใจจะขาด แต่ความขี้ขลาดรักตัวกลัวตายไร้ศักดิ์ศรีทำให้ต้องฝืนใจแสดงละครหลอกชนเผ่าเสื้อแดงบ้องตื้นไปวันๆ ป้อนคำหวาน สัญญาลมๆ แล้งๆ ผูกใจไว้ให้ออกมาเสี่ยงตายรอบใหม่ ถ้าคนต่อต้านนิรโทษกรรม
นี่เป็นสภาวะของความหงุดหงิด เร่งวันให้เครือข่ายทาสน้ำเงินรวบรัดตัดตอนปูทางให้กลับบ้าน แต่ทุกอย่างใช่ว่าจะง่ายดาย! ความสนุกกับงานผู้นำหน่อมแน้มทำให้นารีหน้าขาวรู้สึกว่าถ้าหลุดจากเก้าอี้แล้วจะจมไม่ลง ทำตัวไม่ถูก หลงเชื่อว่าตัวเองเก่ง
ลืมไปแล้วว่าถ้าพี่เหลี่ยมร้ายไม่ดันก้นให้เป็นนายกฯ เกิดแล้วตายสิบชาติคงไม่มีโอกาสได้เป็นผู้นำรัฐ พบปะผู้นำชาติอื่นๆ สร้างประวัติศาสตร์ในสภาพตัวตลกหน้าใส มีปัญหาเรื่องต่อมยางอาย มีฉายาสารพัดเกี่ยวโยงกับความบกพร่องด้านสติปัญญา
เหลี่ยมร้ายมาลาวและกัมพูชาเพื่อกระตุ้นให้ผีโม่แป้งเร่งงานให้จบตามตารางเวลา แต่เมื่อไปถามใครๆ มีคนเชื่อว่าไม่มีทางที่คนหนีคุกจะได้กลับบ้าน นอกจากต้องเสี่ยงตาย ยังทำให้นารีหน้าขาวเผชิญกับความง่อนแง่นของเก้าอี้อีกด้วย
มีคำถามว่า “กองทัพจะเอาอย่างไร?” คำตอบคือ “ไม่เอาอะไร ไม่เสี่ยง รอจนนาทีสุดท้ายถ้าเกิดรบราฆ่าฟันกันระหว่างมวลชน” นั่นเป็นเพราะชนเผ่าเสื้อแดงถูกมอมให้เมาเลือด พร้อมออกมาตายโดยมีรางวัล 7.75 ล้านบาทต่อศพเป็นตัวกระตุ้น
เอ่อ! ถ้าออกไป ต้องไม่มีเพียงโล่ และกระบอง ให้เป็นเป้าของกองกำลังเถื่อน! ต้องรบเต็มรูปแบบ ประกาศกฎอัยการศึก ยอมรับการสูญเสียทุกสภาพ ถ้าบ้านเมืองก้าวสู่จุดหายนะล่มจมทั้งการเมือง เศรษฐกิจ สังคม! อย่างที่ว่า “อะไรจะเกิด ก็ให้เกิด”
ล่าสุดเครือข่ายเหลี่ยมร้ายผ่อนแรงกดดัน โยกแผนนิรโทษกรรมไปสิ้นเดือนเมษายน คงรู้ดีว่าถ้ายังเดินหน้า ข้ออ้างเรื่องการปรองดองจะเป็นเพียงการผายลมให้สุนัขดม! เหมือนคนยื่นมือขวาให้จับแต่มือซ้ายกำมีดซุยซ่อนไว้ข้างหลัง
ลดอุณหภูมิได้ชั่วคราว ประเด็นอื่นๆ ยังค้างคาเป็นองค์ประกอบวิกฤติ! ผ่านเมษายน-พฤษภาคมไปได้โดยไม่มีเหตุเลือดตกยางออก ถือว่าเป็นโชคของแผ่นดิน