"ปู" ยาหอม หนุน ผู้ประกอบการท่องเที่ยว จดทะเบียนให้ถูกต้อง เปิดทางรัฐ ยกระดับมาตรฐานบริการของท่องเที่ยวไทย เร่งพัฒนาระบบคมนาคม อำนวยความสะดวกนักท่องเที่ยว ผลักดันแบรนด์
ประเทศไทยแข็งแกร่ง หนีคู่แข่งขัน คุย ตลอดปีนี้ ทยอยเปิดกิจกรรมหนุนท่องเที่ยวต่อเนื่อง ภายใต้แนวคิด "มิราเคิล" ขณะที่ภาคเอกชน ยังไม่แน่ใจ เบื้องต้น ขอแค่ ให้หน่วยงานรัฐ หันมาใช้ บรนิการโรงแรม ที่มีใบอนุญาต ให้ได้
ก็พอใจ
วานนี้(29มี.ค.55) ในโอกาสเปิดงานมหัศจรรย์เมืองไทย หรือมิราเคิล เยีย ออฟ อะเมซิ่ง ไทยแลนด์ 2012 ซึ่งจัดโดย การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ที่ ฮอลล์ 2 อิมแพ็ค เมืองทองธานี วันที่ 29 มี.ค.-1 เม.ย.55 น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชิน
วัตร นายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานเปิดงาน กล่าวว่า รัฐบาลยืนยันที่จะสนับสนุนภาคอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวให้เติบโตอย่างต่อเนื่อง ล่าสุด รัฐบาลได้วางแนวทาง ในการรณรงค์ให้ผู้ประกบอการในอุตสาหกรรมนี้ เข้าสู่
การจดทะเบียนธุรกิจให้ถูกต้องตามกฎหมาย เพื่อมุ่งสู่การยกระดับการบริการในอุตสาหกรรมท่องเที่ยวให้เป็นมาตรฐานเดียวกัน การดูแลความปลอดภัยนักท่องเที่ยว อันจะนำมาซึ่งการสร้างความเชื่อมั่นให้นักท่องเที่ยว
ขณะเดียวกันรัฐบาล จะเร่งออกโครงการที่จะช่วยส่งเสริมการท่องเที่ยว ให้ทยอยออกมาตลอดปี ตามนโยบาย "มิราเคิล ไทยแลนด์ เยียร์" ซึ่งการจัดให้มีงาน มหัศจรรย์เมืองไทย ที่อิมแพ็ค เมืองทองธานี ครั้งนี้ ถือเป็นเพียง
กิจกรรมหนึ่ง ในอีกหลายๆ กิจกรรม ที่ รัฐบาล กระทรวงการท่องเที่ยว และ ททท. จะเริ่มทยอยเปิดตัวอย่างต่อเนื่อง ภายใต้แนวคิด มิราเคิล เพื่อกระตุ้นให้คนไทยเห็นว่า ประเทศไทย มีสิ่งดีๆที่ไหนบ้าง ซึ่งบางคนอาจรู้จักแล้ว แต่
บางคนก็ยังไม่รู้ เพื่อให้เกิดการเดินทางไปสัมผัสแหล่งท่องเที่ยวนั้นๆ
***ปั้นแบรนด์ไทยแกร่ง***
ในส่วนของตลาดนักท่องเที่ยวต่างประเทศ รัฐบาลจะเร่งผลักดันให้ผู้ที่อยู่ในอุตสาหกรรมท่องเที่ยว ได้เข้าใจถึงความต้องการของนักท่องเที่ยว ในแต่ละตลาด ซึ่ง จะมีความชื่นชอบ หรือไลฟ์สไตล์การเดินทางท่องเที่ยวที่แตก
ต่างกัน เพื่อให้ผู้ประกอบการ นำสินค้าและบริการทางการท่องเที่ยวที่มีอยู่ เข้าทำตลาดให้ถึงกลุ่มเป้าหมาย ผลักดันสินค้าทางการท่องเที่ยวที่มีศักยภาพเป็นจุดขายได้ไปนำเสนอต่อนักท่องเที่ยวต่างชาติ
"ความมหัศจรรย์ ในแหล่งท่องเที่ยวของประเทศไทย ไม่ได้มีแค่ที่นำมาจัดแสดงในงานนี้เท่านั้น ซึ่งรัฐบาล จะมีโครงการ อื่นๆ ออกมาอย่างต่อเนื่องในปีนี้ สมกับที่ประกาศนโยบายให้เป็นปี มหัศจรรย์ประเทศไทย"
อย่างไรก็ตาม รัฐบาล เห็นความสำคัญ และจะเดินหน้า สร้างแบรนด์ประเทศไทย เน้นจุดขายที่ไม่ให้ใครมาลอกเลียนแบบได้ และจะให้ความสำคัญกับการพัฒนาระบบคมนาคม ที่จะช่วยอำนวยความสะดวกให้แก่นักท่องเที่ยว
ต่างชาติ เชื่อมโยงการเดินทางทั้งภายในประเทศ และ เชื่อมต่อไปยังประเทศเพื่อนบ้าน ซึ่งแผนการทำงานทั้งหมดที่กล่าวมารัฐบาลได้วางไว้เป็นนโยบายที่จะทำให้สำเร็จภายในระยะเวลา 5 ปี นับจากนี้ เพื่อผลักดันให้การท่อง
เที่ยว สร้างรายได้ให้ถึง 2 ล้านล้านบาท ในปี 2558
***ทีเอชเอเตรียมแฉชื่อรร.เถื่อน******
ทางด้านนายสุรพงษ์ เตชะหรูวิจิตร นายกสมาคมโรงแรมไทย (ทีเอชเอ) กล่าวว่า สมาคมฯ เตรียมรวบรวมรายชื่อผู้ประกอบการโรงแรม ที่ยังไม่มีใบอนุญาติประกอบธุรกิจ โดยไปค้นหามาจากช่องทางการประชาสัมพันธ์ผ่านอิน
เทอร์เน็ต และ ช่องทางอื่นๆ เพื่อจะนำรายชื่อสถานประกอบการโรงแรม แยกเป็นที่ถูกกฏหมาย และ ไม่ถูกกฏหมาย คือ ไม่ได้จดทะเบียนธุรกิจ มาเผยแพร่ต่อสาธารณชน และ ยังจะนำรายชื่อเหล่านี้ ยื่นเสนอต่อหน่วยงานราชการ
และ องค์กรเอกชน เพื่อ ขอความร่วมมือให้เลือกใช้บริการโรงแรมในกลุ่มที่ตั้งใจประกอบอาชีพอย่างถูกกฎหมาย ด้วยการจดทะเบียนอย่างถูกต้อง
นางบุณฑริก กุศลวิทย์ นายกสมาคมโรงแรมไทยภาคตะวันออก กล่าวว่า ต้องการให้รัฐบาลเอาจริง กับการสนับสนุนให้หน่วยงานรัฐใช้บริการโรงแรมที่ถูกกฏหมาย ซึ่งที่ผ่านมา ยังไม่มีคำสั่งหรือกฎที่ออกมาใช้อย่างจริงจัง โดย
เฉพาะ ข้อเสนอของสมาคม ที่ ต้องการให้ราชการออกกฏให้มีการแนบใบอนุญาติประกอบธุรกิจ คู่กับใบเสร็จรับเงิน เพื่อยืนยันว่า เป็นสถานประกอบการที่ถุกกฏหมาย หากไม่มี จะส่งเบิกเงินจากหน่วยงานไม่ได้ นอกจากนั้น ยัง
เสนอให้ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย(ททท.) นำรายชื่อโรงแรมที่จดทะเบียนถูกกฏหมาย ไปโปรโมทในงานเทรดโชว์ต่างประเทศ สร้างการรับรู้ในกลุ่มนักท่องเที่ยวและ ตัวแทนจำหน่าย ในต่างประเทศ ซึ่งยอมรับว่าธุรกิจ
โรงแรมมีการแข่งขันสูง ผู้ประกอบการที่ไม่จดทะเบียน จะมีต้นทุนที่ถูกกว่า มีผลต่อการแข่งขัน ประกอบกับจำนวนโรงแรมที่เกิดขึ้นมาก เฉพาะที่พัทยา จะมีโรงแรมเกิดใหม่ กว่า 4 แห่ง รวมห้องพัก 1,000-2,000 ห้อง ซึ่งยังไม่
นับรวมอพาร์ทเม้นท์ คอนโดมิเนียม ที่นำห้องมาขายแบบรายวัน หากไม่มีระบบการจัดการที่ดี ผู้ประกอบการที่ทำธุรกิจอย่างถูกกฏหมาย จะลำบากกว่านี้
ประเทศไทยแข็งแกร่ง หนีคู่แข่งขัน คุย ตลอดปีนี้ ทยอยเปิดกิจกรรมหนุนท่องเที่ยวต่อเนื่อง ภายใต้แนวคิด "มิราเคิล" ขณะที่ภาคเอกชน ยังไม่แน่ใจ เบื้องต้น ขอแค่ ให้หน่วยงานรัฐ หันมาใช้ บรนิการโรงแรม ที่มีใบอนุญาต ให้ได้
ก็พอใจ
วานนี้(29มี.ค.55) ในโอกาสเปิดงานมหัศจรรย์เมืองไทย หรือมิราเคิล เยีย ออฟ อะเมซิ่ง ไทยแลนด์ 2012 ซึ่งจัดโดย การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ที่ ฮอลล์ 2 อิมแพ็ค เมืองทองธานี วันที่ 29 มี.ค.-1 เม.ย.55 น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชิน
วัตร นายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานเปิดงาน กล่าวว่า รัฐบาลยืนยันที่จะสนับสนุนภาคอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวให้เติบโตอย่างต่อเนื่อง ล่าสุด รัฐบาลได้วางแนวทาง ในการรณรงค์ให้ผู้ประกบอการในอุตสาหกรรมนี้ เข้าสู่
การจดทะเบียนธุรกิจให้ถูกต้องตามกฎหมาย เพื่อมุ่งสู่การยกระดับการบริการในอุตสาหกรรมท่องเที่ยวให้เป็นมาตรฐานเดียวกัน การดูแลความปลอดภัยนักท่องเที่ยว อันจะนำมาซึ่งการสร้างความเชื่อมั่นให้นักท่องเที่ยว
ขณะเดียวกันรัฐบาล จะเร่งออกโครงการที่จะช่วยส่งเสริมการท่องเที่ยว ให้ทยอยออกมาตลอดปี ตามนโยบาย "มิราเคิล ไทยแลนด์ เยียร์" ซึ่งการจัดให้มีงาน มหัศจรรย์เมืองไทย ที่อิมแพ็ค เมืองทองธานี ครั้งนี้ ถือเป็นเพียง
กิจกรรมหนึ่ง ในอีกหลายๆ กิจกรรม ที่ รัฐบาล กระทรวงการท่องเที่ยว และ ททท. จะเริ่มทยอยเปิดตัวอย่างต่อเนื่อง ภายใต้แนวคิด มิราเคิล เพื่อกระตุ้นให้คนไทยเห็นว่า ประเทศไทย มีสิ่งดีๆที่ไหนบ้าง ซึ่งบางคนอาจรู้จักแล้ว แต่
บางคนก็ยังไม่รู้ เพื่อให้เกิดการเดินทางไปสัมผัสแหล่งท่องเที่ยวนั้นๆ
***ปั้นแบรนด์ไทยแกร่ง***
ในส่วนของตลาดนักท่องเที่ยวต่างประเทศ รัฐบาลจะเร่งผลักดันให้ผู้ที่อยู่ในอุตสาหกรรมท่องเที่ยว ได้เข้าใจถึงความต้องการของนักท่องเที่ยว ในแต่ละตลาด ซึ่ง จะมีความชื่นชอบ หรือไลฟ์สไตล์การเดินทางท่องเที่ยวที่แตก
ต่างกัน เพื่อให้ผู้ประกอบการ นำสินค้าและบริการทางการท่องเที่ยวที่มีอยู่ เข้าทำตลาดให้ถึงกลุ่มเป้าหมาย ผลักดันสินค้าทางการท่องเที่ยวที่มีศักยภาพเป็นจุดขายได้ไปนำเสนอต่อนักท่องเที่ยวต่างชาติ
"ความมหัศจรรย์ ในแหล่งท่องเที่ยวของประเทศไทย ไม่ได้มีแค่ที่นำมาจัดแสดงในงานนี้เท่านั้น ซึ่งรัฐบาล จะมีโครงการ อื่นๆ ออกมาอย่างต่อเนื่องในปีนี้ สมกับที่ประกาศนโยบายให้เป็นปี มหัศจรรย์ประเทศไทย"
อย่างไรก็ตาม รัฐบาล เห็นความสำคัญ และจะเดินหน้า สร้างแบรนด์ประเทศไทย เน้นจุดขายที่ไม่ให้ใครมาลอกเลียนแบบได้ และจะให้ความสำคัญกับการพัฒนาระบบคมนาคม ที่จะช่วยอำนวยความสะดวกให้แก่นักท่องเที่ยว
ต่างชาติ เชื่อมโยงการเดินทางทั้งภายในประเทศ และ เชื่อมต่อไปยังประเทศเพื่อนบ้าน ซึ่งแผนการทำงานทั้งหมดที่กล่าวมารัฐบาลได้วางไว้เป็นนโยบายที่จะทำให้สำเร็จภายในระยะเวลา 5 ปี นับจากนี้ เพื่อผลักดันให้การท่อง
เที่ยว สร้างรายได้ให้ถึง 2 ล้านล้านบาท ในปี 2558
***ทีเอชเอเตรียมแฉชื่อรร.เถื่อน******
ทางด้านนายสุรพงษ์ เตชะหรูวิจิตร นายกสมาคมโรงแรมไทย (ทีเอชเอ) กล่าวว่า สมาคมฯ เตรียมรวบรวมรายชื่อผู้ประกอบการโรงแรม ที่ยังไม่มีใบอนุญาติประกอบธุรกิจ โดยไปค้นหามาจากช่องทางการประชาสัมพันธ์ผ่านอิน
เทอร์เน็ต และ ช่องทางอื่นๆ เพื่อจะนำรายชื่อสถานประกอบการโรงแรม แยกเป็นที่ถูกกฏหมาย และ ไม่ถูกกฏหมาย คือ ไม่ได้จดทะเบียนธุรกิจ มาเผยแพร่ต่อสาธารณชน และ ยังจะนำรายชื่อเหล่านี้ ยื่นเสนอต่อหน่วยงานราชการ
และ องค์กรเอกชน เพื่อ ขอความร่วมมือให้เลือกใช้บริการโรงแรมในกลุ่มที่ตั้งใจประกอบอาชีพอย่างถูกกฎหมาย ด้วยการจดทะเบียนอย่างถูกต้อง
นางบุณฑริก กุศลวิทย์ นายกสมาคมโรงแรมไทยภาคตะวันออก กล่าวว่า ต้องการให้รัฐบาลเอาจริง กับการสนับสนุนให้หน่วยงานรัฐใช้บริการโรงแรมที่ถูกกฏหมาย ซึ่งที่ผ่านมา ยังไม่มีคำสั่งหรือกฎที่ออกมาใช้อย่างจริงจัง โดย
เฉพาะ ข้อเสนอของสมาคม ที่ ต้องการให้ราชการออกกฏให้มีการแนบใบอนุญาติประกอบธุรกิจ คู่กับใบเสร็จรับเงิน เพื่อยืนยันว่า เป็นสถานประกอบการที่ถุกกฏหมาย หากไม่มี จะส่งเบิกเงินจากหน่วยงานไม่ได้ นอกจากนั้น ยัง
เสนอให้ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย(ททท.) นำรายชื่อโรงแรมที่จดทะเบียนถูกกฏหมาย ไปโปรโมทในงานเทรดโชว์ต่างประเทศ สร้างการรับรู้ในกลุ่มนักท่องเที่ยวและ ตัวแทนจำหน่าย ในต่างประเทศ ซึ่งยอมรับว่าธุรกิจ
โรงแรมมีการแข่งขันสูง ผู้ประกอบการที่ไม่จดทะเบียน จะมีต้นทุนที่ถูกกว่า มีผลต่อการแข่งขัน ประกอบกับจำนวนโรงแรมที่เกิดขึ้นมาก เฉพาะที่พัทยา จะมีโรงแรมเกิดใหม่ กว่า 4 แห่ง รวมห้องพัก 1,000-2,000 ห้อง ซึ่งยังไม่
นับรวมอพาร์ทเม้นท์ คอนโดมิเนียม ที่นำห้องมาขายแบบรายวัน หากไม่มีระบบการจัดการที่ดี ผู้ประกอบการที่ทำธุรกิจอย่างถูกกฏหมาย จะลำบากกว่านี้