ASTVผู้จัดการรายวัน-ขสมก.ประเมินผลงาน ”โอภาส” ปีที่ 2 ปี คะแนนหด เต็ม 5 ได้ 3.75 ลดลงจากปีแรก เตรียมรายงานบอร์ดรับทราบ จ่อถูกหักค่าตอบแทน ชี้บางหัวข้อไม่ได้คะแนนเลยก็มี
แหล่งข่าวจากองค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 26 มี.ค.2555 คณะกรรมการติดตามประเมินผลการทำงานของนายโอภาส เพชรมุณี ผู้อำนวยการ ขสมก. ที่มี พล.ต.ท.ภาณุ เกิดลาภผล ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 3 เป็นประธาน ได้พิจารณาเพื่อประเมินผลการทำงานในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา (ตั้งแต่เดือนธ.ค. 2553-2554) ซึ่งจากการประเมินผลการให้คะแนนของกรรมการฯ ในภาพรวมปรากฏว่า คะแนนผลการทำงานของนายโอภาส เฉลี่ยอยู่ที่ 3.75 จากคะแนนเต็ม 5 ซึ่งถือว่าลดลงจากคะแนนที่เคยได้รับในปีแรก ซึ่งได้คะแนนเฉลี่ย 4 กว่าๆ
ทั้งนี้ คณะกรรมการติดตามประเมินผลการทำงานฯ จะรายงานผลการประเมินเสนอต่อที่ประชุมคระกรรมการ (บอร์ด) ขสมก.รับทราบต่อไป ซึ่งคะแนนการประเมินผลการทำงานที่นายโอภาสได้รับนั้น จะมีผลต่อการพิจารณาปรับลดจำนวนเงินค่าตอบแทนด้วย
สำหรับกรอบการพิจารณาประเมินผล ให้คะแนนการทำงานนายโอภาส จะแบ่งออกเป็นหัวข้อ เช่น การจัดหาอู่ซ่อมรถโดยสารประจำทาง จำนวนรถที่ส่งซ่อมมากน้อยแค่ไหน การจัดรถโดยสารประจำทางให้บริการผู้โดยสาร ซึ่งจากการประเมพบว่า ในบางหัวข้อ นายโอภาสไม่ได้คะแนนเลย เช่น กรณีที่กำหนดเงื่อนไขให้ขสมก. นำรถเก่าที่เสียไปซ่อมกับผู้ประกอบการเดินรถเอกชนที่มีอู่ซ่อมรถ โดยแลกสิทธิประโยชน์ให้สัมปทานเดินรถเพิ่มกับผู้ประกอบการรายนั้นๆ ปรากฏว่า นายโอภาส ไม่ได้ดำเนินการเรื่องนี้ จึงเสนอให้ไปปรับปรุงแก้ไข
แหล่งข่าวจากองค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 26 มี.ค.2555 คณะกรรมการติดตามประเมินผลการทำงานของนายโอภาส เพชรมุณี ผู้อำนวยการ ขสมก. ที่มี พล.ต.ท.ภาณุ เกิดลาภผล ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 3 เป็นประธาน ได้พิจารณาเพื่อประเมินผลการทำงานในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา (ตั้งแต่เดือนธ.ค. 2553-2554) ซึ่งจากการประเมินผลการให้คะแนนของกรรมการฯ ในภาพรวมปรากฏว่า คะแนนผลการทำงานของนายโอภาส เฉลี่ยอยู่ที่ 3.75 จากคะแนนเต็ม 5 ซึ่งถือว่าลดลงจากคะแนนที่เคยได้รับในปีแรก ซึ่งได้คะแนนเฉลี่ย 4 กว่าๆ
ทั้งนี้ คณะกรรมการติดตามประเมินผลการทำงานฯ จะรายงานผลการประเมินเสนอต่อที่ประชุมคระกรรมการ (บอร์ด) ขสมก.รับทราบต่อไป ซึ่งคะแนนการประเมินผลการทำงานที่นายโอภาสได้รับนั้น จะมีผลต่อการพิจารณาปรับลดจำนวนเงินค่าตอบแทนด้วย
สำหรับกรอบการพิจารณาประเมินผล ให้คะแนนการทำงานนายโอภาส จะแบ่งออกเป็นหัวข้อ เช่น การจัดหาอู่ซ่อมรถโดยสารประจำทาง จำนวนรถที่ส่งซ่อมมากน้อยแค่ไหน การจัดรถโดยสารประจำทางให้บริการผู้โดยสาร ซึ่งจากการประเมพบว่า ในบางหัวข้อ นายโอภาสไม่ได้คะแนนเลย เช่น กรณีที่กำหนดเงื่อนไขให้ขสมก. นำรถเก่าที่เสียไปซ่อมกับผู้ประกอบการเดินรถเอกชนที่มีอู่ซ่อมรถ โดยแลกสิทธิประโยชน์ให้สัมปทานเดินรถเพิ่มกับผู้ประกอบการรายนั้นๆ ปรากฏว่า นายโอภาส ไม่ได้ดำเนินการเรื่องนี้ จึงเสนอให้ไปปรับปรุงแก้ไข
