ASTVผู้จัดการรายวัน – เห็นทางรอดอีลิทการ์ด ททท. ชง อีลิท –ทีแอลเอ็ม เสนอบอร์ดตัดสิน วันนี้(28มี.ค.55) ระบุผลสำรวจสมาชิกผู้ถือบัตรส่วนใหญ่ต้องการให้อยู่ต่อ ขณะที่ผลการศึกษาจากมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ชี้ ทีแอลเอ็ม แนวคิดดี แต่ปัญหา อยู่ที่การบริหารจัดการ แนะต้อง ปรับแผนธุรกิจ
นางวิไลวรรณ ทวิชศรี รองผู้ว่าการด้านสินค้าสินค้าและธุรกิจท่องเที่ยว เปิดเผยว่า ใน วันนี้ (28 มี.ค. 55) จะนำเสนอแผนและขั้นตอนการยุบเลิกกิจการ บริษัท ไทยแลนด์ พริวิเลจ คาร์ด จำกัด หรือ ทีพีซี ผู้บริหารโครงการบัตรไทยแลนด์ อีลิท การ์ด ต่อที่ประชุมคณะกรรมการบริหาร(บอร์ด) การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย เพื่อพิจารณา หากมีมติเห็นชอบ ก็จะนำส่งต่อไปยัง กระทรวงการท่องเที่ยว เพื่อเสนอต่อที่ประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.) พิจารณาตามลำดับ
ทั้งนี้แผนงานที่ทำล่าสุด ได้ นำเสนอเพิ่มเติมในส่วนของผลสำรวจสมาชิกผู้ถือบัตรอีลิทการ์ด ที่ตอบแบบสอบถามมาในรอบสอง จากจำนวนสมาชิกทั้งหมดกว่า 2,563 ราย ซึ่งมีจำนวนสมาชิกตอบกลับมาทั้งหมดเพียง 20% ของจำนวนดังกล่าว โดยในที่นี้ 70% ของที่ตอบกลับมา แสดงความคิดเห็นต้องการให้บริษัท ทีพีซี ดำเนินธุรกิจนี้ต่อไป
“เดิมการทำงานที่ผ่านมามุ่งไปแต่การยุบเลิกกิจการ แต่ผลสำรวจจากสมาชิกในครั้งนี้ถือเป็นเสียงสะท้อนความต้องการของผู้ถือบัตร เป็นการทำงานในมุมมมองที่มีหลายมิติ ให้ กระทรวงและรัฐบาลเป็นผู้ตัดสินใจ หาก บอร์ด ไม่มีข้อเสนอแนะเพิ่มเติมก็จะนำส่งต่อสำนักปลัดกระทรวงการท่องเที่ยว เพื่อเข้าสู่กระบวนการนำเสนอให้ ครม. พิจารณา “
อย่างไรก็ตาม ความรับผิดชอบของรัฐบาล ในฐานะผู้ถือหุ้น ตามกฎหมายแล้ว ก็มีเพียง การชำระค่าหุ้น 500 ล้านบาท ที่ ยังค้างอยู่ให้ ทีพีซี ไปดำเนินการ แต่หากรัฐกังวลเรื่องภาพลักษณ์ประเทศไทย ก็มีความจำเป็นต้องจ่ายเงินชดใช้ให้กับสมาชิก กรณีปิดกิจการอีลิทการ์ด ในวงเงิน กว่า 2,000 ล้านบาท ตามที่เคยเป็นข่าวมา
นางวิไลวรรณ กล่าวอีกว่า ในที่ประชุม บอร์ด ททท.ครั้งนี้ ยังเตรียมเสนอ รายงานความคืบหน้า ผล ประกอบกิจการของ บริษัท ไทยจัดการลองสเตย์ จำกัด หรือ ทีแอลเอ็ม ซึ่งเป็นเรื่องสืบเนื่องจาก มติ ครม. ที่ให้ ททท.ไปศึกษา แนวทางการ ยุบเลิกกิจการ ในบริษัท ที่ ททท.ลงทุน และไม่ก่อให้เกิดรายได้ ซึ่ง มีทั้งอีลิทการ์ด และ ทีแอลเอ็ม ซึ่งเป็นบริษัทที่ก่อตั้งตามมติ ครม. โดย ททท.ได้ว่าจาก มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ศึกษา สรุปผลการศึกษาได้ว่า ทีแอลเอ็ม ยังเป็นบริษัท ที่สามารถทำกำไรได้ หากมีการบริหารจัดการที่ดีมีสภาพคล่องการทำงานมากกว่านี้ จึงเสนอให้มีการปรับแผนธุรกิจของทีแอลเอ็ม เพื่อให้มีรายได้มากขึ้น
“ที่ผ่านมาทีแอลเอ็ม อยู่ได้ด้วยตัวเอง แต่ ไม่มีกำไร อาจเป็นเพราะการบริหารจัดการยังไม่ดีพอ แต่ รูปแบบธุรกิจ มีศักยภาพของการเติบโตที่ดี ส่วน ททท. ด้วยการถือหุ้นเพียง 30% ในบริษัทนี้ คงไม่สามารถทำอะไรได้มาก แต่ก็ไม่สามารถถอนหุ้นได้ เพราะตามกฏหมายแพ่งและพาณิชย์ การถอนหุ้นต้องได้รับความยินยอมจากผู้ถือหุ้น ที่ผ่านมา เคยเสนอถอนหุ้นไปแล้ว แต่ผู้ถือหุ้นไม่อนุมัติ สำหรับผลการศึกษาทีแอลเอ็มนี้เมื่อผ่านบอนร์ด ททท. ก็ต้องเสนอกระทรวงการท่องเที่ยวและ ครม. ตามลำดับเช่นกัน” นางวิไลวรรณกล่าว
นางวิไลวรรณ ทวิชศรี รองผู้ว่าการด้านสินค้าสินค้าและธุรกิจท่องเที่ยว เปิดเผยว่า ใน วันนี้ (28 มี.ค. 55) จะนำเสนอแผนและขั้นตอนการยุบเลิกกิจการ บริษัท ไทยแลนด์ พริวิเลจ คาร์ด จำกัด หรือ ทีพีซี ผู้บริหารโครงการบัตรไทยแลนด์ อีลิท การ์ด ต่อที่ประชุมคณะกรรมการบริหาร(บอร์ด) การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย เพื่อพิจารณา หากมีมติเห็นชอบ ก็จะนำส่งต่อไปยัง กระทรวงการท่องเที่ยว เพื่อเสนอต่อที่ประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.) พิจารณาตามลำดับ
ทั้งนี้แผนงานที่ทำล่าสุด ได้ นำเสนอเพิ่มเติมในส่วนของผลสำรวจสมาชิกผู้ถือบัตรอีลิทการ์ด ที่ตอบแบบสอบถามมาในรอบสอง จากจำนวนสมาชิกทั้งหมดกว่า 2,563 ราย ซึ่งมีจำนวนสมาชิกตอบกลับมาทั้งหมดเพียง 20% ของจำนวนดังกล่าว โดยในที่นี้ 70% ของที่ตอบกลับมา แสดงความคิดเห็นต้องการให้บริษัท ทีพีซี ดำเนินธุรกิจนี้ต่อไป
“เดิมการทำงานที่ผ่านมามุ่งไปแต่การยุบเลิกกิจการ แต่ผลสำรวจจากสมาชิกในครั้งนี้ถือเป็นเสียงสะท้อนความต้องการของผู้ถือบัตร เป็นการทำงานในมุมมมองที่มีหลายมิติ ให้ กระทรวงและรัฐบาลเป็นผู้ตัดสินใจ หาก บอร์ด ไม่มีข้อเสนอแนะเพิ่มเติมก็จะนำส่งต่อสำนักปลัดกระทรวงการท่องเที่ยว เพื่อเข้าสู่กระบวนการนำเสนอให้ ครม. พิจารณา “
อย่างไรก็ตาม ความรับผิดชอบของรัฐบาล ในฐานะผู้ถือหุ้น ตามกฎหมายแล้ว ก็มีเพียง การชำระค่าหุ้น 500 ล้านบาท ที่ ยังค้างอยู่ให้ ทีพีซี ไปดำเนินการ แต่หากรัฐกังวลเรื่องภาพลักษณ์ประเทศไทย ก็มีความจำเป็นต้องจ่ายเงินชดใช้ให้กับสมาชิก กรณีปิดกิจการอีลิทการ์ด ในวงเงิน กว่า 2,000 ล้านบาท ตามที่เคยเป็นข่าวมา
นางวิไลวรรณ กล่าวอีกว่า ในที่ประชุม บอร์ด ททท.ครั้งนี้ ยังเตรียมเสนอ รายงานความคืบหน้า ผล ประกอบกิจการของ บริษัท ไทยจัดการลองสเตย์ จำกัด หรือ ทีแอลเอ็ม ซึ่งเป็นเรื่องสืบเนื่องจาก มติ ครม. ที่ให้ ททท.ไปศึกษา แนวทางการ ยุบเลิกกิจการ ในบริษัท ที่ ททท.ลงทุน และไม่ก่อให้เกิดรายได้ ซึ่ง มีทั้งอีลิทการ์ด และ ทีแอลเอ็ม ซึ่งเป็นบริษัทที่ก่อตั้งตามมติ ครม. โดย ททท.ได้ว่าจาก มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ศึกษา สรุปผลการศึกษาได้ว่า ทีแอลเอ็ม ยังเป็นบริษัท ที่สามารถทำกำไรได้ หากมีการบริหารจัดการที่ดีมีสภาพคล่องการทำงานมากกว่านี้ จึงเสนอให้มีการปรับแผนธุรกิจของทีแอลเอ็ม เพื่อให้มีรายได้มากขึ้น
“ที่ผ่านมาทีแอลเอ็ม อยู่ได้ด้วยตัวเอง แต่ ไม่มีกำไร อาจเป็นเพราะการบริหารจัดการยังไม่ดีพอ แต่ รูปแบบธุรกิจ มีศักยภาพของการเติบโตที่ดี ส่วน ททท. ด้วยการถือหุ้นเพียง 30% ในบริษัทนี้ คงไม่สามารถทำอะไรได้มาก แต่ก็ไม่สามารถถอนหุ้นได้ เพราะตามกฏหมายแพ่งและพาณิชย์ การถอนหุ้นต้องได้รับความยินยอมจากผู้ถือหุ้น ที่ผ่านมา เคยเสนอถอนหุ้นไปแล้ว แต่ผู้ถือหุ้นไม่อนุมัติ สำหรับผลการศึกษาทีแอลเอ็มนี้เมื่อผ่านบอนร์ด ททท. ก็ต้องเสนอกระทรวงการท่องเที่ยวและ ครม. ตามลำดับเช่นกัน” นางวิไลวรรณกล่าว