ASTVผู้จัดการรายวัน -ซ้อมริ้วขบวนพระอิสริยยศ 1-5 งานพระราชพิธีพระราชทานเพลิงพระศพ เจ้าฟ้าเพชรรัตนฯ ครั้งที่ 2 เรียบร้อยดี ให้ทหารมหาดเล็กถ่ายภาพนิ่ง-เคลื่อนไหว นำทูลเกล้าสมเด็จพระเทพฯทอดพระเนตรมีพระราชวินิจฉัย
วานนี้ (25 มี.ค.) ที่บริเวณพระบรมมหาราชวัง กองทัพบกและทหารทุกเหล่าทัพ ตำรวจ สำนักพระราชวัง กรมศิลปากร กระทรวงวัฒนธรรม(วธ.) ข้าราชการทุกหมู่เหล่า และนักเรียนโรงเรียนวชิราวุธวิทยาลัย เหล่านักศึกษา จัดซ้อมย่อยครั้งที่ 2 ริ้วขบวนพระอิสริยยศ ในงานพระราชพิธีพระราชทานเพลิงพระศพสมเด็จพระเจ้าภคินีเธอ เจ้าฟ้าเพชรรัตนราชสุดา สิริโสภาพัณณวดี
โดยริ้วขบวนเริ่มขึ้นในเวลา 07.00 น. ภายในพระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท โดยจำลองเหตุการณ์จริง ตั้งแต่การเฝ้ารับเสด็จฯ สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร การอัญเชิญพระโกศลงจากพระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท ไปประดิษฐานยังพระยานมาศสามลำคาน อัญเชิญออกจากพระบรมมหาราชวัง ผ่านทางประตูศรีสุนทร และประตูเทวาภิรมย์ เพื่อตั้งริ้วขบวนที่ 1 บนถนนมหาราช
เมื่อเวลาประมาณ 8.00 น. ริ้วขบวนที่ 1 ประกอบด้วยขบวนทหารกองเกียรติยศ เครื่องราชอิสริยยศ เหล่าราชนิกูล ข้าราชบริพาร เคลื่อนตามสัญญาณกลอง ไปบนถนนมหาราช เลี้ยวซ้ายเข้าสู่ถนนท้ายวัง ผ่านวัดพระเชตุพนวิมลมังคลาราม เมื่อมาถึงยังถนนสนามไชย ริ้วขบวนที่ 1 ได้เข้ารวมกับริ้วขบวนที่ 2 ที่ตั้งรออยู่ที่หน้าวัดพระเชตุพนฯ
จากนั้นเวลาประมาณ 08.50 น. อัญเชิญพระโกศเทียบเกรินบันไดนาค ขึ้นประดิษฐานบนบุษบก พระมหาพิชัยราชรถ ที่จอดอยู่ที่วงเวียนหน้ากรมการรักษาดินแดน จากนั้นพระมหาพิชัยราชรถเคลื่อนขบวนพระโกศไปบนถนนสนามไชย ถนนราชดำเนินใน ผ่านกระทรวงกลาโหม เลี้ยวซ้ายเข้าสู่ถนนกลางท้องสนามหลวง ฝั่งหน้าศาลฎีกา สู่ราชวัติพระเมรุ หลังจากนั้น เหล่าขบวนทหาร ขบวนพระอิสริยยศ เชิญพระโกศลงจากพระมหาพิชัยราชรถ โดยเกรินบันไดนาค ประดิษฐานยังพระยานมาศสามลำคาน ตั้งริ้วขบวนที่ 3 ในราชวัติพระเมรุ ขบวนทหารกองเกียรติยศ อัญเชิญพระโกศโดยพระยานมาศสามลำคานเวียนพระเมรุ โดยอุตราวัฏ หรือเวียนซ้าย 3 รอบ จึงอัญเชิญพระโกศเทียบเกรินบันไดนาคพระเมรุ อัญเชิญพระโกศโดยเกรินสู่พระเมรุ ประดิษฐาน ณ พระจิตกาธาน ประกอบพระโกศจันทน์ บนพระเมรุ เป็นอันเสร็จพิธีซ้อมในช่วงเช้า
สำหรับช่วงบ่ายจะซ้อมริ้วขบวนที่ 4 อัญเชิญพระอัฐิ โดยพระที่นั่งราเชนทรยาน พระสรีรางคาร โดยพระวอสีวิกากาญจน์ จากถนนกลางสนามหลวง ถนนราชดำเนินใน ถนนหน้าพระลาน เข้าประตูวิเศษไชยศรีสู่พระบรมมหาราชวัง ริ้วขบวนที่ 5 อัญเชิญพระโกศพระอัฐิโดยพระที่นั่งราเชนทรยานเส้นทางจากพระที่นั่งดุสิตมหาปราสาทไปยังพระที่นั่งจักรีมหาปราสาท เป็นอันเสร็จพิธีการซ้อมในครั้งนี้
พล.อ.ยุทธศักดิ์ ศศิประภา รองนายกรัฐมนตรี กล่าวภายหลังซ้อมริ้วขบวนในช่วงเช้าว่า ตนเดินทางมาร่วมฝึกซ้อมย่อยเป็นครั้งแรก พร้อมทั้งตรวจความเรียบร้อยของริ้วขบวน โดยภาพรวมถือว่า เป็นไปด้วยความเรียบร้อยดีกว่าครั้งที่ผ่านมา โดยเฉพาะเรื่องของระยะห่างริ้วขบวนที่เป็นปัญหาครั้งที่แล้ว ครั้งนี้ทำได้ดี ส่วนการปฏิบัติตามขั้นตอนต่างๆ มีทหารมหาดเล็กถ่ายภาพนิ่งและวีดิโอในการนำทูลเกล้าถวายฯสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯสยามบรมราชกุมารี ทอดพระเนตร รวมทั้งทรงมีพระราชวินิจฉัย
ขณะที่ นางสุกุมล คุณปลื้ม รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม กล่าวว่า สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯสยามบรมราชกุมารี ในฐานะประธานที่ปรึกษาการจัดงานพระราชพิธีพระราชทานเพลิงพระศพ สมเด็จพระเจ้าภคินีเธอ เจ้าฟ้าเพชรรัตนราชสุดา สิริโสภาพัณณวดี มีพระราชดำรัส ในการประชุมคณะกรรมการอำนวยการจัดงานในพระราชพิธีฯว่า ทรงห่วงในเรื่องของจุดพัก จุดบริการน้ำดื่ม หน่วยแพทย์เคลื่อนที่ห้องสุขาโดยรอบพระเมรุ เพื่ออำนวยความสะดวกให้แก่ผู้เข้าร่วมพระราชพิธี สำหรับความคืบหน้าการจัดสร้างพระเมรุมีความหน้าร้อยละ 95 ซึ่งในวันที่ 26 มี.ค. จะเริ่มติดตั้งฉากบังเพลิง
ด้าน พล.อ.ทนงศักดิ์ อภิรักษ์โยธิน ผช.ผู้บัญชาการทหารบก(ผบ.ทบ) กล่าวว่า การซ้อมครั้งที่ 2 ในพื้นจริง สวมหมวกและรองเท้าเหมือนวันงานพระราชพิธี โดยภาพรวมดีกว่าครั้งที่แล้ว ได้มีการปรับแก้ระยะห่างระหว่างริ้วขบวน อย่างไรก็ตาม ยังพบข้อบกพร่องอีกเล็กน้อยเกี่ยวกับระยะเลี้ยว ยังดูไม่สวยงาม พร้อมกันนี้จะต้องปรับปรุงเครื่องเสียงที่เสียงขาดตอนเป็นบางช่วง อย่างเช่น หน้าศาลหลักเมือง และศาลฎีกา เพื่อทุกคนให้ได้ยินชัดเจนขึ้น ซึ่งจะซ้อมใหญ่อีกครั้งวันที่ 31 มี.ค.และในวันดังกล่าว ประชาชนที่มารอชมริ้วขบวน เราจะกั้นรั้วไว้อย่างเป็นระเบียบเรียบร้อย พร้อมกันนี้ขอความร่วมมือจากสื่อมวลชนให้อยู่ประจำจุดและมีอัฒจรรย์ไว้ให้ถ่ายภาพด้วย
ผช.ผบ.ทบ. กล่าวอีกว่า นอกจากนี้ได้มีการซ้อมริ้วขบวนที่ 4 อัญเชิญพระอัฐิ โดยพระที่นั่งราเชนทรยาน พระสรีรางคาร โดยพระวอสีวิกากาญจน์ จากถนนกลางสนามหลวง ถนนราชดำเนินใน ถนนหน้าพระลาน เข้าประตูวิเศษไชยศรีสู่พระบรมมหาราชวัง ริ้วขบวนที่ 5 อัญเชิญพระโกศพระอัฐิโดยพระที่นั่งราเชนทรยานเส้นทางจากพระที่นั่งดุสิตมหาปราสาทไปยังพระที่นั่งจักรีมหาปราสาท รวมกำลังพล 3,600 นาย ส่วนริ้วขบวนที่ 6 ซึ่งเป็นขบวนทหารม้าจำนวน 77 ม้าอัญเชิญพระสรีรางคารนั้น จะมีการซ้อมในวันที่ 31 มี.ค. ซึ่งเป็นการซ้อมใหญ่ทุกริ้วขบวนในพื้นที่จริง ตั้งแต่เวลา05.00-16.00 น.โดยแต่งกายด้วยชุดสีกากี อย่างไรก็ตาม ในวันที่ 28 มี.ค.นี้ตนจะไปตรวจความเรียบร้อยของเครื่องแต่งกายที่กรมสรรพาวุธ และที่กรมขนส่งทหารบกอีกด้วย.
วานนี้ (25 มี.ค.) ที่บริเวณพระบรมมหาราชวัง กองทัพบกและทหารทุกเหล่าทัพ ตำรวจ สำนักพระราชวัง กรมศิลปากร กระทรวงวัฒนธรรม(วธ.) ข้าราชการทุกหมู่เหล่า และนักเรียนโรงเรียนวชิราวุธวิทยาลัย เหล่านักศึกษา จัดซ้อมย่อยครั้งที่ 2 ริ้วขบวนพระอิสริยยศ ในงานพระราชพิธีพระราชทานเพลิงพระศพสมเด็จพระเจ้าภคินีเธอ เจ้าฟ้าเพชรรัตนราชสุดา สิริโสภาพัณณวดี
โดยริ้วขบวนเริ่มขึ้นในเวลา 07.00 น. ภายในพระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท โดยจำลองเหตุการณ์จริง ตั้งแต่การเฝ้ารับเสด็จฯ สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร การอัญเชิญพระโกศลงจากพระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท ไปประดิษฐานยังพระยานมาศสามลำคาน อัญเชิญออกจากพระบรมมหาราชวัง ผ่านทางประตูศรีสุนทร และประตูเทวาภิรมย์ เพื่อตั้งริ้วขบวนที่ 1 บนถนนมหาราช
เมื่อเวลาประมาณ 8.00 น. ริ้วขบวนที่ 1 ประกอบด้วยขบวนทหารกองเกียรติยศ เครื่องราชอิสริยยศ เหล่าราชนิกูล ข้าราชบริพาร เคลื่อนตามสัญญาณกลอง ไปบนถนนมหาราช เลี้ยวซ้ายเข้าสู่ถนนท้ายวัง ผ่านวัดพระเชตุพนวิมลมังคลาราม เมื่อมาถึงยังถนนสนามไชย ริ้วขบวนที่ 1 ได้เข้ารวมกับริ้วขบวนที่ 2 ที่ตั้งรออยู่ที่หน้าวัดพระเชตุพนฯ
จากนั้นเวลาประมาณ 08.50 น. อัญเชิญพระโกศเทียบเกรินบันไดนาค ขึ้นประดิษฐานบนบุษบก พระมหาพิชัยราชรถ ที่จอดอยู่ที่วงเวียนหน้ากรมการรักษาดินแดน จากนั้นพระมหาพิชัยราชรถเคลื่อนขบวนพระโกศไปบนถนนสนามไชย ถนนราชดำเนินใน ผ่านกระทรวงกลาโหม เลี้ยวซ้ายเข้าสู่ถนนกลางท้องสนามหลวง ฝั่งหน้าศาลฎีกา สู่ราชวัติพระเมรุ หลังจากนั้น เหล่าขบวนทหาร ขบวนพระอิสริยยศ เชิญพระโกศลงจากพระมหาพิชัยราชรถ โดยเกรินบันไดนาค ประดิษฐานยังพระยานมาศสามลำคาน ตั้งริ้วขบวนที่ 3 ในราชวัติพระเมรุ ขบวนทหารกองเกียรติยศ อัญเชิญพระโกศโดยพระยานมาศสามลำคานเวียนพระเมรุ โดยอุตราวัฏ หรือเวียนซ้าย 3 รอบ จึงอัญเชิญพระโกศเทียบเกรินบันไดนาคพระเมรุ อัญเชิญพระโกศโดยเกรินสู่พระเมรุ ประดิษฐาน ณ พระจิตกาธาน ประกอบพระโกศจันทน์ บนพระเมรุ เป็นอันเสร็จพิธีซ้อมในช่วงเช้า
สำหรับช่วงบ่ายจะซ้อมริ้วขบวนที่ 4 อัญเชิญพระอัฐิ โดยพระที่นั่งราเชนทรยาน พระสรีรางคาร โดยพระวอสีวิกากาญจน์ จากถนนกลางสนามหลวง ถนนราชดำเนินใน ถนนหน้าพระลาน เข้าประตูวิเศษไชยศรีสู่พระบรมมหาราชวัง ริ้วขบวนที่ 5 อัญเชิญพระโกศพระอัฐิโดยพระที่นั่งราเชนทรยานเส้นทางจากพระที่นั่งดุสิตมหาปราสาทไปยังพระที่นั่งจักรีมหาปราสาท เป็นอันเสร็จพิธีการซ้อมในครั้งนี้
พล.อ.ยุทธศักดิ์ ศศิประภา รองนายกรัฐมนตรี กล่าวภายหลังซ้อมริ้วขบวนในช่วงเช้าว่า ตนเดินทางมาร่วมฝึกซ้อมย่อยเป็นครั้งแรก พร้อมทั้งตรวจความเรียบร้อยของริ้วขบวน โดยภาพรวมถือว่า เป็นไปด้วยความเรียบร้อยดีกว่าครั้งที่ผ่านมา โดยเฉพาะเรื่องของระยะห่างริ้วขบวนที่เป็นปัญหาครั้งที่แล้ว ครั้งนี้ทำได้ดี ส่วนการปฏิบัติตามขั้นตอนต่างๆ มีทหารมหาดเล็กถ่ายภาพนิ่งและวีดิโอในการนำทูลเกล้าถวายฯสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯสยามบรมราชกุมารี ทอดพระเนตร รวมทั้งทรงมีพระราชวินิจฉัย
ขณะที่ นางสุกุมล คุณปลื้ม รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม กล่าวว่า สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯสยามบรมราชกุมารี ในฐานะประธานที่ปรึกษาการจัดงานพระราชพิธีพระราชทานเพลิงพระศพ สมเด็จพระเจ้าภคินีเธอ เจ้าฟ้าเพชรรัตนราชสุดา สิริโสภาพัณณวดี มีพระราชดำรัส ในการประชุมคณะกรรมการอำนวยการจัดงานในพระราชพิธีฯว่า ทรงห่วงในเรื่องของจุดพัก จุดบริการน้ำดื่ม หน่วยแพทย์เคลื่อนที่ห้องสุขาโดยรอบพระเมรุ เพื่ออำนวยความสะดวกให้แก่ผู้เข้าร่วมพระราชพิธี สำหรับความคืบหน้าการจัดสร้างพระเมรุมีความหน้าร้อยละ 95 ซึ่งในวันที่ 26 มี.ค. จะเริ่มติดตั้งฉากบังเพลิง
ด้าน พล.อ.ทนงศักดิ์ อภิรักษ์โยธิน ผช.ผู้บัญชาการทหารบก(ผบ.ทบ) กล่าวว่า การซ้อมครั้งที่ 2 ในพื้นจริง สวมหมวกและรองเท้าเหมือนวันงานพระราชพิธี โดยภาพรวมดีกว่าครั้งที่แล้ว ได้มีการปรับแก้ระยะห่างระหว่างริ้วขบวน อย่างไรก็ตาม ยังพบข้อบกพร่องอีกเล็กน้อยเกี่ยวกับระยะเลี้ยว ยังดูไม่สวยงาม พร้อมกันนี้จะต้องปรับปรุงเครื่องเสียงที่เสียงขาดตอนเป็นบางช่วง อย่างเช่น หน้าศาลหลักเมือง และศาลฎีกา เพื่อทุกคนให้ได้ยินชัดเจนขึ้น ซึ่งจะซ้อมใหญ่อีกครั้งวันที่ 31 มี.ค.และในวันดังกล่าว ประชาชนที่มารอชมริ้วขบวน เราจะกั้นรั้วไว้อย่างเป็นระเบียบเรียบร้อย พร้อมกันนี้ขอความร่วมมือจากสื่อมวลชนให้อยู่ประจำจุดและมีอัฒจรรย์ไว้ให้ถ่ายภาพด้วย
ผช.ผบ.ทบ. กล่าวอีกว่า นอกจากนี้ได้มีการซ้อมริ้วขบวนที่ 4 อัญเชิญพระอัฐิ โดยพระที่นั่งราเชนทรยาน พระสรีรางคาร โดยพระวอสีวิกากาญจน์ จากถนนกลางสนามหลวง ถนนราชดำเนินใน ถนนหน้าพระลาน เข้าประตูวิเศษไชยศรีสู่พระบรมมหาราชวัง ริ้วขบวนที่ 5 อัญเชิญพระโกศพระอัฐิโดยพระที่นั่งราเชนทรยานเส้นทางจากพระที่นั่งดุสิตมหาปราสาทไปยังพระที่นั่งจักรีมหาปราสาท รวมกำลังพล 3,600 นาย ส่วนริ้วขบวนที่ 6 ซึ่งเป็นขบวนทหารม้าจำนวน 77 ม้าอัญเชิญพระสรีรางคารนั้น จะมีการซ้อมในวันที่ 31 มี.ค. ซึ่งเป็นการซ้อมใหญ่ทุกริ้วขบวนในพื้นที่จริง ตั้งแต่เวลา05.00-16.00 น.โดยแต่งกายด้วยชุดสีกากี อย่างไรก็ตาม ในวันที่ 28 มี.ค.นี้ตนจะไปตรวจความเรียบร้อยของเครื่องแต่งกายที่กรมสรรพาวุธ และที่กรมขนส่งทหารบกอีกด้วย.