ASTVผู้จัดการรายวัน - ผช.ผบ.ทบ.เผย ซ้อมริ้วขบวนพระอิสริยยศ งานพระราชพิธีพระราชทานเพลิงพระศพ สมเด็จเจ้าฟ้าเพชรรัตนฯ ครั้งแรกเรียบร้อยดี ครั้งที่ 2 วันที่ 25 มี.ค. ซ้อมใหญ่ 31 มี.ค. แต่งกายจริงวันงาน 9 เม.ย.ใช้กำลังพลกว่า 3 พันคน
วานนี้ (18 มี.ค.) บริเวณพระบรมมหาราชวัง กองทัพบกและทหารทุกเหล่าทัพ สำนักพระราชวัง กรมศิลปากร กระทรวงวัฒนธรรม จัดซ้อมริ้วขบวนพระอิสริยยศ ในงานพระราชพิธีพระราชทานเพลิงพระศพสมเด็จพระเจ้าภคินีเธอ เจ้าฟ้าเพชรรัตนราชสุดา สิริโสภาพัณณวดี โดยริ้วขบวนเริ่มขึ้นในเวลา 07.00 น. ภายในพระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท โดยจำลองเหตุการณ์จริงตั้งแต่การเฝ้ารับเสด็จ สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร การอัญเชิญพระโกศลงจากพระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท ไปประดิษฐานยังพระยานมาศสามลำคาน อัญเชิญออกจากพระบรมมหาราชวัง ผ่านทางประตูศรีสุนทร และประตูเทวาภิรมย์ เพื่อตั้งริ้วขบวนที่ 1 บนถนนมหาราช
เวลา 08.00 น. ริ้วขบวนที่ 1 ประกอบด้วยขบวนทหารกองเกียรติยศ เครื่องราชอิสริยยศ ราชนิกูล ข้าราชบริพาร เคลื่อนตามสัญญาณกลอง ไปบนถนนมหาราช เลี้ยวซ้ายเข้าสู่ถนนท้ายวัง ผ่านวัดพระเชตุพนวิมลมังคลาราม เมื่อมาถึงยังถนนสนามไชย ริ้วขบวนที่ 1 ได้เข้ารวมกับริ้วขบวนที่ 2 ที่ตั้งรออยู่ที่หน้าวัดพระเชตุพนฯ
จากนั้นเวลา 08.50 น. อัญเชิญพระโกศเทียบเกรินบันไดนาคขึ้นประดิษฐานบนบุษบก พระมหาพิชัยราชรถ ที่จอดอยู่ที่วงเวียนหน้ากรมการรักษาดินแดน จากนั้นพระมหาพิชัยราชรถเคลื่อนขบวนพระโกศไปบนถนนสนามไชย ถนนราชดำเนินใน ผ่านกระทรวงกลาโหม เลี้ยวซ้ายเข้าสู่ถนนกลางท้องสนามหลวง ฝั่งหน้าศาลฎีกา เลี้ยวสู่ราชวัติพระเมรุหลังจากนั้น เหล่าขบวนทหาร ขบวนพระอิสริยยศ เชิญพระโกศลงจากพระมหาพิชัยราชรถ โดยเกรินบันไดนาค ประดิษฐานยังพระยานมาศสามลำคาน ตั้งริ้วขบวนที่ 3 ในราชวัติพระเมรุ ขบวนทหารกองเกียรติยศ อัญเชิญพระโกศ 3 เชิญพระโกศพระศพโดยพระยานมาศสามลำคานเวียนพระเมรุ โดยอุตราวัฏ หรือเวียนซ้าย 3 รอบ จึงอัญเชิญพระโกศเทียบเกรินบันไดนาคพระเมรุอัญเชิญพระโกศโดยเกรินสู่พระเมรุ ประดิษฐาน ณ พระจิตกาธาน ประกอบพระโกศจันทน์ บนพระเมรุ เป็นอันเสร็จพิธีซ้อมในวันแรก
ด้านพลเอกทนงศักดิ์ อภิรักษ์โยธิน ผู้ช่วยผู้บัญชาการทหารบก กล่าวว่า การซ้อมริ้วขบวนวันนี้ ถือว่ามีความเรียบร้อยดี แต่ยังมีข้อบกพร่องเพียงเล็กน้อยเกี่ยวกับระยะห่างระหว่างขบวน จึงต้องมีการปรับปรุง ซึ่งได้มีการบันทึกจุดข้อบกพร่องต่างๆไว้ เพื่อใช้ปรับปรุงในการซ้อมครั้งที่ 2 วันที่ 25 มี.ค.นี้ และจะมีการซ้อมริ้วขบวนที่ 4-6 ด้วย
สำหรับการซ้อมใหญ่วันที่ 31 มี.ค.นั้น สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯสยามบรมราชกุมารี จะเสด็จพระราชดำเนินทรงซ้อมริ้วขบวนด้วย การซ้อมจึงจะต้องไม่มีการผิดพลาดหรือน้อยที่สุด สำหรับการแต่งกายเหมือนจริง วันที่ 31 มี.ค.คงยังไม่ได้แต่ง จะแต่งในวันจริง 9 เม.ย. ขณะที่กำลังพลและผู้ที่จะเข้าร่วมในริ้วขบวนพระราชพิธีพระราชทานเพลิงพระศพสมเด็จพระเจ้าภคินีเธอเจ้าฟ้าเพชรรัตนฯ ครั้งนี้ประมาณ 3,600 คน
ขณะที่ พันเอกศักดา ศิริรัตน์ ผู้อำนวยการกองโรงงานช่างแสง ศูนย์อุตสาหการสรรพาวุธ กรมสรรพาวุธ กล่าวว่า ทางทหารสรรพาวุธได้อัญเชิญพระมหาพิชัยราชรถ ราชรถน้อย ณ พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติพระนคร เพื่อใช้ในพิธีพระราชทานเพลิงพระศพฯ มาจุดตั้งริ้วขบวนที่ 2 บริเวณหน้าวัดพระเชตุพนวิมลมังคาราม ตั้งแต่เวลาประมาณ 03.00 น. โดยเส้นทางการซ้อมของริ้วขบวนที่ 2เชิญพระโกศพระศพโดยพระมหาพิชัยราชรถ จากหน้าวัดพระเชตุพนฯ ไปยังพระเมรุท้องสนามหลวง เริ่มเส้นทางจากหน้าวัดพระเชตุพนฯ ถ.สนามไชย ถ.ราชดำเนินใน ถ.เส้นกลางสนามหลวงเข้าสู่พระเมรุ โดยมีกำลังพลฉุดชักลากพระมหาพิชัยราชรถจำนวน 204 นาย การซ้อมครั้งที่ 1 นี้เป็นการซ้อมเหมือนจริงทุกอย่าง เพื่อดูความพร้อมของพระมหาพิชัยราชรถ และราชรถน้อยว่ามีสิ่งใดตรงไหนต้องปรับปรุงอีกบ้าง ก่อนที่จะมีการซ้อมครั้งที่ 2 ในวันที่ 25 มี.ค. นี้.
วานนี้ (18 มี.ค.) บริเวณพระบรมมหาราชวัง กองทัพบกและทหารทุกเหล่าทัพ สำนักพระราชวัง กรมศิลปากร กระทรวงวัฒนธรรม จัดซ้อมริ้วขบวนพระอิสริยยศ ในงานพระราชพิธีพระราชทานเพลิงพระศพสมเด็จพระเจ้าภคินีเธอ เจ้าฟ้าเพชรรัตนราชสุดา สิริโสภาพัณณวดี โดยริ้วขบวนเริ่มขึ้นในเวลา 07.00 น. ภายในพระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท โดยจำลองเหตุการณ์จริงตั้งแต่การเฝ้ารับเสด็จ สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร การอัญเชิญพระโกศลงจากพระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท ไปประดิษฐานยังพระยานมาศสามลำคาน อัญเชิญออกจากพระบรมมหาราชวัง ผ่านทางประตูศรีสุนทร และประตูเทวาภิรมย์ เพื่อตั้งริ้วขบวนที่ 1 บนถนนมหาราช
เวลา 08.00 น. ริ้วขบวนที่ 1 ประกอบด้วยขบวนทหารกองเกียรติยศ เครื่องราชอิสริยยศ ราชนิกูล ข้าราชบริพาร เคลื่อนตามสัญญาณกลอง ไปบนถนนมหาราช เลี้ยวซ้ายเข้าสู่ถนนท้ายวัง ผ่านวัดพระเชตุพนวิมลมังคลาราม เมื่อมาถึงยังถนนสนามไชย ริ้วขบวนที่ 1 ได้เข้ารวมกับริ้วขบวนที่ 2 ที่ตั้งรออยู่ที่หน้าวัดพระเชตุพนฯ
จากนั้นเวลา 08.50 น. อัญเชิญพระโกศเทียบเกรินบันไดนาคขึ้นประดิษฐานบนบุษบก พระมหาพิชัยราชรถ ที่จอดอยู่ที่วงเวียนหน้ากรมการรักษาดินแดน จากนั้นพระมหาพิชัยราชรถเคลื่อนขบวนพระโกศไปบนถนนสนามไชย ถนนราชดำเนินใน ผ่านกระทรวงกลาโหม เลี้ยวซ้ายเข้าสู่ถนนกลางท้องสนามหลวง ฝั่งหน้าศาลฎีกา เลี้ยวสู่ราชวัติพระเมรุหลังจากนั้น เหล่าขบวนทหาร ขบวนพระอิสริยยศ เชิญพระโกศลงจากพระมหาพิชัยราชรถ โดยเกรินบันไดนาค ประดิษฐานยังพระยานมาศสามลำคาน ตั้งริ้วขบวนที่ 3 ในราชวัติพระเมรุ ขบวนทหารกองเกียรติยศ อัญเชิญพระโกศ 3 เชิญพระโกศพระศพโดยพระยานมาศสามลำคานเวียนพระเมรุ โดยอุตราวัฏ หรือเวียนซ้าย 3 รอบ จึงอัญเชิญพระโกศเทียบเกรินบันไดนาคพระเมรุอัญเชิญพระโกศโดยเกรินสู่พระเมรุ ประดิษฐาน ณ พระจิตกาธาน ประกอบพระโกศจันทน์ บนพระเมรุ เป็นอันเสร็จพิธีซ้อมในวันแรก
ด้านพลเอกทนงศักดิ์ อภิรักษ์โยธิน ผู้ช่วยผู้บัญชาการทหารบก กล่าวว่า การซ้อมริ้วขบวนวันนี้ ถือว่ามีความเรียบร้อยดี แต่ยังมีข้อบกพร่องเพียงเล็กน้อยเกี่ยวกับระยะห่างระหว่างขบวน จึงต้องมีการปรับปรุง ซึ่งได้มีการบันทึกจุดข้อบกพร่องต่างๆไว้ เพื่อใช้ปรับปรุงในการซ้อมครั้งที่ 2 วันที่ 25 มี.ค.นี้ และจะมีการซ้อมริ้วขบวนที่ 4-6 ด้วย
สำหรับการซ้อมใหญ่วันที่ 31 มี.ค.นั้น สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯสยามบรมราชกุมารี จะเสด็จพระราชดำเนินทรงซ้อมริ้วขบวนด้วย การซ้อมจึงจะต้องไม่มีการผิดพลาดหรือน้อยที่สุด สำหรับการแต่งกายเหมือนจริง วันที่ 31 มี.ค.คงยังไม่ได้แต่ง จะแต่งในวันจริง 9 เม.ย. ขณะที่กำลังพลและผู้ที่จะเข้าร่วมในริ้วขบวนพระราชพิธีพระราชทานเพลิงพระศพสมเด็จพระเจ้าภคินีเธอเจ้าฟ้าเพชรรัตนฯ ครั้งนี้ประมาณ 3,600 คน
ขณะที่ พันเอกศักดา ศิริรัตน์ ผู้อำนวยการกองโรงงานช่างแสง ศูนย์อุตสาหการสรรพาวุธ กรมสรรพาวุธ กล่าวว่า ทางทหารสรรพาวุธได้อัญเชิญพระมหาพิชัยราชรถ ราชรถน้อย ณ พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติพระนคร เพื่อใช้ในพิธีพระราชทานเพลิงพระศพฯ มาจุดตั้งริ้วขบวนที่ 2 บริเวณหน้าวัดพระเชตุพนวิมลมังคาราม ตั้งแต่เวลาประมาณ 03.00 น. โดยเส้นทางการซ้อมของริ้วขบวนที่ 2เชิญพระโกศพระศพโดยพระมหาพิชัยราชรถ จากหน้าวัดพระเชตุพนฯ ไปยังพระเมรุท้องสนามหลวง เริ่มเส้นทางจากหน้าวัดพระเชตุพนฯ ถ.สนามไชย ถ.ราชดำเนินใน ถ.เส้นกลางสนามหลวงเข้าสู่พระเมรุ โดยมีกำลังพลฉุดชักลากพระมหาพิชัยราชรถจำนวน 204 นาย การซ้อมครั้งที่ 1 นี้เป็นการซ้อมเหมือนจริงทุกอย่าง เพื่อดูความพร้อมของพระมหาพิชัยราชรถ และราชรถน้อยว่ามีสิ่งใดตรงไหนต้องปรับปรุงอีกบ้าง ก่อนที่จะมีการซ้อมครั้งที่ 2 ในวันที่ 25 มี.ค. นี้.