xs
xsm
sm
md
lg

เกษตรกรโวยนายทุนทุบราคาไข่

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

นายสมชาติ สร้อยพลอย รองอธิบดีกรมการค้าภายใน เปิดเผยภายหลังกลุ่มเกษตรกรผู้เลี้ยงไก่ไข่ภาคกลางในจ.สุพรรณบุรี สิงห์บุรี และลพบุรี มาร้องเรียนปัญหานายทุนทุบตลาดไข่ไก่ โดยขายต่ำกว่าต้นทุนว่า ได้รับเรื่องจากเกษตรกรแล้ว และวันนี้ (22 มี.ค.) จะเรียกบริษัท เบทาโกร จำกัด เข้ามาหารือและสอบถามว่ามีการขายไข่ไก่ต่ำกว่าทุนจนทำให้ไข่ไก่ตกค้างมากถึงสัปดาห์ละ 1 ล้านฟองตามที่เกษตรกรได้ร้องเรียนจริงหรือไม่ หากพบว่ามีการจงใจขายไข่ไก่ต่ำกว่าทุน เพื่อแย่งตลาดจนเกษตรกรได้รับความเดือดร้อน จะมีความผิดตามพ.ร.บ.การแข่งขันทางการค้า มีโทษปรับไม่เกิน 6 ล้านบาท จำคุกไม่เกิน 3 ปี หรือทั้งจำทั้งปรับ

นายชัยพร สีถัน ตัวแทนผู้เลี้ยงไก่ไข่จังหวัดสุพรรณบุรี กล่าวว่า เบทาโกร ได้ขายตัดราคาเกษตรกรมานานถึง 3 สัปดาห์แล้ว โดยประกาศขายในเว็บไซต์ราคาหนึ่ง แต่พอขายจริงกลับขายถูกกว่าที่ประกาศไว้ฟองละ 30 สตางค์ เช่น ไข่คละประกาศไว้ฟองละ 2.50 บาท แต่ขายจริง 2.20 บาท พฤติกรรมนี้สร้างความเดือดร้อนอย่างหนักแก่เกษตรกร เพราะลูกค้าที่เคยซื้อประจำได้หันไปซื้อกับเบทาโกรแทนจนต้องเหลือไข่ไก่ข้างสต๊อกจำนวนมาก หากสถาการณ์เป็นแบบนี้ต่อไป ผู้เลี้ยงรายย่อยคงขาดทุน และปิดกิจการไปในที่สุด

“มีผู้เลี้ยงไก่ไข่รายย่อยเป็นหมื่นๆ ราย ที่เดือดร้อนต้องขายไข่ไก่ขาดทุน เพราะถูกกลุ่มนายทุนที่นำเข้าแม่พันธุ์ไก่เสรีมาทุบตลาด โดยพวกนี้มีต้นทุนการเลี้ยงที่ถูกกว่าชาวบ้าน ทำให้ขายได้ต่ำกว่า หากรัฐบาลไม่แก้ไข เมื่อรายย่อยต้องเลิกเลี้ยงไป จะทำให้ไข่ไก่มีราคาแพงขึ้น โดยเบื้องต้น ขอให้กรมการค้าภายในจัดการบริษัทที่ทำการค้าแบบไม่เป็นธรรมก่อน
พร้อมทั้งหาทางช่วยรับซื้อไข่ไก่ตกค้าง หรือเชื่อมโยงนำไข่ไก่จากผู้เลี้ยงรายย่อยไปขาย”นายชัยพรกล่าว

นางวัชรี วิมุกตายน อธิบดีกรมการค้าภายใน กล่าวว่า กรมฯ ได้เตรียมประสานไปยังหน่วยงานราชการ เช่น กระทรวงกลาโหม สาธารณสุข และศึกษาธิการ ในการช่วยรณรงค์บริโภคไข่ไก่ โดยกรมฯ จะเชื่อมโยงไข่ไก่จากเกษตรกรรายย่อยไปให้โรงเรียน โรงพยาบาล ค่ายทหาร และจะให้ประเมินผลผลิตไข่ไก่ และปริมาณการบริโภคเพื่อเตรียมหาทางรับมือปัญหาไข่ไก่ล้นตลาดหลังจากมีการเปิดนำเข้าแม่พันธุ์ไก่ไข่เสรีมาตั้งแต่ปีที่แล้ว

นายบุญทรง เตริยาภิรมย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ กล่าวว่า ที่ประชุมคณะกรรมการนโยบายและมาตรการช่วยเหลือเกษตรกร (คชก.) วานนี้ (21 มี.ค.) ได้เห็นชอบในหลักการแก้ปัญหาราคาผลไม้ตกต่ำและมาตรการช่วยเหลือเกษตรกรปลูกผลไม้ภาคตะวันออก (จันทบุรี ระยอง ตราด) ประกอบด้วย เงาะ มังคุด ทุเรียน และลองกอง รวมถึงมาตรการช่วยเหลือเกษตรกรผู้ปลูกลิ้นจี่ในภาคเหนือ แต่ยังไม่เห็นชอบงบประมาณที่เสนอขอ 154.46 ล้านบาทสำหรับแก้ปัญหาผลไม้ภาคตะวันออก และลิ้นจี่ 45.25 ล้านบาท โดยให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์จัดทำรายละเอียดการใช้เงินเสนอให้คชก.พิจารณาอีกครั้งในวันที่ 23 มี.ค.

ส่วนการประชุมคณะกรรมการกลางว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ (กกร.) ได้มีมติห้ามเคลื่อนย้ายผลิตภัณฑ์มันสำปะหลังทั้งหมดในจังหวัดที่ติดชายแดนประเทศเพื่อนบ้านจนกว่าจะได้รับการอนุญาตจากภาครัฐ โดยมีผลตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป เพื่อป้องกันปัญหาการลักลอบนำเข้ามันสำปะหลังจากประเทศเพื่อนบ้านมาสวมสิทธิ์ในโครงการรับจำนำมันสำปะหลัง ฤดูกาลผลิตปี 2554/55 ที่รัฐบาลเปิดรับจำนำมาตั้งแต่วันที่ 1 ก.พ.ที่ผ่านมา
กำลังโหลดความคิดเห็น