เชียงราย - แกนนำคนเสื้อแดงเมืองพ่อขุนฯ ใช้รถ สจ.นำม็อบเกษตรกรผู้ปลูกมันสำปะหลัง ขึ้นศาลากลางเชียงราย จี้รัฐสางปัญหาโควตาจำนำเต็ม-ลานมันน้อย ทำผลผลิตเสียหาย หนี้ ธ.ก.ส.พอก
วันนี้ (19 มี.ค.) กลุ่มเกษตรกรผู้ปลุกมันสำปะหลัง จากพื้นที่ อ.เวียงเชียงรุ้ง อ.ดอยหลวง อ.เชียงแสน และ อ.พญาเม็งราย ประมาณ 60 คน ได้พากันไปชุมนุมที่ศาลากลาง จ.เชียงราย เพื่อเรียกร้องให้รัฐบาลช่วยเหลือเกี่ยวกับราคาการรับจำนำมันสำปะหลัง โดยมีนายชินวร ทิพย์นวล และนายพิรุณ เขื่อนทา แกนนำกลุ่มคนเสื้อแดง นปช.เชียงราย 52 และนายไมตรี เงินทองแดง ชาวบ้านเหล่า ต.ทุ่งก่อ อ.เวียงเชียงรุ้ง เป็นแกนนำ และมีการนำรถกระจายเสียงติดชื่อนายวิทชัย สุวรรณธาราชัย สมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) เชียงราย มาใช้ในการชุมนุม พร้อมกับนำมันสำปะหลังใส่หลังรถกระบะไปให้เจ้าหน้าที่ได้ดูถึงความเดือดร้อนด้วย
นายพิรุณกล่าวว่า กลุ่มเกษตรกรขอเรียกร้องว่า หลังรัฐบาลได้รับจำนำมันสำปะหลังเอาไว้ที่กิโลกรัมละ 2.80 บาท ทำให้เกษตรกรนำผลผลิตเข้าโครงการจนเต็มโควตาลานมันแล้ว แต่ยังมีเกษตรกรตกค้างอีกจำนวนมาก บางส่วนที่ขุดมันมาแล้วผลผลิตก็เน่าเสีย บางส่วนก็ยังขุดไม่ได้ ถ้าจะขายให้เอกชน ก็ได้ราคาต่ำเพียงกิโลกรัมละ 1.50 บาทเท่านั้น
“ตอนนี้ลานของเอกชนก็หยุดรับซื้อแล้วด้วย เมื่อสอบถามไปยังหน่วยงานที่รับจำนำก็ได้รับคำตอบว่ามีเจ้าหน้าที่ทั้งจังหวัดแค่ 2 คน จึงเดือดร้อนมาก รวมทั้งไม่ชัดเจนว่าเกษตรจังหวัด หรือพาณิชย์กันแน่ที่รับผิดชอบโครงการนี้”
นายพิรุณบอกว่า อยากให้หน่วยงานที่รับผิดชอบออกมาช่วยเหลือเกษตรกรด้วย เพราะพวกท่านทำงานมีเงินเดือนมั่นคง แต่เกษตรกรต้องหาเช้ากินค่ำ เมื่อปลูกพืชก็ไม่มีความมั่นคงเรื่องต้นทุน ต้องเสียค่าจ้างวันละ 200 บาทต่อคน ค่าไถอีกไร่ละ 700 กว่าบาท
นายสมัย วัฒนศรีสมบัติ ชาวบ้านป่าไร่หลวง ม.4 ต.บ้านแซว อ.เชียงแสน กล่าวว่า พื้นที่ของพวกเรามีจุดรับซื้อมันสำปะหลังที่ใกล้ที่สุด 4 จุด แต่ปรากฏว่าเป็นลานขนาดเล็กและปัจจุบันเต็มหมดแล้ว ถ้าจะไปต่อคิวก็ยาวมาก โดยเจ้าหน้าที่แจ้งว่า ต้องรออีกกว่า 1 เดือน ทำให้ผลผลิตที่เก็บเกี่ยวแล้วและอยู่ได้ประมาณ 7 วันก็เสียหาย หรือที่ไม่ได้เก็บก็มีความเสี่ยงเพราะต้องรีบเก็บและปรับดินเพื่อเพาะปลูกในฤดูกาลถัดไปหรือก่อนจะมีฝนตกลงมาอีก
ด้าน นายไมตรี เงินทองแดง ชาวบ้านเหล่า ต.ทุ่งก่อ กล่าวว่า เฉพาะบ้านเหล่า มีการปลูกมันไม่น้อยกว่า 1,000 ไร่ ทำให้ชาวบ้านเดือดร้อนมากเพราะระบายผลผลิตไม่ทัน หนี้สินก็มีค้างเก่าอยู่โดยเฉพาะกับ ธ.ก.ส.เมื่อประสบปัญหากับการระบายไปยังจุดรับจำนำไม่ทันดังกล่าวทำให้มีผลผลิตที่คงค้างราว 70% และที่จำนำหรือขายแล้ว 30% บางส่วนก็ยังไม่ได้รับเงินหรือหากจะนำไปขายภายนอกก็มีราคาถูก จึงอยากให้รัฐบาลช่วยเหลือโดยอาจจะรับซื้อแบบมันสำปะหลังสดกิโลกรัมละ 2.50 บาทเลยก็ได้
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ต่อมานายเฉลิมพล พงศ์ฉบับนภา พาณิชย์จังหวัดเชียงราย ได้เข้าเจรจากับชาวบ้านโดยระบุว่า ในระดับจังหวัดมีผู้ว่าราชการ จ.เชียงราย เป็นประธานคณะกรรมการรับจำนำมันสำปะหลังตามโครงการของรัฐบาล ส่วนตนเป็นเลขานุการคณะกรรมการ สำหรับระดับอำเภอมีนายอำเภอ เป็นประธาน และเกษตรอำเภอเป็นเลขานุการ ซึ่งปัจจุบันมีการเปิดรับจำนำทั่วจังหวัด 14 จุด ส่วนปัญหาความล่าช้าอาจเกิดจากโควตาแต่ละจุดมีจำกัด ซึ่งก็จะลงไปประสานงานเพื่อร่วมกับเกษตรอำเภอเพื่อความรวดเร็วต่อไป
ขณะเดียวกันก็มีแผนจะขยายจุดรับจำนำเพิ่มเติมโดยประสานกับเอกชนจาก จ.กำแพงเพชร ไปรับจำนำเพิ่มอีก 3 จุดคือที่ อ.แม่จัน อ.เทิง และ อ.เชียงของ เพื่อกระจายหรือเกลี่ยให้เกษตรกรที่อยู่ใกล้จุดรับจำนำใหม่นำผลผลิตไปส่ง โดยกำหนดให้แต่ละจุดรับจำนำผลผลิตได้วันละ 200 ตัน รวม 3 จุดได้จำนวน 600 ตันต่อวัน โดยจะเริ่มดำเนินการได้ตั้งแต่วันที่ 19 หรือ 20 มี.ค.55นี้เป็นต้นไป เพื่อให้เกษตรกรได้รับใบประทวนเพื่อนำไปขึ้นเงินให้ได้ก่อนวันที่ 5 เม.ย.55 นี้ ตามนโยบายของนายธานินทร์ สุภาแสน ผู้ว่าราชการ จ.เชียงรายต่อไป
รายงานข่าวแจ้งอีกว่า นอกจากนี้ ตัวแทนเกษตรกรได้สอบถามเรื่องหนี้สินกับ ธ.ก.ส.ซึ่งอาจไม่สามารถใช้ต้นและดอกเบี้ยได้ทันด้วย ซึ่งตัวแทนจาก ธ.ก.ส.ระบุว่า ได้รับนโยบายให้เลื่อนการชำระหนี้กับเกษตรกรที่ปลูกสำปะหลังออกไปได้อีก 1 ปี และกรณีต้องการเงินทุนด่วน ก็สามารถไปกู้ยืมในอัตราดอกเบี้ยพิเศษ ส่วนการขึ้นใบประทวนเพื่อรับเงินจากโครงการรับจำนำสามารถเข้าไปติดต่อกับ ธ.ก.ส.ได้เลย โดยปัจจุบันมีเกษตรกรไปทำสัญญารับเงินใน อ.เชียงของ แล้ว 156 ราย รับเงินไปแล้ว 81 ราย และขึ้นทะเบียนเอาไว้อีกจำนวนมาก ซึ่งทำให้กลุ่มเกษตรกรพอใจและแยกย้ายกันกลับ