กาญจนบุรี - ม็อบเกษตรกรผู้ปลูกมันสำปะหลัง กาญจนบุรี รวมตัวปิดถนนกดดันรัฐบาล “ปู” ช่วยเหลือ หลังได้รับความเดือดร้อนจากราคามันสำปะหลังตกต่ำ พร้อมยื่น 3 เงื่อนไข “แบบประกันหัวมันสด-รับจำนำราคาหัวมันสด-เหมาจ่ายชดเชยยกบัญชี” และขีดเส้นตาย 3 วัน หากรัฐบาลไม่สามารถช่วยแก้ไขปัญหาราคามันสำปะหลังตกต่ำได้ทั้งหมดจะเคลื่อนขบวนไปปิดทำเนียบรัฐบาลทันที
เมื่อเวลา 10.00 น.วันนี้ (16 ก.พ.) นายรังษี ไผ่สะอาด อายุ 43 ปี อยู่บ้านเลขที่ 71 หมู่ 10 ต.ลุ่มสุ่ม อ.ไทรโยค จ.กาญจนบุรี แกนนำได้นำเกษตรกรผู้ปลูกมันสำปะหลัง จากพื้นที่ อ.ไทรโยค จำนวน 300 คน เดินทางมาที่บริเวณสามแยกบายพาส ถนนแสงชูโต เชื่อมต่อถนนเลี่ยงเมือง หมู่ 1 ต.ท่าล้อ อ.ท่าม่วง จ.กาญจนบุรี เพื่อชุมนุมเรียกร้องให้รัฐบาลแก้ปัญหาราคามันสำปะหลังตกต่ำ โดยแกนนำได้มีการขึ้นปราศรัยเรียกร้องให้ทางจังหวัดกาญจนบุรี ส่งตัวแทนมารับจดหมายข้อเรียกร้องเพื่อนำไปยื่นต่อรัฐบาลในที่ชุมนุม
ต่อมาเวลา 11.50 น.นายพงศธร สัจจชลพันธ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดกาญจนบุรี พร้อม นายหัสนัย จิตอารีย์ นายอำเภอท่าม่วง เดินทางมารับหนังสือจากผู้ชุมนุม โดยที่ชุมนุมได้ยื่นคำขาดกับรองผู้ว่าราชการจังหวัดว่า หากไม่มีคำตอบจากข้อเรียกร้องแบบมีเงื่อนไขทั้ง 3 ข้อพวกตนก็จะทำการปิดการจราจรบริเวณสามแยกทันที
โดย นายรังษี ไผ่สะอาด แกนนำผู้ชุมนุม ได้เปิดเผยว่า การเดินทางมาในครั้งนี้ เพราะเกษตรกรผู้ปลูกมันสำประหลังได้รับความเดือดร้อนจากราคามันสำปะหลังตกต่ำ จึงอยากเรียกร้องให้รัฐบาลออกมาช่วยเหลือแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนในครั้งนี้ โดยพวกเราได้ยื่นข้อเรียกร้องของชาวไร่มันสำปะหลัง อำเภอไทรโยค
โดยเงื่อนใขที่ 1 แบบประกันหัวมันสด คือ 1.1 ให้ประกาศใช้โครงการ ประกันราคามันสำประหลังแทนโครงการ รับจำนำมันสำประหลังในปีนี้ ให้ใช้กฎเกณฑ์ เหมือนปีที่ผ่านมา 1.2 ให้รัฐบาลจ่ายเงินชดเชยย้อนหลังให้กับเกษตรกรที่ขายมันสำประหลังไปก่อนแล้ว ได้ราคาต่ำกว่าราคาประกัน ที่ประกาศในปัจจุบัน ให้จ่ายผ่าน ธ.ก.ส.โดยราคาประกันของแต่ละเดือนในปีนี้ ต้องไม่ต่ำกว่าปีที่ผ่านมา 1.3 ให้รัฐบาลกำหนดราคารับประกันหัวมันสดล่วงหน้า 3 เดือน และ 1.4 การซื้อขายหัวมันสดต้องไม่หักสิ่งเจือปนเด็ดขาด
ส่วนเงื่อนไขที่ 2 แบบรับจำนำราคาหัวมันสด 2.1 ให้รัฐบาลเปิดจุดรับซื้อหัวมันสดทุกลานรับซื้อที่มีอยู่ในอำเภอไทรโยค โดยราคารับซื้อตามที่รัฐบาลประกาศไว้ที่ 2,900 บาทต่อตัน 2.2 การรับจำนำให้รับจำนำหัวมันสดที่อยู่ในไร่โดยจ่ายเงินให้ก่อนแล้วขุดที่หลังไม่ใช่ขุดหัวมันมาจำนำลานรับซื้อในราคาตันละ 2,900 บาทต่อตัน 2.3 ราคารับซื้อหัวมันสดตามที่ประกาศไว้ 2.900 บาทต่อตัน ณ ลานรับซื้อจะต้องไม่หักสิ่งเจือปนและค่าใช้จ่ายอื่นๆอีก
2.4 รัฐบาลนำมันตากแห้งที่เกษตรกรจำนำไว้ไปขายได้มากกว่าราคารับจำนำจะต้องจ่ายชดเชยให้เกษตรกรเพิ่มอีกเป็นค่าชดเชยย้อนหลังห้ามหักค่าใช้จ่ายใดๆ อีก 2.5 ให้รัฐบาลจ่ายเงินชดเชยย้อนหลังให้กับเกษตรกรที่ขุดมันสำประหลังขายไปก่อนที่รัฐบาลจะมาทำโครงการ โดยราคาเฉลี่ยต่อตันต้องไม่ตำกว่ารับจำนำ 2,750 บาทในปัจจุบันหรือเท่ากับราคารับประกันในปีที่ผ่านมา
ส่วนเงื่อนไขที่ 3 แบบเหมาจ่ายชดเชยยกบัญชี คือ 3.1 ขอให้รัฐบาลเหมาจ่ายชดเชยราคาหัวมันสด ให้เกษตรกรยกบัญชีเป็นเงินตันละ 900 บาททั้งหมดตามที่ได้ขึ้นทะเบียนไว้
รายงานข่าวแจ้งว่า ต่อมาม็อบมันสำปะหลังทั้งหมดได้เดินทางมารวมตัวกันที่บริเวณภายในศาลากลางจังหวัดกาญจนบุรี จากนั้น นายพงศธร สัจจชลพันธ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดกาญจนบุรี ได้เด็นตัวแทนในการเจรจากับแกนนำม็อบมันสำปะหลัง แต่การเจรจาไม่เป็นผลสำเร็จ กลุ่มม็อบจึงได้เคลื่อนขบวนเดินทางไปที่บริเวณ 3 แยกไฟแดง หมู่ 1 ต.ท่าล้อ อ.ท่าม่วง จ.กาญจนบุรี จากนั้นได้นำรถยนต์ 6 ล้อ จอดขวางบริเวณถนนแสงชูโตขาเข้าเมือง พร้อมได้กางเต้นขวางบริเวณ 3 แยกไฟแดงเอาไว้
ส่วนบริเวณถนนฝั่งขาออกกลุ่มม็อบได้นำรถยนต์กระบะมาจอดเรียงขวางเอาไว้เช่นกัน ทำให้การจราจรทั้งขาเข้าและออกรถติดเป็นระยะทางยาว เจ้าหน้าที่ตำรวจทั้ง สภ.ท่าม่วง และ สภ.เมืองกาญจนบุรี ต้องระดมกำลังกันคอยอำนวยความสะดวกให้กับผู้ที่สัญจรไปมาอย่างเร่งด่วน
ต่อมาเวลา 17.30 น.นางศรีสมร รัศมีฤกษ์เศรษฐ์ พร้อมด้วยนาย ฉัตรพันธุ์ เดชกิจสุนทร ส.ส.กาญจนบุรี พรรคประชาธิปัตย์ และ นายธรรมวิชญ์ โพธิพิพิธ ส.ส.ระบบบัญชีรายชื่อจังหวัดกาญจนบุรี พรรคประชาธิปัตย์ ได้เดินทางมาพบกลุ่มแกนนำ พร้อมเป็นตัวแทนในการเจรจากับกลุ่มแกนนำ และรับปากว่าจะนำเรื่องที่ชาวบ้านเดือดร้อนนำไปเจรจากับรัฐบาล ซึ่งภายในวันพรุ่งนี้ (17 ก.พ.) เวลาประมาณ 10.00 น.ขอให้ชาวบ้านส่งแกนนำไปเจรจากันที่บริเวณที่ทำการพรรคประชาธิปัตย์ ต.วังด้ง อ.เมือง จ.กาญจนบุรี เพื่อประชุมหารือปัญหาราคามันสำปะหลังตกต่ำ โดยรับปากว่าจะให้รู้ผลภายในสามวันสร้างความพอใจให้กับกลุ่มแกนนำและชาวบ้านเป็นอย่างมาก
จากนั้นแกนนำได้สั่งให้ชาวบ้านนำรถยนต์ 6 ล้อ และรถยนต์กระบะที่จอดขวางถนนเอาไว้ให้เคลื่อนย้ายกันกลับบ้าน พร้อมทั้งรื้อเต็นท์ออกทั้งหมด ทำให้เส้นทางการจราจรใช้ได้ตามปกติ แต่อย่างไรก็ตาม หากรัฐบาลไม่สามารถช่วยแก้ไขปัญหาราคามันสำปะหลังตกต่ำได้ภายใน 3 วันทั้งหมดจะเคลื่อนขบวนไปปิดทำเนียบรัฐบาลทันที
