นายขวัญชัย ณัฏฐ์เศรษฐ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท สาลี่ คัลเล่อร์ จำกัด (มหาชน) หรือ COLOR เปิดเผยถึงแนวโน้มผลการดำเนินงานปี 55 ว่า บริษัทตั้งเป้ารายได้จะมีอัตราเติบโตต่อเนื่องอีกไม่น้อยกว่า 20-25% โดยได้รับปัจจัยสนับสนุนจากโรงงานแห่งใหม่ที่มีกำลังการผลิตเพิ่มขึ้น และเครื่องจักรใหม่ที่ช่วยลดต้นทุนในการผลิตได้อย่างมีประสิทธิภาพ ขณะที่ความต้องการและการใช้งานของ Master batch ทั้งในและต่างประเทศยังคงเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง
นอกจากนี้บริษัทยังมีแผนขยายตลาดเพื่อรับกับกำลังการผลิตที่จะเพิ่มขึ้นจากเดิมที่ผลิตอยู่ที่ 30,000 ตันต่อปีไปเป็น 45,000 ตันในปีนี้ โดยจะเริ่มทดลองเดินเครื่องจักรเครื่องใหม่ในไตรมาส 1/2555 ก่อนจะเริ่มทำการย้ายเครื่องจักรจากโรงงานเดิมเข้าเสริมในช่วงไตรมาสที่ 2/2555 คาดว่าจะแล้วเสร็จและสามารถเดินเครื่องเชิงพาณิชย์ได้ในช่วงครึ่งหลังของปี 55
ขณะเดียวกันบริษัทยังมีแผนขยายฐานลูกค้าไปยังตลาดต่างประเทศเพิ่มมากขึ้น เช่น สหรัฐอเมริกา ยุโรป ญี่ปุ่น จากเดิมที่มีการส่งออกไปยังประเทศ เวียดนาม มาเลเซีย อินเดีย เนปาล และบังกลาเทศ โดยคาดว่าสัดส่วนการส่งออกปีนี้จะไม่น้อยกว่า 25% ของยอดขายทั้งปี ซึ่งจากทิศทางอุตสาหกรรมพลาสติกในปี 55 ที่น่าจะมีทิศทางขยายตัวตามสภาพเศรษฐกิจในประเทศที่กำลังปรับตัวดีขึ้น จึงเชื่อว่าปีนี้จะเป็นปีที่ดีของ COLOR อีกปีหนึ่ง
สำหรับผลประกอบการงวดปี 54 สิ้นสุด ณ วันที่ 31 ธันวาคม 54 ของบริษัทและบริษัทย่อยมีกำไรสุทธิอยู่ที่ 19.86 ล้านบาท เพิ่มจากงวดเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรสุทธิอยู่ที่ 14.34 ล้านบาท คิดเป็นอัตราการขยายตัวเพิ่มขึ้นถึง 38.49 % และสาเหตุที่ทำให้ผลประกอบการงวดปี 54 มีการเติบโตอย่างมาก เนื่องจากรายได้จากการดำเนินงานที่เพิ่มขึ้นและสามารถบริหารต้นทุนในการผลิตและการบริการจัดส่งสินค้า ตลอดจนค่าใช้จ่ายขายและค่าใช้จ่ายการบริหารที่ลดลงอย่างมีนัยสำคัญ
" ผลการดำเนินงานในปี 54 ที่ออกมาอยู่ในทิศทางที่ดีและน่าพอใจเช่นนี้ ส่วนหนึ่งได้รับอานิสงส์จากการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจในช่วง 3 ไตรมาสแรกของปี ทำให้ความต้องการในส่วนของอุตสาหกรรมอุปโภคบริโภคที่เกี่ยวเนื่องกับธุรกิจที่บริษัทดำเนินการอยู่ปรับตัวดีขึ้นมีกำลังซื้อเพิ่มขึ้นตามไปด้วย ส่วนกำไรที่เพิ่มขึ้น เป็นผลลัพธ์จากการปรับเปลี่ยนกระบวนการบริหารการผลิตและการขายทำให้ได้ต้นทุนเฉลี่ยที่ปรับตัวลดลงเมื่อมีปริมาณผลิตที่เพิ่มขึ้น จึงเป็นผลการดำเนินงานในปีที่ผ่านมาออกมาอยู่ในทิศทางที่ดี "
พร้อมกันนี้ ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัท ครั้งที่ 1/2555 อนุมัติให้จ่ายเงินปันผลงวดประจำปี 2554 สิ้นสุดวันที่ 31 ธันวาคม54 ให้กับผู้ถือหุ้นในอัตราหุ้นละ 0.10 บาท ซึ่งคิดเป็นสัดส่วน 73% ของกำไรสุทธิจากการดำเนินธุรกิจ โดยกำหนดรายชื่อผู้มีสิทธิได้รับปันผล (Record date) วันที่ 11 พฤษภาคม 55 ส่วนวันปิดสมุดทะเบียนเพื่อรวบรวมรายชื่อผู้มีสิทธิได้รับปันผลตามมาตรา 225 ของพระราชบัญญัติหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ ในวันที่ 14 พฤษภาคม 55 และวันที่ไม่ได้รับสิทธิปันผล (XD) คือ วันที่ 9 พฤษภาคม55 และกำหนดวันจ่ายเงินปันผลในวันที่ 23 พฤษภาคม 55
นอกจากนี้บริษัทยังมีแผนขยายตลาดเพื่อรับกับกำลังการผลิตที่จะเพิ่มขึ้นจากเดิมที่ผลิตอยู่ที่ 30,000 ตันต่อปีไปเป็น 45,000 ตันในปีนี้ โดยจะเริ่มทดลองเดินเครื่องจักรเครื่องใหม่ในไตรมาส 1/2555 ก่อนจะเริ่มทำการย้ายเครื่องจักรจากโรงงานเดิมเข้าเสริมในช่วงไตรมาสที่ 2/2555 คาดว่าจะแล้วเสร็จและสามารถเดินเครื่องเชิงพาณิชย์ได้ในช่วงครึ่งหลังของปี 55
ขณะเดียวกันบริษัทยังมีแผนขยายฐานลูกค้าไปยังตลาดต่างประเทศเพิ่มมากขึ้น เช่น สหรัฐอเมริกา ยุโรป ญี่ปุ่น จากเดิมที่มีการส่งออกไปยังประเทศ เวียดนาม มาเลเซีย อินเดีย เนปาล และบังกลาเทศ โดยคาดว่าสัดส่วนการส่งออกปีนี้จะไม่น้อยกว่า 25% ของยอดขายทั้งปี ซึ่งจากทิศทางอุตสาหกรรมพลาสติกในปี 55 ที่น่าจะมีทิศทางขยายตัวตามสภาพเศรษฐกิจในประเทศที่กำลังปรับตัวดีขึ้น จึงเชื่อว่าปีนี้จะเป็นปีที่ดีของ COLOR อีกปีหนึ่ง
สำหรับผลประกอบการงวดปี 54 สิ้นสุด ณ วันที่ 31 ธันวาคม 54 ของบริษัทและบริษัทย่อยมีกำไรสุทธิอยู่ที่ 19.86 ล้านบาท เพิ่มจากงวดเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรสุทธิอยู่ที่ 14.34 ล้านบาท คิดเป็นอัตราการขยายตัวเพิ่มขึ้นถึง 38.49 % และสาเหตุที่ทำให้ผลประกอบการงวดปี 54 มีการเติบโตอย่างมาก เนื่องจากรายได้จากการดำเนินงานที่เพิ่มขึ้นและสามารถบริหารต้นทุนในการผลิตและการบริการจัดส่งสินค้า ตลอดจนค่าใช้จ่ายขายและค่าใช้จ่ายการบริหารที่ลดลงอย่างมีนัยสำคัญ
" ผลการดำเนินงานในปี 54 ที่ออกมาอยู่ในทิศทางที่ดีและน่าพอใจเช่นนี้ ส่วนหนึ่งได้รับอานิสงส์จากการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจในช่วง 3 ไตรมาสแรกของปี ทำให้ความต้องการในส่วนของอุตสาหกรรมอุปโภคบริโภคที่เกี่ยวเนื่องกับธุรกิจที่บริษัทดำเนินการอยู่ปรับตัวดีขึ้นมีกำลังซื้อเพิ่มขึ้นตามไปด้วย ส่วนกำไรที่เพิ่มขึ้น เป็นผลลัพธ์จากการปรับเปลี่ยนกระบวนการบริหารการผลิตและการขายทำให้ได้ต้นทุนเฉลี่ยที่ปรับตัวลดลงเมื่อมีปริมาณผลิตที่เพิ่มขึ้น จึงเป็นผลการดำเนินงานในปีที่ผ่านมาออกมาอยู่ในทิศทางที่ดี "
พร้อมกันนี้ ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัท ครั้งที่ 1/2555 อนุมัติให้จ่ายเงินปันผลงวดประจำปี 2554 สิ้นสุดวันที่ 31 ธันวาคม54 ให้กับผู้ถือหุ้นในอัตราหุ้นละ 0.10 บาท ซึ่งคิดเป็นสัดส่วน 73% ของกำไรสุทธิจากการดำเนินธุรกิจ โดยกำหนดรายชื่อผู้มีสิทธิได้รับปันผล (Record date) วันที่ 11 พฤษภาคม 55 ส่วนวันปิดสมุดทะเบียนเพื่อรวบรวมรายชื่อผู้มีสิทธิได้รับปันผลตามมาตรา 225 ของพระราชบัญญัติหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ ในวันที่ 14 พฤษภาคม 55 และวันที่ไม่ได้รับสิทธิปันผล (XD) คือ วันที่ 9 พฤษภาคม55 และกำหนดวันจ่ายเงินปันผลในวันที่ 23 พฤษภาคม 55