ฉะเชิงเทรา-"กำนันแก๊" เจ้าของค่ายมวยชื่อดัง "ป.ประมุข" พร้อมเคลียร์ปัญหาทุกเรื่อง หาก "บัวขาว ป.ประมุข" ยอดมวยไทยไฟต์กลับใจหวนคืนค่าย
วานนี้ (13 มี.ค.) ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปพบกับกำนันแก๊ หรือนายประมุข โรจนตัณฑ์ เจ้าของค่ายซ้อมมวยไทยชื่อดัง "ป.ประมุข" ซึ่งตั้งอยู่ริมฝั่งลำน้ำบางปะกง ต.สาวชะโงก อ.บางคล้า จ.ฉะเชิงเทรา เยื้องกับวัดสมานรัตนาราม ต.บางแก้ว อ.เมืองฉะเชิงเทรา ซึ่งเคยเป็นสถานที่ฝึกซ้อมเก็บตัวของ "บัวขาว ป.ประมุข" หรือนายสมบัติ บัญชาเมฆ วัย 29 ปี ยอดมวยไทยไฟท์ และแชมป์มวยเควัน ประเทศญี่ปุ่น
นายประมุขกล่าวว่า ตนพร้อมที่จะเคลียร์ปัญหาที่เกิดขึ้นให้ทุกอย่าง หากได้เจอตัว ทั้งเรื่องปัญหาที่เกิดขึ้นกับบุตรชาย (อุ๊ ป.ประมุข หรือนายธีรพัฒน์ โรจนตัณฑ์) ที่เข้ามาดูแลงานในค่ายแทนตนเอง หรือจะให้ตนเองนั้นกลับเข้ามาดูแลค่ายมวยแทนบุตรชายอีกครั้งก็ยินดี เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาขึ้นอีก และถึงขณะนี้ตนเองก็ยังไม่เข้าใจว่าเจ้าดำ ต้องการอะไร เพราะได้พยายามโทรศัพท์ติดต่อไปหาแล้วหลายร้อยสายก็ไม่ยอมรับ
ขณะนี้ในค่ายเหลือนักมวยไทยอยู่กว่า 10 คน และมีนักมวยต่างชาติอีก 5-6 คน โดยในอนาคต คาดหวังว่าจะนำมาปั้นทดแทนเจ้าดำดอทคอม หรือ บัวขาว หากเขาไม่ยอมที่จะกลับมาหาตน
สำหรับเจ้าดำ ได้มาอยู่กับตนในฐานะมวยแถม โดยเมื่อ 20 ปีที่ผ่านมานั้น ขณะที่ตนเองทำค่ายมวยอยู่ ได้ไปหาซื้อนักมวยเข้ามาอยู่สังกัดภายในค่าย โดยไปหาซื้อนักชกมาจาก จ.สุรินทร์ ซึ่งขณะนั้นมีการซื้อขายนักชกกันในราคาระดับแสนบาท ซึ่งตนก็ได้นักชกที่มีหน่วยก้านดีเข้ามาสังกัดในค่าย 2 คน ซึ่งทางค่ายมวยที่ตนไปซื้อนักชกเขามาได้แถมเจ้า "บัวขาว" มาให้ด้วยอีกหนึ่งคนรวมกันเป็น 3 คน ตั้งแต่เขายังวัยเพียง 9 ขวบ
นายประมุขกล่าวว่า ที่ผ่านมาบัวขาว เป็นคนที่ว่านอนสอนง่าย ไม่เกเรเหมือนกับนักมวยคนอื่นๆ ขยันซ้อมและไม่ค่อยกลับบ้าน 2-3 ปี หรือนานๆ ครั้งจึงจะเดินทางกลับบ้านที่ จ.สุรินทร์ สักครั้ง ซึ่งสถิติในการชกตั้งแต่วัยเด็กๆ นั้น เขาเป็นฝ่ายชกชนะมากกว่าแพ้
“ผมขอติงผู้สื่อข่าวว่า ที่ผ่านมา มีสื่อบางฉบับนำไปเขียนข่าวแบบบิดเบือน ไม่ตรงกับความเป็นจริงและขอให้เขียนให้ดีด้วย“นายประมุขกล่าว
ขณะที่นายธีพัฒน์กล่าวเสริมว่า ไม่ได้มีปัญหาอะไรกัน เพราะเขาโตมาด้วยกัน และรักกันเปรียบเสมือนพี่กับน้อง เนื่องจากอยู่ในวัยเดียวกัน ส่วนเรื่องผลประโยชน์ค่าตอบแทนในการรับงานต่างๆ นั้น ตนไม่ได้ยุ่งเกี่ยวกับตัวเงิน ตนไม่รู้เรื่อง โดยตนจะรู้ก็แต่เฉพาะโปรแกรมสำคัญๆ หรือการขึ้นชกในไฟท์ใหญ่ๆ เท่านั้น
อย่างไรก็ตาม ผู้สื่อข่าวได้พยายามที่จะขอถ่ายภาพของกำนันแก๊ แต่ถูกปฏิเสธ โดยเจ้าตัวบอกว่าไม่อนุญาตให้ถ่ายภาพเพราะไม่ชอบออกสื่อ
วานนี้ (13 มี.ค.) ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปพบกับกำนันแก๊ หรือนายประมุข โรจนตัณฑ์ เจ้าของค่ายซ้อมมวยไทยชื่อดัง "ป.ประมุข" ซึ่งตั้งอยู่ริมฝั่งลำน้ำบางปะกง ต.สาวชะโงก อ.บางคล้า จ.ฉะเชิงเทรา เยื้องกับวัดสมานรัตนาราม ต.บางแก้ว อ.เมืองฉะเชิงเทรา ซึ่งเคยเป็นสถานที่ฝึกซ้อมเก็บตัวของ "บัวขาว ป.ประมุข" หรือนายสมบัติ บัญชาเมฆ วัย 29 ปี ยอดมวยไทยไฟท์ และแชมป์มวยเควัน ประเทศญี่ปุ่น
นายประมุขกล่าวว่า ตนพร้อมที่จะเคลียร์ปัญหาที่เกิดขึ้นให้ทุกอย่าง หากได้เจอตัว ทั้งเรื่องปัญหาที่เกิดขึ้นกับบุตรชาย (อุ๊ ป.ประมุข หรือนายธีรพัฒน์ โรจนตัณฑ์) ที่เข้ามาดูแลงานในค่ายแทนตนเอง หรือจะให้ตนเองนั้นกลับเข้ามาดูแลค่ายมวยแทนบุตรชายอีกครั้งก็ยินดี เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาขึ้นอีก และถึงขณะนี้ตนเองก็ยังไม่เข้าใจว่าเจ้าดำ ต้องการอะไร เพราะได้พยายามโทรศัพท์ติดต่อไปหาแล้วหลายร้อยสายก็ไม่ยอมรับ
ขณะนี้ในค่ายเหลือนักมวยไทยอยู่กว่า 10 คน และมีนักมวยต่างชาติอีก 5-6 คน โดยในอนาคต คาดหวังว่าจะนำมาปั้นทดแทนเจ้าดำดอทคอม หรือ บัวขาว หากเขาไม่ยอมที่จะกลับมาหาตน
สำหรับเจ้าดำ ได้มาอยู่กับตนในฐานะมวยแถม โดยเมื่อ 20 ปีที่ผ่านมานั้น ขณะที่ตนเองทำค่ายมวยอยู่ ได้ไปหาซื้อนักมวยเข้ามาอยู่สังกัดภายในค่าย โดยไปหาซื้อนักชกมาจาก จ.สุรินทร์ ซึ่งขณะนั้นมีการซื้อขายนักชกกันในราคาระดับแสนบาท ซึ่งตนก็ได้นักชกที่มีหน่วยก้านดีเข้ามาสังกัดในค่าย 2 คน ซึ่งทางค่ายมวยที่ตนไปซื้อนักชกเขามาได้แถมเจ้า "บัวขาว" มาให้ด้วยอีกหนึ่งคนรวมกันเป็น 3 คน ตั้งแต่เขายังวัยเพียง 9 ขวบ
นายประมุขกล่าวว่า ที่ผ่านมาบัวขาว เป็นคนที่ว่านอนสอนง่าย ไม่เกเรเหมือนกับนักมวยคนอื่นๆ ขยันซ้อมและไม่ค่อยกลับบ้าน 2-3 ปี หรือนานๆ ครั้งจึงจะเดินทางกลับบ้านที่ จ.สุรินทร์ สักครั้ง ซึ่งสถิติในการชกตั้งแต่วัยเด็กๆ นั้น เขาเป็นฝ่ายชกชนะมากกว่าแพ้
“ผมขอติงผู้สื่อข่าวว่า ที่ผ่านมา มีสื่อบางฉบับนำไปเขียนข่าวแบบบิดเบือน ไม่ตรงกับความเป็นจริงและขอให้เขียนให้ดีด้วย“นายประมุขกล่าว
ขณะที่นายธีพัฒน์กล่าวเสริมว่า ไม่ได้มีปัญหาอะไรกัน เพราะเขาโตมาด้วยกัน และรักกันเปรียบเสมือนพี่กับน้อง เนื่องจากอยู่ในวัยเดียวกัน ส่วนเรื่องผลประโยชน์ค่าตอบแทนในการรับงานต่างๆ นั้น ตนไม่ได้ยุ่งเกี่ยวกับตัวเงิน ตนไม่รู้เรื่อง โดยตนจะรู้ก็แต่เฉพาะโปรแกรมสำคัญๆ หรือการขึ้นชกในไฟท์ใหญ่ๆ เท่านั้น
อย่างไรก็ตาม ผู้สื่อข่าวได้พยายามที่จะขอถ่ายภาพของกำนันแก๊ แต่ถูกปฏิเสธ โดยเจ้าตัวบอกว่าไม่อนุญาตให้ถ่ายภาพเพราะไม่ชอบออกสื่อ