ASTVผู้จัดการรายวัน-บัวขาว ป.ประมุข นักมวยไทยเงินล้าน โผล่เปิดใจระหว่างอัดรายการ "รอบรั้วทั่วไทย" ว่าน้อยใจทางค่ายอึดอัดสะสมเรื่อยมาจนกระทั่งทนไม่ไหวต้องหนีออกไป จากนี้ขอพักทำใจแบบไม่มีกำหนดประกอบกับมีอาการบาดเจ็บจึงถือโอกาสรักษาตัวให้หายขาด
เมื่อเวลาประมาณ 17.00น.ของวันจันทร์ที่ 12 มีนาคม 2555 บัวขาว ป.ประมุข หรือ นายสมบัติ บัญชาเมฆ นักมวยไทยคนดังเจ้าของแชมป์ เค-วัน ที่ประเทศญี่ปุ่น 2 สมัย ปรากฎตัวให้สัมภาษณ์รายการ "รอบรั้วทั่วไทย" ที่ มีเดีย สตูดิโอ ลาดพร้าว 101 ของ "มีเดีย นิว แชนแนล" หลังหายตัวไปจากค่ายแบบไร้ร่องรอยเมื่อช่วงต้นเดือนมีนาคมที่ผ่านมา ท่ามกลางข่าวลือต่างๆ นาๆ ว่าติดหนี้ค่ายร่วม 100 ล้านบาท ไร้ระเบียบวินัย ไม่ซ้อม และวันที่หายตัวไปได้ขับรถ บีเอ็มดับเบิลยู ป้ายแดงราคา 8 ล้านบาทหายไปด้วย
บัวขาว เปิดใจผ่านการพูดคุยกับพิธีกรท่ามกลางนักข่าวกีฬาหลายสำนักที่ต้องการทราบเหตุผลถึงการหายตัวไปโดยไม่บอกกล่าว ได้ความว่า "ก่อนอื่นผมต้องขอโทษทุกคนรวมถึงแฟนมวย ที่ผ่านมามีปัญหาเรื้อรังภายในค่ายเรื่องความอึดอัดใจเป็นหลักจนกระทั่งทนไม่ไหว ประเด็นสำคัญคือค่าย ป.ประมุข มีการเปลี่ยนแปลงภายในเรื่องเจ้าของจาก กำนัลแก๊ หรือ ประมุข โรจนตัณฑ์ สู่มือลูกชายคือ ธีรพัฒน์ ทว่าคำพูดที่ทนไม่ได้ออกมาจากปากผู้หลักผู้ใหญ่ในค่ายคนหนึ่งที่ทนไม่ไหวก็คือ 'ปวดหัวกับผมเหลือเกิน หนักใจกับตัวผมมาก' ทั้งที่ผ่านมาก็ซื่อสัตย์กับทางค่ายมาตลอด"
โดยนักชกวัย 29 ปีเดินทางมาอัดรายการพร้อมกับ สายชล ธรรมรงศ์ เทรนเนอร์ส่วนตัว เผยอีกว่า "ไม่ขอบอกว่าตอนนี้อยู่ที่ไหน แต่เป็นที่ๆ สบายใจที่สุด ตลอดเวลาที่หายไปก็ไม่ได้ไปไหนอยู่แต่ในบ้านพักเพื่อฟื้นสภาพจิตใจ ผมเกือบแขวนนวมเมื่อ 3 ปีก่อนเพราะน้อยใจเรื่องสัญญาสุดท้ายก็เปลี่ยนใจ"
ส่วนเรื่องอนาคต บัวขาว ที่คว้าแชมป์ "ไทย ไฟต์ 2011" ณ ลานพระบรมรูปทรงม้า เมื่อปลายปีที่แล้ว เผยยังไม่มีแผนอยู่ในใจ "ผมขอหยุดพักงานทุกอย่างและไม่ขอตอบอะไรตอนนี้ พร้อมเมื่อไหร่จะกลับมาเอง ส่วนเรื่องสัญญากับทางค่ายไม่รู้ว่าเหลือกี่ปี ปัญหาไม่ใช่เรื่องเงิน แต่น้อยใจมากกว่า ระหว่างที่หายไปก็มีการติดต่อกลับมา แต่ไม่ขอคุย หากสบายใจเมื่อไหร่และหายเจ็บเกี่ยวกับบริเวณข้อก็จะกลับไปเอง ขอยืนยันทิ้งท้ายว่าไม่มีเรื่องผู้หญิงมาเกี่ยวข้องตามที่เป็นข่าวแน่นอน ส่วนหนี้ถ้าผมมีเงินขนาดนั้นคงรวยเป็นเศรษฐีไปแล้วและรถบีเอ็มดับเบิลยูผมมีอยู่คันหนึ่งแต่เป็นมือสองราคา 1.3 ล้านบาทแถมยังผ่อนไม่หมดด้วย"
ส่วนเรื่องข่าวลือที่ว่าจะปลีกตัวไปเปิดค่ายมวยของตนเอง บัวขาว ยอมรับว่ามีคนทาบทามเข้ามาจริง แต่ไม่สนใจทั้งที่ได้รับส่วนแบ่งและค่าตัวมากกว่า ด้านสัญญาก่อนหน้านี้ค่าย ป.ประมุข เผยว่ายังเหลืออีกประมาณ 1 ปีและต้องลงแข่งศึก "ไทย ไฟต์" แต่ถ้าไปขึ้นชกหรือโชว์ตัวที่อื่นก็ต้องแบ่งเงินให้กับทางค่าย เนื่องจากมีระบุไว้ชัดเจนไม่เช่นนั้นก็จะถูกฟ้องร้องต่อไป.
เมื่อเวลาประมาณ 17.00น.ของวันจันทร์ที่ 12 มีนาคม 2555 บัวขาว ป.ประมุข หรือ นายสมบัติ บัญชาเมฆ นักมวยไทยคนดังเจ้าของแชมป์ เค-วัน ที่ประเทศญี่ปุ่น 2 สมัย ปรากฎตัวให้สัมภาษณ์รายการ "รอบรั้วทั่วไทย" ที่ มีเดีย สตูดิโอ ลาดพร้าว 101 ของ "มีเดีย นิว แชนแนล" หลังหายตัวไปจากค่ายแบบไร้ร่องรอยเมื่อช่วงต้นเดือนมีนาคมที่ผ่านมา ท่ามกลางข่าวลือต่างๆ นาๆ ว่าติดหนี้ค่ายร่วม 100 ล้านบาท ไร้ระเบียบวินัย ไม่ซ้อม และวันที่หายตัวไปได้ขับรถ บีเอ็มดับเบิลยู ป้ายแดงราคา 8 ล้านบาทหายไปด้วย
บัวขาว เปิดใจผ่านการพูดคุยกับพิธีกรท่ามกลางนักข่าวกีฬาหลายสำนักที่ต้องการทราบเหตุผลถึงการหายตัวไปโดยไม่บอกกล่าว ได้ความว่า "ก่อนอื่นผมต้องขอโทษทุกคนรวมถึงแฟนมวย ที่ผ่านมามีปัญหาเรื้อรังภายในค่ายเรื่องความอึดอัดใจเป็นหลักจนกระทั่งทนไม่ไหว ประเด็นสำคัญคือค่าย ป.ประมุข มีการเปลี่ยนแปลงภายในเรื่องเจ้าของจาก กำนัลแก๊ หรือ ประมุข โรจนตัณฑ์ สู่มือลูกชายคือ ธีรพัฒน์ ทว่าคำพูดที่ทนไม่ได้ออกมาจากปากผู้หลักผู้ใหญ่ในค่ายคนหนึ่งที่ทนไม่ไหวก็คือ 'ปวดหัวกับผมเหลือเกิน หนักใจกับตัวผมมาก' ทั้งที่ผ่านมาก็ซื่อสัตย์กับทางค่ายมาตลอด"
โดยนักชกวัย 29 ปีเดินทางมาอัดรายการพร้อมกับ สายชล ธรรมรงศ์ เทรนเนอร์ส่วนตัว เผยอีกว่า "ไม่ขอบอกว่าตอนนี้อยู่ที่ไหน แต่เป็นที่ๆ สบายใจที่สุด ตลอดเวลาที่หายไปก็ไม่ได้ไปไหนอยู่แต่ในบ้านพักเพื่อฟื้นสภาพจิตใจ ผมเกือบแขวนนวมเมื่อ 3 ปีก่อนเพราะน้อยใจเรื่องสัญญาสุดท้ายก็เปลี่ยนใจ"
ส่วนเรื่องอนาคต บัวขาว ที่คว้าแชมป์ "ไทย ไฟต์ 2011" ณ ลานพระบรมรูปทรงม้า เมื่อปลายปีที่แล้ว เผยยังไม่มีแผนอยู่ในใจ "ผมขอหยุดพักงานทุกอย่างและไม่ขอตอบอะไรตอนนี้ พร้อมเมื่อไหร่จะกลับมาเอง ส่วนเรื่องสัญญากับทางค่ายไม่รู้ว่าเหลือกี่ปี ปัญหาไม่ใช่เรื่องเงิน แต่น้อยใจมากกว่า ระหว่างที่หายไปก็มีการติดต่อกลับมา แต่ไม่ขอคุย หากสบายใจเมื่อไหร่และหายเจ็บเกี่ยวกับบริเวณข้อก็จะกลับไปเอง ขอยืนยันทิ้งท้ายว่าไม่มีเรื่องผู้หญิงมาเกี่ยวข้องตามที่เป็นข่าวแน่นอน ส่วนหนี้ถ้าผมมีเงินขนาดนั้นคงรวยเป็นเศรษฐีไปแล้วและรถบีเอ็มดับเบิลยูผมมีอยู่คันหนึ่งแต่เป็นมือสองราคา 1.3 ล้านบาทแถมยังผ่อนไม่หมดด้วย"
ส่วนเรื่องข่าวลือที่ว่าจะปลีกตัวไปเปิดค่ายมวยของตนเอง บัวขาว ยอมรับว่ามีคนทาบทามเข้ามาจริง แต่ไม่สนใจทั้งที่ได้รับส่วนแบ่งและค่าตัวมากกว่า ด้านสัญญาก่อนหน้านี้ค่าย ป.ประมุข เผยว่ายังเหลืออีกประมาณ 1 ปีและต้องลงแข่งศึก "ไทย ไฟต์" แต่ถ้าไปขึ้นชกหรือโชว์ตัวที่อื่นก็ต้องแบ่งเงินให้กับทางค่าย เนื่องจากมีระบุไว้ชัดเจนไม่เช่นนั้นก็จะถูกฟ้องร้องต่อไป.
