ค้าปลีกสองค่ายยักษ์ “เซ็นทรัล-เดอะมอลล์” เดินหน้า สร้างแกร่งรับเออีซี โดยเฉพาะด้านบุคลากร หวั่นขาดแคลนแรงงานฝีมือ ด้านเซ็นทรัล ประเดิมร่วมมือกับสถาบันราชมงคล-ราชภัฎ มอบ 500 ทุนการศึกษา หวังปั้นมืออาชีพรับค้าปลีก ด้านเดอะมอลล์ผุดอะคาเดมี่ ฝึกปรือระดับบริหาร
นางสาวบุษบา จิราธิวัฒน์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่อาวุโส ฝ่ายสื่อสารองค์กร บริษัท เซ็นทรัล รีเทล คอร์ปอเรชั่น จำกัด หรือซีอาร์ซี เปิดเผยว่า จากกรณีที่ปี 2558 จะเป็นการเริ่มเข้าสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน หรือเออีซี และไทยก็เป็นสมาชิกดังกล่าวด้วยนั้น จะส่งผลต่อการแข่งขันทางการค้าที่รุนแรงขึ้น โดยเฉพาะในภาคค้าปลีกและกลุ่มผู้ประกอบการขนาดกลางย่อม(เอสเอ็มอี) คาดว่าตลาดจะมีความต้องการแรงงานที่มีฝีมือต่ออุตสาหกรรมบริหารจำนวนมาก
ปัจจุบันพบว่า แรงงานด้านค้าปลีกในภาคบริการมีความต้องการอยบ่างมากซึ่งอยู่ในอันดับ 2 ของประเทศ และเมื่อเข้าสู่เออีซีแล้วคาดว่าแรงงานในภาคบริการดังกล่าวจะยังเป็นที่ต้องการในตลาดอีกมาก ดังนั้นกลุ่มผู้ประกอบการธุรกิจไทย และภาคการศึกษาจำเป็นต้องปรับตัวเพื่อรองรับกับตลาดค้าปลีกที่จะเข้าสู่เออีซีในอนาคตอันใกล้นี้ด้วย
จากเดิมที่ธุรกิจห้างสรรพสินค้าก็แข่งขันกันรุนแรงอยู่แล้ว และเติบโตรวดเร็ว โดยเฉพาะในเมืองใหญ่ และจังหวัดท่องเที่ยว และค้าปลีกหลายแห่ง ก็มีความต้องการแรงงานที่มีความรู้ ทักษะเฉพาะด้านในสาขาวิชาชีพการจัดการธุรกิจค้าปลีก จำนวนมาก
อย่างไรก็ตามภาพรวมของอุตสาหกรรมค้าปลีกในไทยช่วง 5 ปีที่ผ่านมา มีการเติบโตสูงอย่างต่อเนื่อง แม้ว่าจะมีปัจจัยลบที่หลากหลายไม่ว่าจะเป็นเรื่องของความขัดแย้งทางการเมือง วิกฤติเศรษฐกิจ และภัยธรรมชาติ เป็นต้น แต่กลุ่มผู้ประกอบการธุรกิจหรือเอกชนไทยนั้นยังคงมีความเข้มแข็งในการรับมือปัญหาได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในอุตสาหกรรมค้าปลีก ที่มีความสำคัญต่อระบบเศรษฐกิจของไทย
ล่าสุดเพื่อรองรับกับความต้องการและการเปิดเออีซีดังกล่าว บริษัทฯได้เปิดตัว โครงการ “ยัง โปรเฟสชันแนล รีเทลเลอร์” ซึ่งเป็นการมอบทุนการศึกษาให้กับนักศึกษาที่เข้าร่วมโครงการตลอดหลักสูตรโดยไม่เสียค่าใช้จ่าย ซึ่งได้ร่วมมือกับ 8 สถาบันการศึกษาระดับอุดมศึกษา คือ มหาวิทยาลัยราชภัฎวไลยอลงกรณ์(กิ่งเพชร),มหาวิทยาลัยราชภัฎสวนสุนันทา, มหาวิทยาลัยราชภัฎพระนคร, มหาวิทยาลัยราชภัฎธนบุรี, มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลพระนคร, มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีเทคนิคกรุงเทพ, มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลธัญบุรี(คลองหก) และมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลรัตนโกสินทร์
สำหรับระยะเวลาดำเนินการ แบ่งออกเป็น2 กลุ่ม คือ ผู้สำเร็จการศึกษาระดับปวส. ระยะเวลา 2ปี-2ปีครึ่ง, ผู้สำเร็จการศึกษาระดับม.6, ปวช. ระยะเวลาการศึกษา 4ปี ทั้งในกรุงเทพฯและปริมณฑล จำนวนทั้งสิ้น 500 ทุนการศึกษาในหลักสูตรที่ร่วมกับ 8 มหาวิทยาลัยดังกล่าว ซึ่งผู้เข้าร่วมโครงการฯ ยังจะได้รับเบี้ยเลี้ยงวันละ 260-300บาทในวันฝึกปฏิบัติงาน รวมถึงมีอาชีพรองรับ และโอกาสได้รับคัดเลือกเข้าทำงานในตำแหน่งผู้จัดการแผนกเมื่อสำเร็จการศึกษาทันที ในเครือซีอาร์ซี เป็นต้น ทั้งนี้โครงการนี้ใช้งบประมาณในครั้งนี้รวม 51 ล้านบาท
ขณะที่ทางกลุ่มเดอะมอลล์ก็มีความเคลื่อนไหวเช่นกัน นายชำนาญ เมธปรีชากุล ผู้อำนวยการใหญ่อาวุโสการตลาด บริษัท เดอะมอลล์ กรุ๊ป จำกัด เปิดเผยว่า เพื่อเป็นการรองรับกับการเปิดเออีซี หรือประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนภายในปี 2558 จำเป็นอย่างยิ่งที่ทุกกลุ่มธุรกิจในไทยจะต้องเตรียมความพร้อมในการรับมือกับการเปิดเออีซีที่จะมีการแข่งขันจากต่างชาติเข้ามามากขึ้น
โดยเฉพาะอย่างยิ่งการเตรียมพร้อมทางด้านบุคลากร เนื่องจากค้าปลีกเป็นธุกริจบริการ เพราะลูกค้าต่อไปนี้ไม่ใช่จะมีแค่คนไทยหรือนักท่องเที่ยวที่เราคุ้นเคยกันมากแล้ว แต่จะมีเข้ามาที่หลากหลาย ความต้องการที่แตกต่าง และที่สำคัญที่สุดคือเรื่องของการสื่อสารและการเข้าถึงความต้องการแต่ละกลุ่มลูกค้าได้อย่างชัดเจน
ทั้งนี้เดอะมอลล์กรุ๊ป ได้จัดตั้ง สถาบันฝึกอบรมหรืออะคาเดมี่ขึ้นมาโดยตั้งอยู่ที่ชั้น 14 เดอะมอลล์สาขางามวงศ์วาน เพื่อใช้เป็นศูนย์ฝึกอบรมพนักงาน และระดับผู้บริหารระดับส่วนขึ้นไป ซึ่งมีประมาณ 1,000 คน จากพนักงานในเครือทั้งหมดกว่า 10,000 คน เพื่อสร้างความแข็งแกร่งด้านบุคลากรในทุกด้าน ทั้งการบริการ การขาย กาสื่อสาร การคัดเลือกสินค้า การตลาด และอิ่นๆ โดยเฉพาะเรื่องของภาษา ซึ่งมีความจำเป็นอย่างมาก ซึ่งในการฝึกอบรมจะมีทั้งการเชิญผู้เชี่ยวชาญคนนอกองค์กรในแต่ละสาขาเข้ามาบรรยายให้ความรู้และอบรมต่างๆด้วย
นางสาวบุษบา จิราธิวัฒน์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่อาวุโส ฝ่ายสื่อสารองค์กร บริษัท เซ็นทรัล รีเทล คอร์ปอเรชั่น จำกัด หรือซีอาร์ซี เปิดเผยว่า จากกรณีที่ปี 2558 จะเป็นการเริ่มเข้าสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน หรือเออีซี และไทยก็เป็นสมาชิกดังกล่าวด้วยนั้น จะส่งผลต่อการแข่งขันทางการค้าที่รุนแรงขึ้น โดยเฉพาะในภาคค้าปลีกและกลุ่มผู้ประกอบการขนาดกลางย่อม(เอสเอ็มอี) คาดว่าตลาดจะมีความต้องการแรงงานที่มีฝีมือต่ออุตสาหกรรมบริหารจำนวนมาก
ปัจจุบันพบว่า แรงงานด้านค้าปลีกในภาคบริการมีความต้องการอยบ่างมากซึ่งอยู่ในอันดับ 2 ของประเทศ และเมื่อเข้าสู่เออีซีแล้วคาดว่าแรงงานในภาคบริการดังกล่าวจะยังเป็นที่ต้องการในตลาดอีกมาก ดังนั้นกลุ่มผู้ประกอบการธุรกิจไทย และภาคการศึกษาจำเป็นต้องปรับตัวเพื่อรองรับกับตลาดค้าปลีกที่จะเข้าสู่เออีซีในอนาคตอันใกล้นี้ด้วย
จากเดิมที่ธุรกิจห้างสรรพสินค้าก็แข่งขันกันรุนแรงอยู่แล้ว และเติบโตรวดเร็ว โดยเฉพาะในเมืองใหญ่ และจังหวัดท่องเที่ยว และค้าปลีกหลายแห่ง ก็มีความต้องการแรงงานที่มีความรู้ ทักษะเฉพาะด้านในสาขาวิชาชีพการจัดการธุรกิจค้าปลีก จำนวนมาก
อย่างไรก็ตามภาพรวมของอุตสาหกรรมค้าปลีกในไทยช่วง 5 ปีที่ผ่านมา มีการเติบโตสูงอย่างต่อเนื่อง แม้ว่าจะมีปัจจัยลบที่หลากหลายไม่ว่าจะเป็นเรื่องของความขัดแย้งทางการเมือง วิกฤติเศรษฐกิจ และภัยธรรมชาติ เป็นต้น แต่กลุ่มผู้ประกอบการธุรกิจหรือเอกชนไทยนั้นยังคงมีความเข้มแข็งในการรับมือปัญหาได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในอุตสาหกรรมค้าปลีก ที่มีความสำคัญต่อระบบเศรษฐกิจของไทย
ล่าสุดเพื่อรองรับกับความต้องการและการเปิดเออีซีดังกล่าว บริษัทฯได้เปิดตัว โครงการ “ยัง โปรเฟสชันแนล รีเทลเลอร์” ซึ่งเป็นการมอบทุนการศึกษาให้กับนักศึกษาที่เข้าร่วมโครงการตลอดหลักสูตรโดยไม่เสียค่าใช้จ่าย ซึ่งได้ร่วมมือกับ 8 สถาบันการศึกษาระดับอุดมศึกษา คือ มหาวิทยาลัยราชภัฎวไลยอลงกรณ์(กิ่งเพชร),มหาวิทยาลัยราชภัฎสวนสุนันทา, มหาวิทยาลัยราชภัฎพระนคร, มหาวิทยาลัยราชภัฎธนบุรี, มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลพระนคร, มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีเทคนิคกรุงเทพ, มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลธัญบุรี(คลองหก) และมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลรัตนโกสินทร์
สำหรับระยะเวลาดำเนินการ แบ่งออกเป็น2 กลุ่ม คือ ผู้สำเร็จการศึกษาระดับปวส. ระยะเวลา 2ปี-2ปีครึ่ง, ผู้สำเร็จการศึกษาระดับม.6, ปวช. ระยะเวลาการศึกษา 4ปี ทั้งในกรุงเทพฯและปริมณฑล จำนวนทั้งสิ้น 500 ทุนการศึกษาในหลักสูตรที่ร่วมกับ 8 มหาวิทยาลัยดังกล่าว ซึ่งผู้เข้าร่วมโครงการฯ ยังจะได้รับเบี้ยเลี้ยงวันละ 260-300บาทในวันฝึกปฏิบัติงาน รวมถึงมีอาชีพรองรับ และโอกาสได้รับคัดเลือกเข้าทำงานในตำแหน่งผู้จัดการแผนกเมื่อสำเร็จการศึกษาทันที ในเครือซีอาร์ซี เป็นต้น ทั้งนี้โครงการนี้ใช้งบประมาณในครั้งนี้รวม 51 ล้านบาท
ขณะที่ทางกลุ่มเดอะมอลล์ก็มีความเคลื่อนไหวเช่นกัน นายชำนาญ เมธปรีชากุล ผู้อำนวยการใหญ่อาวุโสการตลาด บริษัท เดอะมอลล์ กรุ๊ป จำกัด เปิดเผยว่า เพื่อเป็นการรองรับกับการเปิดเออีซี หรือประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนภายในปี 2558 จำเป็นอย่างยิ่งที่ทุกกลุ่มธุรกิจในไทยจะต้องเตรียมความพร้อมในการรับมือกับการเปิดเออีซีที่จะมีการแข่งขันจากต่างชาติเข้ามามากขึ้น
โดยเฉพาะอย่างยิ่งการเตรียมพร้อมทางด้านบุคลากร เนื่องจากค้าปลีกเป็นธุกริจบริการ เพราะลูกค้าต่อไปนี้ไม่ใช่จะมีแค่คนไทยหรือนักท่องเที่ยวที่เราคุ้นเคยกันมากแล้ว แต่จะมีเข้ามาที่หลากหลาย ความต้องการที่แตกต่าง และที่สำคัญที่สุดคือเรื่องของการสื่อสารและการเข้าถึงความต้องการแต่ละกลุ่มลูกค้าได้อย่างชัดเจน
ทั้งนี้เดอะมอลล์กรุ๊ป ได้จัดตั้ง สถาบันฝึกอบรมหรืออะคาเดมี่ขึ้นมาโดยตั้งอยู่ที่ชั้น 14 เดอะมอลล์สาขางามวงศ์วาน เพื่อใช้เป็นศูนย์ฝึกอบรมพนักงาน และระดับผู้บริหารระดับส่วนขึ้นไป ซึ่งมีประมาณ 1,000 คน จากพนักงานในเครือทั้งหมดกว่า 10,000 คน เพื่อสร้างความแข็งแกร่งด้านบุคลากรในทุกด้าน ทั้งการบริการ การขาย กาสื่อสาร การคัดเลือกสินค้า การตลาด และอิ่นๆ โดยเฉพาะเรื่องของภาษา ซึ่งมีความจำเป็นอย่างมาก ซึ่งในการฝึกอบรมจะมีทั้งการเชิญผู้เชี่ยวชาญคนนอกองค์กรในแต่ละสาขาเข้ามาบรรยายให้ความรู้และอบรมต่างๆด้วย