ASTVผู้จัดการสุดสัปดาห์-กลายเป็นคนที่แรก ที่ที่ประชุมกกต. จะมีมติประกาศรับรองผลการเลือกตั้ง ให้นายมณฑล ไกรวัฒนุสสรณ์ หรือเฮียม้อ นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดสมุทรสาคร ให้ เป็นนายกองค์กรบริหารส่วนจังหวัดสมุทรสาคร
เนื่องจากการเลือกตั้งนายก อบจ.เมื่อวันที่ 19 ก.พ.ที่ผ่านมาไม่มีเรื่องร้องเรียนหรือร้องคัดค้าน
ทั้งนี้นายมณฑล ได้รับเลือกตั้งเป็นนายกอบจ.แทนนายอุดร ไกรวัฒนุสสรณ์ บุตรชาย ซึ่งอดีตนายกอบจ.และถูกยิงเสียชีวิต โดยได้รับเลือกตั้งด้วยคะแนน 137,910 คะแนน
ปฏิเสธไมได้ว่า “ผู้เฒ่าม้อ”ได้รับการสนับสนุน จากพรรคเพื่อไทย และคนเสื้อแดงอย่างอุ่นหนาฝาคลั่ง รวมทั้งความสงสารที่ “สจ.ตุ๋น”ถูกสังหาร ถือเป็นสนามแรกของการเลือกตั้ง “นายกองค์กรบริหารส่วนจังหวัด”ที่ครบอายุ 4 ปี หรือบางแห่งก็ประกาศลาออกเอง จะเป็นวางมือ หรือให้บุคคลอื่นเข้ามาเสียบแทนก็แล้วแต่
ขณะที่ คณะกรรมการเลือกตั้ง (กกต.) โดยนายประพันธ์ นัยโกวิท กกต. ด้านกิจการบริหารงานเลือกตั้ง ออกมาแสดงความเป็นห่วง ว่าในปี 2555 ที่จะมีการเลือกตั้งขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นที่ครบวาระจำนวนมากประมาณ 3,000 กว่าแห่ง ประกอบด้วย
องค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) 2,201 แห่ง เทศบาล 829 แห่ง องค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) 76 แห่ง และเมืองพัทยา 1 แห่ง
กกต.ผู้นี้ เป็นห่วงว่า จากการเลือกตั้งองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นที่ผ่านมา ปรากฏว่ามีการแข่งขันกันอย่างรุนแรงทั้งการซื้อเสียงทุจริตในการเลือกตั้ง และการประทุษร้ายกันถึงขั้นเสียชีวิต จึงมีความเป็นห่วงว่าการเลือกตั้งองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) ในปี 2555 ซึ่งมีจำนวนถึงกว่า 3,000 แห่ง จะมีการแข่งขันที่รุนแรง
เขาห่วงว่า การเลือกตั้งอปท.ที่จะมีขึ้นในปี 2555 เนื่องจากจะมีผู้สมัครลงแข่งขันกันเป็นจำนวนมากจึงจะต้องหาทางป้องกันแก้ไขใหม่ๆ
เห็นได้จากการประชุมคณะกรรมการจัดการเลือกตั้ง อปท. ที่ยังได้รับการร่วมมือจากสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กระทรวงมหาดไทย และหน่วยงานความมั่นคงต่างๆ โดยการเลือกตั้ง ส.ส. เมื่อวันที่ 3 กรกฎาคม 2554ที่ผ่านมาเป็นต้นแบบ
ขณะที่ตำรวจได้จัดตั้งศูนย์อำนวยการรักษาความสงบเรียบร้อยในการเลือกตั้ง ด้วยการตรวจค้นอาวุธปืน ติดตามจับมือปืนตามหมายจับ
กกต. แสดงความเป็นห่วงอย่างมาก ช่วงระหว่างเดือนเมษายน ถึงมิถุนายนนี้ ที่จะมีการจัดการเลือกตั้ง ระดับองค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) กว่า 60 แห่ง ซึ่งเป็นสนามเลือกตั้งขนาดใหญ่ และมีสัญญาณที่ค่อนข้างน่าเป็นห่วงหลายเรื่อง
ที่ผ่านมา มีหลายเหตุการณ์ที่ปรากฏ มีการลอบทำร้ายกัน ทั้งได้รับบาดเจ็บ และเสียชีวิต
ทำให้ “ฝ่ายสืบสวนสอบสวน กต.กลาง” ที่อยู่ระหว่างการเชื่อมโยงข้อมูล ว่า เหตุการณ์ทั้งหมดที่เกิดขึ้น พัวพันการเมืองในลักษณะใดบ้าง เพื่อหาแนวทาง วางกรอบงานยุทธศาสตร์ แก้ไขป้องกันต่อไปให้ทันท่วงที
ดังนั้นสนามทั้ง 60 แห่งก็ต้องเป็นที่จับตามองอย่างยิ่ง
เริ่มจากสนามจังหวัดนครราชสีมา ที่จะทำการเลือกตั้งในวันที่ 1 มี.ค.นี้ ที่ก่อนหน้า ผู้สมัครหมายเลข 1 นายวิทูร ชาติปฏิมาพงษ์ อดีตนายก อบจ.นครราชสีมา ที่ล่าสุดพบว่า พรรคภูมิใจไทย โดย นายบุญจง วงษ์ไตรัตน์ ประกาศช่วยเต็มที่ โดยมี ประชาธิปัตย์หนุนอยู่ห่าง ๆ แว่วว่า นายเนวิน ชิดชอบ นายใหญ่ ของภูมิใจไทย ฝากบอกบุญจง มาว่า เอาอะไรให้บอก ขณะที่ผู้สมัครหมายเลข 2 ร.ต.หญิงระนองรักษ์ สุวรรณฉวี ประกาศตัวชัดเจนว่ามี นายสุวัจน์ ลิปตพลัลภ แกนนำชาติพัฒนาเพื่อแผ่นดิน และส.ส.เพื่อไทย ฝาก นายโกศล ปัทมะ ประเสริฐจันทรรวงทอง รวมถึงนายประนอม โพธิ์คำ ส.ส.พรรคภูมิใจไทย ช่วยหนุน และผู้สมัครหมายเลข 3 นพ.สำเริง แหยงกระโทก มีกลุ่ม นายสุพร อัตถาวงศ์ ที่มีนายสัมภาษณ์ อัตถาวงศ์ น้องชายเป็นส.ส.นครราชสีมา กลุ่มนายวิรัช รัตนเศรษฐและนายสมพล เกยุราพันธุ์ ส.ส. บัญชีรายชื่อพรรคเพื่อไทย บิดา คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธ์ รวมถึงนายอุบล เอื้อศรี แกนนำนปช.โคราชสนับสนุน
โดยเฉพาะ ส.ส.ปาร์ตี้ลิสต์ ที่ จ.นครราชสีมา “เพื่อไทย”ก็ชนะ “ชาติพัฒนาเพื่อแผ่นดิน”หลักแสนคะแนน
ที่ จ.บุรีรัมย์ กระแสกลุ่มเสื้อแดงพร้อมส.ส.เพื่อไทย และอดีตผู้สมัครส.ส.ประชาธิปัตย์ ก็จะรวมตัวหนุนอดีตส.ส.หลายสมัย อย่างนายขจรธน จุดโต อดีตผู้สมัครส.ส.บุรีรัมย์ เขต 8 พรรคเพื่อไทย จ.บุรีรัมย์ลงชิงเก้าอี้นายก อบจ. แข่งกับนางกรุณา ชิดชอบ นายกอบจ.บุรีรัมย์ ภริยานายเนวิน ชิดชอบ
โดยล่าสุด ส.ส.ปาร์ตี้ลิสต์ ที่ จ.บุรีรัมย์ พรรคเพื่อไทย ชนะพรรคภูมิใจไทย กว่า 1 แสนคะแนน
ฝันถึงการสลายขั้วการเมือง “ชิดชอบบุรี” ท่ามกลางความสุขของคนบุรีรัมย์กับ “บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด”
หวังว่าน่าจะสู้ได้หาก เสียงของเนวิน โทนหนักแน่นหนัก เมื่อ คราวเลี้ยงนักข่าวสายกีฬา ที่สนับสนุนทำข่าวให้กับทีมฟุตบอลของเขา จะเป็นเรื่องจริง แต่ใครๆก็เชื่อว่า “อมพระมาพูดก็เชื่อ”
“เดือนพฤษภาคม ผมจะไม่กลับมาเป็น ส.ส. เป็นรัฐมนตรี อีกแล้ว ผมไม่หวนมาแล้ว การเมืองคือนรก คุณรู้จักนรกไหม” http://www.youtube.com/watch?feature=pla...9NKxAlNJ0Q
ที่ จ.เชียงราย ก็เป็นหนึ่งในพื้นที่เป้าหมาย ที่มีการส่งสัญญาณ ว่า จะแข่งขันกันค่อนข้างดุเดือด เป็นการวัดบารมีของขั้วการเมือง 2 ตระกูลใหญ่อีกครั้ง ทั้งนี้ การเลือกตั้งนายก อบจ.เชียงราย จะมีขึ้นราวเดือนมิถุนายน หลังจากหมดวาระเดือนเมษายนนี้
สำหรับบุคคลมีชื่อเสียง ที่เปิดตัวชัดเจนจะลงสมัครอาทิ นางรัตนา จงสุทธนามณี นายก อบจ.เชียงราย คนปัจจุบัน เป็นที่ทราบกันทั่วไป ว่า เป็นตัวแทนเครือข่ายพรรคภูมิใจไทย นางสลักจฤฎดิ์ ติยะไพรัช ประธานคณะกรรมการพัฒนาสตรีภาคเหนือ ภรรยานายยงยุทธ ติยะไพรัช นักการเมืองคนใกล้ชิด พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ตัวแทนพรรคเพื่อไทย แกนนำรัฐบาล ซึ่งทั้งสองเป็นคู่ชิงกันเมื่อ 4 ปีที่แล้ว
นอกจากนี้ ยังมี นายสุวิทย์ แก้วพนัส นายกองค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) แม่กรณ์ อ.เมืองเชียงราย และประธานชมรมนายก อบต.จังหวัดเชียงราย น.ส.บัวซอน หรือ น.ส.พนิดา มะโนธรรม แกนนำคนเสื้อแดง กลุ่มเชียงรายตะวันแดงกระตุ้นเศรษฐกิจ ที่ประกาศตัวจะลงสมัครแข่งขันด้วยเช่นกัน.
ขณะที่ พรรคประชาธิปัตย์ ได้อนุมัติให้ส่งผู้สมัครในระดับท้องถิ่นเพิ่มเติมล่าสุดอีก 5 แห่ง ได้แก่ 1.นายกเทศมนตรีเทศบาลหาดใหญ่ และสมาชิกเทศบาล อีก 24 คน 2.สมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัดนราธิวาส 3.นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดชุมพร 4.นายกเทศมนตรีเทศบาลนครนครปฐม รองนายกฯเทศมนตรี และสมาชิกสภาเทศบาล และ 5.นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดชลบุรี และสมาชิกองค์การบริหารส่วนจังหวัด
ขณะที่เต็งจ๋า นายกิจ หลีกภัย นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) ตรัง ซึ่งเป็นพี่ชายของนายชวนหลีกภัย ประธานที่ปรึกษาหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ประกาศจะลงแข่งขังอีกเป้นสมัยที่ 4
หากดูในอดีต จะเห็นได้ว่า องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ที่ อยู่ในการกำกับดูแลส่วนใหญ่นั้น เป็นของ “พรรคภูมิใจไทย” อบจ. บุรีรัมย์ และ เทศบาลเมืองบุรีรัมย์ อบจ.นครราชสีมา อบจ. สุรินทร์ และเทศบาลเมืองสุรินทร์ อบจ.ศรีษะเกษ และ เทศบาลเมืองศรีษะเกษ อบจ. อุบลราชธานี อบจ. ชัยภูมิ และ เทศบาลเมืองชัยภูมิ
อบจ. อุดรธาณี และ เทศบาลเมือง อุดรธานี อบจ. มหาสารคาม และ เทศบาลเมืองมหาสารคาม อบจ. ขอนแก่น อบจ. ลพบุรี และ เทศบาลเมืองบ้านหมี่ อบจ. เชียงราย และ เทศบาลเมืองเชียงราย อบจ.ปทุมธานี และ เทศบาลเมืองปทุมธานี เทศบาลนครนครสวรรค์ อบจ. นนทบุรี เทศบาลเมืองแม่สอด เทศบาลนครนครปฐม
อบจ. ราชบุรี และ เทศบาลเมืองราชบุรี อบจ. สุโขทัย และ เทศบาลเมืองสุโขทัย อบจ.ชัยนาท และ เทศบาลเมืองชัยนาท อบจ.ปราจีนบุรี และ เทศบาลเมืองปราจีนบุรี อบจ.นครนายก และเทศบาลเมืองนครนายก
รวมถึงอบจ.ฉะเชิงเทรา
ดังนั้น จึงเป็นที่น่าจับตาว่า การเลือกตั้ง ของอปท.ทั้ง 60 แห่งในเดือน มี.ค. เม.ย. และพ.ค. นี้ พรรคเพื่อไทย จะสามารถเจาะฐานเดิมของภูมิใจไทยทั้งหมดนี้ได้หรือไม่ เพื่อสานฝันนายใหญ่เท่านั้น
หลังจากร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกรัฐมนตรี บินไปเมืองปักกิ่ง ประเทศจีน แถมยอมรับเองว่า มีการโทรหา “พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร”
แถมส.ส.พรรค หลายคนก็พูดไปทิฯศทางเดียวกันว่า ได้ไปพบนายใหญ่ เพื่อวางแผนสู้ศึกเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด หวังล้างคนเก่าของพรรคภูมิใจไทย
แถมคณะทำงานยุทธศาสตร์พรรคเพื่อไทย ก็ตั้งเป้าว่าผู้สมัครของพรรคจะต้องได้รับชัยชนะให้มากที่สุด เนื่องจากเป็นฐานเสียงสำคัญของการเมืองระดับประเทศ ซึ่งในยุครัฐบาลพรรคประชาธิปัตย์ ที่พรรคภูมิใจไทยดูแลกระทรวงมหาดไทยและกระทรวงคมนาคมได้วางคนในวงการท้องถิ่นระดับองค์การบริหารส่วนจังหวัดไว้เป็นอย่างดี โดยเห็นได้จากการเลือกตั้ง ส.ส.ครั้งล่าสุด
ด้วยเหตุผลดังกล่าว พ.ต.ท.ทักษิณและแกนนำพรรคเพื่อไทยจึงมีแนวคิดที่จะล้างคนของพรรคภูมิใจไทยในเวทีท้องถิ่นให้ได้
แต่ก็เป็นที่น่าจับตา เพราะจากการเลือกตั้ง 3 กรกฎาคม 2554 ที่ผ่านมาคะแนน “โหวตโน” หลายพื้นที่เทียบเท่าหรือบางแห่งก็แพ้คะแนนของผู้ชนะไม่มาก.
