ASTVผู้จัดการรายวัน - 50 คนร้ายบุกโจมตีฐานทหารในบาเจาะ กลางดึกพร้อมกัน 2 ปะทะเดือด คาดฝีมือ “แวอาลีคอปเตอร์ วาจิ-มะรอโซ จันทราวดี”และแนวร่วม RKK ส่วนที่ยะลาคนร้ายปลอมเป็น จนท.เยี่ยมป้อมจุดตรวจจับ ผช.ผู้ใหญ่บ้าน อส.มัดมือจ่อยิงศีรษะดับ 2 ราย ก่อนปล้นปืนลอยนวล ด้าน “บิ๊กอ๊อด” เชื่อโจรหวังปล้นอาวุธ
เมื่อเวลา 00.30 น.คืนวันที่ 9 มี.ค.ที่ผ่านมา ร.ต.ท.ภัคคินัย ศรีเจริญ ร้อยเวร สภ.บาเจาะ จ.นราธิวาส ได้รับแจ้งมีเหตุคนร้ายบุกถล่มฐานทหารนาวิกโยธิน จำนวน 2 จุด คือ ฐานปฏิบัติการณ์หมวดปืนเล็กที่ 2 กองร้อยปืนเล็กที่ 1 ชุดเฉพาะกิจนราธิวาส 32 ซึ่งตั้งอยู่บ้านส้มป่อย ม.4 ต.กาเยาะมาตี และจุดที่ 2 ที่กองบังคับการชุดเฉพาะกิจนราธิวาส 32 ซึ่งตั้งอยู่ภายในสำนักงานการประปาส่วนภูมิภาค เขตเทศบาลตำบลบาเจาะ จึงพร้อมด้วย พ.ต.อ.นันทเดช ย้อยนวล รอง ผบก.ภ.จ.นราธิวาส น.อ.สมเกียรติ ผลประยูร ผบ.นย. น.ท.บัญญัติ วงศ์จำปา ผบ.ฉก.นราธิวาส 32 พ.ต.ท.กระจ่าง รักษ์ณรงค์ หน.กองพิสูจน์หลักฐาน จ.นราธิวาส และเจ้าหน้าที่ชุดเก็บกู้และทำลายวัตถุระเบิด นปพ.จ.นราธิวาส รวมทั้งกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจทหารจำนวนหนึ่งรุดเดินทางไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ และในระหว่างที่เจ้าหน้าที่กำลังเดินทางนั้น พบคนร้ายใช้เลื่อนยนต์ตัดต้นไม้ขวางถนน 2 จุด คือที่บริเวณบ้านบูเก๊ะบากง ม.2 ต.ตะปอเยาะ อ.ยี่งอ และที่บริเวณบ้านส้มป่อยซึ่งห่างจากฐาน ประมาณ 500 เมตร พร้อมทั้งโปรยตะปูเรือใบ
จนกระทั่งถึงบริเวณหัวสะพานเขตเทศบาลตำบลบาเจาะ ซึ่งห่างจาก สภ.บาเจาะ ประมาณ 800เมตร พบเสาไฟฟ้าริมถนนเพชรเกษมขาเข้า อ.บาเจาะ ถูกคนร้ายวางระเบิดจนหักโค่น เจ้าหน้าที่จึงจอดขบวนรถเพื่อตรวจสอบ พบว่าเสาไฟฟ้าถัดกันอีก 2 ต้น ซึ่งอยู่ติดกัน มีระเบิดแสวงเครื่องที่คนร้ายประกอบใส่ไว้ในกล่องเหล็กหนัก 10 กก.จุดชนวนด้วยการตั้งเวลาปลุกจากนาฬิกาข้อมือแบบดิจิตอด ถูกคนร้ายยึดไว้กับเหล็กเส้น เจ้าหน้าที่จึงได้กันผู้ที่ไม่เกี่ยวข้องออกห่าง ก่อนที่จะใช้ปืนในการยิงทำลายทั้ง 2 จุด ซึ่งต้องใช้เวลานานร่วม 2 ชั่วโมง จึงจะเดินทางไปตรวจสอบที่เกิดเหตุได้
โดยในจุดแรก เจ้าหน้าที่ได้เข้าไปตรวจสอบภายในฐานปฏิบัติการณ์ทหารหมวดปืนเล็กที่ 2 กองร้อยปืนเล็กที่ 1 ฉก.นราธิวาส 32 พบว่าบริเวณที่จอดยานพาหนะซึ่งสร้างอยู่ตรงกลางฐาน ถูกคนร้ายยิงเอ็ม.79 เข้าใส่ จนหลังคาสังกะสีได้รับความเสียหาย เกิดเพลิงไหม้ และถล่มลงมาจนไฟลุกลามรถจักรยานยนต์ที่จอดไว้ ได้รับความเสียหาย 3 คัน โดยถูกไฟคลอกจนเหลือแต่ซากรถ
นอกจากนี้ บริเวณฝาผนังอาคารน็อคดาวน์มีร่องรอยถูกกระสุนปืนของคนร้ายได้รับความเสียหายหลายหลัง และกระสอบทรายที่ใช้ทำเป็นบังเกอร์หน้าฐานยังถูกกระสุนปืนของคนร้ายเป็นรูพรุน ทั้งนี้ จากการตรวจสอบบริเวณสวนมะพร้าวหน้าฐาน เจ้าหน้าที่ยังพบโทรโข่ง รวมทั้งคีมตัดเหล็กของคนร้ายตกอยู่ จึงได้เก็บรวบรวมไว้เป็นหลักฐาน
ต่อมาเจ้าหน้าที่ได้เดินทางไปตรวจสอบที่กองบังคับการชุดเฉพาะกิจนราธิวาส 32 พบว่าที่บริเวณลานเอนกประสงค์หน้ากองบังคับการ มีร่องรอยลูกกระสุนปืนเอ็ม.79 ตกอยู่จำนวน 1 จุด และทรัพย์ได้รับความเสียหายเล็กน้อย
**เผยเจ้าหน้าที่บาดเจ็บทั้งหมด12นาย
ทราบว่า ก่อนเกิดเหตุได้มีคนร้าย จำนวน 50 คน พร้อมอาวุธปืนครบมือ แยกกำลังออกเป็น 3 ชุด ชุดแรกได้กระจายกำลังกันโอบล้อมแล้วใช้อาวุธปืนเอ็ม.79 และอาวุธปืนสงครามยิงเข้าใส่ฐานปฏิบัติการณ์ทหารหมวดปืนเล็กที่ 2 กองร้อยปืนเล็กที่ 1 จน ร.ท.สงกาณ กุดวงศ์แก้ว หน.ฐาน ได้สั่งกำลังยิงตอบโต้ปะทะกับคนร้ายเป็นระลอกๆ นานกว่า 20 นาที
ส่วนกำลังชุดที่ 2 ได้บุกเข้าโจมตีกองบังคับการชุดเฉพาะกิจนราธิวาส 32 ในเวลาเดียวกัน ด้วยการยิงเอ็ม.79 เข้าใส่ ส่วนคนร้ายชุดที่3 ได้แยกย้ายกันตัดต้นไม้ขวางถนนเพื่อสกัดกั้นเจ้าหน้าที่เข้าสนับสนุน และจุดชนวนระเบิดเสาไฟฟ้าให้หักโค่น จำนวน 3 ต้น เพื่อดับกระแสไฟที่ส่องสว่างในการเตรียมที่จะบุกโจมตีระยะประชิด แต่ระเบิดทำงานเพียง 1 ลูก เสาไฟฟ้าหักโค่นเพียง 1 ต้น ทำให้ทัศนวิสัยในการมองเห็นยังมีอยู่ คนร้ายจึงได้เปลี่ยนแผนและนำกำลังล่าถอยไป
ทั้งนี้ เมื่อเสียงปืนสงบลง เจ้าหน้าที่เคลียร์พื้นที่เกิดเหตุพบทหารได้รับบาดเจ็บ 12 นาย ซึ่งมีทั้งถูกกระสุนปืนของคนร้ายและสะเก็ดอาวุธปืนเอ็ม.79
**จนท.ชี้ฝีมือ “แวอาลีคอปเตอร์-มะรอโซ”
ด้าน พ.ต.อ.นันทเดช ย้อยนวล รอง ผบก.ภ.จ.นราธิวาส เปิดเผยว่า คนร้ายวางแผนไว้เป็นอย่างดี มีลักษณะคล้ายกับกลุ่มคนร้ายบุกโจมตีฐานปฏิบัติการณ์ทหารพระองค์ดำ สังกัด ร้อย ร.15121 ฉก.นราธิวาส 38 ซึ่งตั้งอยู่ ต.มะรือโบตก อ.ระแงะ จ.นราธิวาส เมื่อวันที่ 19 ม.ค.54 ที่ผ่านมา
ด้าน น.อ.สมเกียรติ ผลประยูร ผบ.ฉก.นย.เปิดเผยว่า จากการประเมิน เชื่อว่า กลุ่มคนร้ายที่ร่วมก่อเหตุในครั้งนี้ น่าจะมีแกนนำและสมาชิกแนวร่วม RKK บางคน คาดว่านายแวอาลีคอปเตอร์ วาจิ ซึ่งมีค่าหัวรางวัลนำจับ 1,000,000 บาท ร่วมลงมือกับนายมะรอโซ จันทราวดี ผู้ต้องหาตามหมายจับคดีความมั่นคง ที่เคลื่อนไหวอยู่ในพื้นที่ อ.บาเจาะ และแนวร่วมที่ลงมือก่อเหตุในครั้งนี้ น่าจะเป็นกลุ่มบุคคลที่อาศัยอยู่ในพื้นที่ อ.บาเจาะ อ.สายบุรี
**ยิงผช.ผญบ.-อส.ดับ2ชิงปืน6กระบอก
ส่วนที่ จ.ยะลา เวลา 13.20 น.พ.ต.ท.เตียน ทองสมสี พงส.(สบ.3) สภ.รามัน จ.ยะลา ได้รับแจ้งเหตุมีคนร้ายนับสิบคนบุกเข้าไปจับผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน และ อส.จ่อยิงศีรษะชิงเอาอาวุธปืน เหตุเกิดที่ป้อมอาสาสมัคร ต.กาลอ หมู่ที่ 3 ต.กาลอ อ.รามัน จ.ยะลา จึงรายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบ และนำกำลังเจ้าหน้าที่ 3 ฝ่ายไปที่เกิดเหตุบริเวณทางโค้งใกล้สามแยก ภายในพบศพนายมาหะมะ ตงนุใย อายุ 44 ปี อยู่บ้านเลขที่ 43 หมู่ที่ 4 ต.กาลอ เป็นผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านฝ่ายรักษาความสงบ และ อส.อิสตามา สะเตาะ อายุ 42 ปี อยู่บ้านเลขที่ 40 หมู่ที่ 2 ต.กาลอ ทั้งคู่ถูกยิงด้วยอาวุธปืน M 16 เข้าที่ศีรษะจนเละ เท้าและมือถูกมัดไขว้หลังด้วยกิ๊ฟสายรัดพลาสติก ห่างกันพบปลอกกระสุนปืน M 16 ตกอยู่รวม 10 ปลอก
ยังพบว่าหลังก่อเหตุคนร้ายได้ชิงเอาอาวุธปืน HK 1 กระบอก อาก้า 1 กระบอก ปืนลูกซองชนิดออโต้ 1 กระบอก และ อาวุธปืนพกสั้นขนาด 9 มม.อีก 3 กระบอก รวมเป็น 6 กระบอก หลบหนีไป
ทราบว่าก่อนเกิดเหตุขณะที่นายมาหะมะ พร้อม อส.อิสตามา กำลังปฏิบัติหน้าที่อยู่ภายในป้อมเพียง 2 นาย มีคนร้ายคาดว่าไม่ต่ำกว่า 10 คนใช้รถยนต์เป็นยานพาหนะ 3 คัน แล่นตามกันมา แล้วจอดบริเวณหน้าป้อม คนร้ายจำนวน 2 คน แต่งกายด้วยชุดเขียวมีผ้าพันคอสีแดง คล้ายชุดตำรวจ กระโดดลงจากกระบะท้ายแล้วเดินเข้าไปจับมัดมือไขว้หลัง แล้วจ่อยิงศีรษะ จนทั้งคู่เสียชีวิต
หลังก่อเหตุคนร้ายได้ชิงเอาอาวุธปืนไปทั้งหมด 6 กระบอก พร้อมกับได้ขับรถแยกย้ายกันไป มุ่งหน้าไปทางบ้านแบหอ หมู่ที่ 1 ตำบล
**“บิ๊กอ๊อด”ระบุคนร้ายหวังปล้นอาวุธ
พล.อ.ยุทธศักดิ์ ศศิประภา รองนายกรัฐมนตรี ด้านความมั่นคง กล่าวถึงกรณีคนร้ายบุกโจมตีฐาน 2 จุดในพื้นที่ จ.นราธิวาสว่า เป็นการโจมตีพร้อมกันทั้ง 2 ฐานเพื่อไม่ให้ฐานใหญ่ส่งกำลังเข้าไปช่วยฐานเล็กได้ เจตนาของคนร้ายนั้นพยายามจะเข้าไปในฐานปฏิบัติการหมวดปืนเล็กที่ 2 เพื่อต้องการอาวุธ ยุทโธปกรณ์ แต่ไม่สามารถเข้าไปได้ ซึ่งขณะนี้ยังไม่สามารถประเมินจำนวนกลุ่มคนร้ายไม่ได้ เนื่องจากเกิดขึ้นในเวลากลางคืน และผู้ก่อเหตุแบ่งเป็นสองส่วน แต่มั่นใจว่า“เอาอยู่ครับ”
เมื่อเวลา 00.30 น.คืนวันที่ 9 มี.ค.ที่ผ่านมา ร.ต.ท.ภัคคินัย ศรีเจริญ ร้อยเวร สภ.บาเจาะ จ.นราธิวาส ได้รับแจ้งมีเหตุคนร้ายบุกถล่มฐานทหารนาวิกโยธิน จำนวน 2 จุด คือ ฐานปฏิบัติการณ์หมวดปืนเล็กที่ 2 กองร้อยปืนเล็กที่ 1 ชุดเฉพาะกิจนราธิวาส 32 ซึ่งตั้งอยู่บ้านส้มป่อย ม.4 ต.กาเยาะมาตี และจุดที่ 2 ที่กองบังคับการชุดเฉพาะกิจนราธิวาส 32 ซึ่งตั้งอยู่ภายในสำนักงานการประปาส่วนภูมิภาค เขตเทศบาลตำบลบาเจาะ จึงพร้อมด้วย พ.ต.อ.นันทเดช ย้อยนวล รอง ผบก.ภ.จ.นราธิวาส น.อ.สมเกียรติ ผลประยูร ผบ.นย. น.ท.บัญญัติ วงศ์จำปา ผบ.ฉก.นราธิวาส 32 พ.ต.ท.กระจ่าง รักษ์ณรงค์ หน.กองพิสูจน์หลักฐาน จ.นราธิวาส และเจ้าหน้าที่ชุดเก็บกู้และทำลายวัตถุระเบิด นปพ.จ.นราธิวาส รวมทั้งกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจทหารจำนวนหนึ่งรุดเดินทางไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ และในระหว่างที่เจ้าหน้าที่กำลังเดินทางนั้น พบคนร้ายใช้เลื่อนยนต์ตัดต้นไม้ขวางถนน 2 จุด คือที่บริเวณบ้านบูเก๊ะบากง ม.2 ต.ตะปอเยาะ อ.ยี่งอ และที่บริเวณบ้านส้มป่อยซึ่งห่างจากฐาน ประมาณ 500 เมตร พร้อมทั้งโปรยตะปูเรือใบ
จนกระทั่งถึงบริเวณหัวสะพานเขตเทศบาลตำบลบาเจาะ ซึ่งห่างจาก สภ.บาเจาะ ประมาณ 800เมตร พบเสาไฟฟ้าริมถนนเพชรเกษมขาเข้า อ.บาเจาะ ถูกคนร้ายวางระเบิดจนหักโค่น เจ้าหน้าที่จึงจอดขบวนรถเพื่อตรวจสอบ พบว่าเสาไฟฟ้าถัดกันอีก 2 ต้น ซึ่งอยู่ติดกัน มีระเบิดแสวงเครื่องที่คนร้ายประกอบใส่ไว้ในกล่องเหล็กหนัก 10 กก.จุดชนวนด้วยการตั้งเวลาปลุกจากนาฬิกาข้อมือแบบดิจิตอด ถูกคนร้ายยึดไว้กับเหล็กเส้น เจ้าหน้าที่จึงได้กันผู้ที่ไม่เกี่ยวข้องออกห่าง ก่อนที่จะใช้ปืนในการยิงทำลายทั้ง 2 จุด ซึ่งต้องใช้เวลานานร่วม 2 ชั่วโมง จึงจะเดินทางไปตรวจสอบที่เกิดเหตุได้
โดยในจุดแรก เจ้าหน้าที่ได้เข้าไปตรวจสอบภายในฐานปฏิบัติการณ์ทหารหมวดปืนเล็กที่ 2 กองร้อยปืนเล็กที่ 1 ฉก.นราธิวาส 32 พบว่าบริเวณที่จอดยานพาหนะซึ่งสร้างอยู่ตรงกลางฐาน ถูกคนร้ายยิงเอ็ม.79 เข้าใส่ จนหลังคาสังกะสีได้รับความเสียหาย เกิดเพลิงไหม้ และถล่มลงมาจนไฟลุกลามรถจักรยานยนต์ที่จอดไว้ ได้รับความเสียหาย 3 คัน โดยถูกไฟคลอกจนเหลือแต่ซากรถ
นอกจากนี้ บริเวณฝาผนังอาคารน็อคดาวน์มีร่องรอยถูกกระสุนปืนของคนร้ายได้รับความเสียหายหลายหลัง และกระสอบทรายที่ใช้ทำเป็นบังเกอร์หน้าฐานยังถูกกระสุนปืนของคนร้ายเป็นรูพรุน ทั้งนี้ จากการตรวจสอบบริเวณสวนมะพร้าวหน้าฐาน เจ้าหน้าที่ยังพบโทรโข่ง รวมทั้งคีมตัดเหล็กของคนร้ายตกอยู่ จึงได้เก็บรวบรวมไว้เป็นหลักฐาน
ต่อมาเจ้าหน้าที่ได้เดินทางไปตรวจสอบที่กองบังคับการชุดเฉพาะกิจนราธิวาส 32 พบว่าที่บริเวณลานเอนกประสงค์หน้ากองบังคับการ มีร่องรอยลูกกระสุนปืนเอ็ม.79 ตกอยู่จำนวน 1 จุด และทรัพย์ได้รับความเสียหายเล็กน้อย
**เผยเจ้าหน้าที่บาดเจ็บทั้งหมด12นาย
ทราบว่า ก่อนเกิดเหตุได้มีคนร้าย จำนวน 50 คน พร้อมอาวุธปืนครบมือ แยกกำลังออกเป็น 3 ชุด ชุดแรกได้กระจายกำลังกันโอบล้อมแล้วใช้อาวุธปืนเอ็ม.79 และอาวุธปืนสงครามยิงเข้าใส่ฐานปฏิบัติการณ์ทหารหมวดปืนเล็กที่ 2 กองร้อยปืนเล็กที่ 1 จน ร.ท.สงกาณ กุดวงศ์แก้ว หน.ฐาน ได้สั่งกำลังยิงตอบโต้ปะทะกับคนร้ายเป็นระลอกๆ นานกว่า 20 นาที
ส่วนกำลังชุดที่ 2 ได้บุกเข้าโจมตีกองบังคับการชุดเฉพาะกิจนราธิวาส 32 ในเวลาเดียวกัน ด้วยการยิงเอ็ม.79 เข้าใส่ ส่วนคนร้ายชุดที่3 ได้แยกย้ายกันตัดต้นไม้ขวางถนนเพื่อสกัดกั้นเจ้าหน้าที่เข้าสนับสนุน และจุดชนวนระเบิดเสาไฟฟ้าให้หักโค่น จำนวน 3 ต้น เพื่อดับกระแสไฟที่ส่องสว่างในการเตรียมที่จะบุกโจมตีระยะประชิด แต่ระเบิดทำงานเพียง 1 ลูก เสาไฟฟ้าหักโค่นเพียง 1 ต้น ทำให้ทัศนวิสัยในการมองเห็นยังมีอยู่ คนร้ายจึงได้เปลี่ยนแผนและนำกำลังล่าถอยไป
ทั้งนี้ เมื่อเสียงปืนสงบลง เจ้าหน้าที่เคลียร์พื้นที่เกิดเหตุพบทหารได้รับบาดเจ็บ 12 นาย ซึ่งมีทั้งถูกกระสุนปืนของคนร้ายและสะเก็ดอาวุธปืนเอ็ม.79
**จนท.ชี้ฝีมือ “แวอาลีคอปเตอร์-มะรอโซ”
ด้าน พ.ต.อ.นันทเดช ย้อยนวล รอง ผบก.ภ.จ.นราธิวาส เปิดเผยว่า คนร้ายวางแผนไว้เป็นอย่างดี มีลักษณะคล้ายกับกลุ่มคนร้ายบุกโจมตีฐานปฏิบัติการณ์ทหารพระองค์ดำ สังกัด ร้อย ร.15121 ฉก.นราธิวาส 38 ซึ่งตั้งอยู่ ต.มะรือโบตก อ.ระแงะ จ.นราธิวาส เมื่อวันที่ 19 ม.ค.54 ที่ผ่านมา
ด้าน น.อ.สมเกียรติ ผลประยูร ผบ.ฉก.นย.เปิดเผยว่า จากการประเมิน เชื่อว่า กลุ่มคนร้ายที่ร่วมก่อเหตุในครั้งนี้ น่าจะมีแกนนำและสมาชิกแนวร่วม RKK บางคน คาดว่านายแวอาลีคอปเตอร์ วาจิ ซึ่งมีค่าหัวรางวัลนำจับ 1,000,000 บาท ร่วมลงมือกับนายมะรอโซ จันทราวดี ผู้ต้องหาตามหมายจับคดีความมั่นคง ที่เคลื่อนไหวอยู่ในพื้นที่ อ.บาเจาะ และแนวร่วมที่ลงมือก่อเหตุในครั้งนี้ น่าจะเป็นกลุ่มบุคคลที่อาศัยอยู่ในพื้นที่ อ.บาเจาะ อ.สายบุรี
**ยิงผช.ผญบ.-อส.ดับ2ชิงปืน6กระบอก
ส่วนที่ จ.ยะลา เวลา 13.20 น.พ.ต.ท.เตียน ทองสมสี พงส.(สบ.3) สภ.รามัน จ.ยะลา ได้รับแจ้งเหตุมีคนร้ายนับสิบคนบุกเข้าไปจับผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน และ อส.จ่อยิงศีรษะชิงเอาอาวุธปืน เหตุเกิดที่ป้อมอาสาสมัคร ต.กาลอ หมู่ที่ 3 ต.กาลอ อ.รามัน จ.ยะลา จึงรายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบ และนำกำลังเจ้าหน้าที่ 3 ฝ่ายไปที่เกิดเหตุบริเวณทางโค้งใกล้สามแยก ภายในพบศพนายมาหะมะ ตงนุใย อายุ 44 ปี อยู่บ้านเลขที่ 43 หมู่ที่ 4 ต.กาลอ เป็นผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านฝ่ายรักษาความสงบ และ อส.อิสตามา สะเตาะ อายุ 42 ปี อยู่บ้านเลขที่ 40 หมู่ที่ 2 ต.กาลอ ทั้งคู่ถูกยิงด้วยอาวุธปืน M 16 เข้าที่ศีรษะจนเละ เท้าและมือถูกมัดไขว้หลังด้วยกิ๊ฟสายรัดพลาสติก ห่างกันพบปลอกกระสุนปืน M 16 ตกอยู่รวม 10 ปลอก
ยังพบว่าหลังก่อเหตุคนร้ายได้ชิงเอาอาวุธปืน HK 1 กระบอก อาก้า 1 กระบอก ปืนลูกซองชนิดออโต้ 1 กระบอก และ อาวุธปืนพกสั้นขนาด 9 มม.อีก 3 กระบอก รวมเป็น 6 กระบอก หลบหนีไป
ทราบว่าก่อนเกิดเหตุขณะที่นายมาหะมะ พร้อม อส.อิสตามา กำลังปฏิบัติหน้าที่อยู่ภายในป้อมเพียง 2 นาย มีคนร้ายคาดว่าไม่ต่ำกว่า 10 คนใช้รถยนต์เป็นยานพาหนะ 3 คัน แล่นตามกันมา แล้วจอดบริเวณหน้าป้อม คนร้ายจำนวน 2 คน แต่งกายด้วยชุดเขียวมีผ้าพันคอสีแดง คล้ายชุดตำรวจ กระโดดลงจากกระบะท้ายแล้วเดินเข้าไปจับมัดมือไขว้หลัง แล้วจ่อยิงศีรษะ จนทั้งคู่เสียชีวิต
หลังก่อเหตุคนร้ายได้ชิงเอาอาวุธปืนไปทั้งหมด 6 กระบอก พร้อมกับได้ขับรถแยกย้ายกันไป มุ่งหน้าไปทางบ้านแบหอ หมู่ที่ 1 ตำบล
**“บิ๊กอ๊อด”ระบุคนร้ายหวังปล้นอาวุธ
พล.อ.ยุทธศักดิ์ ศศิประภา รองนายกรัฐมนตรี ด้านความมั่นคง กล่าวถึงกรณีคนร้ายบุกโจมตีฐาน 2 จุดในพื้นที่ จ.นราธิวาสว่า เป็นการโจมตีพร้อมกันทั้ง 2 ฐานเพื่อไม่ให้ฐานใหญ่ส่งกำลังเข้าไปช่วยฐานเล็กได้ เจตนาของคนร้ายนั้นพยายามจะเข้าไปในฐานปฏิบัติการหมวดปืนเล็กที่ 2 เพื่อต้องการอาวุธ ยุทโธปกรณ์ แต่ไม่สามารถเข้าไปได้ ซึ่งขณะนี้ยังไม่สามารถประเมินจำนวนกลุ่มคนร้ายไม่ได้ เนื่องจากเกิดขึ้นในเวลากลางคืน และผู้ก่อเหตุแบ่งเป็นสองส่วน แต่มั่นใจว่า“เอาอยู่ครับ”