ASTVผู้จัดการรายวัน –เคเบิลทีวีขาขึ้นสุดๆ คาดปีนี้เนื้อหอม เบียดเม็ดเงินโฆษณาจากสื่อทีวีเพิ่มอีกเท่าตัว แตะ 6,000 ล้านบาท ฟันธงปี 56 ผุดไทยคม6 อานิสงส์ช่องเคเบิลทีวีเกิดขึ้นใหม่อีก 150-200 มั่นใจอีก3-4 ปีคนไทยจะดูทีวีมากกว่า 100 ช่อง จากปัจจุบัน 6 ช่อง
นายวิชิต เอื้ออารีวรกุล อุปนายก สมาคมเคเบิลทีวีแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า ภาพรวมอุตสาหกรรมเคเบิลทีวีและทีวีดาวเทียมในปี2555นี้ มั่นใจว่าจะมีเม็ดเงินโฆษณาเติบโตขึ้นเป็นเท่าตัวเมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา หรือมีมูลค่าราว 6,000 ล้านบาท จาก 3,000 ล้านบาทที่ทำได้ในปีก่อน คิดเป็น 10% ของมูลค่าโฆษณาในสื่อโทรทัศน์ปีนี้ สาเหตุสำคัญมาจากเจ้าของสินค้าและเอเจนซี่โฆษณาเริ่มมีความมั่นใจและหันมาใช้สื่อเคเบิลทีวีและทีวีดาวเทียมในการลงโฆษณาประชาสัมพันธ์มากยิ่งขึ้น
อีกทั้งยังพบว่ามีผู้ผลิตสื่อรายใหญ่หลายรายมีการเปิดตัวช่องรายการโทรทัศน์ในอุตสาหกรรมเคเบิลทีวีและทีวีดาวเทียมมากขึ้นด้วย ขณะที่เม็ดเงินการโฆษณาผ่านสื่อฟรีทีวีในปัจจุบัน มีประมาณ 62,000 ล้านบาท มีแนวโน้มเติบโตลดลงเช่นกัน ตามทิศทางที่ผู้บริโภคมีทางเลือกรับชมสื่อได้หลากหลาย เห็นได้จาก ยอดผู้บริโภคที่รับชมละครผ่านฟรีทีวีในเรื่องที่สร้างเรตติ้งสูงสุดจะอยู่ที่ระดับ 12-13 จากเดิมเรตติ้งละครสูงสุดจะอยู่ที่ระดับ 20-25
ทั้งนี้ในปัจจุบันมีจำนวนช่องในสื่อเคเบิลทีวีและทีวีดาวเทียมรวมกันแล้วประมาณ 150 ช่องทั่วประเทศ ในส่วนของความนิยมพบว่า กระแสความนิยมการรับชมและติดตั้งจานทีวีดาวเทียมของผู้บริโภคมีเพิ่มขึ้นทุกปี จากปัจจุบันมีฐานผู้ชมคนไทยทั้งประเทศรวมทั้งสิ้นมีกว่า 21 ล้านครัวเรือนนั้น มีฐานผู้ชมที่รับชมรายการโทรทัศน์ผ่านจานดาวเทียมอยู่ที่ 10 ล้านครัวเรือนแบ่งออกได้เป็น 1.จานดำ 6 ล้านครัวเรือน 2.จานแดง 1.5 ล้านครัวเรือน 3.จานเหลือง 1.5 ล้านครัวเรือน และ4.จานส้มอีก 1 ล้านครัวเรือน
และอีก 11 ล้านครัวเรือนที่เหลือ จะดูรายการโทรทัศน์ผ่านทางระบบเคเบิลทีวีท้องถิ่น 4 ล้านครัวเรือน ส่วนอีก 7 ล้านครัวเรือน จะรับชมผ่านเสาก้างปลา ดังนั้นปัจจุบัน จึงมีฐานผู้ชมที่สามารถรับชมรายการโทรทัศน์ทางเคเบิลทีวีและทีวีดาวเทียมรวมแล้ว14 ล้านครัวเรือน และเหลือเพียง 7 ล้านครัวเรือนเท่านั้น ที่ยังดูรายการโทรทัศน์โทรทัศน์ผ่านฟรีทีวี 6 ช่อง
อย่างไรก็ตามมองว่า จากปัจจุบันที่ ดาวเทียมไทยคม 5 มีช่องรับสัญญาณเต็ม 100% แล้ว คาดการณ์ว่าภายในปี 2556 จะมีดาวเทียมไทยคม 6 เกิดขึ้นตามมา ซึ่งจะส่งผลให้มีช่องเคเบิลทีวีเกิดขึ้นใหม่อีกประมาณ 150-200 ช่อง เพราะดาวเทียมไทยคม มีช่องรับสัญญาณจำนวนมาก ขณะที่เม็ดเงินลงทุนของผู้ประกอบการที่จะทำธุรกิจดาวเทียมต่อปีจะอยู่ที่ 3,000 ล้านบาท
“ความนิยมการรับชมผ่านเคเบิ้ลทีวีของผู้บริโภคคนไทย มีการเติบโตสูงขึ้นทุกปี เพราะเมื่อติดตั้งจานดาวเทียมแทนแล้ว ก็ไม่ต้องเสียค่าบริการรายเดือน และสามารถรับชมได้มากกว่า 100 ช่อง เป็นทางเลือกให้แก่ผู้บริโภคได้เป็นอย่างดี เชื่อว่า ภายใน 3-4 ปีข้างหน้าคนไทยจะดูทีวีมากกว่า 100 ช่อง จากปัจจุบันที่ดู 6 ช่อง”
นายวิชิต กล่าวต่อว่า สำหรับการลงทุน ทำช่องรายการใหม่นั้น มีต้นทุนอยู่ที่ 1 ล้านบาทต่อเดือน และค่าเนื้อหาอยู่ที่ 1 ล้านบาทต่อเดือน โดยเฉลี่ยแล้วผู้ประกอบการลงทุนปีละประมาณ 30 ล้านบาทก็สามารถเปิดช่องใหม่ได้ทันที ส่วนช่องที่มีอยู่ในปัจจุบัน จำนวน 150 ช่องนั้น แบ่งเป็น ช่องเกรดเอ หรือช่องที่มีโฆษณามากประมาณ 50 ช่อง และช่องที่ไม่เน้นการโฆษณา 50 ช่อง เช่น ช่องทางการเมือง ศาสนา ช่องการศึกษา เป็นต้น และช่อง ที่เกรดซี ที่ไม่มีโฆษณาสินค้า แต่ต้องใช้การ โฆษณาขายสินค้าต่างๆ แทน
และจากแนวโน้มที่กำลังเกิดขึ้น คาดว่าภายใน 3-4 ปีข้างหน้า เสาก้างปลาจะหมดไปจากตลาดของประเทศไทย เพราะผู้บริโภคจะหันมาติดจานดาวเทียมแทน ขณะที่ราคาการติดจานเคเบิลทีวี ในปัจจุบัน เริ่มต้นที่ 1,200 บาทเท่านั้น ถือว่ามีราคาลดลงต่อเนื่องเช่นเดียวกัน
นายวิชิต เอื้ออารีวรกุล อุปนายก สมาคมเคเบิลทีวีแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า ภาพรวมอุตสาหกรรมเคเบิลทีวีและทีวีดาวเทียมในปี2555นี้ มั่นใจว่าจะมีเม็ดเงินโฆษณาเติบโตขึ้นเป็นเท่าตัวเมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา หรือมีมูลค่าราว 6,000 ล้านบาท จาก 3,000 ล้านบาทที่ทำได้ในปีก่อน คิดเป็น 10% ของมูลค่าโฆษณาในสื่อโทรทัศน์ปีนี้ สาเหตุสำคัญมาจากเจ้าของสินค้าและเอเจนซี่โฆษณาเริ่มมีความมั่นใจและหันมาใช้สื่อเคเบิลทีวีและทีวีดาวเทียมในการลงโฆษณาประชาสัมพันธ์มากยิ่งขึ้น
อีกทั้งยังพบว่ามีผู้ผลิตสื่อรายใหญ่หลายรายมีการเปิดตัวช่องรายการโทรทัศน์ในอุตสาหกรรมเคเบิลทีวีและทีวีดาวเทียมมากขึ้นด้วย ขณะที่เม็ดเงินการโฆษณาผ่านสื่อฟรีทีวีในปัจจุบัน มีประมาณ 62,000 ล้านบาท มีแนวโน้มเติบโตลดลงเช่นกัน ตามทิศทางที่ผู้บริโภคมีทางเลือกรับชมสื่อได้หลากหลาย เห็นได้จาก ยอดผู้บริโภคที่รับชมละครผ่านฟรีทีวีในเรื่องที่สร้างเรตติ้งสูงสุดจะอยู่ที่ระดับ 12-13 จากเดิมเรตติ้งละครสูงสุดจะอยู่ที่ระดับ 20-25
ทั้งนี้ในปัจจุบันมีจำนวนช่องในสื่อเคเบิลทีวีและทีวีดาวเทียมรวมกันแล้วประมาณ 150 ช่องทั่วประเทศ ในส่วนของความนิยมพบว่า กระแสความนิยมการรับชมและติดตั้งจานทีวีดาวเทียมของผู้บริโภคมีเพิ่มขึ้นทุกปี จากปัจจุบันมีฐานผู้ชมคนไทยทั้งประเทศรวมทั้งสิ้นมีกว่า 21 ล้านครัวเรือนนั้น มีฐานผู้ชมที่รับชมรายการโทรทัศน์ผ่านจานดาวเทียมอยู่ที่ 10 ล้านครัวเรือนแบ่งออกได้เป็น 1.จานดำ 6 ล้านครัวเรือน 2.จานแดง 1.5 ล้านครัวเรือน 3.จานเหลือง 1.5 ล้านครัวเรือน และ4.จานส้มอีก 1 ล้านครัวเรือน
และอีก 11 ล้านครัวเรือนที่เหลือ จะดูรายการโทรทัศน์ผ่านทางระบบเคเบิลทีวีท้องถิ่น 4 ล้านครัวเรือน ส่วนอีก 7 ล้านครัวเรือน จะรับชมผ่านเสาก้างปลา ดังนั้นปัจจุบัน จึงมีฐานผู้ชมที่สามารถรับชมรายการโทรทัศน์ทางเคเบิลทีวีและทีวีดาวเทียมรวมแล้ว14 ล้านครัวเรือน และเหลือเพียง 7 ล้านครัวเรือนเท่านั้น ที่ยังดูรายการโทรทัศน์โทรทัศน์ผ่านฟรีทีวี 6 ช่อง
อย่างไรก็ตามมองว่า จากปัจจุบันที่ ดาวเทียมไทยคม 5 มีช่องรับสัญญาณเต็ม 100% แล้ว คาดการณ์ว่าภายในปี 2556 จะมีดาวเทียมไทยคม 6 เกิดขึ้นตามมา ซึ่งจะส่งผลให้มีช่องเคเบิลทีวีเกิดขึ้นใหม่อีกประมาณ 150-200 ช่อง เพราะดาวเทียมไทยคม มีช่องรับสัญญาณจำนวนมาก ขณะที่เม็ดเงินลงทุนของผู้ประกอบการที่จะทำธุรกิจดาวเทียมต่อปีจะอยู่ที่ 3,000 ล้านบาท
“ความนิยมการรับชมผ่านเคเบิ้ลทีวีของผู้บริโภคคนไทย มีการเติบโตสูงขึ้นทุกปี เพราะเมื่อติดตั้งจานดาวเทียมแทนแล้ว ก็ไม่ต้องเสียค่าบริการรายเดือน และสามารถรับชมได้มากกว่า 100 ช่อง เป็นทางเลือกให้แก่ผู้บริโภคได้เป็นอย่างดี เชื่อว่า ภายใน 3-4 ปีข้างหน้าคนไทยจะดูทีวีมากกว่า 100 ช่อง จากปัจจุบันที่ดู 6 ช่อง”
นายวิชิต กล่าวต่อว่า สำหรับการลงทุน ทำช่องรายการใหม่นั้น มีต้นทุนอยู่ที่ 1 ล้านบาทต่อเดือน และค่าเนื้อหาอยู่ที่ 1 ล้านบาทต่อเดือน โดยเฉลี่ยแล้วผู้ประกอบการลงทุนปีละประมาณ 30 ล้านบาทก็สามารถเปิดช่องใหม่ได้ทันที ส่วนช่องที่มีอยู่ในปัจจุบัน จำนวน 150 ช่องนั้น แบ่งเป็น ช่องเกรดเอ หรือช่องที่มีโฆษณามากประมาณ 50 ช่อง และช่องที่ไม่เน้นการโฆษณา 50 ช่อง เช่น ช่องทางการเมือง ศาสนา ช่องการศึกษา เป็นต้น และช่อง ที่เกรดซี ที่ไม่มีโฆษณาสินค้า แต่ต้องใช้การ โฆษณาขายสินค้าต่างๆ แทน
และจากแนวโน้มที่กำลังเกิดขึ้น คาดว่าภายใน 3-4 ปีข้างหน้า เสาก้างปลาจะหมดไปจากตลาดของประเทศไทย เพราะผู้บริโภคจะหันมาติดจานดาวเทียมแทน ขณะที่ราคาการติดจานเคเบิลทีวี ในปัจจุบัน เริ่มต้นที่ 1,200 บาทเท่านั้น ถือว่ามีราคาลดลงต่อเนื่องเช่นเดียวกัน