xs
xsm
sm
md
lg

ชุดว่ายน้ำระอุรับซัมเมอร์ แบรนด์นอกแห่ลง-เจนเซ่นเพิ่มงบสู้

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ASTVผู้จัดการรายวัน – ตลาดชุดว่ายน้ำแข่งเดือดรับซัมเมอร์ ชี้อินเตอร์แบรนด์แห่เข้ารุกตลาดไทยแย่งยอดขายไม่ต่ำกว่า 5 แบรนด์ ด้าน“เซ็นทรัล” เร่งปั้นยอดขายเจนเซ๋น หวั่นครึ่งปีหลังมีเหตุไม่คาดฝันกระทบยอดขาย อัดงบตลาดเพิ่มเท่าตัวสู้คู่แข่ง ตั้งเป้าปีนี้เติบโต 25%

นางสาวอุสรา ยงปิยะกุล ผู้ช่วยผู้อำนวยการ ฝ่ายเสื้อผ้าสตรี บริษัท เซ็นทรัลมาร์เก็ตติ้ง จำกัด ผู้จัดจำหน่ายชุดว่ายน้ำแบรนด์ “เจนเซ่น” ( Jantzen) จากอเมริกา เปิดเผยว่า ตลาดชุดว่ายน้ำในปี 2555 นี้คาดว่าจะมีการแข่งขันที่รุนแรงมากขึ้น ทั้งจากผู้ประกอบการแบรนด์เดิมในตลาดที่จะแย่งส่วนแบ่งตลาดกันมากขึ้นเพือ่ชดเชยรายได้ที่สูญไปในช่วงปีที่แล้ว
รวมทั้งปัจจัยเสริมที่มีแบรนด์จากต่างประเทศเข้ามาทำตลาดในไทยเพิ่มมากขึ้นในปีนี้ซึ่งขณะนี้มีแล้วมากกว่า 5 แบรนด์ที่นำเข้ามาจากต่างประเทศและเริ่มทำตลาดอย่างหนักในปีนี้

ปรกติแล้วในช่วงหน้าร้อนนี้ถือเป็นช่วงหน้าขายสำคัญที่สุดของชุดว่ายน้ำโดยมีสัดส่วนยอดขายประมาณ 60% จากช่วงหน้าร้อนนี้ และคาดว่าในช่วงนี้ตลาดจะเติบโตอย่างมาก อีกทั้งอากาศในไทยปีนี้ก็ร้อนมากด้วย ทุกค่ายก็เร่งสร้างรายได้ก่อนในช่วงครึ่งปีนี้
เพราะไม่รู้ว่าครึ่งปีหลังจะมีปัจจัยลบอะไรเกิดขึ้นอีกซึ่งในส่วนของเจนเซ่นเองก็เริ่มทำตลาดมาตั้งแต่ปลายเดือนมกราคมแล้ว

อย่างไรก็ตาม อินเตอร์แบรนด์ที่เข้ามาทำตลาดนี้ส่วนใหญ่จะมุ่งจับกลุ่มเป้าหมาย ระดับบน โดยมีราคาประมาณ 10,000 – 20,000 บาทต่อชุด หรือมากกว่าแบรนด์เดิมที่ทำตลาดอยู่แล้วในไทยมากกว่า 2-3 เท่า ซึ่งจะส่งผลดีให้มูลค่าตลาดรวมชุดว่ายน้ำปีนี้ในแง่มูลค่าเพิ่มขึ้นอย่างน้อย 20-25% หรือเพิ่มเป็นกว่า 1,200 ล้านบาท จากเดิมปีที่แล้วที่มีมูลค่าตลาดเพียง 1,000 ล้านบาท
เติบโตเพียง 10% เท่านั้นเอง ซึ่งอัตราการซื้อชุดว่ายน้ำยังเฉลี่ยอยู่ที่ 1-2
ชุดต่อคนต่อปี โดยแนวโน้มการแข่งขันจะเน้นไปที่รูปแบบของชุดว่ายน้ำ และลายของผ้าที่นำมาตัดเย็บ

สำหรับปีนี้ แบรนด์เจนเซ่น ตั้งเป้าหมายการเติบโตใกล้เคียงกับตลาดรวมที่ 20-25% หรือมีรายได้รวมประมาณ 200 ล้านบาท จากปีที่แล้วที่มีการเติบโตประมาณ 10% โดยปัจจุบันในตลาดรวมชุดว่ายน้ำ มีแบรนด์ไทรอั๊มเป็นผู้นำตลาดด้วยส่วนแบ่งกว่า 25% รองลงมาคือเจนเซ่น มีส่วนแบ่งประมาณ 20%

แผนธุรกิจของเจนเซ่นปีนี้ จะใช้งบการตลาดประมาณ 12% จากยอดขายหรือเพิ่มเท่าตัวจากเดิมใช้เพียง 6% เท่านั้น เน้นการโฆษณาผ่านสื่อ การจัดกิจกรรม ณ จุดขาย การออกแบบเอ็กซ์คลูซีฟ การทำแพกเกจจิ้ง การจัดโปรโมชั่น โดยผ่านจุดจำหน่ายเคาน์เตอร์กว่า 60 จุดและสแตนด์อโลนอีก 2 สาขา ที่หัวหินและพัทยา ซึ้งปีนี้คาดว่าจะเพิ่มชอปอีก 1 สาขา ที่ภาคใต้เช่นภูเก็ต
ลงทุนประมาณ 3 ล้านบาทต่อสาขา

อย่างไรก็ตามปัจจุบันนี้ต้นทุนการผลิตได้ปรับตัวสูงขึ้นมากกว่า 15% จากวัตถุดิบต่างๆเช่น ผ้าที่นำเข้าบางอย่าง แอสเซสซอรี่ที่นำมาประดับ เป็นต้น แต่บริษัทฯยังไม่มีแผนการปรับราคาสินค้าชุดว่ายน้ำแต่อย่างใด

นางสิรินยา บิชอฟหรือซินดี้ ดีไซน์เนอร์ แบรนด์ ซินดี้ ฟอร์ เจนเซ่น กล่าวว่า สำหรับคอลเลคชั่น ซินดี้ ฟอร์ เจนเซ่น ปีนี้มี 3 คอลเลคชั่น คือ เบิร์ดออฟพาราไดซ์ 2.อินทูเดอะไวด์ และ 3.กลามาซอน ระดับราคาจะแพงกว่าเจนเซ่นทั่วไปคือ 2,500 – 4,000 บาท ซึ่งปีนี้ตั้งเป้าหมายยอดขายจากซินดี้ฟอร์เจนเซ่นไว้ที่ 50% จากยอดขายรวมเจนเซ่น เนื่องจากมีคอลเลคชั่นใหม่
และมีการทำตลาดมากขึ้น ขณะที่โดยรวมแล้วจะ มีสัดส่วนยอดขายจากเจนเซ่นประมาณ 65% และจากซินดี้ฟอร์เจนเซ่นประมาณ 35%
กำลังโหลดความคิดเห็น