ASTVผู้จัดการรายวัน-“จารุพงศ์”สั่งทอท.เจรจาแอร์เอเชียกลับดอนเมือง ชี้ไม่บังคับ แต่นโยบายรัฐต้องชัดเจนไม่ย้ายไปย้ายมาซ้ำรอย 5 ปีก่อน พร้อมสั่งทอท.ทำแผนรองรับปิดรันเวย์สุวรรณภูมิบางส่วนซ่อมเดือนเม.ย. หวั่นกระทบการบิน เตรียมดันประมูล ผุดแอร์พอร์ตลิ้งค์เชื่อม2 สนามบินในปีนี้ ด้าน”แอร์เอเชีย”พร้อมกลับหากรัฐช่วยค่าขนย้าย
นายจารุพงศ์ เรืองสุวรรณ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยว่า ได้สั่งการให้ ผู้บริหารบริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือทอท.ทำแผนดำเนินการรองรับการซ่อมทางวิ่ง (รันเวย์) ของท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ในเดือนเม.ย.นี้ เพื่อไม่ให้ส่งผลกระทบต่อการให้บริการของสายการบินต่างๆ ดังนั้น จะต้องมีแผนที่ชัดเจนโดยเฉพาะสนามบินสำรองที่สายการบินสามารถไปใช้ได้กรณีฉุกเฉินได้ ซึ่งเห็นว่าท่าอากาศยานดอนเมืองนั้นมีศักยภาพในการรองรับเที่ยวบินและผู้โดยสารได้อีกมาก
“เดือนเม.ย.นี้ สนามบินสุวรรณภูมิ จะมีการปิดรันเวย์บางส่วนเพื่อซ่อม ซึ่งเป็นการซ่อมตามรอบการใช้งาน แต่ใช้เวลาเป็นเดือน ถ้าเกิดทำให้เที่ยวบินเกิดความล่าช้าเป็นชั่วโมง ก็ถือว่าเสียหาย เพราะจะมีผลกระทบในหลายเรื่องทั้งการสิ้นเปลืองน้ำมันเชื้อเพลิงและทำให้สายการบินอาจตัดสินใจไปใช้ที่อื่น ซึ่งกระทบต่อการเป็นศูนย์กลางการบิน (ฮับ) ของสุวรรณภูมิได้ แผนต้องมีและต้องทำให้ดีด้วย”นายจารุพงศ์กล่าว
ส่วนนโยบายของนายกรัฐมนตรี ที่ต้องการให้สายการบินต้นทุนต่ำ (โลว์คอสต์แอร์ไลน์) มาใช้สนามบินดอนเมืองมากขึ้น โดยเฉพาะสายการบินไทยแอร์เอเชียนั้น เรื่องนี้เป็นความสมัครใจของแต่ละสายการบิน ไม่ได้เป็นการบังคับ ซึ่งทอท.จะต้องหารือกับไทยแอร์เอเชีย โดยเห็นว่าในส่วนของรัฐบาลจะต้องกำหนดนโยบายการใช้ท่าอากาศยานดอนเมืองที่ชัดเจนด้วยว่าจะมีการย้ายกลับไปใช้ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิอีกหรือไม่ เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับสายการบินและเพื่อให้เกิดความคุ้มค่ากับการลงทุน เช่น นักจากนี้ไปอีกอย่างน้อย 5 ปี ท่าอากาศยานดอนเมืองจะไม่มีการเปลี่ยนแปลง
นายจารุพงศ์กล่าวว่า ปัจจุบัน การเดินทางเชื่อมต่อระหว่างท่าอากาศยานสุวรรณภูมิและดอนเมือง ต้องใช้รถ Shuttel Bus ให้บริการเชื่อมระหว่าง 2 สนามบินไปก่อน ซึ่งใช้เวลาถึง 45 นาที ซึ่งจะเร่งรัดการดำเนินโครงการก่อสร้างรถไฟฟ้าแอร์พอร์ตลิ้งค์ ส่วนต่อขยายจากพญาไท-บางซื่อ-ดอนเมือง ซึ่งจะใช้เวลาเพียง 30 นาที และจะพยายามเปิดประมูลให้ได้ภายในปี 2555 เพื่อให้ผู้โดยสารทั้ง2 สนามบินได้รับความสะดวกในการเดินทางมากที่สุด นอกจากนี้ จะเร่งรัดการก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีแดง (บางซื่อ-รังสิต) ซึ่งยืนยันว่า สามารถใช้เสาและตอม่อโครงการโฮปเวลล์ได้ เนื่องจากมีความแข็งแรงอยู่ ส่วนที่มีการพังถล่มลงมานั้นเป็นพื้นชานชลาที่ยังก่อสร้างไม่สมบูรณ์ ไม่ใช่ส่วนของเสาและตอม่อที่มีความแข็งแรง เพราะออกแบบมาเพื่อรองรับระบบถึง 3 ชั้น แต่อาจจะต้องมีการปรับเปลี่ยนรูปแบบให้มีความสวยงามมากขึ้น
อย่างไรก็ตาม ในวันที่ 9 มี.ค.นี้ จะไปให้นโยบายกับคณะกรรมการ (บอร์ด) ทอท.และผู้บริหาร พร้อมกับตรวจความคืบหน้าการขยายขีดความสามารถของท่าอากาศยานภูเก็ตด้วย
นายทัศพล แบเลเว็ลด์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร สายการบินไทยแอร์เอเชีย กล่าวว่า ยังไม่ได้รับการติดต่อหรือประสานจากทอท.กรณีที่จะให้ย้ายการบินไปที่ท่าอากาศยานดอนเมือง จึงยังไม่สามารถตัดสินใจได้ในขณะนี้ โดยต้องดูรายละเอียดที่ชัดเจนของภาครัฐก่อน โดยเฉพาะในการใช้ท่าอากาศยานดอนเมืองเพื่อให้เกิดความมั่นใจ และการย้ายรัฐจะให้ความช่วยเหลือค่าขนย้ายอย่างไร เบื้องต้นพร้อมให้ความร่วมมือเพื่อช่วยลดความแออัดของท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ซึ่งยืนยันว่าการย้ายไม่ได้กระทบต่อการแข่งขันในตลาดโลว์คอสต์ เพราะแอร์เอเชียถือว่าอยู่ที่ไหนก็ให้บริการได้ โดยปัจจุบันมีผู้โดยสารเฉลี่ย 8 ล้านคนต่อปี
ว่าที่เรืออากาศโทอนิรุทธิ์ ถนอมกุลบุตร กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ ทอท. กล่าวว่า ในสัปดาห์จะส่งแผนการซ่อมรันเวย์ฝั่งตะวันออกท่าอากาศยานสุวรรณภูมิพร้อมทั้งแผนรองรับกรณีเหตุฉุกเฉินรายงานรมว.คมนาคม โดยยืนยันไม่มีการปิดรันเวย์ แต่จะเป็นการกันพื้นที่บางส่วนเพื่อปรับพื้นผิวใหม่ตามอายุการใช้งานและไม่กระทบต่อการขึ้น-ลงของเครื่องบิน
นายสมชัย สวัสดีผล รองกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ ทอท. และรักษาการผู้อำนวยการท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ กล่าวว่า จะมีการซ่อมรันเวย์ฝั่งตะวันออกระยะทาง 1,620 เมตร ใช้เวลา 60 วัน (23 เม.ย. -21 มิ.ย.) วงเงินประมาณ 150 ล้านบาท เป็นการปรับพื้นผิวแบบถาวร จากเดิมที่เป็นการซ่อมชั่วคราวเท่านั้น ซึ่งไม่ได้ปิดรันเวย์ทั้งหมด แต่เป็นการปิดบางส่วนเท่านั้นโดยเครื่องบินลำตัวแคบ ไม่เกิน 200 ที่นั่ง เช่น แอร์บัส A 320 และ โบอิ้ง B 737 ยังสามารถขึ้นลงได้ เพราะใช้ระยะวิ่งไม่เกิน 2,000 เมตร และในช่วงดังกล่าวเป็นช่วง Low Season แล้ว
สำหรับการเปิดให้บริการท่าอากาศยานดอนเมืองเปิดเป็นวันแรก เมื่อวันที่ 6 มี.ค. มีสายการบินนกแอร์ ซึ่งให้บริการประมาณ 80 เที่ยวบินต่อวัน และสายการบินเช่าเหมาลำ (ชาร์เตอร์ไฟล์ท) ของบริษัท เอ็มเจ็ท จำกัด ให้บริการ ซึ่งเที่ยวบินแรกที่ให้บริการเป็นของสายการบินนกแอร์ ในเส้นทางกรุงเทพ-อุดรธานี เวลา 06.00 น. ปรากฏว่ามีปัญหาไปดับไปประมาณ 10 นาที
เนื่องจากมีการใช้ไฟเกิน ทางสายการบินนกแอร์ จึงจำเป็นต้องใช้ไปสำรองในการให้บริการที่เคาร์เตอร์เช็คอินแทน ส่งผลให้เครื่องล่าช้ากว่ากำหนดประมาณ 15 นาที ส่วนเที่ยวบินอื่นไม่มีปัญหาความล่าช้าเกิดขึ้น โดยภาพรวม ผู้โดยสารส่วนใหญ่พอใจในการใช้บริการที่ดอนเมือง เพราะประหยัดค่าใช้จ่ายมากกว่าการเดินทางและไม่ต้องเผื่อเวลามากเท่ากับที่สุวรรณภูมิ
น.อ.กันต์พัฒน์ มังคละศิริ ผู้อำนวยการท่าอากาศยานดอนเมือง กล่าวว่า เหตุไฟดับเมื่อช่วงเช้า เพราะเบรกเกอร์ไฟฟ้าดิดตัวขึ้น เนื่องจากใช้ไฟเกิน แต่สามารถแก้ไขได้ทันที โดยนกแอร์ให้บริการรวม 86 เที่ยวบิน และยังมีสายการบินขนาดเล็กก็จะเปิดให้บริการที่ท่าอากาศยานดอนเมืองด้วย เช่น สายการบินกานต์แอร์ เป็นต้น
นายจารุพงศ์ เรืองสุวรรณ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยว่า ได้สั่งการให้ ผู้บริหารบริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือทอท.ทำแผนดำเนินการรองรับการซ่อมทางวิ่ง (รันเวย์) ของท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ในเดือนเม.ย.นี้ เพื่อไม่ให้ส่งผลกระทบต่อการให้บริการของสายการบินต่างๆ ดังนั้น จะต้องมีแผนที่ชัดเจนโดยเฉพาะสนามบินสำรองที่สายการบินสามารถไปใช้ได้กรณีฉุกเฉินได้ ซึ่งเห็นว่าท่าอากาศยานดอนเมืองนั้นมีศักยภาพในการรองรับเที่ยวบินและผู้โดยสารได้อีกมาก
“เดือนเม.ย.นี้ สนามบินสุวรรณภูมิ จะมีการปิดรันเวย์บางส่วนเพื่อซ่อม ซึ่งเป็นการซ่อมตามรอบการใช้งาน แต่ใช้เวลาเป็นเดือน ถ้าเกิดทำให้เที่ยวบินเกิดความล่าช้าเป็นชั่วโมง ก็ถือว่าเสียหาย เพราะจะมีผลกระทบในหลายเรื่องทั้งการสิ้นเปลืองน้ำมันเชื้อเพลิงและทำให้สายการบินอาจตัดสินใจไปใช้ที่อื่น ซึ่งกระทบต่อการเป็นศูนย์กลางการบิน (ฮับ) ของสุวรรณภูมิได้ แผนต้องมีและต้องทำให้ดีด้วย”นายจารุพงศ์กล่าว
ส่วนนโยบายของนายกรัฐมนตรี ที่ต้องการให้สายการบินต้นทุนต่ำ (โลว์คอสต์แอร์ไลน์) มาใช้สนามบินดอนเมืองมากขึ้น โดยเฉพาะสายการบินไทยแอร์เอเชียนั้น เรื่องนี้เป็นความสมัครใจของแต่ละสายการบิน ไม่ได้เป็นการบังคับ ซึ่งทอท.จะต้องหารือกับไทยแอร์เอเชีย โดยเห็นว่าในส่วนของรัฐบาลจะต้องกำหนดนโยบายการใช้ท่าอากาศยานดอนเมืองที่ชัดเจนด้วยว่าจะมีการย้ายกลับไปใช้ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิอีกหรือไม่ เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับสายการบินและเพื่อให้เกิดความคุ้มค่ากับการลงทุน เช่น นักจากนี้ไปอีกอย่างน้อย 5 ปี ท่าอากาศยานดอนเมืองจะไม่มีการเปลี่ยนแปลง
นายจารุพงศ์กล่าวว่า ปัจจุบัน การเดินทางเชื่อมต่อระหว่างท่าอากาศยานสุวรรณภูมิและดอนเมือง ต้องใช้รถ Shuttel Bus ให้บริการเชื่อมระหว่าง 2 สนามบินไปก่อน ซึ่งใช้เวลาถึง 45 นาที ซึ่งจะเร่งรัดการดำเนินโครงการก่อสร้างรถไฟฟ้าแอร์พอร์ตลิ้งค์ ส่วนต่อขยายจากพญาไท-บางซื่อ-ดอนเมือง ซึ่งจะใช้เวลาเพียง 30 นาที และจะพยายามเปิดประมูลให้ได้ภายในปี 2555 เพื่อให้ผู้โดยสารทั้ง2 สนามบินได้รับความสะดวกในการเดินทางมากที่สุด นอกจากนี้ จะเร่งรัดการก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีแดง (บางซื่อ-รังสิต) ซึ่งยืนยันว่า สามารถใช้เสาและตอม่อโครงการโฮปเวลล์ได้ เนื่องจากมีความแข็งแรงอยู่ ส่วนที่มีการพังถล่มลงมานั้นเป็นพื้นชานชลาที่ยังก่อสร้างไม่สมบูรณ์ ไม่ใช่ส่วนของเสาและตอม่อที่มีความแข็งแรง เพราะออกแบบมาเพื่อรองรับระบบถึง 3 ชั้น แต่อาจจะต้องมีการปรับเปลี่ยนรูปแบบให้มีความสวยงามมากขึ้น
อย่างไรก็ตาม ในวันที่ 9 มี.ค.นี้ จะไปให้นโยบายกับคณะกรรมการ (บอร์ด) ทอท.และผู้บริหาร พร้อมกับตรวจความคืบหน้าการขยายขีดความสามารถของท่าอากาศยานภูเก็ตด้วย
นายทัศพล แบเลเว็ลด์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร สายการบินไทยแอร์เอเชีย กล่าวว่า ยังไม่ได้รับการติดต่อหรือประสานจากทอท.กรณีที่จะให้ย้ายการบินไปที่ท่าอากาศยานดอนเมือง จึงยังไม่สามารถตัดสินใจได้ในขณะนี้ โดยต้องดูรายละเอียดที่ชัดเจนของภาครัฐก่อน โดยเฉพาะในการใช้ท่าอากาศยานดอนเมืองเพื่อให้เกิดความมั่นใจ และการย้ายรัฐจะให้ความช่วยเหลือค่าขนย้ายอย่างไร เบื้องต้นพร้อมให้ความร่วมมือเพื่อช่วยลดความแออัดของท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ซึ่งยืนยันว่าการย้ายไม่ได้กระทบต่อการแข่งขันในตลาดโลว์คอสต์ เพราะแอร์เอเชียถือว่าอยู่ที่ไหนก็ให้บริการได้ โดยปัจจุบันมีผู้โดยสารเฉลี่ย 8 ล้านคนต่อปี
ว่าที่เรืออากาศโทอนิรุทธิ์ ถนอมกุลบุตร กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ ทอท. กล่าวว่า ในสัปดาห์จะส่งแผนการซ่อมรันเวย์ฝั่งตะวันออกท่าอากาศยานสุวรรณภูมิพร้อมทั้งแผนรองรับกรณีเหตุฉุกเฉินรายงานรมว.คมนาคม โดยยืนยันไม่มีการปิดรันเวย์ แต่จะเป็นการกันพื้นที่บางส่วนเพื่อปรับพื้นผิวใหม่ตามอายุการใช้งานและไม่กระทบต่อการขึ้น-ลงของเครื่องบิน
นายสมชัย สวัสดีผล รองกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ ทอท. และรักษาการผู้อำนวยการท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ กล่าวว่า จะมีการซ่อมรันเวย์ฝั่งตะวันออกระยะทาง 1,620 เมตร ใช้เวลา 60 วัน (23 เม.ย. -21 มิ.ย.) วงเงินประมาณ 150 ล้านบาท เป็นการปรับพื้นผิวแบบถาวร จากเดิมที่เป็นการซ่อมชั่วคราวเท่านั้น ซึ่งไม่ได้ปิดรันเวย์ทั้งหมด แต่เป็นการปิดบางส่วนเท่านั้นโดยเครื่องบินลำตัวแคบ ไม่เกิน 200 ที่นั่ง เช่น แอร์บัส A 320 และ โบอิ้ง B 737 ยังสามารถขึ้นลงได้ เพราะใช้ระยะวิ่งไม่เกิน 2,000 เมตร และในช่วงดังกล่าวเป็นช่วง Low Season แล้ว
สำหรับการเปิดให้บริการท่าอากาศยานดอนเมืองเปิดเป็นวันแรก เมื่อวันที่ 6 มี.ค. มีสายการบินนกแอร์ ซึ่งให้บริการประมาณ 80 เที่ยวบินต่อวัน และสายการบินเช่าเหมาลำ (ชาร์เตอร์ไฟล์ท) ของบริษัท เอ็มเจ็ท จำกัด ให้บริการ ซึ่งเที่ยวบินแรกที่ให้บริการเป็นของสายการบินนกแอร์ ในเส้นทางกรุงเทพ-อุดรธานี เวลา 06.00 น. ปรากฏว่ามีปัญหาไปดับไปประมาณ 10 นาที
เนื่องจากมีการใช้ไฟเกิน ทางสายการบินนกแอร์ จึงจำเป็นต้องใช้ไปสำรองในการให้บริการที่เคาร์เตอร์เช็คอินแทน ส่งผลให้เครื่องล่าช้ากว่ากำหนดประมาณ 15 นาที ส่วนเที่ยวบินอื่นไม่มีปัญหาความล่าช้าเกิดขึ้น โดยภาพรวม ผู้โดยสารส่วนใหญ่พอใจในการใช้บริการที่ดอนเมือง เพราะประหยัดค่าใช้จ่ายมากกว่าการเดินทางและไม่ต้องเผื่อเวลามากเท่ากับที่สุวรรณภูมิ
น.อ.กันต์พัฒน์ มังคละศิริ ผู้อำนวยการท่าอากาศยานดอนเมือง กล่าวว่า เหตุไฟดับเมื่อช่วงเช้า เพราะเบรกเกอร์ไฟฟ้าดิดตัวขึ้น เนื่องจากใช้ไฟเกิน แต่สามารถแก้ไขได้ทันที โดยนกแอร์ให้บริการรวม 86 เที่ยวบิน และยังมีสายการบินขนาดเล็กก็จะเปิดให้บริการที่ท่าอากาศยานดอนเมืองด้วย เช่น สายการบินกานต์แอร์ เป็นต้น