ASTVผู้จัดการรายวัน -นายกฯปู ควง"น้องไปป์" เปิดกิจกรรม "รวมพลังคนไทย D.A.R.E. สู้ภัยยาเสพติด" ระบุรัฐบาลคาดหวังแก้ปัญหายาเสพติด เชื่อมต่อทั้งปราบปราม ป้องกัน บำบัด คืนผู้เสพเป็นคนดีกลับสู่สังคม เน้นป้องกันสถานศึกษาเล็งทำโครงการ "1 อำเภอ 1 ศูนย์ฟื้นฟู" รองรับยุทธศาสตร์ เอาชนะยาเสพติด
เมื่อเวลา 9.30 น.วานนี้ (4 มี.ค.) น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เป็นประธานพิธีเปิดกิจกรรม "รวมพลังคน D.A.R.E. สู้ภัยยาเสพติด" ณ สนามศุภชลาศัย กรีฑาสถานแห่งชาติ โดยมีนักเรียนที่ผ่านการอบรมโครงการการศึกษาเพื่อต่อต้านการใช้ยาเสพติดในเด็กนักเรียน (Drug Abuse Resistance Education : D.A.R.E ครูตำรวจ D.A.R.E ผู้แทนจากหน่วยงานภาครัฐที่เกี่ยวข้อง ศิลปิน ดารา ตลก กว่า 15,000 คน เข้าร่วมแสดงพลัง เดินขบวนพาเหรด ต่อต้านยาเสพติด โอกาสนี้ ด.ช.ศุภเสกข์ อมรฉัตร หรือ น้องไปป์ บุตรชายนายกรัฐมนตรี ทำหน้าที่เป็นผู้เชิญธงนำขบวน ซึ่งทันทีที่นายกรัฐมนตรีเดินทางมาถึง ได้มีการเยี่ยมชมนิทรรศการ โครงการ D.A.R.E ก่อนกล่าวเปิดงานว่า รัฐบาลให้ความสำคัญกับการแก้ไขปัญหายาเสพติด ด้วยการกำหนดเป็นวาระแห่งชาติ และเป็นนโยบายเร่งด่วนในปีแรก พร้อมชื่นชมสำนักงานตำรวจแห่งชาติ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ที่สร้างผลงานใน การปราบปรามยาเสพติด
ทั้งนี้ การใช้กฎหมายอย่างเคร่งครัด จะต้องเป็นไปตามหลักนิติธรรม โดยรัฐบาลคาดหวังให้การแก้ไขปัญหายาเสพติด เป็นการเชื่อมต่อกันของการปราบปราม การป้องกัน และการบำบัดผู้เสพ คืนคนดีสู่สังคมไทย ทั้งนี้นักเรียน เยาวชน ถือเป็นกลุ่มเสี่ยงที่รัฐบาลให้ความสำคัญในการดูแล
อย่างไรก็ตามโครงการ D.A.R.E เป็นหนึ่งในยุทธศาสตร์ พลังแผ่นดินเอาชนะยาเสพติด และกลยุทธ์ที่จะดำเนินการ 7 แผน 4 ปรับ 3 หลัก 6 เร่ง ของรัฐบาล เป็นการสร้างภูมิคุ้มกันและป้องกันยาเสพติดให้กับประชาชน เยาวชนทั่วไป และเยาวชนกลุ่มเสี่ยง เพื่อสร้างภูมิคุ้มกันต่อปัญหายาเสพติด ตัดการเพิ่มของผู้เสพรายใหม่ เน้นเรื่องการให้ความสำคัญในการป้องกันยาเสพติด ในสถานศึกษาทุกแห่ง ไม่ให้เข้าไปยุ่งเกี่ยว โดยมีกลุ่มเป้าหมาย คือ เด็กชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 จากนั้นนายกรัฐมนตรี ได้นำผู้เข้าร่วมงานปล่อยลูกโป่ง เพื่อแสดงถึงการขยายโครงการ ก่อนร่วมร้องเพลงสามัคคีประเทศไทย
นายอนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในฐานะรักษาราชการโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงภายหลังเข้าร่วมกิจกรรม "รวมพลังคน D.A.R.E. สู้ภัยยาเสพติด" ที่สนามศุภชลาศัย ว่า โครงการนี้เป็นตัวอย่างที่ชัดเจนของรัฐบาล ในการให้ความสำคัญกับการแก้ไขปัญหายาเสพติด ด้วยการกำหนดเป็นวาระแห่งชาติ และเตรียมผลักดันต่อให้เป็นวาระแห่งภูมิภาค
ดังนั้นขอให้ทุกฝ่ายสบายใจได้ว่า แม้รัฐบาลจะบังคับใช้กฎหมายอย่างเคร่งครัด แต่จะต้องเป็นไปตามหลักนิติธรรม ที่ผ่านมารัฐบาลไม่ได้แก้ไขปัญหายาเสพติด ด้วยการปราบปราม การป้องกัน แต่ไปไกลกว่านั้น โดยมีมาตรการแก้ไขปัญหาการรั่วไหลของสารตั้งต้น ในการผลิตยาเสพติด ทั้งในประเทศและประเทศเพื่อนบ้าน เช่น การจับตา เฝ้าระวังการลักลอบนำยาที่มีซูโดอีเฟดรีน เป็นส่วนประกอบในการผลิต
นายอนุสรณ์ กล่าวด้วยว่า สิ่งหนึ่งที่รัฐบาลดำเนินการควบคู่ไปด้วยอย่างเข้มข้น คือการบำบัดผู้เสพ คืนคนดีสู่สังคมไทย เช่นโครงการ การดำเนินงานลดผู้เสพ ผู้ติดยาเสพติดเชิงรุก โดยเน้นระบบสมัครใจเป็นหลัก “1 อำเภอ 1 ศูนย์ฟื้นฟู” รองรับยุทธศาสตร์พลังแผ่นดินเอาชนะยาเสพติด ซึ่งมีตัวเลขจำนวนผู้เข้ารับการบำบัดภาคสมัครใจ ในรอบ 4 เดือนที่ผ่านมา สูงถึง 62,539 คน แบ่งเป็น ค่ายพลังแผ่นดิน (บำบัดในชุมชน) ทั่วประเทศ 30,119 คน บำบัดในสถานบำบัด สังกัดกระทรวงสาธารณสุข 32,420 คน.
เมื่อเวลา 9.30 น.วานนี้ (4 มี.ค.) น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เป็นประธานพิธีเปิดกิจกรรม "รวมพลังคน D.A.R.E. สู้ภัยยาเสพติด" ณ สนามศุภชลาศัย กรีฑาสถานแห่งชาติ โดยมีนักเรียนที่ผ่านการอบรมโครงการการศึกษาเพื่อต่อต้านการใช้ยาเสพติดในเด็กนักเรียน (Drug Abuse Resistance Education : D.A.R.E ครูตำรวจ D.A.R.E ผู้แทนจากหน่วยงานภาครัฐที่เกี่ยวข้อง ศิลปิน ดารา ตลก กว่า 15,000 คน เข้าร่วมแสดงพลัง เดินขบวนพาเหรด ต่อต้านยาเสพติด โอกาสนี้ ด.ช.ศุภเสกข์ อมรฉัตร หรือ น้องไปป์ บุตรชายนายกรัฐมนตรี ทำหน้าที่เป็นผู้เชิญธงนำขบวน ซึ่งทันทีที่นายกรัฐมนตรีเดินทางมาถึง ได้มีการเยี่ยมชมนิทรรศการ โครงการ D.A.R.E ก่อนกล่าวเปิดงานว่า รัฐบาลให้ความสำคัญกับการแก้ไขปัญหายาเสพติด ด้วยการกำหนดเป็นวาระแห่งชาติ และเป็นนโยบายเร่งด่วนในปีแรก พร้อมชื่นชมสำนักงานตำรวจแห่งชาติ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ที่สร้างผลงานใน การปราบปรามยาเสพติด
ทั้งนี้ การใช้กฎหมายอย่างเคร่งครัด จะต้องเป็นไปตามหลักนิติธรรม โดยรัฐบาลคาดหวังให้การแก้ไขปัญหายาเสพติด เป็นการเชื่อมต่อกันของการปราบปราม การป้องกัน และการบำบัดผู้เสพ คืนคนดีสู่สังคมไทย ทั้งนี้นักเรียน เยาวชน ถือเป็นกลุ่มเสี่ยงที่รัฐบาลให้ความสำคัญในการดูแล
อย่างไรก็ตามโครงการ D.A.R.E เป็นหนึ่งในยุทธศาสตร์ พลังแผ่นดินเอาชนะยาเสพติด และกลยุทธ์ที่จะดำเนินการ 7 แผน 4 ปรับ 3 หลัก 6 เร่ง ของรัฐบาล เป็นการสร้างภูมิคุ้มกันและป้องกันยาเสพติดให้กับประชาชน เยาวชนทั่วไป และเยาวชนกลุ่มเสี่ยง เพื่อสร้างภูมิคุ้มกันต่อปัญหายาเสพติด ตัดการเพิ่มของผู้เสพรายใหม่ เน้นเรื่องการให้ความสำคัญในการป้องกันยาเสพติด ในสถานศึกษาทุกแห่ง ไม่ให้เข้าไปยุ่งเกี่ยว โดยมีกลุ่มเป้าหมาย คือ เด็กชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 จากนั้นนายกรัฐมนตรี ได้นำผู้เข้าร่วมงานปล่อยลูกโป่ง เพื่อแสดงถึงการขยายโครงการ ก่อนร่วมร้องเพลงสามัคคีประเทศไทย
นายอนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในฐานะรักษาราชการโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงภายหลังเข้าร่วมกิจกรรม "รวมพลังคน D.A.R.E. สู้ภัยยาเสพติด" ที่สนามศุภชลาศัย ว่า โครงการนี้เป็นตัวอย่างที่ชัดเจนของรัฐบาล ในการให้ความสำคัญกับการแก้ไขปัญหายาเสพติด ด้วยการกำหนดเป็นวาระแห่งชาติ และเตรียมผลักดันต่อให้เป็นวาระแห่งภูมิภาค
ดังนั้นขอให้ทุกฝ่ายสบายใจได้ว่า แม้รัฐบาลจะบังคับใช้กฎหมายอย่างเคร่งครัด แต่จะต้องเป็นไปตามหลักนิติธรรม ที่ผ่านมารัฐบาลไม่ได้แก้ไขปัญหายาเสพติด ด้วยการปราบปราม การป้องกัน แต่ไปไกลกว่านั้น โดยมีมาตรการแก้ไขปัญหาการรั่วไหลของสารตั้งต้น ในการผลิตยาเสพติด ทั้งในประเทศและประเทศเพื่อนบ้าน เช่น การจับตา เฝ้าระวังการลักลอบนำยาที่มีซูโดอีเฟดรีน เป็นส่วนประกอบในการผลิต
นายอนุสรณ์ กล่าวด้วยว่า สิ่งหนึ่งที่รัฐบาลดำเนินการควบคู่ไปด้วยอย่างเข้มข้น คือการบำบัดผู้เสพ คืนคนดีสู่สังคมไทย เช่นโครงการ การดำเนินงานลดผู้เสพ ผู้ติดยาเสพติดเชิงรุก โดยเน้นระบบสมัครใจเป็นหลัก “1 อำเภอ 1 ศูนย์ฟื้นฟู” รองรับยุทธศาสตร์พลังแผ่นดินเอาชนะยาเสพติด ซึ่งมีตัวเลขจำนวนผู้เข้ารับการบำบัดภาคสมัครใจ ในรอบ 4 เดือนที่ผ่านมา สูงถึง 62,539 คน แบ่งเป็น ค่ายพลังแผ่นดิน (บำบัดในชุมชน) ทั่วประเทศ 30,119 คน บำบัดในสถานบำบัด สังกัดกระทรวงสาธารณสุข 32,420 คน.