ASTVผู้จัดการรายวัน – นายกสมาคมผู้ค้าปลีกไทยโต้ ก.พาณิชย์ ลั่นค้าปลีกสมัยใหม่ไม่ได้โขกค่าธรรมเนียมเจ้าของสินค้าเกินเหตุ เป็นไปตามกลไกตลาด
นางสาวบุษบา จิราธิวัฒน์ ประธานสมาคมผู้ค้าปลีกไทย ในฐานะตัวแทนผู้ประกอบธุรกิจค้าปลีกสมัยใหม่ กล่าวให้ข้อมูล ตามที่มีข่าวว่า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ได้ลงนามแต่งตั้งคณะทำงานเพื่อศึกษาการคิดค่าธรรมเนียมการวางสินค้าของห้างค้าปลีกขนาดใหญ่และร้านสะดวกซื้อ โดยอาจใช้มาตรการในพระราช บัญญัติแข่งขันทางการค้าเอาผิดกับห้างที่คิดราคาไม่เป็นธรรม ว่า
1. ค่าธรรมเนียมต่างๆ ที่ผู้ประกอบการค้าปลีกสมัยใหม่ จัดเก็บจากคู่ค้านั้น ล้วนเป็นค่าใช้จ่ายในการดำเนินธุรกิจเช่นเดียวกับค่าใช้จ่ายของธุรกิจเอกชนทั่วไปทั้งสิ้น
2. ค่าธรรมเนียมเหล่านี้เป็นการตกลงร่วมกันระหว่างผู้ประกอบค้าปลีกกับคู่ค้า ด้วยความสมัครใจของทั้งสองฝ่าย และเป็นไปตามกลไกของตลาด คู่ค้าของห้างค้าปลีกทุกราย จึงเข้าใจถึงหลักการทำธุรกิจค้าปลีกสมัยดีอยู่แล้วก่อนที่จะตัดสินใจเลือกทำการค้ากับห้างค้าปลีก
3. ห้างค้าปลีกสมัยใหม่ ให้ความสำคัญในการพัฒนาความสัมพันธ์ระยะยาวและการช่วยเหลือซึ่งกันและกันกับคู่ค้า ดังนั้น การคิดค่าธรรมเนียมต่างๆ จึงได้คำนึงถึงโอกาสทางธุรกิจของคู่ค้า ตลอดจนกำลังและความสามารถของคู่ค้าอยู่เสมอ
4. ผู้บริโภคที่เข้าไปจับจ่ายใช้สอยในห้างค้าปลีกสมัยใหม่มีรสนิยมและความต้องการสินค้าที่หลากหลาย ผู้ประกอบการค้าปลีกสมัยใหม่จึงต้องจัดหาสินค้าที่มีความหลากหลายเพื่อเป็นทางเลือกให้กับผู้บริโภค โดยในส่วนของสินค้าอุปโภคบริโภคพื้นฐาน ห้างค้าปลีกสมัยใหม่ ได้ให้ความร่วมมือกับกระทรวงพาณิชย์ในการควบคุมราคาสินค้าควบคุมต่างๆ มาโดยตลอด
5. ในข้อเท็จจริงแล้ว สัดส่วนสินค้าที่จำหน่ายผ่านผู้ประกอบการค้าปลีกสมัยใหม่ ยังคงเป็นสัดส่วนที่น้อยกว่า เมื่อเทียบกับจำนวนสินค้าที่จำหน่ายผ่านตลาดเปิด (Traditional Trade) ดังนั้น ผู้ผลิตสินค้า จึงมีทางเลือกในการจำหน่ายสินค้าอยู่เสมอ ผู้ประกอบการค้าปลีกสมัยใหม่จึงมิได้มีอำนาจใดที่จะบีบบังคับหรือดำเนินการค้าอย่างไม่เป็นธรรมได้
6. ในส่วนของเนื้อสัตว์และอาหารทะเล ผู้ประกอบการค้าปลีกสมัยใหม่ต่างก็รับซื้อสินค้าจากบริษัทผู้ค้า (Trading) ซึ่งเป็นผู้ผลิตรายใหญ่ ซึ่งมีฟาร์มเป็นของตนเอง และผลิตได้เป็นจำนวนมาก เพื่อให้มั่นใจในคุณภาพและปริมาณที่คงที่ ซึ่งต้นทุนจากการซื้อสินค้าเหล่านี้สูงกว่าราคาขายส่งในท้องตลาด แต่ผู้ประกอบ การค้าปลีกสมัยใหม่ ก็ได้จำหน่ายสินค้าเหล่านี้ในราคาเท่ากับหรือต่ำกว่าท้องตลาดมาโดยตลอด
7. สมาคมฯ ยินดีให้ความช่วยเหลือแก่ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง ในกรณีมีการร้องเรียนเข้ามายังสมาคมฯ โดยจะตรวจสอบข้อมูลอย่างเต็มที่และให้ความเป็นธรรมแก่ทุกฝ่าย
นางสาวบุษบา กล่าวทิ้งท้ายว่า “การประกอบธุรกิจของผู้ประกอบการค้าปลีกสมัยใหม่ มิได้มุ่งหาผลประโยชน์และเอารัดเอาเปรียบสังคมแต่อย่างใด ในทางตรงข้าม การประกอบธุรกิจที่ผ่านมา เป็นการดำเนินธุรกิจบนพื้นฐานการค้าและกลไกตลาดอย่างเป็นธรรม และได้คำนึงถึงการพัฒนาคู่ค้า และการลดค่าครองชีพให้กับผู้บริโภคทั่วประเทศมาโดยตลอด
นางสาวบุษบา จิราธิวัฒน์ ประธานสมาคมผู้ค้าปลีกไทย ในฐานะตัวแทนผู้ประกอบธุรกิจค้าปลีกสมัยใหม่ กล่าวให้ข้อมูล ตามที่มีข่าวว่า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ได้ลงนามแต่งตั้งคณะทำงานเพื่อศึกษาการคิดค่าธรรมเนียมการวางสินค้าของห้างค้าปลีกขนาดใหญ่และร้านสะดวกซื้อ โดยอาจใช้มาตรการในพระราช บัญญัติแข่งขันทางการค้าเอาผิดกับห้างที่คิดราคาไม่เป็นธรรม ว่า
1. ค่าธรรมเนียมต่างๆ ที่ผู้ประกอบการค้าปลีกสมัยใหม่ จัดเก็บจากคู่ค้านั้น ล้วนเป็นค่าใช้จ่ายในการดำเนินธุรกิจเช่นเดียวกับค่าใช้จ่ายของธุรกิจเอกชนทั่วไปทั้งสิ้น
2. ค่าธรรมเนียมเหล่านี้เป็นการตกลงร่วมกันระหว่างผู้ประกอบค้าปลีกกับคู่ค้า ด้วยความสมัครใจของทั้งสองฝ่าย และเป็นไปตามกลไกของตลาด คู่ค้าของห้างค้าปลีกทุกราย จึงเข้าใจถึงหลักการทำธุรกิจค้าปลีกสมัยดีอยู่แล้วก่อนที่จะตัดสินใจเลือกทำการค้ากับห้างค้าปลีก
3. ห้างค้าปลีกสมัยใหม่ ให้ความสำคัญในการพัฒนาความสัมพันธ์ระยะยาวและการช่วยเหลือซึ่งกันและกันกับคู่ค้า ดังนั้น การคิดค่าธรรมเนียมต่างๆ จึงได้คำนึงถึงโอกาสทางธุรกิจของคู่ค้า ตลอดจนกำลังและความสามารถของคู่ค้าอยู่เสมอ
4. ผู้บริโภคที่เข้าไปจับจ่ายใช้สอยในห้างค้าปลีกสมัยใหม่มีรสนิยมและความต้องการสินค้าที่หลากหลาย ผู้ประกอบการค้าปลีกสมัยใหม่จึงต้องจัดหาสินค้าที่มีความหลากหลายเพื่อเป็นทางเลือกให้กับผู้บริโภค โดยในส่วนของสินค้าอุปโภคบริโภคพื้นฐาน ห้างค้าปลีกสมัยใหม่ ได้ให้ความร่วมมือกับกระทรวงพาณิชย์ในการควบคุมราคาสินค้าควบคุมต่างๆ มาโดยตลอด
5. ในข้อเท็จจริงแล้ว สัดส่วนสินค้าที่จำหน่ายผ่านผู้ประกอบการค้าปลีกสมัยใหม่ ยังคงเป็นสัดส่วนที่น้อยกว่า เมื่อเทียบกับจำนวนสินค้าที่จำหน่ายผ่านตลาดเปิด (Traditional Trade) ดังนั้น ผู้ผลิตสินค้า จึงมีทางเลือกในการจำหน่ายสินค้าอยู่เสมอ ผู้ประกอบการค้าปลีกสมัยใหม่จึงมิได้มีอำนาจใดที่จะบีบบังคับหรือดำเนินการค้าอย่างไม่เป็นธรรมได้
6. ในส่วนของเนื้อสัตว์และอาหารทะเล ผู้ประกอบการค้าปลีกสมัยใหม่ต่างก็รับซื้อสินค้าจากบริษัทผู้ค้า (Trading) ซึ่งเป็นผู้ผลิตรายใหญ่ ซึ่งมีฟาร์มเป็นของตนเอง และผลิตได้เป็นจำนวนมาก เพื่อให้มั่นใจในคุณภาพและปริมาณที่คงที่ ซึ่งต้นทุนจากการซื้อสินค้าเหล่านี้สูงกว่าราคาขายส่งในท้องตลาด แต่ผู้ประกอบ การค้าปลีกสมัยใหม่ ก็ได้จำหน่ายสินค้าเหล่านี้ในราคาเท่ากับหรือต่ำกว่าท้องตลาดมาโดยตลอด
7. สมาคมฯ ยินดีให้ความช่วยเหลือแก่ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง ในกรณีมีการร้องเรียนเข้ามายังสมาคมฯ โดยจะตรวจสอบข้อมูลอย่างเต็มที่และให้ความเป็นธรรมแก่ทุกฝ่าย
นางสาวบุษบา กล่าวทิ้งท้ายว่า “การประกอบธุรกิจของผู้ประกอบการค้าปลีกสมัยใหม่ มิได้มุ่งหาผลประโยชน์และเอารัดเอาเปรียบสังคมแต่อย่างใด ในทางตรงข้าม การประกอบธุรกิจที่ผ่านมา เป็นการดำเนินธุรกิจบนพื้นฐานการค้าและกลไกตลาดอย่างเป็นธรรม และได้คำนึงถึงการพัฒนาคู่ค้า และการลดค่าครองชีพให้กับผู้บริโภคทั่วประเทศมาโดยตลอด